เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ - บทที่ 816 ตอนพิเศษ ซานเป่า เข้าค่ายทหารครั้งแรก 2
- Home
- เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ
- บทที่ 816 ตอนพิเศษ ซานเป่า เข้าค่ายทหารครั้งแรก 2
บทที่ 816 ตอนพิเศษ ซานเป่า เข้าค่ายทหารครั้งแรก 2
ทันทีที่เว่ยหนิงมาถึงค่ายทหาร ทหารส่วนตัวของกู้หวนอวี้ที่เป็นคนพานางชมรอบๆ เมื่อวานนี้เล่าให้นางฟังถึงคำพูดของทหารที่พากันวิจารณ์ลับหลัง
“หัวหน้าหลินและหัวหน้าซุนไปพบกับแม่ทัพกู้ บอกว่าไม่ควรให้คุณหนูอยู่ที่ค่ายทหารเพราะจะส่งผลถึงขวัญและกำลังใจของทหารในค่ายขอรับ”
เว่ยหนิงไม่โกรธ นางคิดว่าผู้ชายที่อยู่ในค่ายทหารล้วนขี้โม้โอ้อวด ชอบนินทาไม่ต่างจากสตรีเพศเท่าไรนัก
“แม่ทัพกู้ว่าอย่างไร?” เว่ยหนิงถาม
“แม่ทัพกู้ถามว่าจะส่งผลต่อทหารในค่ายอย่างไรบ้างขอรับ?”
“ท่านผู้นั้นตอบว่าอย่างไร?”
เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งไม่พูดอะไร เห็นได้ว่าคงไม่ใช่เรื่องดีนัก
“พูดมาให้หมด” เว่ยหนิงว่า
“หัวหน้าหลินไม่พูดอะไร แต่หัวหน้าซุนบอกว่าผู้หญิงที่ลงไปในสนามรบคิดแต่จะหว่านเสน่ห์ให้ศัตรูลุ่มหลงนางหรือ..”
หลังจากที่พูดจบ เขารอดูปฏิกิริยาของเว่ยหนิงคิดว่านางจะต้องโกรธมากแน่ ทหารคนนี้รู้ว่าเว่ยหนิงเป็นหลานสาวของท่านแม่ทัพกู้ แต่ต้าโจวไม่มีแม่ทัพหญิงมานานแล้ว ดังนั้นพวกที่เหลือจึงไม่ค่อยเชื่อถือว่าสตรีจะเป็นทหารได้
อย่างไรก็ตามเขามีความเคารพต่อเว่ยหนิง
เด็กสาวยังคงมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้า แต่แฝงไปด้วยความเหี้ยมเกรียม
“ท่านแม่ทัพกู้ว่าอย่างไร”
“แม่ทัพกู้กล่าวว่าหากได้ประลองต่อสู้กันก็จะได้รู้เอง”
“แต่หัวหน้าซุนแข็งแกร่งพอๆ กับโคถึก ระหว่างการฝึกฝนในค่ายเขาคว้าสามอันดับแรกมาตลอด หากไม่ใช่เพราะเขาเป็นคนหุนหันพลันแล่นและโดนลงโทษหลายครั้ง ยศของเขาน่าจะสูงกว่านี้แล้ว”
ไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะปล่อยให้แม่นางผู้นี้ประลองกำลังกับหัวหน้าซุน แขนขาเล็กๆ ของคุณหนูเว่ยจะเอาชนะได้อย่างไร เป็นไปได้หรือไม่ว่าท่านแม่ทัพกู้ไม่อยากให้หลานสาวอยู่ในค่ายทหาร เขาจึงต้องการให้นางประลองกำลังกับหัวหน้าซุน
เขาไม่รู้ว่านั่นคือสิ่งที่เว่ยหนิงต้องการเช่นกัน
เว่ยหนิงเชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง คงเป็นการดีหากนางจัดการคว่ำหัวหน้าซุนผู้นั้นลงได้ เรื่องซุบซิบนินทาทั้งหลายจะได้เลิกพูดกันไปเสียที
เว่ยหนิงไปหากู้หวนอวี้ เล่าให้เขาฟังเรื่องการประลองกำลัง ให้เขาจัดเวลาและสถานที่ให้ ชายหนุ่มมองหลานสาวด้วยความอ่อนโยน
“เจ้ากลัวหรือไม่?”
“ไม่มีคำว่า ‘กลัว’ สำหรับข้า” เว่ยหนิงพูดอย่างกล้าหาญ หากนางปราบคนพาลเช่นนี้ลงไม่ได้ ต่อไปจะเป็นแม่ทัพหญิงที่ดีได้อย่างไร?
“ข้าจะสอนให้พวกเขารู้จักวิธีการใช้หมัดเอง!” น้ำเสียงของเว่ยหนิงหยิ่งผยอง ทำให้กู้หวนอวี้หัวเราะออกมา
เว่ยหนิงเดินไปคลอเคลียท่านลุงรอง แล้วพูดว่า
“ท่านลุงรองอารมณ์ดี เพราะท่านป้าชิงจะมาหาหรือเปล่าเจ้าคะ?”
ตามคำบอกเล่าของถังหลี่ ก่อนหน้านี้กู้หวนอวี้ไปทำสงคราม ตู้ชิงหยูก็ตามเขาไป แต่นางไม่ได้อยู่กับท่านลุงรองตลอด ตู้ชิงหยูจะเดินทางท่องเที่ยวไปทั่ว จะมาหากู้หวนอวี้เป็นบางครั้ง ทั้งสองมีความคิดเหมือนกัน พวกเขาไม่อยากแต่งงานและอยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืนเหมือนสามีภรรยาทั่วไป ด้วยเหตุนี้ความสัมพันธ์ของพวกเขาถึงยังมั่นคงเช่นเดิม
ท่านลุงรองอารมณ์ดีเช่นนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับท่านป้าชิงหยูเป็นแน่
“นางจะมาในอีกไม่กี่วันนี้” กู้หวนอวี้กล่าว น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความสุขอย่างไม่รู้ตัว
เว่ยหนิงเดาะลิ้น คนตกหลุมรักช่างเหมือนกันหมด
กู้หวนอวี้เหลือบมองหลานสาวอย่างเย็นชา
“หยุดหยอกล้อลุงของเจ้าได้แล้ว ตอนบ่ายนี้มีการประลองกำลัง เจ้าไม่เตรียมตัวหรือ?”
แม้เว่ยหนิงจะรู้สึกว่าหัวหน้าซุนไม่ได้เป็นอันตรายกับนาง แต่เพื่อเป็นแสดงความเคารพ นางต้องไปเตรียมตัวให้พร้อม
ข่าวการประลองกำลังของเว่ยหนิงและหัวหน้าซุนแพร่กระจายไปในค่ายทหารอย่างรวดเร็ว
“แม่ทัพกู้จะให้นางประลองกับหัวหน้าซุนจริงๆ หรือ?”
“เมื่อวานนี้ข้าเห็นนางแล้ว นางทั้งแขนขาเล็กและผอมเช่นนั้น เทียบกับหัวหน้าซุนได้แค่ครึ่งตัว นางจะเอาขนะเขาได้อย่างไร?”
“ไม่ต้องแข่งก็รู้แล้วว่าหัวหน้าซุนจะต้องชนะ”
“มาเดิมพันกันดีกว่า”
“ต้องเป็นหัวหน้าซุนสิ”
“หัวหน้าซุน”
“ข้าเดิมพันข้างนาง”
“เฮ้! ไอ้หนูเจ้ากำลังหลงผิดนะ”
ทุกคนในค่ายทหารต่างรอคอยการประลองใน ในช่วงบ่ายจึงมาคนมาเฝ้าชมดูกันอย่างคึกคัก
กู้หวนอวี้มาเป็นประธานด้วยตัวเอง
ภายใต้สายตาจับจ้องของบุรุษในค่ายทหาร เว่ยหนิงเดินไปยังเวทีประลองมีหัวหน้าซุนยืนรออยู่ก่อนแล้ว
เด็กสาวมองคนตรงหน้า คำร่ำลือเกี่ยวกับหัวหน้าซุนเป็นเรื่องจริง เขาเป็นคนแข็งแกร่ง ไว้หนวดเคราครึ้ม กล้ามเนื้อที่แขนโป่งพองออกมา ไม่ต้องพูดถึงว่าเขาตัวใหญ่กว่านางถึงสองเท่าด้วยซ้ำ ดูคล้ายกับบิดาของนางยามที่เว่ยหนิงสองขวบ เขาดูประหนึ่งเป็นภูเขาลูกย่อมๆ
หัวหน้าซุนถือขวานไว้ในมือยืนมองเว่ยหนิงด้วยดวงตาตี่ชั้นเดียวอย่างดูแคลน
“แม่หนู คิดจะดวลกับข้าจริงๆหรือ? หากยอมแพ้ตอนนี้แล้วกลับไปปักผ้ายังพอมีเวลานะ” หัวหน้าซุนตะโกนท้าด้วยน้ำเสียงขับไสไล่ส่งอย่างจงใจ
เว่ยหนิงไม่ได้กลัว แม้ว่านางจะไม่ได้สูงและมีรูปร่างใหญ่โต แต่รัศมีของการเข่นฆ่าไม่ได้ด้อยไปกว่าเขาเลย
“งั้นข้าขอแนะนำให้ท่านยอมรับความพ่ายแพ้แต่โดยดี หากท่านถูกสตรีเยี่ยงข้าทุบตีจนพ่ายย่อมทำให้ท่านอับอายขายขี้หน้าจนอยู่ในค่ายไม่ไหวเป็นแน่” เว่ยหนิงเชิดหน้า เยาะเย้ยกลับอย่างไม่หวั่นเกรง
“เจ้าเป็นแค่เด็กผู้หญิงมีแค่วาจาไพเราะเสนาะหูเท่านั้นแหละ อย่าได้เอาแต่โอ้อวดเลย มาลองสู้กันดูสักตั้งจะดีกว่า” หัวหน้าซุนตะคอก เหวี่ยงขวานไปมาเพื่อข่ม
“ข้าจะไม่ใช้ขวานเพื่อที่จะได้ไม่มีใครมากล่าวหาได้ว่าข้ารังแกเด็กผู้หญิง”
เว่ยหนิงวางดาบในมือของนางลงเช่นกัน
“ถ้าเช่นนั้นข้าจะไม่ใช้ดาบ”
หัวหน้าซุนเค้นหัวเราะด้วยความโกรธ สตรีอ่อนแอเยี่ยงนี้แต่กลับผยองยิ่งนัก
“ถ้าเช่นนั้นข้าไม่เกรงใจล่ะ!” ว่าแล้วเขาก็จู่โจมเว่ยหนิงด้วยหมัดที่ใหญ่เท่ากับชามข้าวของตนเอง
แม้ทหารที่ชมดูจะไม่พอใจที่มีสตรีเข้ามาในค่ายทหาร แต่พวกเขากลับรู้สึกผิดหากต้องลงไม้ลงมือกับผู้หญิงที่บอบบางเช่นแม่นางน้อยผู้นี้
หมัดแรงขนาดนี้คนทั่วไปก็ล้มหมดสติได้เลยไม่ใช่หรือ?
หัวหน้าซุนช่างหยาบคายและไร้ความปราณี เว่ยหนิงยืนอยู่ตรงนั้น นางไม่ได้หลบแต่โจมตีกลับด้วยหมัดของนางเช่นกัน
เรื่องความแข็งแกร่งนางไม่เป็นรองใคร เมื่อหมัดทั้งสองปะทะกันเกิดแรงสั่นสะเทือนไหวครั้งใหญ่ หัวหน้าซุนมองเด็กสาวตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตาตนเอง
เป็นไปได้อย่างไรกันนี่!
จากนั้นกำปั้นหนึ่งก็ปะทะเข้ากับใบหน้าของเขา ด้วยประสบการณ์ในสนามรบที่มีมานาน เขาตอบสนองด้วยความรวดเร็วทันที หัวหน้าซุนยื่นมือออกไปรับการโจมตีไว้ได้ทัน
ตอนนี้เขาไม่อาจดูถูกสตรีผู้นี้ได้อีก เขาปฏิบัติกับนางอย่างเช่นคู่ต่อสู้ทันที หมัดของเว่ยหนิงโจมตีไปที่หัวหน้าซุนอย่างรุนแรง เขาสกัดเอาไว้อย่างรวดเร็วแต่ไม่มีช่องว่างในการตอบโต้กลับ หัวหน้าซุนรู้สึกว่าตนเองอ่อนแรงลง จนไม่อาจต้านทานการโจมตีไว้ได้อีก
ทันใดนั้น ทหารที่อยู่รอบๆ ก็เห็นกับตาของพวกเขาว่า เว่ยหนิงกระโจนขึ้นไปใช้หมัดซัดเข้าไปที่ผู้ชายแข็งแกร่งตรงหน้า ชั่วพริบตาเดียวหัวหน้าซุนกระเด็นออกจากสนามล้มลงไปกองที่พื้นอย่างแรง พวกเขาพากันยืนนิ่งด้วยความตกใจ
นางโค่นแม่ทัพซุนลงได้!