เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ - บทที่ 79 หมากัดหมา
บทที่ 79 หมากัดหมา
บทที่ 79 หมากัดหมา[1]
สำหรับขั้นตอนการบรรจุชาดลงกล่อง ถังหลี่และหลู่ชิงได้นำคนที่ไว้ใจได้สองถึงสามคนมาทำ โดยกันคนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลู่หยวนออกไปจนหมด
เมื่อคนที่เป็นพรรคพวกของหลู่หยวนถูกกีดกันออกไป ยิ่งทำให้หลู่หยวนมั่นใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผน ถังหลี่กับหลู่ชิงกำลังปกปิดความผิดพลาดและเร่งหาวิธีแก้ปัญหา!
ในชั่วพริบตา ก็ถึงเวลากำหนดส่งชาด
หลังยามอู่[2] เฉินเย่พาคนกลุ่มหนึ่งมาที่เป่าชิงเก๋อเพื่อตรวจสอบสินค้า อย่างไรก็ตามทางร้านก็ยังไม่ยอมส่งมอบสินค้าให้
“แม่นางหลู่ชิง เกิดอะไรขึ้น มีปัญหาเกิดขึ้นกับชาดที่ข้าสั่งหรือ? ” เฉินเย่ดูกังวล แต่ทว่าดวงตาของเขาฉายประกายบางอย่าง หลู่ชิงยิ้มเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“ท่านลุงเฉิน ไม่มีปัญหาอะไรเจ้าค่ะตอนนี้กำลังนำชาดจากโรงงานมาที่ร้าน ได้โปรดรอสักครู่ เชิญนั่งพักจิบชารอเสียหน่อยนะเจ้าคะ”
“ดียิ่ง ไม่มีปัญหา! หวังว่าจะไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นนะไม่อย่างนั้นการเดินทางไปค้าขายของข้าครั้งนี้คงต้องสูญเปล่าเป็นแน่!”
เฉินเย่นั่งลงที่ประตูก่อนจะตามด้วยกลุ่มคนจากสำนักคุ้มภัย
บางคนเห็นเช่นนั้นก็เข้ามาถามด้วยความสงสัย
เฉินเย่อธิบายการค้าของเป่าชิงเก๋อกับตนให้ทุกคนฟังอย่างใจเย็นเมื่อผู้คนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นพวกเขาก็ต่างเฝ้ารอชมด้วยความสนุก หลังจากที่เฉินเย่ดื่มชาไปหนึ่งถ้วยแล้ว เขาก็ชะโงกศีรษะออกไปมองที่ถนนแต่ก็ยังไม่มีวี่แววของชาด
“แม่นางหลู่ชิง ทำไมถึงยังไม่มากันอีก บอกข้ามาตามตรงเถิดเกิดปัญหาอะไรขึ้นหรือไม่? ”
“เถ้าแก่เฉิน หากข้าไม่ทราบว่าเจ้าต้องการสินค้าพวกนี้อย่างเร่งด่วนล่ะก็ ข้าคงคิดว่าเจ้าคาดหวังให้สินค้ามีปัญหา!” ในขณะนั้นเองก็มีเสียงพูดดังขึ้น เป็นถังหลี่นั่นเอง!
เฉินเย่รู้สึกว่าคำพูดนี้ของนางเต็มไปด้วยความเหน็บแนม เขาจึงทำเป็นไม่สนใจ เมื่อเถ้าแก่เฉินเห็นถังหลี่ยิ้มแย้ม จึงคิดว่านางคงกำลังหยอกเย้าตัวเขา
“อาชิง เจ้าไปที่โรงงานแล้วเร่งพวกเขาหน่อย”
“ได้สิ” หลู่ชิงหันหลังเดินไปโรงงาน
เวลาผ่านไปไม่นานนัก ชาดที่เตรียมไว้ยังไม่มีวี่แววมาแต่คนที่มาปรากฏตัวขึ้นกลับเป็นเถ้าแก่โจว
“เถ้าแก่เฉิน เจ้ามาทำอะไรที่นี่หรือ? ” เถ้าแก่โจวมองเฉินเย่ด้วยท่าทางประหลาดใจ จากนั้นเถ้าแก่เฉินก็พูดเรื่องสัญญาซื้อขายของตนกับเป่าชิงเก๋ออีกครั้ง ชายวัยกลางคนเมื่อทราบเรื่องราวก็พูดขึ้นว่า
“หากเป็นเช่นนั้นเจ้าไม่ต้องกังวลใด ๆ คุณหนูหลู่นั้นเก่งกาจทุกอย่างต้องเรียบร้อยดีแน่นอน”
ถังหลี่ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ นึกเยาะในใจ เถ้าแก่โจวคงทนรอไม่ไหว จึงอดไม่ได้ที่จะมาดูเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยตาตัวเอง
ช่างชั่วช้าอะไรเช่นนี้!
หลังจากนั้นไม่นานทางโรงงานก็นำชาดทั้งหมดมา มีจำนวนถึงสองหีบเต็ม ๆ!
ใบหน้าของหญิงสาวเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่ในขณะนั้นเองคนงานที่ขนชาดก็เข้ามากระซิบบางอย่างที่ข้างหูของถังหลี่ สีหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ตกอยู่ในสายตาของเฉินเย่และเถ้าแก่โจว
เถ้าแก่โจววางแผนที่จะให้เป่าชิงเก๋อต้องจ่ายค่าชดเชยถึงสามพันตำลึง และในจำนวนค่าปรับมหาศาลนี้ถังหลี่และหลู่ชิงคงไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ถึงตอนนั้นเขาก็ไม่รังเกียจที่จะรับเป่าชิงเก๋อมาไว้ในอ้อมแขนของเขา…หึ…แม่นางน้อยทั้งสอง
เมื่อถึงเวลาที่เขาได้ครอบครองแล้ว เขาจะไม่สนใจพวกนางอย่างสิ้นเชิง!!
ยิ่งเถ้าแก่โจวคิดเรื่องนี้มากเท่าใดเขาก็ยิ่งรู้สึกมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น
เฉินเย่แทบจะกลั้นรอยยิ้มบนใบหน้าของตัวเองเอาไว้ไม่ได้
เดิมทีข้อตกลงนี้เหมือนจะเป็นของเขาและเป่าชิงเก๋อ แต่แท้จริงแล้วมันคือข้อตกลงของเถ้าแก่โจวกับตัวเขาต่างหาก พวกเขาตกลงที่จะแบ่งเงินหนึ่งพันตำลึงหลังจากเสร็จสิ้นแผนการแล้ว เงินหนึ่งพันตำลึงที่ได้จากการซื้อขายเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น…นับว่าเป็นโชคลาภวาสนาอย่างแท้จริง
“เถ้าแก่เนี้ยถังข้าขอตรวจสอบสินค้าพวกนี้ได้หรือไม่ พวกมันสำคัญสำหรับข้ามาก ข้าอาจจะใจร้อนเกินไปต้องขออภัยเจ้าด้วย” เฉินเย่ถามอย่างกระตือรือร้น
“เถ้าแก่เฉิน เดี๋ยวก่อน..”
“เดี๋ยวหรือ? ข้ารอไม่ไหวแล้ว เถ้าแก่เนี้ยถังหากเจ้ายังมัวแต่อมพะนำเช่นนี้คงไม่สามารถคิดเป็นอื่นได้นอกจากสินค้าพวกนี้มีปัญหา!”
“อาจจะมีปัญหาอะไรบางอย่างหรือ….”
เฉินเย่กำลังจะเปิดหีบบรรจุออกแต่ถังหลี่ห้ามไว้ ทำให้เขายิ่งมั่นใจว่าสินค้าพวกนี้มีปัญหาแน่นอนและตอนนี้นางไม่อาจปิดบังเขาได้อีกต่อไป!
“ที่แท้ สิ่งที่เจ้าปกปิดคือสินค้าที่มีปัญหาพวกนี้หรือ! ข้าเชื่อใจเจ้ามากเหตุใดจึงมาหลอกลวงกันเช่นนี้? หากสินค้ามีปัญหาเจ้าต้องจ่ายค่าเสียหายให้ข้าถึงสามเท่า! ทุกท่านเป็นพยานให้ข้าด้วย!”
“การค้าขายกับข้า ต้องซื่อสัตย์และห้ามทุจริตคดโกง!”
ในขณะที่เฉินเย่พูดเช่นนั้น เขาผลักถังหลี่ออกและรีบเปิดหีบทันที แต่หลังจากเห็นของภายในหีบ สีหน้าของเขากลับแย่ลง เขาค้าขายมานานกว่าสิบปี ติดต่อกับพ่อค้าขายชาดมาก็มาก เห็นได้ชัดว่าชาดนี้เป็นของดีมีคุณภาพสูง ..เป็นไปได้อย่างไร?
เฉินเย่มองไปที่ถังหลี่อย่างรวดเร็ว
“เถ้าแก่เฉินเจ้าเป็นคนที่ใจร้อนมาก อาชิงไปจัดการงานที่โรงงานเลยทำให้มาล่าช้า ใจจริงข้าอยากจะรอให้อาชิงมาตรวจสอบสินค้าพร้อมกัน เพราะนางเชี่ยวชาญเรื่องชาดกว่าข้ามาก…แต่ตอนนี้นางมาถึงแล้ว อย่างไรเสียก็ตรวจสอบก่อนเถิด”
ถังหลี่กวักมือเรียกหลู่ชิงที่เพิ่งมาถึงให้เข้ามาหา
“อาชิงมานี่เร็ว ๆ เจ้าตรวจสอบคุณภาพสินค้าทุกชิ้นเสีย เถ้าแก่เฉินไม่ค่อยวางใจพวกเรานัก!”
เฉินเย่เปิดกล่องบรรจุชาดหลายกล่องและพบว่าทุกกล่องเป็นของดีมีคุณภาพ
เป็นไปไม่ได้!
เป็นไปไม่ได้!
เฉินเย่มองดูกล่องหลายสิบกล่องในคราวเดียว ทุกกล่องล้วนไม่มีที่ติ ตอนนี้ราวกับว่าวิญญาณของเขาถูกพรากออกไป เถ้าแก่เฉินพิงเสาอย่างอ่อนแรง รวมไปถึงใบหน้าของเถ้าแก่โจวในยามนี้ที่ดูบิดเบี้ยวอย่างน่าเกลียด เถ้าแก่โจวทนไม่ไหวอีกต่อไป เขารีบเข้าไปรื้อหาตำหนิของชาดในหีบ
เขาตรวจสอบอยู่หลายสิบครั้ง ในไม่ช้าร่างกายของเขาก็อ่อนระทวยลง
เป็นไปได้อย่างไร!
เถ้าแก่โจวยืนอยู่ข้างเฉินเย่ ขาของเขาอ่อนแรงมาก
“ความสัมพันธ์ของเถ้าแก่โจวกับเถ้าแก่เฉินนั้นดีมากเลยสินะ ท่านจึงได้มาช่วยเขาตรวจสอบสินค้าเช่นนี้”
“เถ้าแก่เฉินเป็นอะไรหรือ? ในเมื่อท่านกำลังรีบร้อนเหตุใดจึงไม่ตรวจสอบสินค้าต่อเล่า? ท่านควรรีบตรวจสอบให้เสร็จนะ” ถังหลี่เร่งเร้า
ตอนนี้บรรดาผู้คนที่สัญจรผ่านไปมากำลังรวมตัวกันพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในร้านเป่าชิงเก๋อ
“ใช่ เถ้าแก่เฉินรีบร้อนขนาดนั้นเหตุใดจึงไม่ตรวจสอบต่อเล่า? ”
“เหตุข้าถึงคิดว่าเถ้าแก่เฉินไม่ได้ต้องการชาดพวกนี้จริง ๆ นะ”
เฉินเย่ทำได้เพียงแค่ลุกขึ้นและเดินเข้าไปตรวจสอบชาดในหีบต่อเท่านั้น
ที่จริงแล้ว เขายึดคติที่ว่าคนดีมักมีเพียงแค่หยิบมือส่วนคนชั่วร้ายนั้นย่อมมีมากกว่า… อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะหาคนมาช่วยตรวจสอบ แต่ด้วยมีชาดถึงสามพันกล่องก็ยังกินเวลาไปถึงหนึ่งชั่วยาม อีกทั้งยังไม่พบตำหนิแม้เพียงแต่กล่องเดียวด้วยซ้ำ
เฉินเย่ทรุดตัวนั่งลงกับพื้น!
“เถ้าแก่เฉินในเมื่อชาดไม่มีปัญหา ดังนั้นเจ้าควรจ่ายเงินส่วนที่เหลือเสีย”
เขาไม่มีทางขายชาดแดงสามพันกล่องหมด หากจ่ายเงินซื้อมาจะมีประโยชน์อะไร?!
“ชาดพวกนี้…ข้า ข้าไม่ต้องการมันแล้ว!”
ถังหลี่ยิ้มและกล่าวต่อว่า
“ดียิ่ง!! ถ้าเช่นนั้น เถ้าแก่เฉินยินดีที่จะจ่ายเงินชดเชยให้ข้าสามเท่าตามที่ตกลงกันไว้ในหนังสือสัญญาสินะ!”
ใบหน้าของเฉินเย่ซีดไร้สีเลือดเขาหันไปมองที่เถ้าแก่โจวทันที
“เถ้าแก่โจว…”
ใบหน้าของเถ้าแก่โจวน่าเกลียดมากเช่นกัน เขาดึงเฉินเย่ออกมาแล้วกระซิบ
“เสี่ยวเฉิน เป็นไปได้หรือไม่ที่เจ้าจะจ่ายเงินไปก่อน อย่างไรพวกเราก็หาทางได้”
“เถ้าแก่โจวท่านเป็นคนขอให้ข้าทำเรื่องนี้ ท่านต้องเป็นคนรับผิดชอบ”
ใช่ เถ้าแก่โจวต้องเป็นคนจ่ายเงิน!
เขาจะเสียเงินมากมายเพียงนั้นไปเพื่ออะไร!
ใบหน้าของเฉินเย่เริ่มมีสีเลือดขึ้นเมื่อขึ้นถึงเรื่องนี้…
“ท่านต้องมอบเงินหนึ่งพันตำลึงให้ข้า และข้าจะมอบมันให้เป่าชิงเก๋อ!” ดวงตาของเถ้าแก่โจวเป็นประกาย
“เอาล่ะ เจ้าออกไปก่อนแล้วข้าจะจ่ายให้เจ้าทีหลัง”
“เถ้าแก่เฉินการเจรจาควรมีหนังสือสัญญา หากพูดด้วยปากเปล่าย่อมไร้ประโยชน์เจ้าต้องระมัดระวังด้วย เพราะถึงเวลาพวกเขาก็จะเบือนหน้าหนีและเพิกเฉยกับมัน” ถังหลี่หันไปหาและพูดให้คนทั้งสองได้ยิน เฉินเย่ถูกคำพูดของถังหลี่เป่าหูความคิดของเขาก็เปลี่ยนไปทันที
“เถ้าแก่โจวเอาหนึ่งพันตำลึงมาให้ข้าก่อน แล้วข้าจะจ่ายมันให้เป่าชิงเก๋อ!”
เถ้าแก่โจวที่ตระหนี่มาตลอด เงินหนึ่งพันตำลึงนี้จะทำให้เขากระอักเลือดตาย!
“พันตำลึงหรือ? เถ้าแก่เฉิน ข้อตกลงการค้าครั้งนี้เป็นเรื่องของเจ้าและเป่าชิงเก๋อ เหตุใดเจ้าถึงจะให้ข้าจ่ายล่ะ!”
เถ้าแก่โจวกลับคำทันที
————————————————–
[1] หมากัดหมา หมายถึง คนกลุมเดียวกันที่ทะเลาะเบาะแว้งทําร้ายกันเอง เปรียบกับสุนัขที่ชอบกัดกัน
[2] ยามอู่ คือ11.00 – 12.59 น.