เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ - บทที่ 780 เมื่อทั้งสองมาเจอกัน
- Home
- เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ
- บทที่ 780 เมื่อทั้งสองมาเจอกัน
บทที่ 780 เมื่อทั้งสองมาเจอกัน
เมื่อบ่าวรับใช้มารายงานว่าเหล่าจ้านมาพบ กู้หวนอวี้จึงเดินออกจากลานซงเถาเพื่อไปหาผู้อาวุโสจ้านทันที
เมื่อเหล่าจ้านเห็นกู้หวนอวี้ เขารีบอยากจับมือพาชายหนุ่มไปเล่นหมากแทนเขาเสียเดี๋ยวนั้น
กู้หวนอวี้ไม่มีอะไรทำ จึงตอบตกลง ทั้งสองนั่งลงเล่นหมากด้วยกัน ไม่นานนักกู้หวนอวี้ก็เอาชนะเหล่าจ้านอย่างรวดเร็ว เขาคิดว่าเหล่าจ้านน่าจะโวยวายเหมือนครั้งก่อนๆ แต่กลายเป็นว่ากลับจ้องมองเขาด้วยดวงตาลุกเป็นไฟ
“ดีมาก !” เขาตบบ่ากู้หวนอวี้
“……..” ใบหน้าของกู้หวนอวี้เต็มไปด้วยความสงสัย
หรือว่าจะเป็นเพราะเขาพ่ายแพ้มาติดๆ กันก็เลยไม่รู้จะพูดอะไรหรือ?
“แต่ก่อนข้ามีสหายเล่นหมากด้วยกัน เหล่าฮั่น..” เหล่าจ้านเรื่องราวของตนกับเหล่าฮั่นให้เขาฟัง กู้หวนอวี้จึงได้เข้าใจว่า เหล่าจ้านพ่ายแพ้ให้กับเหล่าฮั่นมาหลายครั้งหลายหน เมื่อไม่นานมานี้เขาได้เจอศิษย์ของเหล่าฮั่น และเหล่าจ้านเล่นหมากแพ้นาง เขาจึงอยากให้กู้หวนอวี้ไปเล่นหมากแก้แค้นให้เขา กู้หวนอวี้ไม่ได้สนใจเรื่องแก้แค้นเหล่าจ้าน แต่สนใจว่าลูกศิษย์ของเหล่าฮั่นผู้นี้เก่งสมคำร่ำลือจริงหรือ?
เป็นเรื่องหาได้ยากที่เขาจะได้เจอคนที่มีฝีมือทัดเทียมกัน จึงคิดอยากเอาชนะคนผู้นี้ขึ้นมาทันที
หลังจากที่เขาตอบตกลง เหล่าจ้านจึงได้หาวันนัดให้ทั้งคู่มาประลองฝีมือกัน
กู้หวนอวี้รู้จากเหล่าจ้านว่า ผู้ต่องสู้เป็นสตรีมีนามว่าตู้ชิงหยู และเป็นสหายของน้องสาวเขาอีกด้วย
ไม่คิดว่าก่อนจะถึงวันนัด เขาจะได้บังเอิญเจอนางเข้าเสียก่อน
กู้หวนอวี้มาที่จวนสกุลอู่เพื่อหาหลานฝาแฝดของเขา เมื่อเข้าไปในลาน เขาได้ยินเสียงสตรีผู้หนึ่งซึ่งช่างคุ้นหูเขามาก กำลังหยอกล้อหลานตัวน้อยของเขา ทันใดนั้น การแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนไป หัวใจเขาเต้นแรงขึ้น
หรือจะเป็นนาง!
กู้หวนอวี้เร่งฝีเท้าอย่างไม่รู้ตัว เขารีบเดินเข้าไปในลาน ชายหนุ่มเห็นเงาร่างของคนผู้หนึ่งกำลังนั่งยองๆ ตรงหน้ามู่เป่า เมื่อเขาได้เห็นนาง ก็เกิดอาการสับสนขึ้นมาอีกครั้ง
นางจะมาอยู่ในจวนสกุลอู่ได้อย่างไร?
คนผู้นั้นอยู่ที่เป่ยหมานชายแดนทางตอนเหนือซึ่งห่างจากเมืองหลวงมาก
หรือจะเป็นเรื่องบังเอิญ?
ภาพหลอน?
ความคิดของเขาสับสนอลหม่าน
ตู้ชิงหยูรู้สึกได้ถึงสายตาที่จับจ้องมาจากทางด้านหลัง เมื่อนางหันไปมองก็ต้องตกตะลึง เมื่อเห็นคนที่เดินเข้ามา
หลังจากที่ชะงักไปเล็กน้อย ตู้ชิงหยูปรับสีหน้าเป็นปกติอย่างรวดเร็ว ราวกับเขาคือคนแปลกหน้า
“ท่านลุง” มู่เป่าเรียก
ตู้ชิงหยูกระพริบตา เขาเป็นพี่ชายของถังหลี่หรือ?
กู้หวนอวี้กลับมาได้สติอีกครั้ง เขาจ้องมองไปที่นาง แม้นางจะแต่งตัวเป็นบุรุษรูปงามแต่ก็ไม่มีลูกกระเดือก ซ้ำยังทรวดทรงเหมือนผู้หญิง
นางเป็นสตรีไม่ผิดแน่
“เจ้า…” กู้หวนอวี้ขมวดคิ้ว
“สวัสดี ข้าคือตู้ชิงหยูเป็นสหายของถังหลี่”
นางคือตู้ชิงหยู?
หญิงสาวที่เหล่าจางยกย่อง ตู้ชิงหยูศิษย์ของเหล่าฮั่น นักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่
“แม่นาง เราเคยพบกันมาก่อนหรือไม่?” กู้หวนอวี้ถาม
ตอนนั้นเขาได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ทำให้มีอาการมองไม่เห็นชั่วขณะ จึงไม่รู้ว่าหน้าตาของนางเป็นอย่างไร เขาได้ยินเพียงแต่เสียงของนางเท่านั้น
“ไม่เคย” ตู้ชิงหยูตอบอย่างมั่นใจ
เดิมทีกู้หวนอวี้คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ แต่เพราะน้ำเสียงที่มั่นใจว่าไม่เคยเจอกันของนาง ทำให้การคาดเดาของเขาหยุดชะงัก
คงไม่มีเหตุบังเอิญ เขาคงไม่ได้พบกับนางอีก
กู้หวนอวี้รู้สึกเคว้งคว้างอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว เขาไม่ถามอะไรต่อ เพียงเข้าไปหาเด็กทั้งสองเท่านั้น
ตู้ชิงหยูถอนหายใจด้วยความโล่งอก นางไม่คิดว่าคนที่นางเคยช่วยชีวิตเอาไว้จะเป็นพี่ชายของถังถัง เพราะหลังจากที่หายบาดเจ็บแล้ว ชายคนนั้นแทบจะอยากบดขยี้นางให้เป็นผุยผง
เมื่อคิดถึงตอนนั้น ตู้ชิงหยูรู้สึกว่านางล้อเล่นกับเขามากเกินไป
โชคดีที่เขาไม่รู้
หลังจากที่กู้หวนอวี้จากไป ตู้ชิงหยูถามเรื่องพี่ชายรองของถังหลี่ทันที จากคำพูดของถังหลี่ ทำให้ทราบว่ากู้หวนอวี้มีตำแหน่งเป็นแม่ทัพในการปราบพวกเป่ยหมานทางตอนเหนือ จนได้ฉายาว่าเทพเจ้าแห่งสงครามของต้าโจว เขาทำให้พวกเป่นหมายหวาดกลัวมาก
ตู้ชิงหยูเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องเทพเจ้าสงคราม แห่งต้าโจว
“โหดเหี้ยม เด็ดขาด แข็งแกร่ง”
เมื่อตู้ชิงหยูคิดถึงเรื่องที่ตนเองทำลงไปกับเขา ก็ยิ่งกลัวว่าจะถูกเขารู้เข้า
….
หลังจากที่กู้หวนอวี้กลับมาที่จวนสกุลกู้ เขาก็นึกถึงเรื่องที่เคยได้รับการช่วยเหลือจากสองพี่น้อง บางทีอาจจะเพราะเขาคิดถึงเรื่องนี้ในช่วงกลางวันมาก ตอนกลางคืนเขาจึงได้ฝัน…
ในความฝันเสื้อผ้าของเขาถูกฉีกออก มือที่อ่อนนุ่มของหญิงสาวสัมผัสเข้าที่แผงอก
“กล้ามเนื้อแน่นแข็งแรงมาก” เสียงของสตรีผู้นั้นฟังดูยั่วเย้าราวกับเป็นหญิงคณิกาในหอโคมเขียว
“แม่นางได้โปรดสงวนท่าทีของตนเองด้วย” กู้หวนอวี้แทบจะกัดฟันพูด
“เหตุใดข้าต้องสงวนท่าทีด้วย? ชีวิตคนเรานั้นแสนสั้น ควรใช้เวลาที่เหลือให้รื่นรมย์ ชื่นชมความงามมมิดีกว่าหรือ?” น้ำเสียงของนางเรียบเรื่อย นางสัมผัสแผ่วเบาที่หน้าอกเขาอีกครั้ง กู้หวนอวี้โกรธจนแทบจะหมดสติ เขาไร้เรี่ยวแรงจนไม่อาจขยับมือขยับเท้าของตนได้เลย ได้แต่ยอมจำนนให้นางทำตามอำเภอใจ
“เหตุใดท่านถึงได้หน้าแดงนักเล่า? หรือว่าไม่เคยมีใครได้สัมผัสท่านมาก่อนเลยหรือ?” นางเดาะลิ้นสองครั้ง
“ช่างน่าเสียดาย หน้าตาหล่อเหลาเช่นนี้คงยังไม่เคยร่วมหอละสิ…”
ใบหน้าของกู้หวนอวี้มืดครึ้มลง หัวใจร้อนผ่าวด้วยความโกรธ
“เจ้า…เจ้า..” กู้หวนอวี้หน้ามืดด้วยโทสะ
ทันใดนั้นกู้หวนอวี้ก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา เขาไขว่คว้าหามือที่ก่อปัญหาให้กับตนเองแต่ไม่พบอะไร ชายหนุ่มจึงหลับตานอนอยู่เช่นนั้น หายใจเข้า แล้วลุกออกจากที่นอน เพื่อบรรเทาโทสะและความอายที่เกิดขึ้นโดยที่เขาไม่รู้ตัว เขา สวมเสื้อคลุมเดินไปผลักหน้าต่างออก ท้องฟ้าข้างนอกเต็มไปด้วยดวงดาว เขาอยากรู้ว่าหญิงสาวคนนั้นอยู่ที่ไหน? หน้าตานางเป็นอย่างไร?
เหตุใดเขาถึงได้คิดถึงตู้ชิงหยูที่เขาเจอในตอนกลางวัน
เช้าวันรุ่งขึ้นกู้หวนอวี้มาที่จวนสกุลอู่อีกครั้ง
ถังหลี่ประหลาดใจ ทั้งที่พี่รองมีนิสัยติดบ้าน เมื่อวานนี้เขามาที่จวนแล้วยังกลับมาอีกครั้ง แปลกยิ่งนัก…
“ข้ามาหาตู้ชิงหยู” กู้หวนอวี้ว่า
ถังหลี่รู้สึกประหลาดใจมากขึ้น พี่ชายรองของนางเริ่มที่จะเข้าหาผู้หญิงแล้วหรือ?
เป็นไปได้หรือไม่ที่โชคชะตาของตู้ชิงหยูและพี่ชายถูกกำหนดให้คู่กัน
ถังหลี่ทำหน้านิ่งแล้วถามด้วยน้ำเสียงปกติ
“พี่รองมีธุระกับตู้ชิงหยูหรือ?”
“ข้าได้ยินจากเหล่าจ้านว่าแม่นางตู้เล่นหมากเก่งมาก ทำให้ข้าอยากประลองกับนาง” กู้หวนอวี้เอ่ย
ถังหลี่รู้ว่าพี่รองของนางเป็นคนคลั่งไคล้การเล่นหมากกระดานมาก
เขาแค่อยากมาเล่นหมากกระดานกับนางเองหรือ
ถังหลี่รู้สึกผิดหวังขึ้นมา…