เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ - บทที่ 624 ท่านอาห้า
บทที่ 624 ท่านอาห้า
ฮูหยินเหยียนรู้สึกประทับใจในตัวถังหลี่มาก และซาบซึ้งในความเมตตาของหญิงสาว หากมีโอกาสนางจะต้องตอบแทนบุญคุณของถังหลี่แน่นอน
“ฮูหยินเหยียน มือของท่าน..” สายตาของถังหลี่ไปหยุดอยู่ที่ฝ่ามือของมารดาเหยียนเสี่ยวต้วน
ฮูหยินเหยียนจึงเพิ่งสังเกตเห็นว่าที่ฝ่ามือของนางมีแต่รอยขีดข่วน และห้อเลือด เป็นเพราะผิวของนางขาวมาก จึงทำให้บาดแผลเห็นได้ชัดและดูน่ากลัว
ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ค่อยจะเจ็บมากนัก หากเป็นเมื่อก่อนที่สามีของนางแข็งแรงดี เวลานางได้รับบาดเจ็บ นางจะร้องไห้ สามีจะโอบกอดนางไว้ในอ้อมแขนเพื่อปลอบโยนและทายาให้กับนาง ทั้งที่ต่างก็เป็นสามีภรรยาที่อายุมากกันแล้ว แต่สามีก็ยังดูแลนางอย่างทะนุถนอม
ตอนนี้ประมุขเหยียนอยู่ในอาการหมดสติ ไม่ว่านางจะได้รับบาดเจ็บอย่างไรก็ต้องกลืนความเจ็บปวดลงไปในลำคอเงียบๆ เพราะรู้ดีว่าต่อให้ร้องไห้มากสักเท่าใดก็ไม่มีใครมาสนใจ
“ไม่เป็นไร ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต” ฮูหยินเหยียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ข้าทายาให้ท่านหรือไม่?” ถังหลี่ถาม
“ดีสิ ข้าขอรับน้ำใจเจ้า” ฮูหยินเหยียนกล่าว
นางส่งยารักษาบาดแผลให้กับถังหลี่ เมื่อได้กลิ่นยาก็รู้ว่าเป็นยาชั้นดี ถังหลี่ยื่นมือไปหาฮูหยินเหยียน
“ส่งมือมาให้ข้าเถอะ”
เมื่อฮูหยินเหยียนยื่นมือให้ ถังหลี่ทายาให้นางอย่างระมัดระวัง ทั้งบาดแผลที่มือและข้อศอก
“อาจจะแสบเล็กน้อย ฮูหยินท่านทนสักครู่นะอีกไม่นานก็จะหายดี”
เมื่อนางเงยหน้าขึ้นก็พบว่าฮูหยินเหยียนตาแดงก่ำมีน้ำตาไหลออกมา
“ขอบคุณมาก..” ฮูหยินเหยียนกล่าวทั้งน้ำตา นางไม่รู้ว่าเหตุใดเหตุใดตัวเองจึงร้องไห้ต่อหน้าหญิงสาวผู้นี้ อาจจะเพราะว่าถังหลี่ดีกับนางเหมือนเป็นบุตรสาวของนางอีกคนก็เป็นได้
ที่ผ่านมาฮูหยินเหยียนต้องทำให้ตัวเองเข้มแข็งมาตลอด นางไม่มีใครให้คำปรึกษาหรือพูดคุย หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ดูน่าเชื่อถือ นางมีดวงตาที่อ่อนโยนและใจดี ทำให้ฮูหยินเหยียนรู้สึกสบายใจและมีความหวัง ฮูหยินเหยียนรีบเช็ดน้ำตาคลี่ยิ้มออกมาให้
“ขอโทษที่ทำให้เจ้ารู้สึกไม่ดีนะ”
“ฮูหยินเหยียนสะดวกหรือไม่ หากข้าจะถามถึงเรื่องสกุลเหยียน” ถังหลี่ถาม
“แน่นอน” นางพยักหน้า ฮูหยินเหยียนเล่าว่าตอนนี้อำนาจของท่านประมุขสกุลเหยียนได้หมดสิ้นลงแล้ว เหยียนเฟยฉวงยึดอำนาจทั้งหมดไป ต้องการนำแบบร่างอาวุธเหล่านี้ไปแลกกับเกียรติยศและความมั่งคั่ง
“ตอนนี้เหยียนโจวกำลังช่วยเรื่องการผลิตอาวุธให้กับต้าโจว” ถังหลี่กล่าว
“เหยียนโจวเป็นบุตรบุญธรรมของเรา แต่แท้จริงแล้วเขาเป็นบุตรชายของเหยียนเฟยฉวง เหยียนโจวเป็นคนหาลู่ทางส่วนเฟยฉวงก็ฉวยโอกาส ดูเหมือนว่าตอนนี้พวกเขาจะเลือกแคว้นต้าโจว หากสามีข้ารู้เข้า เขาต้องโกรธมากแน่นอน” ฮูหยินเหยียนขมวดคิ้ว
นางยังเล่าเรื่องในครอบครัวสกุลเหยียนอีกด้วย สามีของนางมีลูกพี่ลูกน้องห้าคน เมื่อรวมเขาและเหยียนเฟยฉวงแล้วสายเลือดหลักของสกุลเหยียนมีทั้งหมดเจ็ดคนด้วยกัน เหยียนเฟยฉวงมีผู้คนใต้อาณัติเป็นจำนวนมากรวมถึงลูกพี่ลูกน้องอีกหนึ่งคน มีอีกสองคนยังไม่เลือกฝ่าย ส่วนลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกับนายท่านเหยียนนั้นจากไปนานแล้ว คนที่ยังไม่เลือกฝ่ายกำลังลังเลคิดว่านายท่านสกุลเหยียนอาจจะฟื้นขึ้นมาหรือไม่บราวนี่ออนไลน์
ส่วนเหตุผลที่เหยียนเฟยฉวงยังไว้ชีวิตพี่ชายก็เป็นเพราะต้องการกุญแจห้องลับ ก่อนหน้านี้นางใช้เรื่องของนายท่านเหยียนมาข่มขู่ แต่ตอนนี้นางกำลังใช้เหยียนเสี่ยวต้วนแทน..
“เหยียนเฟยฉวงบอกข้าว่า นางจะให้เสี่ยวต้วนอดอาหาร หากข้าให้กุญแจแก่นาง นางจะยอมให้บุตรชายข้าได้กิน คนเราหากไม่กินไม่ดื่มคงอยู่แค่ได้สองสามวันเท่านั้น…” ฮูหยินเหยียนเป็นกังวล “ข้าไม่รู้ว่าสามีของข้าจะฟื้นขึ้นมาตอนไหน”
ตอนนี้สถานการณ์กดดันมาก นางหวังว่าท่านประมุขเหยียนจะฟื้นขึ้นมาในไม่ช้า และสามารถควบคุมสถานการณ์ในตอนนี้ได้ พวกเขาคุยกันสักพักก่อนที่หมอซูจะเดินมาหา
“ท่านหมอ…สามีข้า..” ฮูหยินเหยียนกล่าวด้วยความกังวล
“ข้ากำจัดหนอนกู่ออกแล้ว ตอนนี้ต้องให้ร่างกายพักฟื้นเสียหน่อย” หมอซูกล่าว
“สามีข้าต้องพักฟื้นนานเพียงใดหรือ?
“หากการขจัดหนอนกู่เป็นไปด้วยดี เมื่อกินยาและเสริมการฝังเข็มทุกวัน..เร็วสุดคือสิบวันช้าสุดคือครึ่งปี” หมอซูเคยเห็นหนอนกู่ครั้งเดียวเท่านั้น เขาไม่มีหลักฐานอะไรให้ศึกษา ทุกอย่างที่เขาทำนั้นล้วนมาจากตำราแพทย์โบราณทั้งสิ้น
หลังจากที่ได้ยิน ฮูหยินเหยียนดีใจมากแต่แล้วนางก็ขมวดคิ้ว…ขั้นต่ำสิบวันหรือ… หากเสี่ยวต้วนต้องอดอาหารสิบวัน เขาจะไม่ตายหรือ?
ในขณะเดียวกันถังหลี่กำลังคิดถึงเรื่องอื่น ตอนนี้สกุลเหยียนอยู่ภายใต้การควบคุมของเหยียนเฟยฉวง หากนางรู้ว่า พวกถังหลี่ไม่ได้อยู่ในคุกใต้ดินในขณะที่ประตูคุกไม่ได้ถูกเปิด นางจะนึกถึงกลไกของหอคอยแห่งนี้หรือไม่? และหากนางรู้ว่าพวกเขากำลังรักษานายท่านเหยียนอยู่ นางจะต้องลงมือจัดการถังหลี่กับหมอซูเป็นแน่
แม้ว่าพวกเขาจะปกปิดอย่างไรแต่เหยียนเฟยฉวงนั้นขึ้นมาบนนี้ได้ทุกเวลา หากบังเอิญเห็นตอนที่หมอซูรักษาเข้า อาจต้องตกที่นั่งลำบาก ถังหลี่กล่าวถึงเรื่องที่นางกำลังคิด ฮูหยินเหยียนนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า
“เช่นนั้นเลือกมากำจัดกู่ตอนกลางคืนดีหรือไม่? หากเป็นตอนกลางคืนโอกาสถูกจับได้จะน้อยลง” ถังหลี่และหมอซูพยักหน้า ตอนนี้เรื่องทุกอย่างจบลงแล้ว
หมอซูบอกฮูหยินเหยียนถึงสิ่งที่ต้องเตรียมในการรักษา จากนั้นพวกเขาจึงกลับไปที่ชั้นใต้ดิน
“เจ้ารู้เส้นทางกลับหรือไม่ ต้องข้าพาลงไปส่งหรือเปล่า?” หญิงสาวยิ้มและพูด
“ตอนขึ้นมาข้าจำมันได้ ท่านไม่ต้องนำทางหรอก อยู่กับนายท่านเหยียนเถิด”
ฮูหยินเหยียนตกตะลึงในความจำและช่างสังเกตของถังหลี่ นางรู้สึกว่าหญิงสาวคนนี้ไม่ใช่คนกระดูกอ่อนเคี้ยวง่ายเลย
ถังหลี่และหมอซูกลับไปยังชั้นใต้ดิน เป็นโชคดีของพวกเขาที่ไม่ถูกจับได้
ในขณะเดียวกัน อีกห้องกักบริเวณ
เหยียนเสี่ยวต้วนยืนอยู่ใกล้กับประตู เขาพยายามมองออกไปข้างนอกอย่างกระวนกระวาย แท้จริงแล้วห้องขังแห่งนี้ถูกปิดอย่างแน่นหนาจนมองไม่เห็นอะไร เขากำลังจะตาย เพราะความเป็นห่วง ไม่รู้เหล่าถังและหมอซูเป็นอย่างไรบ้าง
หากท่านแม่เห็นข้อความของเขา เสี่ยวต้วนสงสัยว่านางจะไปหาถังหลี่กับหมอซูหรือไม่..และ…
ไม่ว่าเหยียนเสี่ยวต้วนจะความรู้สึกช้าเพียงใด แต่เขาตระหนักได้ว่าตอนนี้ตระกูลเหยียนได้เปลี่ยนไปแล้ว เหยียนเสี่ยวต้วนเดินไปมาในห้องขังอย่างหงุดหงิด เขาช่างเป็นคนไม่เอาไหนเสียจริง ตอนนี้ยังถูกขังอย่างไร้ประโยชน์ในห้องนี้อีกด้วย
ท้องของเหยียนเสี่ยวต้วนส่งเสียงร้องออกมา เขาหิวมาก ไม่มีใครเอาอาหารมาให้เขาเลย เขากำลังจะอดตาย เหยียนเสี่ยวต้วนนั่งกุมท้องของตัวเอง ทันใดนั้นที่ด้านนอกก็มีเสียงดังขึ้น
“ข้าอยากเจอหน้าหลานข้า เหตุใดเจ้าจึงมาขวาง?”
“คุณชายห้าขอรับ ตามกฎของสกุลเหยียนนั้น ผู้ที่ถูกคุมขังในห้องกักบริเวณจะไม่สามารถพบใครได้ ท่านได้โปรดอย่าทำให้เป็นเรื่องยุ่งยากเลยขอรับ”
“เหตุใดเจ้าจึงได้เกลี้ยกล่อมยากเช่นนี้นะ?”
หลังจากที่เสียงเหล่านั้นโต้เถียงกันไปมา ประตูห้องขังก็ถูกเปิดออกอย่างกะทันหัน แสงสว่างสาดส่องเข้าไปในห้องขัง ในครั้งแรกเหยียนเสี่ยวต้วนมองไม่เห็น เขาต้องใช้เวลาสักพักจึงจะรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
“ท่านอา” เหยียนเสี่ยวต้วนรีบวิ่งไปหาเขา ชายตัวเล็กผู้นี้เป็นคนที่ดุร้ายมากถึงเหยียนเสี่ยวต้วนจะเข้าหน้าเขาไม่ค่อยได้ แต่ตอนนี้ในใจของเหยียนเสี่ยวต้วนมีความสุขมาก น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความดีใจ
“ข้าคิดถึงท่านอาห้ามาก ท่านเพิ่งกลับมาจากข้างนอกใช่หรือไม่…” พริบตาต่อมาเหยียนเสี่ยวต้วนแย่งห่อผ้าไปจากมือของเขาและรื้ออาหารออกมากินทันที
“……”
หลานไม่ได้คิดถึงเขา แค่เพียงหิวเท่านั้น?