เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ - บทที่ 814 ความสมบูรณ์
บทที่ 814 ความสมบูรณ์
ชาวบ้านเข้ามาล้อมรอบถังหลี่และคนอื่นๆ
ในขณะที่ถังหลี่ เว่ยฉิงและลูกๆ มุ่งหน้าไปยังบ้านหลังใหม่ของตัวเอง แม้ว่าถังหลี่และเว่ยฉิงจะออกจากหมู่บ้านไปแล้ว แต่เพื่อเป็นการขอบคุณคนทั้งสอง ชาวบ้านจึงสร้างบ้านหลังหนึ่งไว้ให้ทั้งพวกเขาที่ใจกลางของหมู่บ้าน ระหว่างทางพวกเขาถามคำถามต่างๆ
“หลายปีมานี่เจ้าไม่เปลี่ยนไปเลยนะถังหลี่ หน้าก็คงอ่อนเยาว์และงดงามเช่นเดิม
“พวกเจ้าไปอยู่ที่ไหนมาหรือ? ไม่ได้กลับมาหลายปีแล้ว”
“เจ้าได้ทำกิจการที่ชิงเหอหรือไม่?”
“ก่อนหน้านี้เหล่าลี่ไปบ้านหลานชายของเขาในชิงเหอ เขาบอกว่าเห็นเจ้า”
“เจ้าได้ขยายกิจการไปในเมืองหลวงหรือเปล่า?”
“ข้าได้ยินมาว่าเว่ยฉิงไปเป็นขุนนางระดับสูงที่เมืองหลวงด้วย” ชาวบ้านพูดด้วยน้ำเสียงติดตลก เห็นได้ชัดว่า พวกเขาไม่เชื่อว่าคนที่ตรงไปตรงมาแบบเว่ยฉิงจะเป็นขุนนางระดับสูงได้
“ในฐานะขุนนางระดับสูงเจ้าเคยพบผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์หรือไม่?”
“เขามีหน้าตาอย่างไรหรือ? มีข่าวลือว่าเขาน่ากลัว แต่ก็ต้องขอบคุณเขาที่ทำให้ชีวิตของพวกเราดีขึ้นมาก”
นโยบายต่างๆ ที่นำมาใช้ในสมัยของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์นั้นทำให้ประชาชนได้ลืมตาอ้าปาก ดังนั้นในสายตาของราษฎรทั่วไปแล้ว ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์มีน้ำหนักในใจของพวกเขามาก
เว่ยฉิงไม่พูดอะไร เขาเพียงส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ไปให้ภรรยาเท่านั้น ราวกับจะบอกว่า
“ฮูหยิน ข้าเก่งหรือไม่?”
ถังหลี่พูดไม่ออก ใครจะจินตนาการได้ว่าผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ที่คนหลายพากันชื่นชมนั้นจะเป็นคนที่มีจิตใจเหมือนเด็กเล็กๆ เช่นนี้
“เอ๊ะ! แม่นางน้อยผู้นี้เป็นใครกันหรือ?”
ชาวบ้านหันเหความสนใจจากเว่ยฉิงและถังหลี่ไปยังเด็กสาวที่อยู่ใกล้ๆ
“สวยมาก ไม่น่าจะใช่ซานเป่า?”
“โอ้สวรรค์ ซานเป่า! เจ้ากลายเป็นหญิงสาวเต็มตัวแล้ว”
“ใช่ๆ ตอนนั้นยังตัวเล็กเป็นหัวผักกาดน้อยๆ อยู่เลย” ผู้เฒ่าทบทวนความทรงจำ
“ข้าจำได้ดีตอนนางมาที่หมู่บ้านเราครั้งแรกอายุน้อยกว่าเด็กสองคนนี้อีก”
“แล้วเจ้าเกี๊ยวน้อยน่ารักสองคนนี้คือลูกพวกเจ้าหรือ ถังหลี่ เว่ยฉิง?”
“เจ้าหนูชื่ออะไรหรือ?”
“ข้ามู่เป่า นี่ถังเป่าพี่สาวของข้า” มู่เป่าตอบด้วยเสียงน่าเอ็นดู ชาวบ้านอยากรู้อยากเห็นมากจนมู่เป่าที่ช่างจ้อตอบไม่ทัน
“ถังเป่า มู่เป่า เป็นชื่อที่ดีจริงๆ”
“นั่นไง ถึงบ้านพวกเจ้าแล้ว” ชาวบ้านพูด
ถังหลี่เงยหน้าขึ้นเห็นบ้านของตัวเอง บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่มีเรือนแยกสามหลัง มีโถงนั่งเล่นและลานกว้างในบ้าน ตรงกลางลานยังมีต้นไม้ขนาดใหญ่อีกด้วย
“ต้นไม้ต้นนี้หลันฮวาเป็นคนปลูกไว้เพื่อรอเจ้ากลับมา” ชาวบ้านต่างแย่งกันพูดทีละคน สักพักผู้ใหญ่บ้านก็เดินเข้ามา
“ถังหลี่ เว่ยฉิง” แม้จะผ่านไปหลายปีเขาก็ยังจำทั้งสองคนได้ ทั้งคู่ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก ตรงกันข้ามกับตัวเขา ตอนนี้หัวหน้าหมู่บ้านมีริ้วรอยบนใบหน้า ผมหงอกขาวแต่ก็ยังดูใจดีและแข็งแรงเช่นเดิม ครอบครัวของหลันฮวาเดินตามหลังหัวหน้าหมู่บ้านมา
เมื่อถังหลี่เห็นหลันฮวา นางวิตกเล็กน้อยว่าอีกฝ่ายจะจำนางไม่ได้ หลันฮวาเป็นคนขี้อายและอ่อนแอ แต่หลันฮวาในตอนนี้เกล้าผม เปิดให้เห็นใบหน้าที่สุขุม ดูมีความเชื่อมั่นมากขึ้น
หญิงสาวมองถังหลี่และเว่ยฉิงอย่างไม่เชื่อสายตา นางอดไม่ได้ที่จะขยี้ตาเพื่อพิสูจน์ว่าไม่ใช่ภาพฝัน
ถังหลี่เดินเข้าไปกอดนาง
“หลันฮวาเอ๋อร์ ข้าเอง ถังหลี่ ข้ากลับมาแล้ว” ถังหลี่ว่า
พี่ถัง!
ไม่ใช่ความฝัน!
ดวงตาของหลันฮวาเปลี่ยนเป็นสีแดง ถังหลี่ผละออกจากอ้อมกอดของหลันฮวา มองเห็นที่ข้างกายของนางมีชายหนุ่มคนหนึ่งอุ้มเด็กน้อยสองคนไว้ในอ้อมแขน เขาคือจูเฉิง ชายหนุ่มดูสุขุมขึ้น และเด็กทั้งสองน่าจะเป็นบุตรของพวกเขา
“หลันฮวามาทำความสะอาดที่นี่อยู่บ่อยๆ รอการกลับมาของท่าน” จูเฉิงกล่าว
บ้านหลังนี้หัวหน้าหมู่บ้านเป็นคนชักชวนชาวบ้านช่วยกันสร้าง แต่เครื่องเรือนภายในทุกอย่างหลันฮวาเป็นคนหามา หญิงสาวมักจะมาทำความสะอาดบ่อยๆ เหมือนกับบ้านหลังนี้มีคนอยู่
ทั้งสามคนนั่งคุยกันในห้อง ในขณะที่เว่ยฉิงพาเด็กๆ เดินไปทั่วหมู่บ้าน
จูเฉิงพูดเรื่องการเปลี่ยนแปลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โรงงานถุงหอมเริ่มใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ กิจการก็สร้างกำไรได้หลายพันตำลึงต่อปี ตอนนี้ลูกชายคนโตของพวกเขาศึกษาอยู่ในสำนักศึกษาและอาจารย์เองก็กล่าวชมเชยไม่น้อย
ท่านปู่กับท่านย่าของหลันฮวาร่างกายยังแข็งแรงมาก ผู้คนที่คุ้ยเคยกับถังหลี่มาหานางเพื่อพูดคุยถึงเรื่องที่ผ่านมา และเพื่อเป็นการต้อนรับ หัวหน้าหมู่บ้านจึงตัดสินใจจัดงานเลี้ยงฉลองการกลับมาของสามีภรรยา ให้ผู้คนในหมู่บ้านได้มาร่วมดื่มกิน
ระหว่างมื้ออาหาร หัวหน้าหมู่บ้านนั่งที่ด้านซ้ายของถังหลี่ หลันฮวานั่งที่ด้านขวาเช่นเดียวกับป้าเกาและลุงหลี่ เป็นอย่างที่จูเฉิงได้บอกเอาไว้ ท่านปู่กับท่านย่าของหลันฮวายังแข็งแรงมาก
ป้าเกายังคงมีสีหน้าใจดีเช่นเดิม แม้ลุงหลี่จะดูเข้มงวด ทว่าเขามีจิตใจที่อ่อนโยน
ถังหลี่รู้จักเขาดี คิดว่าชายชราเป็นคนน่าคบหา หัวหน้าหมู่บ้านดื่มมากขึ้น และเริ่มพูดคุยเรื่องอดีตกับถังหลี่
“ตอนนั้นหมู่บ้านของเรายากจนมากแถมยังถูกหมู่บ้านเฉาเจียรังแกอีก โชคดีที่เจ้าสร้างถนนมาถึงหน้าประตูบ้านของพวกเรา” หัวหน้าหมู่บ้านพูดด้วยน้ำเสียงสะเทือนใจ
“ตอนที่จะเริ่มปลูกสมุนไพรแต่ก็ยังไม่เห็นความเป็นไปได้ เจ้าก็เข้ามาช่วยเหลือมอบต้นกล้าให้ ทำให้ทั้งหมู่บ้านหาเงินได้จากการขายสมุนไพรปีละหลายร้อยตำลึงจนหมู่บ้านอื่นอิจฉา”
“ถังหลี่เจ้าคือดาวนำโชคของหมู่บ้านลี่เจียของพวกเรา เพราะเจ้า ชีวิตของพวกเขาจึงดีขึ้นเช่นนี้”
มื้ออาหารวันนี้ใช้เวลานานมากกว่าจะผ่านไป
ครอบครัวของถังหลี่กลับมาที่บ้านหลังใหม่โดยมีแสงจันทร์นำทาง หลันฮวาใส่ใจมาก ไม่เพียงแค่เครื่องเรือนเท่านั้น แม้แต่เครื่องใช้ก็ยังครบครันพรั่งพร้อม
บ้านหลังนี้มีสามห้องนอน ถังหลี่ เว่ยฉิงและลูกเล็กๆ นอนห้องหนึ่ง ซานเป่านอนห้องหนึ่ง และตู้เย่กับฉือซื่อนอนด้วยกัน ฉือซื่อชื่นชมตู้เย่มากไม่ว่าจะในฐานะไหน แต่ที่เขาชื่นชมที่สุดคือความเก่งกาจของตู้เย่ เขาเป็นชายหนุ่มที่เก่งที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา เก่งกาจมากกว่านายท่านเสียอีก เขาจึงมีความสุขมากที่ได้อยู่กับตู้เย่
ตู้เย่หน้าตาดี แต่ว่าอารมณ์ของเขาคาดเดาได้ยาก
ที่ห้องนอนใหญ่
มีเตียงนอนขนาดใหญ่อยู่สองเตียง เด็กๆ ตัดสินใจยอมให้แม่นอนกับพ่อ ส่วนพวกเขาก็อยู่อีกเตียงด้วยความเชื่อฟัง มู่เป่ามองไปที่ถังหลี่อย่างกระตือรือร้น
“มู่เป่าอยากนอนกับท่านแม่” แต่เว่ยฉิงมองเขาด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ เจ้าไม่อยาก”
แม้ว่าเขาจะยังเด็ก แต่ลางสังหรณ์บางอย่างบอกว่าถ้าวันนี้เขาดึงดันที่จะนอนกับมารดา วันพรุ่งนี้ของเขาต้องสาหัสแน่ เด็กชายจึงนอนลงข้างถังเป่าด้วยความเชื่อฟัง
ชายหนุ่มถอดเสื้อคลุมออกเหลือเพียงเสื้อผ้าเนื้อบาง เขานอนลงกระพริบตามองภรรยาอย่างคาดหวัง
ถังหลี่รู้สึกว่าน่าขันมากที่อีกฝ่ายพยายามจะถอดเสื้อคลุมออกเพื่ออวดรูปร่างที่งดงามของตนเอง นางเป่าเทียนให้ดับลง ทันทีที่นั่งลงบนเตียง หญิงสาวถูกคว้าเข้าไปกอด
เว่ยฉิงที่นิ่งเงียบในตอนแรกเมื่อได้ยินเสียงกรนของเด็กน้อยทั้งสองเขาก็เริ่มจูบริมฝีปากที่อ่อนนุ่มของถังหลี่ทันที
วันถัดมา
ถังหลี่และเว่ยฉิงตื่นสาย ในขณะที่มู่เป่า ถังเป่าและซานเป่าหายไปแล้ว ไม่รู้ว่าพวกเขาไปเล่นอยู่ที่ไหน
หลังจากที่ถังหลี่และเว่ยฉิงอาบน้ำ และกินข้าวแล้วพวกเขาก็นำสุราและเทียนหอมไปไหว้เว่ยเหล่าซานที่หลุมศพ
ทั้งสองเดินตามเส้นทางในภูเขา ถังหลี่เมื่อยอยู่บ้างจึงเดินทางได้ช้า ชายหนุ่มเห็นริมทางมีดอกไม้ป่า จึงเด็ดมาหนึ่งดอกแซมไว้ที่ผมของภรรยา
หญิงสาวจับดอกไม้ที่บนศีรษะมองสามีตนเอง
“สวยหรือไม่?” เว่ยฉิงเอาแต่จ้องหน้าถังหลี่
“ผู้คนงดงามกว่าดอกไม้” ว่าแล้วก็อดไม่ได้ที่จะขโมยจูบภรรยา
ถังหลี่เหงื่อออกเยอะมาก ในที่สุดพวกเขาก็เดินมาถึงหลุมศพของเว่ยเหล่าซาน
เว่ยฉิงกำจัดวัชพืชที่ขึ้นบนหลุมศพ เขาเอาเสื้อตัวเองปูไปที่พื้น พาภรรยามานั่งด้วยกัน ชายหนุ่มเทสุราลงบนหลุมฝังศพของเว่ยเหล่าซาน
“ท่านพ่อ ข้าไม่ได้มาหาท่านนานแล้วเพราะข้าติดภารกิจ อย่าโกรธข้าเลยนะ”
เว่ยฉิงพูดกับหลุมฝังศพของเว่ยเหล่าซาน
สำหรับเขาแล้ว แม้ว่าฮ่องเต้โจวจะเป็นบิดาที่ให้กำเนิด เขาก็ไม่นับถือว่าเป็นบิดา เพราะเว่ยเหล่าซานเป็นคนเลี้ยงดูเขามา มอบความรักให้กับเขา
“ข้าจะกลับมาใหม่พร้อมกับภรรยาของข้า”
“ท่านพ่อ” ถังหลี่เรียก
ในตอนแรกที่นางกับสามีเพิ่งจะได้รู้จักกัน สามีของนางก็พามาพบกับเว่ยเหล่าซาน หลังจากที่คารวะหลุมศพแล้ว เว่ยฉิงเผากระดาษเงินกระดาษทอง พร้อมกับเล่าเรื่องราวในช่วงเวลาที่ผ่านมา กินเวลาเกือบชั่วยาม
“ท่านเบื่อที่ข้าพูดมากหรือ? แต่ท่านทำอะไรไม่ได้ ตีข้าก็ไม่ได้” เว่ยฉิงพูดด้วยน้ำเสียงแปลกๆ
“ข้ากับภรรยาวางแผนจะอยู่ที่หมู่บ้านลี่เจีย คงจะได้มาเยี่ยมท่านให้บ่อยขึ้น”
“วันนี้ข้าคงต้องขอลากลับก่อน วันหน้าข้าจะมาหาท่านใหม่”
หลังจากพูดจบเว่ยฉิงพาถังหลี่ลงไปจากภูเขา
อีกไม่กี่วันต่อมา ครอบครัวสกุลเว่ยต้องรับแขกจำนวนมาก ทั้งสหายเก่าอย่างหลู่ชิง นายท่านมู่และฮูหยินมู่ ทันทีที่สหายเก่าได้กลับมาเจอกัน แน่นอนว่าย่อมสนทนากันนาน
ภายใต้แสงจันทร์ เว่ยฉิงยืนอยู่ที่ลานบ้านกอดถังหลี่เอาไว้ ในที่สุดวันที่เขารอคอยมานานก็มาถึง มีแต่ความสบายใจ ไม่มีอะไรมารบกวนพวกเขาได้อีก แค่อยู่กับภรรยาเท่านั้น
เว่ยฉิงมองหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมแขนของตน หญิงสาวเงยหน้าขึ้นสบตาเขาเช่นเดียวกัน แววตาของทั้งสองคู่ทอประกายแห่งความสุข
แม้จะผ่านอุปสรรคที่มากมายระหว่างทาง เจอกับทางแยกจนเกือบจะต้องจากลา แต่โชคดีที่ผ่านมาและยังได้อยู่ด้วยกันจนถึงวันนี้ ต่อไปข้างหน้าไม่มีใครรู้ว่าจะได้เจอกับอะไรอีก แต่อย่างไรเสียชีวิตยังคงดำเนินต่อไป
ได้ชมดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิร่วมกัน
สดับฟังเสียงจักจั่นในช่วงฤดูร้อน
เพลิดเพลินกับดวงจันทร์ในคืนที่หนาวเหน็บของฤดูใบไม้ร่วง
ชมหิมะตกร่วมกันในฤดูหนาว
นับว่าเป็นความสุขที่สุดของพวกเขาแล้ว
จบ