เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ - บทที่ 666 ความจริงปรากฏ
บทที่ 666 ความจริงปรากฏ
ไอ้เด็กไร้ความสามารถ ต้องให้เขาตามเช็ดก้นให้ตลอด! หลูเกอมองหลูอันด้วยความโมโห
“หลู่เส้าเดินทางไปร้องเรียน เรื่องนี้ถูกส่งไปที่กรมอาญาเพื่อพิจารณาคดี แต่ถ้าเขาไม่ค้นพบหลักฐานอะไร คดีจะยุติลงอย่างรวดเร็ว กรมอาญาอาจจะมาสอบสวนเจ้า ตราบใดที่เจ้าปฏิเสธพ่อจะวิธีแก้ไขให้” หลูเกอกล่าว
ไม่นานนัก คนจากกรมอาญาก็มาถึง เร็วว่าที่หลูเกอคาดเดาไว้ กรมอาญาไม่ได้สอบสวนหลูอัน แต่กลับพาตัวเขาไปขึ้นศาลทันที นั่นหมายถึงในการฟ้องร้องครั้งนี้มีหลักฐานและสามารถที่จะดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็ว
เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร?
หลูเกอขมวดคิ้ว เขามองบุตรชายพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
“เจ้าจำสิ่งที่พ่อบอกเมื่อครู่ได้หรือไม่?”
หลูอันไม่ตอบ เขาจากไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่ของกรมอาญา
ในศาล หลูอันได้พบกับหลู่เส้า เขาเห็นชายวัยกลางคน สูงอายุ ท่าทางประหม่าไม่มั่นใจ หลู่อันแทบจำไม่ได้ว่าเขาคือหลู่เส้าผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและร่าเริงคนนั้น
หลูอันฝันว่าหลู่เส้าคลานขึ้นจากแม่น้ำในสภาพตัวเปียกปอน แล้วถามว่าเหตุใดหลูอันจึงขโมยผลงานเขาไป? ในฝันหลูอันเอาแต่พูดว่าขอโทษ เขาไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้เจอหลู่เส้าอีก หลูอันรู้สึกถึงอารมณ์ที่หลากหลายและซับซ้อน เต็มไปด้วยความรู้สึกยินดี ความรู้สึกผิด ความสุขและความกลัวคละเคล้ากันไป
“หลู่เส้าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า เจ้ายังมีชีวิตอยู่ หลายปีที่ผ่านมาเหตุใดเจ้าไม่มาหาข้า?” หลูอันถาม เขาคว้าไหล่ผอมที่มีแต่กระดูกของอีกฝ่ายไว้
หลู่เส้าหันไปมองในดวงตาของเขามีแต่ความเกลียดชัง
“หากข้าไปพบเจ้า เจ้าจะไม่ฆ่าข้าอีกหรือ?”
“ฆ่าเจ้า? เจ้าไม่ได้ลื่นตกลงไปในแม่น้ำหรือ?” หลูอันถามด้วยความงุนงง ในงานเลี้ยงคืนนั้นเขาดื่มสุราไปมาก เมื่อตื่นขึ้นมาลูกน้องก็เข้ามารายงานว่าหลู่เส้าตกลงไปในแม่น้ำแล้ว เขาให้คนไปกู้ร่างของหลู่เส้า ผ่านไปสามวันก็ไม่พบร่างของเขา มีเพียงเสื้อผ้าและรองเท้าเท่านั้นที่หาเจอ ทำให้หลูอันต้องยอมรับความจริงว่าหลู่เส้าได้เสียชีวิตไปแล้ว
“หลู่เส้าตายแล้ว น่าเสียดายที่ผลงานของเขาต้องสูญเปล่า เจ้าเพียงแค่รับมันไว้ พวกเจ้าเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน วิญญาณของเขาที่อยู่บนสวรรค์จะไม่ตำหนิเข้าหรอก” นั่นคือคำพูดของหลูเกอ
แต่หลูอันไม่อยากยอมรับ ทำให้บิดาของเขาโกรธมาก ก่นด่าว่าเหตุใดเขาถึงได้โง่เขลาเช่นนี้ ในตอนนั้นสิ่งที่เขากลัวที่สุดคือสายตาของบิดา เขากลัวว่าท่านพ่อจะผิดหวังในตัวเขา เขาพยายามให้ท่านพ่อหันมามองเขาและยอมรับในตัวเขามากขึ้น หลูอันฉุกคิดขึ้นมา
หรือว่าหลู่เส้าจะไม่ได้ตกลงไปเอง มีอะไรที่แอบแฝงอยู่ในเหตุการณ์เวลานั้น?
“ตกแม่น้ำ? ในงานเลี้ยงเจ้ามอมเหล้าข้าจนเมา สั่งให้คนมาทุบตีข้าแล้วโยนข้าลงไปในหลุมศพ หลูอัน ข้าภักดีกับเจ้าราวกับคนบ้า เห็นเจ้าเป็นน้องชาย แต่นี่คือสิ่งที่เจ้าตอบแทนข้าหรือ? ข้านี่ตาไร้แววจริงๆ” หลู่เส้ามองเขาด้วยความโกรธ จู่ๆเขาก็ผลักหลูอันลงไปที่พื้นและบีบคอเขาเหมือนควบคุมตัวเองไม่ได้
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเอาชีวิตรอดได้อย่างไร ข้าต้องอาศัยอยู่ในมุมมืดมิดสกปรกเหมือนหนูตัวหนึ่ง ลากขาพิการของข้าเที่ยวขอทานคนไปทั่ว หาของขายเลี้ยงชีพ เจ้าปลิดชีวิตข้า ขโมยทุกอย่างไปจากข้า ทำให้ข้าลำบากถึงเพียงนี้!”
เจ้าหน้าที่รีบรุดเข้าไปแยกทั้งสองออกจากกัน หลูอันตกใจมากเมื่อเห็นแววตาที่มีแต่ความเกลียดชังของหลู่เส้า เขาหน้าซีดเป็นกระดาษ หลูอันเข้าใจแล้วว่าทุกอย่างถูกวางแผนเอาไว้
แม้เขาจะนำทัพได้รับชัยชนะกลับมาหลายครั้งแต่ก็ไม่เท่าชัยชนะที่อี้เป่ย บิดาของเขาจึงฆ่าหลู่เส้าและบังคับให้เขาเอาผลงานของอีกฝ่ายมาเป็นของตัวเอง เพราะต้องการหาผลงานทางการทหารให้แก่เขา เพื่อตำแหน่งผิงหยางโหว และเพื่อให้เขามุ่งสู่การเป็นราชบุตรเขย
หลูอันทรุดลงกับพื้นเขาก้มหน้าร้องไห้ ปรากฏว่าทุกอย่างที่เขาได้รับเป็นเพราะฉกฉวยมาจากหลู่เส้า หากเป็นก่อนหน้านี้เขากล้าที่จะขอโทษหลู่เส้า แต่ตอนนี้เขาไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะพูดด้วยซ้ำ ไม่กล้าแม้แต่เผชิญหน้า
เขาล้มเหลว!
เขาถูกหลอกมาตลอดชีวิต บิดาโกหก ภรรยาก็โกหก เขาไม่สามารถปกป้องคนรักและลูกๆ ได้ ไม่สามารถปกป้องพี่น้องของตัวเองได้ ชีวิตที่ดีและสะดวกสบายของเขาเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น หลูอันไม่สามารถโทษคนอื่นได้เลย เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนเป็นความผิดของเขาทั้งหมด
หากเขารู้ความจริงเกี่ยวกับการตายของหลู่เส้า…หาความจริงเรื่องการหายไปของหยูอันเหนียง..
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธบิดาของตัวเอง
เสียงเย็นชาของเว่ยฉิงดังขึ้นปลุกให้หลู่อันตื่นจากภวังค์
“หลูอัน หลู่เส้าฟ้องร้องที่เจ้าแอบอ้างผลงานของเขาไป เป็นเรื่องจริงหรือไม่?”
หลูอันเงยหน้าขึ้น ใบหน้าของเขาซีดเซียวและริมฝีปากสั่นเทา
“หลู่เส้าเป็นคนที่นำทัพในการรบอี้เป่ยในครั้งนั้นไม่ใช่ข้า เพราะข้าได้รับบาดเจ็บจนไม่สามารถนำทัพได้ ข้า…ข้าสังหารเขาเพื่อขโมยผลงาน…”
หลูอันไม่ดิ้นรน เขาค่อยๆ อธิบายทุกอย่างทีละขั้นตอน เว่ยฉิงประหลาดใจ เนื่องจากเดิมทีคิดว่าจะต้องมีการงัดหลักฐานขึ้นมา แต่หลูอันกลับสารภาพออกมาง่ายดายโดยที่เขาไม่คิดมาก่อน
“เจ้าฆ่าหลู่เส้าหรือเปล่า? เจ้าบอกว่าเข้าใจว่าเขาตกลงไปในแม่น้ำและเสียชีวิตไป เจ้าปิดบังอะไรอยู่หรือไม่?” หลูอันเม้มปากเขานิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะส่ายศีรษะ
“ข้าทำเองทั้งหมด ไม่มีเงื่อนงำอะไร…ข้าโลภอยากได้ผลงานของเขาจึงได้วางแผนการเช่นนี้”
เมื่อหลูอันสารภาพผิด และลงนามในคำสารภาพ ทำให้เว่ยฉิงตัดสินตามกฎหมายของต้าโจว ลงโทษด้วยการตีแผ่นกระดานร้อยห้าสิบครั้งและถูกเนรเทศไปไกลถึงสามพันลี้
แต่ท้ายที่สุดแล้วคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์ จะต้องได้รับการตรวจสอบจากกรมตุลาการกลางเสียก่อนที่จะผลจากทางการ หลูอันจึงได้รับการยกเว้นไม่ต้องรับโทษชั่วคราว เขาถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ ไม่แม้แต่จะอ้อนวอนขอความเมตตา
เขาสมควรได้รับมัน
สมควรแล้ว…
ก่อนที่หลูอันจะถูกพาตัวออกไป เขามองไปที่หลู่เส้า คุกเข่าคำนับให้เขาแล้วจึงหันหลังจากไป หลู่เส้ายืนมองด้วยความเฉยเมยจนหลูอันหายลับไปจากสายตา
เขาหันไปมองเว่ยฉิง สายตาเต็มไปด้วยความรู้คุณ จากนั้นจึงได้ลากขาพิการออกออกไปจากศาล
เมื่อแหงนดูท้องฟ้า หลู่เส้าหลั่งน้ำตาออกมา ในที่สุดความจริง และความยุติธรรมก็ได้รับการเปิดเผย
หลู่เส้าเดินต่อไป ยามที่แสงอาทิตย์ตกลงมากระทบตัว ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ผ่านมา
หลังจากเลิกงาน เว่ยฉิงกลับไปคุยเรื่องนี้กับถังหลี่
“ตอนแรกหลูอันคิดว่าหลู่เส้าตกลงไปในแม่น้ำ ดูเหมือนเขาจะไม่รู้เรื่องการลอบสังหารหลู่เส้าเลย แต่ต่อมาเขากลับยอมรับอย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเค้นสอบอย่างไรเขาก็ยืนกรานว่าเขาเป็นคนทำเอง” เว่ยฉิงเล่าให้ภรรยาฟัง
เมื่อคิดตามคำพูดของเว่ยฉิงแล้ว ถังหลี่คิดถึงความเป็นไปได้ของภูมิหลังของหลูอัน
“เป็นไปได้หรือไม่ว่าเขารับสารภาพแทนหลูเกอ ข้าว่าเขาไม่รู้เรื่องนี้แต่อยากรับผิดแทนบิดา”
“ข้าเองก็คิดเช่นนั้น”
ถ้าหลูอันสารภาพเรื่องของบิดา นั่นย่อมหมายถึงเขาดึงหัวไชเท้าพร้อมโคลนขึ้นมาได้จนสำเร็จ
“แม้ว่าหลูอันจะเป็นคนขี้ขลาด แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะเป็นลูกกตัญญูในวาระสุดท้ายเช่นนี้”