เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ - บทที่ 546 เรื่องที่เกิดขึ้นกับหมอซู
- Home
- เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ
- บทที่ 546 เรื่องที่เกิดขึ้นกับหมอซู
บทที่ 546 เรื่องที่เกิดขึ้นกับหมอซู
ถังหลี่กับฮูหยินซูพากันไปวัดสืออัน แถวชานเมือง เพื่อที่จะขอเครื่องรางของขลังให้หมอซู
ถังหลี่ตั้งครรภ์ได้สี่เดือนแล้ว ฮูหยินซูกลัวว่านางจะเหนื่อยจึงได้คอยช่วยพยุงแขนเดินไปตลอดทางราวกับว่าถังหลี่ท้องได้สักสิบเดือน ทำให้นางอดที่จะจะหัวเราะออกมาไม่ได้
“ข้าก็พูดแล้วว่าข้ามาคนเดียวก็ได้…” ฮูหยินซูบ่น
“ฮูหยินซู ข้าไม่เป็นอะไร อยู่บ้านออกจะเบื่อเกินไป”
ถังหลี่ไม่เหมือนหญิงตั้งครรภ์คนอื่นๆ นางเป็นนักเดินทางข้ามเวลา มีพลังปีศาจอยู่ในตัวและได้พรจากสวรรค์ ร่างกายของถังหลี่จึงมีความแข็งแรงกว่าปกติ การตั้งครรภ์ไม่ได้ทำให้นางลำบากมากขึ้น
หลังจากได้อธิษฐานขอพรแล้ว ทั้งสองจึงได้เดินทางกลับจวนอู่โหว เมื่อมาถึงก็ได้ยินว่าหมอซูถูกพาตัวไปยังศาลต้าหลี่ ผู้ที่มาแจ้งข่าวเป็นเด็กที่คอยรับใช้ถือล่วมยาให้หมอซู
ฮูหยินซูและถังหลี่จึงได้รีบเดินทางไปยังศาลต้าหลี่ ผู้ที่มาแจ้งข่าวยังบอกอีกด้วยว่า เรื่องนี้เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับเมื่อสิบสองปีที่แล้ว ตอนที่หมอซูยังเป็นหมออยู่ที่ฮุ่ยชุนถัง
“ข้ารู้เรื่องนี้ดี ช่วงแรกมีคนไข้คนหนึ่งมาหาหมอซู อาการของคนไข้ผู้นี้ค่อนข้างแปลกประหลาด ไม่มีใครกล้ารักษาหรือรับตัวเขาเอาไว้ ผู้ชายเป็นคนที่หาเลี้ยงครอบครัวทั้งยังเดินทางมาไกล เมื่อเห็นเขาขอร้องหมอซูจึงได้รับตัวไว้”
“ไท่หยวนดูตำราแพทย์ระหว่างการรักษา ด้วยความพยายามอุตสาหะของเขา คนไข้ผู้นั้นอาการดีขึ้นจนไท่หยวนค่อยหายใจได้คล่อง แต่อยู่มาวันหนึ่งเขากลับเสียชีวิตลงอย่างกระทันหัน ในขณะที่ถูกหามร่างไป ภรรยาของคนไข้ก็มากล่าวหาว่าไท่หยวนฆ่าสามีของนางและต้องการให้เขาชดใช้!”
“เดิมทีไท่หยวนเป็นหมอที่เก่งกาจและมีชื่อเสียงที่สุดในฮุ่ยชุนถัง แต่เพราะเหตุนี้ทำให้ไท่หยวนได้เสียชื่อเสียง ข่าวการตายแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว ไท่หยวนจากสมญาหมอเทวดาได้กลายเป็นหมอต้มตุ๋นไปชั่วพริบตา จากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้เรื่องไปถึงศาลต้าหลี่ด้วย แต่ก็ไม่ได้ข้อสรุปและหาหลักฐานเอาผิดไท่หยวนไม่ได้ เขาไม่มีทางเลือกจึงได้พาข้าออกจากเมืองหลวง”
ฮูหยินซูชมวดคิ้วเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ นั่นเป็นความทรงจำที่นางไม่อยากนึกถึง มันชวนให้หดหู่และสิ้นหวัง สั่นคลอนความตั้งใจและปรารถนาดีของสามีนาง
เหตุใดถึงเกิดเหตุชวนพิรุธเช่นนี้ได้? เห็นๆ กันอยู่ว่าสามีของนางมีเจตนาดีและตั้งใจที่จะรักษาผู้ป่วยรายนี้อย่างสุดความสามารถ แม้กระทั่งได้แจ้งภรรยาของเขาเอาไว้แล้วถึงเรื่องความเสี่ยงของการรักษา แต่จู่ๆ กลับมาเสียชีวิตลงเช่นนั้น เขามึนงงราวกับถูกทุบหัว
หากไม่ใช่เพราะฮูหยินซูแล้ว เขาจะมีกำลังใจอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ได้อย่างไร
ไม่น่าเชื่อเลยว่าเวลาผ่านไปถึงสิบสองปีแล้วแต่ยังมีการขุดคุ้ยเรื่องนี้ขึ้นมาอีกครั้ง!
“ไท่หยวนและฮุ่ยชุนถังจ่ายเงินชดใช้ก้อนโตให้หญิงคนนั้น เรื่องนี้ก็ได้ถูกตัดสินไปแล้ว เหตุใดถึงได้มีปัญหาเกิดขึ้นมาอีกได้?” ฮูหยินซูขมวดคิ้วอย่างสงสัย นางรู้สึกว่าเรื่องนี้น่าจะมีเงื่อนงำบางอย่าง
ขณะที่พูด รถม้าได้มาหยุดที่ประตูศาลต้าหลี่อีกครั้ง ฮูหยินซูพยุงถังหลี่ลงมาจากรถม้า ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงร้องไห้ดังขึ้น “นายท่าน ข้าขอร้องท่านด้วยเถิด หมอต้มตุ๋นผู้นี้ฆ่าสามีของข้าจนเสียชีวิต สามีข้าเหลือแต่กระดูกแล้ว แต่หมอต้มตุ๋นผู้นี้ยังสบายดี เขากำลังจะได้เป็นหมอหลวงในวังอีกด้วย!” ผู้หญิงคนนั้นคร่ำครวญไม่หยุด นางอายุประมาณสี่สิบปี มาพร้อมกับชายหนุ่มอายุประมาณยี่สิบ
ชายหนุ่มคนนั้นจับตัวหมอซูเอาไว้แน่นด้วยความที่กลัวว่าเขาจะหนีไป ใบหน้าของหมอซูดูไม่ค่อยดีนัก
เมื่อฟังคำพูดของนางแล้ว ถังหลี่ขมวดคิ้วรู้สึกรางๆ ว่าเรื่องนี้น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่เลือกให้หมอซูเป็นเป็นหมอหลวง
“ไท่หยวน!” ฮูหยินซูตะโกนเรียกสามี หมอซูหันหน้ามาเห็นภรรยาพร้อมกับถังหลี่ สีหน้าเขาจึงได้ผ่อนคลายลง
“ข้าไม่เป็นไร”
ผู้หญิงคนนั้นเอาแต่ร้องไห้ “เมื่อสิบสองปีที่แล้ว เขาฆ่าสามีของข้า เขาถูกไล่ออกจากฮุ่ยชุนถัง ตอนนี้เขากลับมาฆ่าคนอีกแล้ว!”
“ใต้เท้า เราจะปล่อยให้เขาทำร้ายใครอีกไม่ได้แล้ว!” สองคนร้องไห้คร่ำครวญพร้อมกับตะโกนเสียงดัง จนทำให้มีคนเข้ามามุงดูกันมากขึ้น มีผู้เฒ่าสูงอายุบางคนจำเรื่องราวได้
“นั่นคือหมอต้มตุ๋นจากฮุ่ยชุนถัง ข้าจำเขาได้ เขาฆ่าคนไข้ คนไข้ผู้นั้นเลือดไหลออกทั้งเจ็ดทวาร ช่างน่าสมเพชเวทนาจริงๆ”
“หมอต้มตุ๋นเช่นนี้ยังจะรับเข้าโรงหมอหลวงได้อย่างไร ไม่ได้ตรวจสอบประวัติให้ดีก่อนหรือ?”
“หมอต้มตุ๋นเยี่ยงนี้จะปล่อยให้ทำร้ายผู้คนต่อไปไม่ได้อีกแล้ว!”
“เขายังเคยสั่งยาให้ข้าอีกด้วย หลังจากที่ข้ากินเขาไป ข้ารู้สึกไม่ค่อยสบายใจ โชคดีที่ข้าโยนยาทิ้งไปเสียก่อน ไม่เช่นนั้นคงจะมีชะตากรรมเหมือนคนไข้คนนั้น!”
คนเหล่านั้นพากันชี้หน้าต่อว่าด่าทอหมอซู
ฮูหยินซูเดินเข้าไปอยู่เคียงข้างสามี
ชายสูงอายุผู้หนึ่งยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน เขามองฉากนี้ อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา จากนั้นจึงได้หันหลังเดินจากไป ผู้ชายคนหนึ่งใส่ชุดขุนนางอย่างเป็นทางการเดินออกมาจากศาลต้าหลี่
“ใต้เท้า! ข้าขอร้องให้ท่านช่วยข้าด้วยเจ้าค่ะ” ผู้หญิงคนนั้นคุกเข่าลงอ้อนวอน
“ใต้เท้า! สามีของข้าถูกกล่าวหา เขาไม่ได้ฆ่าใครตาย ขอให้ท่านสอบสวนเรื่องราวให้ชัดเจนด้วยเถอะเจ้าค่ะ” ฮูหยินซูก้มลงคุกเข่าพลางขอร้อง
“ตอนนั้นศาลต้าหลี่ก็ได้ตัดสินไปแล้วว่าหมอต้มตุ๋นผู้นี้เป็นคนฆ่าสามีของข้า เจ้าไม่รับการตัดสินของศาลต้าหลี่หรอกหรือ?” ผู้หญิงคนนั้นพูดขึ้น
“ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น แต่เรื่องนี้มีความซับซ้อน ควรได้รับการตรวจสอบให้ละเอียดถี่ถ้วนอีกครั้ง มีคดีที่ถูกตัดสินไม่ยุติธรรมและผิดพลาดอยู่เสมอ”
ฮูหยินซูรีบพูดขึ้นมาในทันที
“ศาลต้าหลี่จะรื้อสอบสวนคดีนี้อีกครั้ง ในการสอบสวนครั้งนี้จะเปิดเผยความจริงได้อย่างแน่นอน ทุกคนกลับไปก่อนเถอะ” เจ้าหน้าที่ของศาลต้าหลี่มองหมอซูู
“เจ้าควรจะต้องอยู่ในศาลต้าหลี่ไปก่อน”
ฮูหยินซูทำท่าเอ่ยปากจะพูด หากสามีของนางตบหลังมือปลอบโยนนางเบาๆ
“ข้ายินดีให้ความร่วมมือกับศาลต้าหลี่” หมอซูกล่าวด้วยความเคารพ
ถังหลี่เดินเข้ามาจับแขนฮูหยินซูเอาไว้
ฮูหยินซูไม่พูดอะไรได้แต่มองตามสามีเดินเข้าไปในศาลต้าหลี่ ผู้คนที่มามุงยืนดูอยู่จึงได้แยกย้ายออกไปเช่นกัน
“ฮูหยินซู เรื่องที่หมอซูถูกใส่ร้ายตอนนั้น ครั้งนี้อาจจะเป็นโอกาสดีที่จะได้ลบล้างความผิดในครั้งนั้นก็เป็นได้” ถังหลี่ปลอบใจ
“แต่…มีเงินมากมายก็เปลี่ยนคำพูดได้ ความจริงเมื่อสิบสองปีที่แล้วยังพิสูจน์ไม่ได้ ผ่านมาเนิ่นนานเพียงนี้จะพิสูจน์ได้หรือ?” ฮูหยินซูยังคงไม่สบายใจ
“ข้าขอให้ฮูหยินซูเชื่อใจในศาลต้าหลี่และเชื่อใจพี่ชายของข้า เขาเป็นคนมีความสามารถมาก” พอได้ยินที่ถังหลี่พูด นางจึงโล่งใจ
หลังจากที่ผู้หญิงคนที่กล่าวหาหมอซูเดินจากไป นางเข้าไปยังตรอกเล็กๆ เช็ดน้ำตาบนใบหน้า ไม่เหลืออาการเศร้าโศกอยู่อีกต่อไป
นางเข้าไปยังห้อง แล้วปิดประตูลง มีเสียงพูดเบาๆ ขึ้นมา
“นี่เงินห้าร้อยตำลึงของเจ้า ทำได้ดีมาก ตราบใดที่เจ้ายังยืนยันว่าซูไท่หยวนเป็นต้นเหตุที่ทำให้สามีเจ้าตาย ต่อให้ศาลต้าหลี่มีอำนาจมากเพียงใด ก็ไม่มีทางพิสูจน์คดีที่ผ่านมาถึงสิบสองปีได้หรอก”
หลังจากนั้นไม่นานผู้หญิงคนนั้นจึงได้เดินออกมา นางถือของบางอย่างอยู่ในอ้อมแขน ท่าทางเต็มไปด้วยความระมัดระวัง ไม่นานนักหลังจากที่นางเดินออกไปแล้ว ชายสูงวัยผู้หนึ่งจึงได้เดินออกมา หากซูไท่หยวนได้อยู่ตรงนี้ เขาจะจำชายคนนี้ได้ทันที
เมื่อสิบสองปีก่อน เขาเคยทำงานอยู่ในโรงหมอหลวง