เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ - บทที่ 799 ถังหลี่ช่วยเหลือ
บทที่ 799 ถังหลี่ช่วยเหลือ
จะทำให้เจ็บตัวได้อย่างไรหรือ?
หกล้ม บังเอิญชนประตู เจ็บมือในขณะที่ฝึกดาบ หรือเผลอเคี้ยวก้อนหินในขณะกินข้าวจนทำให้ฟันบิ่น
กู้หวนอวี้คิดหาวิธีที่จะทำให้ตนเองบาดเจ็บหลายร้อยวิธี
ในขณะที่เขายังคงตัดสินใจเลือกอยู่นั้น ก็มีคำสั่งด่วนมาเสียก่อน ว่าให้กู้หวนอวี้รีบไปค่ายทหาร
ก่อนออกเดินทางเขาเขียนจดหมายบอกตู้ชิงหยูได้ไม่กี่คำ เขาได้แต่บอกว่าเขาต้องรีบไปค่ายทหารอาจจะไม่ได้เจอนางสักพัก ไม่ช้าตู้ชิงหยูก็ได้รับจดหมาย นางอ่านแล้วอดนึกขำไม่ได้
“ไปค่ายทหารก็ไปสิ เหตุใดต้องมารายงานข้าด้วย”
หลังจากผ่านไปไม่กี่วันก็มีจดหมายส่งมาหานาง เมื่อเห็นลายมือบนจดหมาย นางอดผิดหวังไม่ได้ ไม่รู้ว่านางกำลังรอหรือคาดหวังอะไรอยู่ นางอ่านจดหมายอีกครั้งจากศิษย์พี่ของนาง ซึ่งกำลังจะออกจากต้าโจว เขาเชิญนางให้มาพบเพื่อกล่าวอำลา
ตู้ชิงหยูมาที่นัดพบตามที่เขียนเอาไว้ในจดหมาย เสิ่นเว่ยเฟิงเห็นนางมา เขาอดพูดไม่ได้ว่า
“ข้าคิดว่าศิษย์น้องจะไม่มาเสียแล้ว”
ตู้ชิงหยูยิ้ม “ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ท่านจะเป็นพี่ชายของข้า และข้าจะเป็นศิษย์น้องของท่านตลอดไป” เสิ่นเว่ยเฟิงคิดตามที่นางพูด ทั้งแปลกใจและโล่งใจ
ใช่! พวกเขาเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก อยู่ด้วยกันมาทั้งวันทั้งคืน บางสิ่งบางอย่างไม่อาจมาสั่นคลอนความสัมพันธ์ของพวกเขาได้
นอกนั้นเป็นเพราะข้าผิดเอง ข้าไม่รู้ใจตนเองจึงได้เสียนางให้กับผู้อื่นไป
เสิ่นเว่ยเฟิงรู้สึกเสียใจไม่น้อย
“การเจรจาทางการค้าระหว่างต้าโจวและแคว้นฉู่ได้ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว องค์หญิงเหยาเยว่ต้องการที่จะอยู่และเข้าพิธีแต่งงานกับฮ่องเต้แห่งแคว้นโจว..ที่ข้าเดินทางมากับองค์หญิงเหยาเยว่แท้จริงแล้วเป็นเพราะฮ่องเต้แคว้นฉู่ต้องการให้องค์หญิงเข้าพิธีแต่งงาน พวกเรามุ่งมั่นที่จะเจรจาให้ได้ผลประโยชน์มากที่สุด เป็นเพราะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นผู้ที่ยากต่อการเจรจาต่อรองด้วย ในที่สุดเราก็ไม่ได้ประโยชน์จากต้าโจวเลย”
ตู้ชิงหยูยิ้ม นางดีใจที่ศิษย์พี่ไม่ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้เลย
“แน่นอนเสี่ยวหลี่เอ๋อร์ของข้าย่อมตาถึงไม่ใช่เล่น ต่อให้เว่ยฉิงจะโง่เขลาไปบ้างแต่เขาก็มีความฉลาดพอๆ กับความโง่ของตัวเอง” ตู้ชิงหยูชอบทะเลาะกับเว่ยฉิงยามที่พวกเขาเจอกันเสมอ แต่นางไม่ลังเลที่จะชมเขาต่อหน้าคนภายนอก
เสิ่นเว่ยเฟิงคิดว่าเว่ยฉิงฉลาดมาก เขาไม่รู้ว่านางเอาคำว่าเว่ยฉิงโง่มาจากไหน?
หรือบางทีเขาอาจจะไม่เคยเห็นด้านที่ ‘โง่’ ของคนผู้นี้มาก่อน
“ศิษย์น้อง พวกเราเคยเดิมพันกันไว้ก่อนหน้า เรื่องการรับลูกศิษย์…”
“ข้ารับลูกศิษย์แล้ว แต่ตอนนี้พวกเขาไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง เด็กสองคนนี้จะได้เข้าร่วมสภาขุนนางในอีกไม่ช้า ในภายหน้าพวกเขาจะได้เป็นขุนนางคนสำคัญแห่งแคว้นตาโจว”
ตู้ชิงหยูยังจำได้ถึงการเดิมพันของพวกเขา
“ลูกศิษย์ของข้าก็ได้รับการยอมรับแล้วเช่นกัน พวกเขาจะกลายเป็นขุนนางที่มีชื่อเสียงของแคว้นฉู่ในภายหน้าอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นมาดูกันว่าลูกศิษย์ของใครจะสร้างใต้หล้าให้เจริญรุ่งเรือง” เสิ่นเว่ยเฟิงว่า ตั้งเป้าหมายในใจเอาไว้ หากเขากลับไปยังแคว้นฉู่เขาจะสั่งสอนลูกศิษย์เพิ่มเป็นสองเท่าเพื่อไม่ให้แพ้ศิษย์น้องเขาอย่างแน่นอน
“พี่ชาย ไว้พวกเรามาคอยดูกันเถอะ” ตู้ชิงหยูรับคำท้า ทั้งคู่มองหน้ากัน ราวกับมีประกายไฟปะทุขึ้นมาระหว่างพวกเขาอีกครั้ง
เวลาผ่านไป ในไม่ช้าก็ถึงเวลาอำลา
“ศิษย์น้อง พวกเราคงไม่ได้เจอกันอีกนาน ข้าหวังว่าจะได้รับข่าวคราวของเจ้าบ้าง แต่ถ้าหากเจ้าแต่งงานก็ไม่ได้ต้องบอกข้าหรอกนะ ข้าคงไม่ได้มางานแต่งของเจ้า..” หลังจากพูดจบเขาก็หันหลังจากไป
ตู้ชิงหยูมองแผ่นหลังของเขา
เหตุใดศิษย์พี่ถึงคิดว่านางจะแต่งงาน? นางไม่เคยตั้งใจที่จะแต่งงานเลย
เวลาผ่านไปอีกหลายวันก็ยังไม่มีข่าวเกี่ยวกับกู้หวนอวี้ ตู้ชิงหยูอดกังวลไม่ได้ เขาเป็นอะไรไปหรือเปล่า?
ไม่! เขาเป็นคนแข็งแกร่ง จะมีอะไรเกิดขึ้นกับเทพเจ้าสงครามแห่งแคว้นต้าโจวได้อย่างไร?
แต่การหลบเลี่ยงธนูที่อยู่ในที่ลับนั้นเป็นเรื่องยาก ถ้าหากเขาได้รับบาดเจ็บขึ้นมาล่ะ?
ตู้ชิงหยูกังวล เมื่อเจอถังหลี่นางจึงได้ถามเรื่องนี้ขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจ ถังหลี่ฉลาดมาก ไม่นานนางก็คาดเดาได้ ตู้ชิงหยูเป็นห่วงพี่รองของนาง นางตกหลุมรักพี่รองเข้าเสียแล้ว
“ข้าไม่รู้เหมือนกัน หากสามีกลับมาข้าจะถามเขาให้”
เย็นวันนั้น นางถามเรื่องพี่รองกับเว่ยฉิง
“ค่ายทหารมีสายลับเข้าแทรกซึม แผนยุทธศาสตร์ทางทหารรั่วไหล โชคดีที่กองกำลังรักษาเมืองได้ตรวจพบเข้าเสียก่อน ไม่เช่นนั้นผลที่ตามมาอาจจะเป็นหายนะ พี่รองของเจ้ากลับค่ายทหารเพื่อตรวจสอบทางค่าย” ถังหลี่พยักหน้า ไม่น่าแปลกใจที่พี่รองของนางเร่งรีบไปและไม่ยอมเปิดเผยให้ใครได้ล่วงรู้
“การสอบสวนเป็นอย่างไรบ้าง?”
“การสอบสวนเกือบเสร็จสิ้นแล้ว พบสายลับไม่กี่คน แต่มีสายลับที่ไม่ยอมให้จับต่อสู้จนตัวตายทั้งยังลอบสังหารพี่รองของเจ้าอีกด้วย” ถังหลี่ตกใจ เป็นห่วงมาก
“พี่รองของข้าได้รับบาดเจ็บหรือ?”
“พี่รองของเจ้าเก่งกาจปานนั้นจะได้รับบาดเจ็บได้อย่างไร?” เว่ยฉิงคลายความวิตกให้ภรรยา
ถังหลี่ถอนหายใจ เว่ยฉิงกระเถิบเข้ามาใกล้กระซิบกับภรรยา
“ภรรยา เจ้าคิดว่าพวกเราควรช่วยเหลือพี่รองหรือไม่?” ถังหลี่รู้จักสามีดี นางรู้เจตนาจากการแสดงออกของเขา
“บอกชิงหยูว่าพี่รองโดนคนลอบสังหารหรือ?”
เว่ยฉิงพยักหน้า
“ภรรยา มาเดิมพันกันเถอะ ถ้าชิงหยูได้ยินเรื่องนี้นางจะไปหาพี่รองของเจ้าหรือไม่?”
“ข้าเดิมพันว่าไป!”
“ข้าก็เดิมพันว่าไปเช่นกัน”
“ถ้าเดิมพันเหมือนกันจะได้อย่างไร พวกเราต้องเลือกให้ต่างกันสิ!” ถังหลี่อดท้วงไม่ได้
“ถ้าเช่นนั้นข้าเดิมพันว่านางไม่ไป…ถ้าหากข้าทายผิดข้าจะถูกลงโทษให้รับใช้ภรรยา” ถังหลี่เหลือบมองเขา นี่ไม่เห็นเหมือนการลงโทษเลย เหมือนให้รางวัลเสียมากกว่า
วันรุ่งขึ้นถังหลี่เล่าเรื่องนี้ให้ตู้ชิงหยูฟัง
“กู้หวนอวี้ถูกสายลับลอบสังหารหรือ? เขาได้รับบาดเจ็บหรือไม่?” ตู้ชิงหยูถามอย่างร้อนรน
เมื่อคืนนางฝันว่ากู้หวนอวี้ได้รับบาดเจ็บ เป็นไปได้หรือไม่ว่าความฝันเป็นจริง?
“ข้าไม่แน่ใจว่าเขาได้รับบาดเจ็บหรือไม่? แล้วก็ไม่รู้ว่าพี่รองจะได้กลับเมื่อไหร่?” ตามที่นางคาดเอาไว้ ตู้ชิงหยูไม่สามารถรอได้ หลังจากถามว่าค่ายทหารอยู่ที่ไหน นางรีบขี่ม้าออกจากเมืองทันที
ถังหลี่เฝ้าดูร่างของนางหายไปพร้อมกับรอยยิ้ม
ตู้ชิงหยูชอบพี่รองของนางมากจริงๆ ดูเหมือนพี่รองจะไม่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวอีกต่อไปแล้ว
ตู้ชิงหยูขี่ม้าไปถึงค่ายทหารจนมืดค่ำ คนภายนอกไม่อาจจะเข้าไปในค่ายทหารได้ นางจะไม่ได้เจอกู้หวนอวี้ แต่กระนั้นนางยังเร่งเดินทาง กว่าจะคิดถึงปัญหานี้ได้ก็มาได้ครึ่งทางแล้ว ก่อนที่นางจะคำนึงถึงเหตุและผล นางมองเห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังขี่ม้าตรงมา คนข้างหน้าดูคุ้นเคย นั่นคือกู้หวนอวี้!
กู้หวนอวี้เห็นตู้ชิงหยูมาแต่ไกล เขาทั้งประหลาดใจและยินดี
ตู้ชิงหยูมาหาเขาหรือ?
เขารีบขี่ม้าเข้าไปหานาง ตู้ชิงหยูหยุดม้าเมื่อเห็นเขา ทั้งคู่มองสบตากัน
“ชิงหยู เจ้ามาหาข้าหรือ?” เขาถามด้วยน้ำเสียงแปลกใจ นางรู้สึกอายแต่ก็ยอมรับแต่โดยดี กู้หวนอวี้พลิกตัวลงจากหลังม้า ตู้ชิงหยูลงจากหลังม้าเช่นกัน นางมองอย่างลำราจทั่วร่างกายของเขา
“เสี่ยวหลี่เอ๋อร์ว่าท่านถูกคนลอบสังหาร ท่านได้รับบาดเจ็บหรือไม่?” น้ำเสียงของนางเป็นกังวล กู้หวนอวี้รู้ดีว่าน้องสาวที่ช่วยเขาเอาไว้ ไม่น่าแปลกใจที่ชิงหยูจะรีบรุดมาหาเขา
นางใส่ใจเขา…กู้หวนอวี้รู้สึกถึงความหวานล้ำในหัวใจของตน เขาลังเล
“ท่านเจ็บหรือเปล่า? บาดเจ็บตรงไหนให้ข้าดูหน่อยสิ” ตู้ชิงหยูร้อนใจ นางไม่เห็นเขาตอบจึงอยากสำรวจดูด้วยตาของตนเอง ในที่สุดกู้หวนอวี้ก็เปิดปาก
“อาการบาดเจ็บของข้า… วันนี้แดดแรงมาก เจ้าโดนแดดเผาหรือไม่?”
ชิงหยู “……………..”
นางชกเขาด้วยกำปั้น ทุบตีเขาไม่หยุด จนเขาร้องโอดครวญออกมา ตู้ชิงหยูดึงมือตนเองกลับ แต่มือใหญ่กร้านกลับคว้ามือของนางเอาไว้
“ชิงหยูข้าดีใจมากที่เจ้าเป็นห่วงข้า” เขามองหญิงสาวอย่างอ่อนโยน ภายใต้สายตาอ่อนโยนของเขา หัวใจของตู้ชิงหยูเต้นแรง
ตุบ ตุบ ตุบ หัวใจเต้น?