เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ - บทที่ 788 นัดพบระหว่างสามคน
- Home
- เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ
- บทที่ 788 นัดพบระหว่างสามคน
บทที่ 788 นัดพบระหว่างสามคน
ตู้ชิงหยูมองกู้หวนอวี้
“ท่านนัดใครบางคนมาชมจันทร์ด้วยหรือ?”
กู้หวนอวี้ตอบนางว่า “ข้ามาผู้เดียว คืนนี้พระจันทร์เต็มดวง ข้าเลยอยากมาชมจันทร์เท่านั้นเอง”
เกาจิงหยวนเห็นพวกเขาคุยกันอดไม่ได้ที่จะเข้าไปแทรก
“แม่นางหยู จุดชมจันทร์ที่สวยที่สุดเป็นที่นิยมมาก พวกเรารีบไปเถิด หากไปช้าจะไม่มีที่ให้พวกเราได้ชมจันทร์” เกาจิงหยวนเอ่ยชวน
ตู้ชิงหยูพยักหน้า ทั้งสองเดินขึ้นสะพานไปด้วยกัน ไม่ช้าเกาจิงหยวนก็พบสิ่งผิดปกติ เขาหันกลับมาพบว่ากู้หวนอวี้อยู่ด้านหลังของตนเอง
“ท่านแม่ทัพกู้ ท่านตามพวกเรามาทำไม?” เกาจิงหยวนถามด้วยความโกรธ ตู้ชิงหยูหันไปมองด้วยแววตางุนงง
กู้หวนอวี้ดูอ่อนโยนเหมือนเช่นเคย “ข้าไม่ได้ตาม แค่เดินไปทางเดียวกันเท่านั้น”
ตู้ชิงหยูคิดว่าเป็นเรื่องปกติ ในเมื่อพวกเขาต้องการชมจันทร์ ย่อมเดินไปในเส้นทางเดียวกันเป็นธรรมดา เกาจิงหยวนดีใจว่าไม่ใช่เป็นเพราะกู้หวนอวี้ต้องการตามพวกเขา
เมื่อเกาจิงหยวนและตู้ชิงหยูเดินผ่านร้านดอกไม้ พวกเขาก็เดินมาถึงเนินสูงริมแม่น้ำ ที่นี่เป็นสถานที่เหมาะสำหรับจะชมดวงจันทร์ มีหญิงชายหลายคู่เดินมาด้วยกัน คู่รักต่างกระซิบกระซาบ หยอกล้อกัน บรรยากาศอบอวลไปด้วยความรัก เกาจิงหยวนทำความสะอาดม้านั่งหิน เพื่อให้ตู้ชิงหยูได้นั่ง เมื่อเช็ดสะอาดแล้วยังไม่ทันได้เอ่ยชวน ก็มีใครบางคนแย่งนั่งลงเสียก่อน
เกาจิงหยวนเบิกตาโพลงมองกู้หวนอวี้ที่นั่งลงไปอย่างสง่าผ่าเผย
“เจ้า…” นี่เป็นเก้าอี้ที่เขาอุตส่าห์ลงมือเช็ดให้แม่นางหยู !
กู้หวนอวี้มองเขาแล้วเอ่ยว่า “ขอบคุณ”
เกาจิงหยวนถึงกับพูดไม่ออก เมื่อเผชิญกับคนหน้าหนาเช่นกู้หวนอวี้ เขาจำต้องยอมรับชะตากรรม ก้มหน้าเช็ดเก้าอี้อีกตัวอย่างขะมักเขม้น
“แม่นางหยู นั่งลงเถอะ” ตู้ชิงหยวนนั่งลงที่ม้าหิน เมื่อเกาจิงหยวนต้องการจะนั่งข้างนาง ตำแหน่งที่ว่ากลับโดนคนแปลกหน้านั่งแทนเสียแล้ว
เกาจิงหยวนมองกู้หวนอวี้ที่นั่งอยู่ข้างๆ ตู้ชิงหยูอย่างโมโห เขาทำอะไรไม่ได้ จึงได้แต่ยืนอยู่ข้างๆ ตู้ชิงหยูเท่านั้น
เหตุใดหนุ่มสาวที่นั่งอยู่คู่กันจึงได้ดูเหมาะสมกันราวกับคู่พระนาง ส่วนตัวเขาถึงได้กลายเป็นเด็กรับใช้ไปได้ล่ะ? เกาจิงหยวนมองอย่างไม่พอใจ
หลังจากชมจันทร์ได้ไม่นานเขาก็ก้มลงกระซิบว่า
“แม่นางหยู ให้ข้าพาเจ้าไปที่สวยงามกว่านี้ดีหรือไม่? ตู้ชิงหยูลุกขึ้น ทั้งคู่พากันลุกเดินออกไป
เกาจิงหยวนหันกลับมามองด้านหลัง จากนั้นจึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อไม่เห็นกู้หวนอวี้เดินตามหลังพวกเขา
ทั้งสองคนพากันเดินไปที่มุมสงบของสวนดอกไม้ เขามองตู้ชิงหยูด้วยดวงตาที่สดใส
“แม่นางหยู ข้าจะให้เจ้าดูบางอย่าง” หญิงสาวยืนพิงเสาสองมือกอดอกมองเขาอย่างเกียจคร้าน
เกาจิงหยวนโบกมือไปมาเพื่อให้นางได้เห็นว่าเขาไม่มีอะไรอยู่ในมือ จากนั้นก็เอามือไขว่หลัง เมื่อเขาเอาแบมือตรงหน้านางอีกครั้ง กลับปรากฎดอกไม้สีแดงสดในฝ่ามือของเขา
นี่เป็นเคล็ดลับในการเกี้ยวสาวที่เขาได้เรียนรู้มา แม่นางหยูจะต้องประหลาดใจอย่างแน่นอน ภายใต้แสงจันทร์และบรรยากาศที่เป็นใจเช่นนี้ บางที…เขาอาจจะได้จุมพิตนาง
“เจ้าซ่อนดอกไม้ไว้ในแขนเสื้อ..เห็นหรือไม่กลีบดอกไม้ร่วงโรยหมดแล้ว” เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นเปิดโปงอุบายของเขาอย่างไร้ปรานี บรรยากาศคลุมเครือวาบหวามหายวับไปทันที
เกาจิงหยวนนิ่งอึ้ง เขาแทบอยากกระโดดกัดกู้หวนอวี้ที่จู่ๆ ก็โผล่ขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“ก็แค่กลเล็กๆ น้อยๆ” ตู้ชิงหยูหัวเราะเยาะไม่ไว้หน้า “ดูข้าสิ!” นางยื่นมือสองข้างที่ว่างเปล่าไปในอากาศ แทบจะไม่ได้เอื้อมไปที่ด้านหลังของตนเองด้วยซ้ำ ดอกไม้สองดอกก็ปรากฏออกมาอยู่ในมือของนาง
เกาจิงหยวนตกใจเมื่อได้เห็น กลอุบายเล็กน้อยของเขาช่างเทียบกับของแม่นางหยูไม่ได้เลย
หลังจากโดนโจมตีจากกู้หวนอวี้และตู้ชิงหยู ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เกาจิงหยวนก็หดหู่ใจ
กู้หวนอวี้เห็นดอกไม้ก็รู้ว่านางเก็บมาจากสวนดอกไม้ แต่เขาก็ยังชมอย่างจริงใจ
“ช่างน่าทึ่งมาก” ตู้ชิงหยูอารมณ์ดี นางยื่นดอกไม้ให้เขา
“ของขวัญให้ท่าน” กู้หวนอวี้หยิบดอกไม้สองดอกมาจากมือของหญิงสาว ยิ่งมองเขาก็ยิ่งรู้สึกว่าดอกไม้สองดอกนี้มีความพิเศษทั้งยังมีกลิ่นหอมมากอีกด้วย
“ข้าเดินชมจันทร์เพียงลำพังช่างเปลี่ยวเหงายิ่งนัก รบกวนเจ้ามาเดินเป็นเพื่อนข้าจะได้หรือไม่?” กู้หวนอวี้เอ่ยถาม ตู้ชิงหยูชอบความสงบ นิ่งสุขุมของเขามากกว่าเกาจิงหยวนที่ช่างพูดอยู่แล้ว นางจึงพยักหน้ารับคำชวนของเขา
คนสองคนที่เดินชมจันทร์จึงได้กลายเป็นสามคนไปโดยปริยาย ผู้ที่พบเห็นเกาจิงหยวนและตู้ชิงหยวนเดินชมจันทร์ในชุดบุรุษก่อนหน้าพากันตกใจที่เห็นบุรุษเพิ่มขึ้นมากลายเป็นสามคน
ในยุคสมัยนี้บุรุษตัดแขนเสื้อ (ต้วนซิ่ว) มีการเปิดเผยต่อในที่สาธารณะมากขึ้น แต่ตอนนี้ได้กลายเป็นสามคนไปแล้ว?
ช่างเปิดเผยยิ่งนัก!
กู้หวนอวี้และตู้ชิงหยูชมจันทร์พลางสนทนาเกี่ยวกับบทกวีและประเพณีต่างๆ เกาจิงหยวนที่เดินอยู่ข้างๆ ไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เลย เขาหดหู่ใจแทบตาย แผนสวยหรูของเขากลายเป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร
เมื่อตู้ชิงหยูเอ่ยปากขอตัว เกาชิงหยูจึงไม่ได้รั้งนางไว้ เพียงตั้งใจจะส่งนางกลับจวนเท่านั้น
“ไม่จำเป็น” นางโบกมืออำลาด้วยท่วงท่าสง่างาม จากนั้นจึงได้หันหลังเดินจากไป
เกาจิงหยวนมองตามแผ่นหลังของนางไปอย่างนิ่งงัน ช่างเป็นหญิงสาวที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนผู้ใดจริงๆ เมื่อเขาเบนสายตากลับมายังกู้หวนอวี้อีกครั้ง ความหลงใหลเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นความไม่พอใจ
“ท่านแม่ทัพกู้! วันนี้สาแก่ใจท่านหรือยัง? เหตุใดจึงได้มาทำลายนัดของข้า? หรือเป็นเพราะท่านชอบแม่นางหยูหรืออย่างไร?”
“ใช่!” กู้หวนอวี้ตอบหนักแน่น
เกาจิงหยวนพูดไม่ออก
“ข้าชอบตู้ชิงหยู” เขาย้ำ ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่ได้ยอมรับกับตนเองและผู้อื่นว่าเขาชอบนาง
ถ้าหากได้ชอบใครสักคนแล้ว ความสุขและความทุกข์ หรือแม้กระทั่งความโกรธและโศกเศร้าของตนล้วนแล้วแต่นางเป็นผู้กำหนดทั้งสิ้น
ดวงตากลมโตของเกาจิงหยวนจ้องกู้หวนอวี้ ในใจรู้สึกทันทีว่านี่คือวิกฤติและอุปสรรคในความรักของตน
ผู้ที่อยู่ตรงหน้าได้รับสมญาว่าเทพสงครามแห่งต้าโจว เขามีความโดดเด่นในกองทัพ สถานะทางครอบครัวเหนือกว่าเขา เขาตัวสูง แข็งแรงและไหนจะหน้าตารูปโฉมเหนือกว่าเขา แม้จะไม่มากก็ตาม แต่นับได้ว่าเขาเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่..เกาจิงหยวนยังไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้ เขายืดเอวขึ้นจ้องกู้หวนอวี้
เกาจิงหยวนเรียกว่าการแข่งอย่างยุติธรรม แต่เขาใช้โอกาสโกงการแข่งขันไปแล้ว
เขาจะไม่มีวันได้นัดพบกับตู้ชิงหยูอีก
อย่างไรก็ตามกู้หวนอวี้มี ‘โกะ’ เขาต้องการเชิญนางมาแก้หมากกระดานนี้ให้เขา
ตู้ชิงหยูสนใจ ‘โกะ’ มากเมื่อเห็นรูปวาดการเล่นของ ‘โกะ’ แล้ว นางสนใจและรับนัดทันที
สถานที่ที่พวกเขานัดกันคือหอหวางเจียง ณ ห้องที่พวกเขาเคยเล่นหมากด้วยกันครั้งก่อน มีหน้าต่างหันไปทางแม่น้ำ สายลมพัดเอื่อยมาปะทะใบหน้า และทิวทัศน์ที่สวยงามของคุ้งน้ำที่ทอดยาว
ดวงตาของแม่ทัพกู้กวาดไปทั่วใบหน้าขาวราวกับหยกเนื้อดีของตู้ชิงหยู เขาผุดยิ้มขึ้นที่ใบหน้า เชื้อเชิญนางให้นั่ง
“หมากสุดท้ายได้ถูกวางไว้แล้ว มาหาวิธีทำลายหมากด้วยกันเถอะ” กู้หวนอวี้เอ่ยชวน
ตู้ชิงหยูมองหมากบนกระดานด้วยความสนใจ นางนิ่งคิดตรองหาวิธี ทั้งสองพากันนิ่งคิดโดยไม่ได้สังเกตว่าคนที่เข้ามารินชาในห้องคือเกาจิงหยวน เมื่อถ้วยชาของกู้หวนอวี้ว่างเปล่า เขามองหากาน้ำชาจึงพบว่าเกาจิงหยวนได้ลอบอยู่ข้างกายของตู้ชิงหยู น้ำชาของนางพร่องไปเล็กน้อย เขาก็รินเติมให้อย่างว่องไว ส่วนแก้วชาของเขาว่างเปล่า กู้หวนอวี้ถือถ้วยเปล่าค้างไว้ในมือ เขามองเกาจิงหยวน เกาจิงหยวนไม่สนใจ เขาผลักกาน้ำชาให้กู้หวนอวี้เป็นนัยให้เขารินชาเอง
กู้หวนอวี้จึงได้แต่รินชาให้ตนเอง
“แม่นางหยู ร้อนหรือไม่? ข้าจะพัดให้เจ้า”
“แม่นางหยูเก้าอี้แข็งเกินไปหรือไม่?” กู้หวนอวี้แทบทนไม่ไหว เขานึกอยากโยนคนออกไปนอกหน้าต่างเสียเดี๋ยวนั้น
หลังจากนั้นถัดมาไม่กี่วัน เหตุการณ์ก็ยังเป็นเช่นเดิม เกาจิงหยวนยังคงตามหลอกหลอน และปรากฏกายขึ้นอย่างไม่ได้รับเชิญเสียทุกครั้ง
เมื่อกู้หวนอวี้ทุกข์ใจ น้องเขยของเขาย่อมสังเกตเห็น
เว่ยฉิงเห็นว่าเกาจิงหยวนเป็นก้างขวางคอพี่ภรรยา เขาจึงคิดหาทางช่วยพี่รองของถังหลี่เสียเอง