เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ - บทที่ 548 การสืบสวน
บทที่ 548 การสืบสวน
เจิ้งหยางอันเข้าใจในทันที
“ขอบคุณใต้เท้าซุน สำหรับข้อมูล”
ใต้เท้าซุนได้ฟังแล้วถอนหายใจอย่างโล่งอกจากนั้นจึงได้หันหลังเดินจากไป
เจิ้งหยางอันตรวจดูบันทึกของผู้ตาย ในนั้นมีเทียบยาที่หมอซูไท่หยวนใช้รักษาอาการของผู้ตายก่อนหน้ารวมอยู่ด้วย เขาคัดลอกบันทึกทั้งหมด แล้วนำไปใบเทียบยาและอาการของผู้ตายไปถามหมอหลายๆ คน
“ยานี้อันตรายมาก แต่อาการของผู้ป่วยอยู่ในขั้นวิกฤติ เขารักษาม้าตายประหนึ่งม้าเป็น จึงไม่อาจพิสูจน์ได้ว่าเขาใช้ยาผิดวิธีหรือไม่”
“ถ้าผู้ป่วยกินยานี้จะทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ไหม?”
“ข้า… ข้าไม่เคยใช้ อาการป่วยเช่นนี้ข้าไม่เคยพบมาก่อน ข้าไม่แน่ใจ”
เจิ้งหยางอันไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะผลของยาหรือไม่ เป็นไปได้ไหมว่า ผู้ป่วยคนนั้นถูกซูไท่หยวนฆ่าตายจริงๆ? เจิ้งหยางอันขมวดคิ้วกลับไปยังศาลต้าหลี่ เขาเผอิญชนเข้ากับใครบางคน
“อู่จั้วฝาง!” หลังจากฝางเหมี่ยวแต่งงานกับกู้หวนเนี่ยนแล้ว ฝางเหมี่ยวยังคงทำงานอยู่ในศาลต้าหลี่เช่นเดิม นางไม่ได้ทำท่าเป็นฮูหยินกู้แต่อย่างใด วันธรรมดานางจะสืบสวนคดีกับทุกคนตามปกติ
“มีอะไรหรือ? เจ้าพบปัญหาอะไร?” ฝางเหมี่ยวถาม เจิ้งหยางอันมักติดตามอยู่ข้างกายกู้หวนเนี่ยนเสมอ และกู้หวนเนี่ยนเองก็ให้ความสำคัญกับเขามาก ฝางเหมี่ยวจึงรู้จักเขาเป็นอย่างดี
“อู่จั้วฝาง ท่านช่วยอ่านบันทึกคดีเล่มนี้หน่อยเถอะ” เจิ้งหยางอันนำบันทึกคดีมาให้นาง
ศาลต้าหลี่จะดูบันทึกคดีก่อนหน้าเพื่อค้นหาในกรณีที่ยังมีข้อสงสัย
ฝางเหมี่ยวไม่เคยอ่านบันทึกคดีที่เจิ้งหยางอันหยิบมาให้นางดู เหตุใดนางถึงไม่เคยได้อ่าน?
ฝางเหมี่ยวรู้สึกผิดสังเกต นางอ่านบันทึกอย่างละเอียดรอบคอบ
“ข้าเคยเห็นอาการของผู้ตายคล้ายๆ แบบนี้ มันคือพิษ ‘เฮยฉี’ แต่ส่วนประกอบของพิษเฮยฉีกลับแตกต่างจากเทียบยาตัวนี้
นี่เป็นข้อสงสัย
“ขอบคุณอู่จั้วฝางขอรับ” เจิ้งหยางอันพาเจ้าหน้าที่สองคนจากศาลต้าหลี่ที่แต่งกายในชุดธรรมดาไปยังบ้านของโจทก์ที่ฟ้องซูไท่หยวน เมื่อเห็นสภาพบ้านแล้วจึงพบว่านางค่อนข้างมีฐานะ นางอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ เขาถามข้อมูลของนางจากเพื่อนบ้าน
“นางหลี่ซื้อบ้านหลังนี้เมื่อสิบกว่าปีก่อน นางอาศัยอยู่กับลูกชาย”
“บ้านหลังนี้ราคาสักเท่าไหร่หรือ?”
“ข้าซื้อบ้านหลังนี้เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วด้วยเงินหกร้อยตำลึง” เจิ้งหยางอันมองบ้านที่ดูใหญ่โตโออ่าดูเหมือนราคาจะไม่ต่ำกว่าหกร้อยตำลึงเป็นแน่
“นางหลี่ร่ำรวยแต่ตระหนี่ นางไม่ยอมแม้แต่จะซื้อคนรับใช้ด้วยซ้ำ”
“ใช่แล้ว พวกท่านรู้ไหมว่า นางหลี่มีเงินจับจ่ายมาจากไหน? นางไม่ได้ทำงานอะไร หรือว่านางจะมีร้านค้า?” ผู้หญิงในละแวกนั้นเดินมาจับกลุ่มคุยกัน พวกนางมีความรอบรู้ไม่น้อย หลังจากฟังไปสักพัก เจิ้งหยางอันก็ได้ข้อมูลที่ต้องการ
นับว่าเป็นเรื่องแปลกประหลาดอีกอย่างหนึ่ง
ตามข้อความในบันทึกที่ศาลต้าหลี่ ผู้ตายเป็นคนขายเนื้อ ไม่ใช่ว่ามีทรัพย์มากนัก หลังจากการตายของสามี ฮุ่ยชุนถังได้ให้เงินนางหลี่เป็นเงินหนึ่งร้อยตำลึงเท่านั้น นางหลี่จะมีเงินมาซื้อบ้านหลังใหญ่เช่นนี้ได้อย่างไร?
เจิ้งหยางอันครุ่นคิดชั่วครู่ จากนั้นจึงขอให้เจ้าหน้าที่ของศาลต้าหลี่สองคนคอยซุ่มเฝ้าดู และคอยตามนางหลี่เพื่อที่จะได้ข้อมูลเพิ่มเติมบราวนี่ออนไลน์
ห้าวันผ่านไปในพริบตา คดีสืบได้ง่ายมากกว่าที่หยางอันคิดเอาไว้มากนัก ในไม่ช้าก็มีเบาะแสของคดีมาจากความบังเอิญ
นางหลี่ผู้นี้เป็นคนตระหนี่ถี่เหนียว นางอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ หากทว่าไม่ยอมจ้างคนใช้ ต่อมานางแต่งสะใภ้เข้าบ้านให้บุตรชาย งานทุกอย่างมอบเป็นหน้าที่ของสะใภ้จนหมด
บุตรชายของนางหลี่ค้าขายไม่ดี เร็วๆ นี้เขาติดการพนันเป็นหนี้จำนวนมาก พอเป็นหนี้ก็กลับมาเงินขอมารดา นางหลี่ไม่ให้เงินเขา เขาจึงขโมยเงินนางหลี่ไปเพื่อเล่นการพนัน นางหลี่ทะเลาะกับบุตรชายใหญ่โต จนเพื่อนบ้านพากันมารุมดู บุตรชายชองนางหลี่เป็นหนี้จำนวนมาก เมื่อเขาไม่มีเงิน เขาจะไปหาคนผู้หนึ่ง และขู่ว่าหากเขาไม่ยอมจ่ายเงินเขาจะไปฟ้องศาลต้าหลี่เกี่ยวกับคดีของฮุ่ยชุนถังเมื่อสิบสองปีที่แล้ว
เจ้าหน้าที่ที่แอบติดตามจึงได้เข้าใจเรื่องราวทุกอย่าง เขารีบมาบอกหยางอันทันที
เจิ้งหยางอันจึงขอให้เข้าจับกุมบุตรชายของนางหลี่ เขาจึงสารภาพเรื่องราวจนหมดสิ้น
………..
ถังหลี่และฮูหยินซูรอฟังข่าวหมอซูกันทุกวัน หลังจากผ่านไปห้าหกวัน ในที่สุดศาลต้าหลี่จึงได้ให้พวกเขาไปฟังการพิจารณาคดีของซูไท่หยวน
เมื่อฮูหยินซูได้ยิน นางจึงกังวล
“ไม่รู้ว่าผลการตัดสินครั้งนี้จะเป็นอย่างไร..” ฮูหยินซูพึมพำ เมื่อสิบสองปีที่แล้วศาลต้าหลี่ก็ได้พิจารณาและตัดสินคดีนี้เช่นกัน ผลการตัดสินคดีคือหมอซูทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต
ถังหลี่จับมือนางเอาไว้
“ฮูหยินซู ข้าว่าครั้งนี้การตัดสินจะออกมาดี” ถังหลี่ปลอบโยนนาง ทำให้ฮูหยินรู้สึกเบาใจขึ้นมาบ้าง
ทั้งคู่รีบไปยังศาลต้าหลี่
เมื่อพวกเขามาถึง มีผู้คนเป็นจำนวนมากรวมตัวกันอยู่ด้านนอกของศาลต้าหลี่ พวกเขามาชมดูความตื่นเต้นกัน
“ครั้งนี้ผู้พิพากษาคือใต้เท้าเจิ้งหยางอัน” ถังหลี่แนะนำคนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาคดี
ในศาลต้าหลี่มีคดีมากมาย จึงไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นผู้พิพากษาเป็นคนตัดสินทุกคดี เจิ้งหยางอันคนนี้เป็นคนยุติธรรม เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่เก่งกาจของกู้หวนเนี่ยน พี่ชายของนางมอบคดีให้กับเขาและบอกว่า สามารถไว้วางใจเขาได้
ฮูหยินซูจับมือถังหลี่แน่น ในที่สุดหมอซูถูกนำตัวมาขึ้นศาล ผู้คนจำนวนมากมองหมอซูอย่างเหยียดหยาม
“หมอต้มตุ๋น!”
“ยังจะบอกว่าเขาโดนใส่ร้ายอีก แต่ข้าว่าการตัดสินคดีในครั้งแรกนั้นถูกต้องแล้ว หมอซูฆ่าคนตาย!”
สีหน้าของฮูหยินซูตึงเครียดเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น
ดวงตาที่น่ากลัวแต่สงบนิ่งของถังหลี่กวาดไปที่ผู้คนที่พูดจาว่าร้ายกับหมอซู ทุกคนพากันสงบปากสงบคำลงได้ ไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก
“ที่จริงหมอซูเป็นหมอที่ดีมาก ท่านช่วยรักษาข้าจนหาย”
“ครอบครัวของข้ายากไร้ ได้หมอซูนี่แหละที่ช่วยรักษาข้า” มีเสียงพูดแตกต่างจากเสียงก่อนหน้าขึ้นมาอย่างกระทันหัน
“ข้าไม่คิดว่าหมอซูเป็นหมอต้มตุ๋นหรอกนะ เขาเป็นคนดีขนาดนี้จะทำร้ายผู้ป่วยได้อย่างไร?”
“ข้าหวังว่าศาลต้าหลี่จะคือความบริสุทธิ์ให้หมอซูในครั้งนี้ได้” ดวงตาของฮูหยินซูแดงระเรื่อเมื่อได้ยิน
ที่จริงแล้วหมอซูได้ช่วยเหลือผู้คนเอาไว้อย่างไม่เลือกปฏิบัติ จึงได้มีผู้ที่สำนึกในบุญคุณของเขาอยู่บ้าง
ไม่ช้านางหลี่และบุตรชายได้ถูกนำตัวมาขึ้นศาล ใบหน้าของนางหลี่ซีดเซียว ส่วนบุตรชายมีรอยฟกช้ำที่จมูก ใบหน้าเขาบวมเป่ง หน้าตาเศร้าหมอง
“พาเจี่ยชุ้นมา” ใต้เท้าหยางกล่าวขึ้นมาในห้องพิจารณาคดี
ไม่ช้าเจี่ยชุ้นก็ถูกนำตัวมาขึ้นศาล ซูไท่หยวนเห็นเจี่ยชุ้น เขาก็ชะงักจำบางอย่างขึ้นมาได้
เจี่ยชุ้นไม่ได้มองซูไท่หยวน หากมองไปที่เจิ้งหยางอันที่นั่งเป็นประธานอยู่ในห้องพิจารณาคดีอย่างไม่กลัวเกรง เขาขู่ขึ้นมาว่า
“ใต้เท้า ข้าทำงานในโรงหมอหลวง ข้ามีงานยุ่งมาก วันนี้ศาลต้าหลี่ส่งคนไปเชิญข้ามาที่นี่ไม่ทราบว่ามีจุดประสงค์อะไรหรือ? ข้าต้องไปเฝ้าดูอาการของไทเฮาทุกวัน วันนี้ก็เช่นกัน หากข้าชักช้าจะโดนตำหนิได้มีโทษได้ ท่านจะรับผิดชอบแทนข้าไหวหรือ?”
……