เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ - บทที่ 623 จุดเปลี่ยน
บทที่ 623 จุดเปลี่ยน
ฮูหยินเหยียนไม่รู้ว่ากุญแจดอกนั้นอยู่ที่ไหน แต่ถึงแม้ว่าจะรู้นางก็ไม่มีวันให้กุญแจแก่เหยียนเฟยฉวง! แต่นางก็ไม่อยากจะให้ลูกชายตายไปพร้อมตัวเอง ฮูหยินเหยียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อนิ่งคิดสักครู่จึงได้ลืมตาขึ้น นางคว้าพู่กันและกระดาษมาเขียนข้อความลงไป
ออกไปจากตระกูลเหยียนแล้วอย่ากลับมาอีก
พร้อมแนบวิธีการหลบหนีออกไปอย่างละเอียด ฮูหยินเหยียนกดกลไกในตัวของนกเพื่อส่งข่าวออกไป นางมองไปด้านนอกอย่างเหม่อลอย
กลางดึกนกไม้ตัวนั้นก็กลับมาอีกครั้ง
ฮูหยินเหยียนที่นอนไม่หลับ เมื่อเห็นนกไม้กลับมานางรีบลุกขึ้นไปอย่างรวดเร็ว หยิบกระดาษที่เขียนด้วยเลือดมาอ่าน
ท่านแม่ ข้าพาหมอกลับมาด้วยเขาอยู่ที่คุกใต้ดิน
ฮูหยินเหยียนอ่านข้อความในจดหมาย นางชะงักไปชั่วครู่ เสี่ยวต้วนพาหมอกลับมาจริงๆ ฮูหยินเหยียนนึกถึงที่เหยียนเฟยฉวงเยาะเย้ยว่าบุตรชายของนางโง่งม… นางคิดว่าบุตรชายของนางไม่น่าไว้ใจนัก ส่วนหมอคนนี้อาจจะมีความสามารถก็เป็นได้ ทว่า..นางไม่สามารถทำตามความปรารถนาของเหยียนเสี่ยวต้วนได้
คุกใต้ดิน…
จู่ๆ ฮูหยินเหยียนก็นึกอะไรบางอย่างออก นางเดินไปที่ผนังพร้อมเปิดช่องลับที่อยู่ในผนัง หยิบกล่องใบหนึ่งออกมาและพบว่ามีกระดาษสองสามแผ่น หอคอยแห่งนี้สร้างโดยสกุลโม่ ซึ่งนอกจากจะมีภาพลักษณ์ที่งดงามแล้วยังมีความลึกลับมากมาย กระดาษพวกนี้คือแบบของโครงสร้างหอคอย พร้อมกับกลไกที่ซ่อนอยู่
โชคดีที่นางติดตามสามีมานานทำให้นางมีความรู้ด้านกลไกเหล่านี้ จึงทำให้ฮูหยินเหยียนเข้าใจแบบร่างของหอคอยได้ คุกใต้ดินไม่ได้อยู่ที่หอคอยหลัก แต่อยู่ที่ชั้นใต้ดินของหอคอย บางทีอาจจะไปที่คุกใต้ดินได้โดยผ่านทางลับ….
ฮูหยินเหยียนดูแผนที่ภายในหอคอยใช้นิ้วเคาะลากจากบนลงมาข้างล่าง สุดท้ายก็ไปหยุดที่ประตูบานหนึ่ง ดวงตาของฮูหยินเหยียนเป็นประกาย นางสามารถไปถึงชั้นใต้ดินได้ด้วยทางลับจริงๆ ฮูหยินเหยียนลุกขึ้นทันทีพร้อมถือเทียนไว้ในมือ อีกข้างถือแผนที่หอคอยไว้ จากการวิเคราะห์ของนาง ฮูหยินเหยียนเดินไปยังกำแพงด้านหนึ่ง กดมือลงไป เส้นทางลับปรากฏขึ้นต่อหน้า นางก้มหัวมุดลอดเข้าไป
หอคอยแห่งนี้มีความซับซ้อน อีกทั้งยังแคบมากสามารถเดินได้ทีละคนเท่านั้น ฮูหยินเหยียนเดินอย่างเหน็ดเหนื่อยนางใช้เวลาเกือบชั่วยามกว่าจะไปยังคุกใต้ดินได้สำเร็จ
ถังหลี่เอนตัวพิงกำแพงหลับไป ในตอนกลางคืนที่คุกใต้ดินอากาศเย็นมากทำให้ถังหลี่ต้องนั่งขดตัวกลม นางนอนไม่ค่อยหลับ เมื่อลืมตาขึ้นมาก็สบเข้ากับดวงตาคู่หนึ่ง ถังหลี่เจอสตรีผู้หนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าตัวเอง
“ท่านคือ?”
“ข้าเป็นมารดาของเหยียนเสี่ยวต้วน เจ้าเป็นหมอที่เสี่ยวต้วนพามาใช่หรือไม่?” ฮูหยินเหยียนถาม ในตอนนั้นเองหมอซูเองก็ตื่นขึ้น
“ข้าเอง”
นางเบนสายตาไปยังหมอซู เมื่อเทียบกับหมอเทวดาคนอื่นที่เคยได้เห็นได้ยินมา หมอซูดูอายุไม่มากนักทำให้ความไว้ใจของนางยิ่งเหลือน้อยลง แต่นางรู้จักบุตรชายของตนดี เขาไม่ใช่คนที่จะยื่นมือมาวุ่นวายหากไม่มีความเชื่อมั่นที่มากพอ… ทำให้ฮูหยินเหยียนมีความหวัง แต่หมอคนนี้จะช่วยสามีนางได้หรือไม่?
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหาก…
นางได้แต่คิดถึงเรื่องนี้ซ้ำไปซ้ำมาด้วยความวุ่นวายใจ
แต่ต่อให้มันจะเป็นเพียงหนึ่งในหมื่นนางก็อยากลองเสี่ยงดู ถ้าทำให้สามีฟื้นขึ้นมาได้..เรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุด ฮูหยินเหยียนไม่สามารถพูดอะไรได้มากนัก
“พวกท่านสองคนขึ้นไปที่ชั้นบนสุดของหอคอยพร้อมข้า เพื่อตรวจดูอาการของท่านประมุขก่อนเถอะ” ฮูหยินเหยียนตัดสินใจ ถังหลี่และหมอซูลุกขึ้นเดินตามฮูหยินเหยียนเข้าไปในช่องทางลับทันที
พวกเขาเดินผ่านห้องลับไปทีละห้อง รวมถึงบันไดสูงชัน เส้นทางที่คดเคี้ยวมากมายทำให้เดินลำบากมาก ถังหลี่เดินอยู่หลังสุดนางจดจำเส้นทางลับไว้ในสมองอย่างเงียบๆ หลังจากที่เดินเป็นเวลานานในที่สุดพวกเขาก็ออกมาจากเส้นทางลับได้
เมื่อเห็นแสงสว่างกลิ่นยาก็โชยมาปะทะจมูกของเขา ทั้งสามคนเข้ามาในห้องขนาดใหญ่ ภายในห้องตกแต่งไว้อย่างสวยงาม แสดงให้เห็นว่าเจ้าของห้องได้ใช้ความคิดเป็นอย่างมาก
“เขาคือท่านประมุขใช่หรือไม่?” หมอซูถาม ฮูหยินเหยียนพยักหน้า หมอซูจึงเดินไปจับชีพจรของนายท่านเหยียน
ฮูหยินเหยียนรอผลการตรวจอย่างกระวนกระวาย เมื่อเห็นว่าหมอซูละมือออกนางจึงรีบถามด้วยความร้อนใจทันที
สีหน้าของหมอซูไม่ค่อยดีนัก เมื่อเขาไม่พูดอะไร หัวใจของฮูหยินเหยียนก็ชาวูบ แข้งขาอ่อนแรงจนแทบจะยืนไม่อยู่ เหตุการณ์แบบนี้นางเคยเจอมานับครั้งไม่ถ้วน แม้ว่าจะเชิญหมอชื่อดังเพียงใดมาตรวจดูอาการ สุดท้ายพวกเขาก็จะบอกกว่ารักษาไม่ได้
อาการของสามีนางแปลกมาก ขนาดหมอเทวดาหลายคนยังบอกว่าไม่เคยเจอโรคแบบนี้มาก่อน อันที่จริงนางควรจะชินชากับความผิดหวังแล้ว…
“ข้าเคยเห็นอาการเช่นนี้มาก่อน หากข้าคิดไม่ผิดมันไม่ใช่โรคร้ายแต่เป็นกู่..” หมอซูกล่าว “แต่ข้าต้องตรวจเพิ่มเติม” ฮูหยินเหยียนชะงัก
เมื่อครู่นั่นเขาพูดอะไรนะ? เขารู้หรือ?
“ฮูหยินเหยียนกล่องยาของข้าถูกยึดไปแล้ว ท่านพอจะมีเข็มเงินหรือไม่?” หมอซูถาม
“มี ข้ามี” ฮูหยินเหยียนได้สติกลับมาอีกครั้ง
ฮูหยินเหยียนหยิบกล่องยาออกมาพร้อมกับเข็มเงินหนึ่งชุดยื่นให้หมอซู
“ฮูหยิน ข้าขออนุญาตถอดเสื้อนายท่านเหยียนนะ” หมอซูกล่าว
หลังจากที่ได้รับการยินยอมจากภรรยาคนไข้ เขาจึงถอดเสื้อท่อนบนของนายท่านเหยียนออก เผยให้เห็นร่างกายที่ผอมจนติดกระดูก ฝีมือการฝังเข็มของหมอซูชำนาญมาก เขาฝังไปที่จุดในร่างกายอย่างแม่นยำ หมอซูสั่งให้ถังหลี่จุดเทียนไปส่องที่ศีรษะของนายท่านเหยียน ในตอนแรกไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เกิดขึ้น แต่หลังจากรอสักพัก ก็เห็นบางอย่างเคลื่อนไหวเจาะเข้าไปข้างในราวกับไส้เดือน
ภาพที่เห็นช่างน่าประหลาดอัศจรรย์มากจนฮูหยินเหยียนเบิกตากว้างอย่างตกใจ หมอซูดึงเข็มเงินออกมาการเคลื่อนไหวของหนอนกู่ก็หายไป
“มันคือหนอนกู่..พิษชนิดนี้เรียกว่าแมลงฝันร้าย มันจะฝังอยู่ในหัวผู้ป่วย มันชอบแสงสว่าง หลังจากที่ผู้ป่วยได้รับพิษเข้าไปในร่างกาย หนอนกู่จะทำให้ง่วงซึม ความจำเสื่อมถอย แขนขาอ่อนแรงและแก่ชราเร็ว” หมอซูกล่าว
ฮูหยินเหยียนรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว อาการที่หมอซูพูดออกมาตรงกับอาการของสามีทุกอย่าง
“ท่านหมอ ท่านมีวิธีรักษาหรือไม่ โปรดช่วยสามีข้าที” ฮูหยินเหยียนขอร้อง
“ฮูหยินไม่ต้องกังวล อาการของนายท่านเหยียนสามารถรักษาจนหายได้ แต่เป็นรักษาที่ค่อนข้างพิเศษมากสักหน่อย” หมอซูกล่าว
รักษาได้!
คำพูดของหมอซูทำให้ฮูหยินเหยียนรู้สึกถึงความหวัง นางไม่กล้ารบกวนหมอซูจึงพาถังหลี่ไปอีกห้องหนึ่ง รินน้ำชาให้หญิงสาว นางมองถังหลี่แล้วพูดว่า
“เจ้ามีนามว่าอะไรหรือแม่นาง?”
“ข้าชื่อถังหลี่”
“เป็นสหายของเสี่ยวต้วนหรือ?”
ถังหลี่พยักหน้า
“พวกเจ้าเจอกันได้อย่างไร”
ถังหลี่อธิบายสั้นๆ ถึงการซื้อตัวเหยียนเสี่ยวต้วนกลับมาที่บ้าน ฮูหยินเหยียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินว่าบุตรชายของนางถูกซื้อตัวไปเป็นทาสรับใช้ แต่กลับกลายเป็นคุณชายน้อยของจวนอู่โหวไปเสียได้
โชคดีที่เขาได้เจอกับครอบครัวที่ดี เลี้ยงดูเขาอย่างอ่อนโยน ไม่เช่นนั้นนิสัยอย่างเสี่ยวต้วนคงได้ถูกเจ้านายใจร้ายทุบตีไปแล้ว
“ขอบคุณฮูหยินอู่ที่ดูแลบุตรชายข้ามาหลายปีและไม่ถือสาเขา” นางกล่าว
“เสี่ยวต้วนเป็นเด็กดี” ถังหลี่พูด
ฮูหยินเหยียนรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ อาของเสี่ยวต้วนทั้งหลายแม้จะเป็นญาติทางสายโลหิตแต่พวกเขากลับบอกว่าบุตรชายของนางเป็นเด็กไม่เอาไหน ทว่าหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้านางกลับบอกว่าบุตรชายของนางเป็นเด็กดีมาก
“ใช่แล้ว เสี่ยวต้วนเป็นเด็กดี” ฮูหยินเหยียนกล่าว
ใครกันที่กล่าวว่าเขาเป็นเด็กสารเลวไว้ใจไม่ได้ บุตรชายของนางเป็นเด็กทั้งกตัญญูและกล้าหาญมาก จึงไปพาหมอที่เก่งกาจเช่นนี้กลับมาได้ เขานำพาความหวังมาช่วยต่อลมหายใจให้กับนาง