เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ - บทที่ 566 ความยากลำบาก
บทที่ 566 ความยากลำบาก
ลิ่วเยว่ลูบหลังปลอบโยนนางเบาๆ สวี่เจียวร้องไห้หนักมากขึ้น นางปิดปากสะอื้น คุณชายลิ่วเยว่มองไปที่ภรรยาของตน ในแววตามีความปรารถนาลึกซึ้งและซับซ้อน เขาไม่ได้เจอนางมาสามปีแล้ว นางน้ำหนักลดไปมาก
ภรรยาของเขาจะต้องทนทุกข์ทรมานเพียงใดในช่วงสามปีที่ผ่านมานี้ สวี่เจียวหันกลับไปกอดที่เอวของลิ่วเยว่ไว้
“สามี ข้าคิดถึงท่านมาก”
ลิ่วเยว่ยื่นมือออกมา ก่อนจะชะงักกลางอากาศอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นถึงได้ยื่นไปกอดนางเอาไว้ ไม่นานนักอารมณ์ของสวี่เจียวก็สงบลง นางมองไปที่ลิ่วเยว่
“สามี เหตุใดเจ้าถึงได้มาอยู่กับองค์หญิงใหญ่ได้” เป็นเรื่องยากที่จะถามขึ้นมา แต่นางต้องทำ ลิ่วเยว่ปล่อยนาง เขาหันหลังเดินจากไปสองสามก้าวไม่พูดอะไร สวี่เจียวไม่เห็นหน้าเขา นางจึงรีบก้าวไปยังด้านหน้าสองก้าวคว้าแขนเขาไว้
“สามี องค์หญิงใหญ่บังคับเจ้าใช่ไหม?”
สีหน้าของลิ่วเยว่ชะงักค้างไปเล็กน้อยกับคำว่าบังคับ ดูเหมือนว่าเขาจะนึกถึงอะไรบางอย่างก่อนจะส่ายศีรษะ
“ไม่ องค์หญิงใหญ่ให้สิ่งของแก่ข้า เป็นของล้ำค่าที่ข้าไม่อาจหาได้ในชีวิตนี้ นางไม่ได้บังคับข้า..”
“ไม่ เจ้าโกหก เจ้าอยากเป็นขุนนางอยากเข้ารับราชการ ไม่ใช่อยู่ในห้องหับเหมือนหญิงสาว!” สวี่เจียวกล่าว ลิ่วเยว่มองภรรยา
“ความคิดของคนเราสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้ ในตอนแรกข้าอยากรับราชการเพื่อทำงานช่วยเหลือแผ่นดิน ฝากชื่อไว้ในประวัติศาสตร์ ข้าไม่รู้ว่าตัวเองใฝ่เกินตัวจนกระทั่งมาที่เมืองหลวง โลกใบนี้ช่างกว้างใหญ่มีคนเก่งอยู่มากมาย การที่ข้าอยู่ในนั้นเป็นเพียงแค่น้ำหยดหนึ่งในมหาสมุทรเท่านั้น ยิ่งกว่านั้นแม้ว่าข้าจะสอบผ่าน แต่การไต่เต้าขึ้นไปก็ต้องอาศัยพึ่งพาคนอื่น ข้าเป็นเพียงบัณฑิตตัวเล็กๆ จากชิงเหอ ไม่มีครอบครัวที่มีอำนาจสามารถจะช่วยข้าได้ ยากเพียงไหนกว่าข้าจะตั้งตัวได้ บางทีข้าคงได้เป็นแค่เจ้าเมืองเล็กๆ ไปจนแก่ก็ได้”
“แทนที่จะเป็นแบบนั้น สู้เปลี่ยนวิธีไม่ดีกว่าหรือ องค์หญิงใหญ่เป็นพระเชษฐภคินีของฮ่องเต้…ข้า…” ลิ่วเยว่พยายามอย่างมากเพื่อระงับเสียงของเขาไม่ให้สั่น
“การที่ข้าอยู่กับนาง ข้าสามารถมีอะไรก็ได้ที่ข้าต้องการ…สวี่เจียว เดินไปจากข้าเถิดระหว่างเราเป็นเพียงอดีตเท่านั้น อย่ามาพบข้าอีกเลย”
ใบหน้าของสวี่เจียวปราศจากสีเลือด นางไม่เคยคิดเลยว่าเสิ่นชิงหลิวจะทำแบบนี้ด้วยความสมัครใจ เวลาเปลี่ยน คนเปลี่ยน อำนาจช่างเย้ายวนหอมหวาน…เสิ่นชิงหลิวเองก็ไม่มีข้อยกเว้น เขาเปลี่ยนไป ไม่ใช่คนเดิมที่นางรู้จักอีกแล้ว สามีของนาง! ใครจะคืนสามีคนเดิมมาให้นางได้ !
หัวใจของนางเต้นแรง นางกุมหน้าอกตัวเองไว้แน่น ทรุดตัวลงกับพื้นราวกับลูกบอลเล็กๆ ทำอะไรไม่ถูก ลิ่วเยว่ชำเลืองมองทางนาง ก่อนจะบังคับให้ตัวเองหันไปมองทางอื่น ท่าทางเศร้าสร้อยของสวี่เจียวทำให้เขารู้สึกเศร้ามากขึ้นเป็นร้อยเท่า ราวกับว่าเขากำลังจะตาย ตอนนี้นางควรจากไปได้แล้ว
สวี่เจียวเม้มริมฝีปากแน่น สิบปีที่ผ่านมาความสัมพันธ์ของพวกเขายังฉายชัดอยู่ในใจของสวี่เจียว เป็นไปไม่ได้เลย นางไม่เชื่อ! สวี่เจียวเงยหน้าสามี เหตุใดเขาจึงเป็นแบบนี้ เวลาโกหกสามีของนางจะทำกิริยาเช่นนี้เสมอ เขาจะไม่กล้าสบตากับนาง สวี่เจียวลุกขึ้นเดินไปจับมือเขาไว้
“อย่ามาโกหกข้านะ” ลิ่วเยว่มองไปที่นางด้วยความตกใจ
“ตอนแรกข้าเกือบโดนเจ้าหลอกแล้ว เจ้าทำได้ดีกว่าเดิม” สวี่เจียวยิ้มออกมาอย่างมีความสุขบราวนี่ออนไลน์
“เจ้าไม่เปลี่ยนไปเลย”
อารมณ์ของลิ่วเยว่ซับซ้อน มีทั้งความสุขและความทุกข์คละเคล้ากันไป เขาเหมือนกำลังล่องลอยอยู่ระหว่างความสุขและความเจ็บปวดพวกนั้น สวี่เจียวก้มลงมอง นางเห็นร่องรอยบางอย่าง อดไม่ได้ที่จะม้วนแขนเสื้อของลิ่วเยว่ขึ้นเมื่อเห็นรอยแผลพวกนั้น สีหน้าของนางก็เปลี่ยนไปทันที
สวี่เจียวจับแขนอีกข้างที่มีรอยแผลเหมือนกันทั้งเก่าและใหม่
“สามี เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า”
“อย่างที่เจ้าเห็น เจ้าคิดว่าข้าเปลี่ยนไปไหม?”
“ไม่ เจ้ายังคงเป็นสามีของข้า” สวี่เจียวยืนยัน
“เห็นแบบนี้แล้วหัวใจของข้าเจ็บปวดยิ่งนัก”
สวี่เจียวกอดเขาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ในระหว่างสามปีที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นกับสามีของนาง? ลิ่วเยว่ถอนหายใจ ภาพลวงตาที่เย็นชาค่อยๆ แตกออกทีละน้อย
“เจียวเจียว..ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่พวกเราจะคุยกันได้นาน เจ้าไปก่อน เมื่อถึงเวลาข้าจะไปหาเจ้า” ลิ่วเยว่พูดพร้อมกับกระซิบที่ข้างหูของนาง สวี่เจียวพยักหน้า นางจดจำไว้แล้ว
“เจียวเจียวเจ้าไปเถอะ” ลิ่วเยว่ผลักไหล่ของนางเบาๆ
สวี่เจียวพยักหน้า นางจัดระเบียบเสื้อผ้าให้ตัวเอง นางก้มหน้าหันหลังออกไป
ลิ่วเยว่ยืนเงียบๆ ในความมืดก่อนจะเปิดหน้าต่างมองตามไปยังร่างของสวี่เจียวจนกระทั่งนางลับไปจากสายตา
เมื่อสามปีที่แล้วในโถงเหวินฮวาเขาสวมชุดสีขาวเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ ฮ่องเต้ยังยกย่องเขาด้วยซ้ำ ในเวลานั้นเขาไม่คิดว่าอันดับของตัวเองจะต่ำมาก เขาคิดถึงการกลับไปยังบ้านเกิดด้วยเสื้อผ้าดีๆ สักชุดและคิดถึงภรรยาที่รอเขาอยู่ที่บ้าน
ชายหนุ่มคิดไปต่างๆ นานารู้สึกว่ามีถนนกว้างขวางอยู่ข้างหน้าเขาสามารถนำเขาไปสู่ดินแดนที่เขาใฝ่ฝัน ทว่าในตอนนั้นเองก็มีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องมาที่เขาอย่างจาบจ้วงทำให้รู้สึกอึดอัดไม่สบายใจมาก
เขาไม่รู้ว่าคนที่จ้องมองเขาคือองค์หญิงใหญ่ ไม่รู้ว่าการจ้องมองของนางจะทำให้เขาต้องออกจากเส้นทางรุ่งโรจน์ไปสู่ขุมนรกได้
สำนักพระราชวังประกาศลำดับโดยไร้ชื่อของเขา ลิ่วเยว่ตกตะลึงอย่างไม่คาดคิด ไม่มีใครให้ความสนใจเขาเลย
เขาออกจากวังหลวงด้วยความงุนงง มีรถม้าคันหนึ่งแล่นมาหยุดที่หน้าเขา ในตอนแรกเขาต่อต้านมาก เขายอมตายเสียดีกว่าเป็นชายบำเรอของใคร จนกระทั่งมีปิ่นปักผมยื่นมาที่ตรงหน้าเขา
ปิ่นปักผมชิ้นนั้นเขามอบให้เจียวเจียวในวันที่แต่งงาน นางบอกว่าถ้าเขายอมเจียวเจียวจะรอด แต่ถ้าไม่ เจียวเจียวจะต้องตาย ภรรยาของเขาจะถูกทรมานก่อนตายอีกด้วย เจียวเจียวของเขากลัวความเจ็บปวด
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาความเย่อหยิ่งของเขาก็พังพินาศลง เขาใช้ชีวิตอย่างเหม่อลอย ไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งเจียวเจียวจะมาปรากฏตัวตรงหน้าเขาอีกครั้ง
สวี่เจียวออกจากเสี่ยวหงโหลวแล้วไปที่ร้านหนังสือฉางเฟิง นางเข้าไปในร้านหนังสือสักครู่หนึ่งรอสักพักจึงได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นของสตรี จากนั้นจึงออกไปข้างนอก รถม้าคันหนึ่งจอดที่หน้าร้านเพื่อพานางไปยังจวนสกุลอู่โหว
เมื่อสวี่เจียวกลับมา นางไปหาถังหลี่ทันทีแล้วรีบนั่งคุกเข่าให้นางทันที
“คุกเข่าทำไม รีบลุกขึ้นเถอะ!” ถังหลี่พูดเบาๆ สวี่เจียวยืนขึ้น
“ฮูหยิน ข้าได้พบกับสามีของข้าแล้ว เป็นเพราะความช่วยเหลือจากท่าน”
“เป็นอย่างไรบ้าง” ถังหลี่มองนาง
อารมณ์ของสวี่เจียวซับซ้อนหลากหลายมากคละเคล้าไปด้วยความสุขและความเศร้าปะปนกัน โดยรวมแล้วนางมีความสุขมากกว่า
“ข้าคิดว่าองค์หญิงใหญ่บังคับสามีข้า” สวี่เจียวกล่าว
“นางหักปีกเขาทำให้เขาเป็นนกในกรงทองของนาง”
สามีที่ภาคภูมิใจของนางกลายเป็นแบบนี้ นางนึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาในช่วงสามปีที่ผ่านมา โชคดีที่สามีของนางยังมีชีวิตอยู่ ตราบใดที่ยังมีชีวิตย่อมมีหวัง
“ฮูหยิน ด้วยอำนาจคับฟ้าของหญิงใหญ่เช่นนี้ จะทำอะไรได้บ้างหรือไม่เจ้าคะ?”
สวี่เจียวถามขึ้น
ถังหลี่คิดว่าในยุคสมัยนี้ผู้มีอำนาจสามารถทำอะไรก็ได้ตามที่พวกเขาต้องการ อีกทั้งสังคมศักดินายังเป็นสังคมที่มีอำนาจของชนชั้นสูง คนธรรมดาสามัญอย่างสวี่เจียวและเสิ่นชิงหลิวเปรียบได้กับมดปลวกเท่านั้น แค่คำพูดขององค์หญิงใหญ่ก็สามารถเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาได้ ซ้ำยังขยี้ให้ตายได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามเขื่อนที่ยาวหลายพันลี้ยังพังทลายโดยมดปลวกได้
“ฮูหยิน ข้าโชคดีมากที่ได้เจอคนดีเช่นท่าน ข้าหวังว่าบนโลกนี้จะมีคนที่ดีแบบท่านมากๆ” สวี่เจียวกล่าว
ถังหลี่ยิ้ม นางไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสังคมนี้ได้ นางทำได้แต่เพียงช่วยเหลือคนยากไร้ที่ถูกกดขี่ข่มเหงให้ได้มากที่สุดเท่านั้น ยิ่งกว่านั้นนางไม่ได้ช่วยอะไรพวกเขามากมาย ความดีย่อมตอบแทนด้วยความดี ความชั่วย่อมถูกตอบแทนด้วยความชั่ว นี่คือวิถีแห่งสวรรค์ที่ได้ลิขิตเอาไว้
“ฮูหยิน ขอบคุณที่ท่านช่วยดูแลข้าช่วงสองสามวันนี้ ข้าหาที่พักได้แล้วเจ้าค่ะ” สวี่เจียวกล่าว ถังหลี่พยักหน้าไม่ได้ถามต่อ
“หากเจ้าต้องการความช่วยเหลือก็มาหาข้า”
สวี่เจียวพยักหน้า ความกรุณาของฮูหยินอู่ไม่สามารถตอบแทนได้ด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ นางได้แต่เพียงจดจำเอาไว้อย่างลึกซึ้งในหัวใจของนางเท่านั้น
สวี่เจียวมีสัมภาระไม่มาก นางเก็บของเพียงห่อเดียว จากนั้นจึงได้เดินทางออกจากจวนอู่โหวโดยมีสัมภาระแบกไว้ที่หลัง ถังหลี่มองนางเดินจากไป
ถังหลี่เดาได้ว่าใครเป็นคนให้ที่พักแก่นาง ถังหลี่รู้ว่าองค์หญิงใหญ่ทรงโปรดปรานคุณชายลิ่วเยว่มาก นางมีความปรารถนาแรงกล้าที่จะครอบครองเขา หากสวี่เจียวถูกพบเข้าล่ะก็…ริมฝีปากของถังหลี่เม้มแน่น นางหวังว่าพวกเขาจะโชคดีไม่ถูกจับได้