เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ - บทที่ 817 ตอนพิเศษ ซานเป่า เข้าค่ายทหารครั้งแรก 3
- Home
- เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ
- บทที่ 817 ตอนพิเศษ ซานเป่า เข้าค่ายทหารครั้งแรก 3
บทที่ 817 ตอนพิเศษ ซานเป่า เข้าค่ายทหารครั้งแรก 3
หัวหน้าซุนลุกขึ้นจากพื้น จมูกและใบหน้าของเขาบวมช้ำ แต่เขาไม่สนใจ เดินไปหาเว่ยหนิงพลางกำหมัดคารวะนาง
“แม่นางเจ้าชนะข้าได้ หลังจากนี้ข้าจะเชื่อฟังเจ้า!” สายตาที่เขาใช้มองเว่ยหนิงไร้ซึ่งการดูถูกอีกต่อไป แต่เต็มไปด้วยความเคารพ
เว่ยหนิงมองบุรุษตรงหน้า อันที่จริงแล้วผู้ชายประเภทนี้เข้าหาได้ง่ายมาก พวกเขาแสดงออกถึงความสุขและความโกรธทั้งหมดทางสีหน้า ง่ายกว่าการเข้าหาพวกจิ้งจอกเฒ่าในเมืองหลวงมากนัก
คนเหล่านั้น แม้ว่าเขาจะเกลียดนางมากแค่ไหน แต่ต่อหน้าพวกเขากลับทำท่ารักใคร่สนิทสนมจนยากที่จะสังเกตได้
“ข้าแซ่เว่ย นามเว่ยหนิง!”เด็กสาวพูด
หลังจากนั้นหัวหน้าซุนก็ตามติดเว่ยหนิงตลอด เขาเรียกนางว่าแม่ทัพเว่ย พร้อมร้องขอให้นางประลองกับเขาทุกวัน และทุกครั้งที่เขาถูกเว่ยหนิงทุบตี เขาจะมีความมั่นใจมากขึ้นและแทบจะกลายเป็นสุนัขเลี้ยงของนางไปแล้ว
ใครก็ตามที่พูดถึง “แม่ทัพน้อยเว่ย” ไม่ดี เขาจะเข้าไปซัดพวกนั้นทันที
เมื่อทหารทุกคนเห็นว่าเว่ยหนิงปราบคนพาลอย่างซุนต้าหู่ได้ ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรลับหลังนางอีก
แซ่เว่ยของนางทำให้พวกเขานึกอะไรบางอย่างออก นั่นไม่ใช่แซ่ของอดีตผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เว่ยหรอกหรือ? ฮูหยินของเขาเป็นบุตรสาวคนสุดท้องของสกุลกู้ ด้วยความสัมพันธ์นี้ทำให้ตัวตนที่แท้จริงของแม่ทัพเว่ยหนิงเปิดเผยออกมา
นางคือบุตรสาวคนโปรดของอดีตผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์!
เสือย่อมไม่ออกลูกเป็นสุนัขฉันใด บิดาผู้เก่งกาจย่อมมีลูกสาวที่ไม่ด้อยไปกว่าตนเองฉันนั้น
นับตั้งแต่นั้นเว่ยหนิงก็ปักหลักในค่ายแห่งนี้ได้ ไม่นานนักนางก็กลายเป็นแม่ทัพเว่ยของพวกเขา
แต่กระนั้นก็ยังมีปัญหาตามมา
เด็กสาวหน้าตาสะสวยเกินไป
แม้ซุนต้าหู่จะเป็นชายหยาบคายที่ไม่ปฏิบัติกับนางดั่งเช่นเด็กสาวซ้ำยังขอให้นางดื่มด้วยเพื่อพูดคุยเรื่องของผู้หญิง แต่บุรุษคนอื่นที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณและเลือดเนื้อเช่นชายฉกรรจ์ทั่วไปมักจะแอบลอบมองนางอย่างลับๆ
หากนางเข้าไปในสนามรบเมื่อไหร่ นางจะถูกศัตรูดูถูกเพราะรูปร่างหน้าตาอย่างแน่นอน ศัตรูจะย่ามใจและบ่อนทำลายศักดิ์ศรีของนางจนสิ้น
เว่ยหนิงคิดเรื่องที่มารดาของนางเคยเล่า มีแม่ทัพคนหนึ่งเคยโดนดูหมิ่นเพราะใบหน้าที่งดงามของเขา หลังจากนั้น ทุกครั้งที่ออกรบ เขาจึงใส่หน้ากากเพื่อปิดบังใบหน้า เว่ยหนิงจึงได้ความคิดนี้ขึ้นมา นางขออนุญาติกู้หวนอวี้ออกไปตลาด
เมื่อเว่ยหนิงเข้าไปในเมือง นางไปยังโรงเตี๊ยมที่นางและอาจารย์เคยเข้าพัก ประตูห้องของอาจารย์ปิดสนิท
อาจารย์จะยังอยู่ไหม?
คงจะดีไม่น้อยหากอาจารย์ยังอยู่ที่นี่ นางคิดถึงเขามาก
เมื่อเว่ยหนิงรู้ตัว นางก็รู้ได้ว่านั่นเป็นความคิดที่เห็นแก่ตัว เว่ยหนิงอยากไล่ตามความฝันของตนเอง แต่ยังอยากรั้งให้อาจารย์อยู่กับนางอีกด้วย
อาจารย์ใจดีกับนางมากจนทำให้นางกลายเป็นเด็กเอาแต่ใจ
เว่ยหนิงลอบสาปแช่งตัวเองอยู่ในใจ นางเดินเข้าไปในโรงเตี๊ยมถามถึงแขกที่เคยพักในห้องนั้น
“ชายหน้าตางดงามผู้นั้นน่ะหรือ? เขาออกจากที่นี้ไปเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้แล้ว” เจ้าของโรงเตี๊ยมว่า เว่ยหนิงพยักหน้ารับรู้แล้วเดินจากไป
นางเดินผ่านตลาด พบร้านขายอาวุธแห่งหนึ่งที่สามารถทำหน้ากากได้ แต่หน้ากากที่พวกเขามีก็ยังไม่ใช่หน้ากากที่นางพอใจ เว่ยหนิงจึงคิดที่จะให้เจ้าของร้านทำหน้ากากใหม่ให้นาง
“ทำให้ดูดุร้ายหน่อยนะ”
เจ้าของร้านคิดเงินมัดจำ บอกให้เว่ยหนิงมารับได้ในอีกครึ่งเดือนให้หลัง ไม่นานหลังจากเว่ยหนิงจากไป มีชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น เมื่อเจ้าของร้านเห็น เขาอดตกตะลึงในรูปโฉมของชายผู้นี้ไม่ได้ เด็กสาวก่อนหน้าว่าโดดเด่นสะดุดตามากแล้ว แต่บุรุษผู้นี้กลับงดงามเหนือกว่าอิสตรีเสียอีก
“ลูกค้าอยากได้อาวุธเช่นไรหรือขอรับ?” เจ้าของร้านกุลีกุจอถาม
“ขอแบบจำลองใบหน้าของเด็กสาวเมื่อครู่ให้ข้าดูหน่อยเถอะ” เขาพูด เจ้าของร้านนิ่งอึ้งไป
“นายท่าน เราไม่อาจมอบแบบจำลองใบหน้าของลูกค้าให้ผู้อื่นได้…”
ดวงตาของชายผู้นั้นจ้องเขาเขม็ง เป็นดวงตาดอกท้อที่งดงามแต่แฝงไว้ด้วยความดุดัน เจ้าของร้านตกใจส่ายหน้าไปมา
“นายท่าน…ต้องการ..แบบจำลองใบหน้าของแม่นางผู้นั้นไป..ไป..เหตุใดหรือ?”
“นางเป็นลูกศิษย์ของข้า หน้ากากในร้านของเจ้าน่าเกลียดเกินไป” น้ำเสียงของเขาเย็นชา
หน้ากากในร้านไม่เหมาะกับลูกศิษย์ของเขา ตู้เย่คิด นางสมควรได้รับสิ่งที่ดีที่สุดในโลก
“ข้าจะไปทำหน้ากากมาให้เจ้า ถึงตอนนั้นเจ้าก็มอบให้กับนาง” เขากล่าว
ภายใต้ความกดดันที่ตู้เย่ส่งออกไป สุดท้ายเจ้าของร้านก็ยอมมอบแม่พิมพ์ใบหน้าของเว่ยหนิงให้กับตู้เย่ ร่างของชายหนุ่มหายไปอย่างรวดเร็ว เจ้าของร้านมองตามหลังอย่างงุนงง
คนประหลาด! หากจะทำหน้ากากให้ลูกศิษย์เหตุใดไม่บอกไปตรงๆ จะมาผ่านเขาทำไม?
เว่ยหนิงใช้เวลาฝึกฝนในค่ายสิบห้าวัน นางเหนื่อยมากจนนอนหลับสนิทไม่ฝันเลยสักนิด แม้บางครั้งก่อนจะหลับ นางเหม่อมองดวงดาวบนท้องฟ้า ก็อดหวนคิดถึงไม่ได้ว่าตอนนี้อาจารย์ของนางอยู่ที่ไหน จะเป็นอย่างในหนังสือที่เคยอ่านหรือไม่? บุรุษผู้หนึ่งควบอาชาพร้อมดาบ ท่าทางงามสง่า เดินทางไปสุดขอบฟ้า
บางทีอาจารย์อาจจะเจอภรรยาในการเดินทางครั้งนี้ ในความคิดของเว่ยหนิง อาจารย์ของนางย่อมดีที่สุด ต้องเป็นสตรีแบบใดถึงจะคู่ควรกับเขานะ เว่ยหนิงคิดฟุ้งซ่านอยู่สักพักจึงได้หลับใหลไปในที่สุด
เมื่อถึงเวลานัดหมายของร้านอาวุธ เว่ยหนิงเข้าไปในเมืองอีกครั้ง เจ้าของร้านจำนางได้ก่อนที่นางจะเอ่ยปากถามไถ่เสียด้วยซ้ำ
“แม่นาง หน้ากากของเจ้าพร้อมแล้ว” ขณะที่พูดเขาก็หยิบกล่องออกมายื่นให้กับเว่ยหนิง เป็นกล่องเหล็กที่ดูบอบบางไม่ค่อยเข้ากับร้านขายอาวุธแห่งนี้เลย
เว่ยหนิงแทบรอไม่ไหวที่จะเปิดกล่องออก ทันทีที่เห็นของภายในกล่อง เด็กสาวตกตะลึง
หน้ากากชิ้นนี้ต่างจากที่นางจินตนาการไว้มาก เดิมทีนางคิดว่าหน้ากากที่ทำจากเหล็กคงจะมีน้ำหนักมากยามสวมใส่ แต่นางไม่ใส่ใจ ตราบใดที่ไม่ได้ส่งผลถึงการสู้รบของตน
หน้ากากในมือของเว่ยหนิงไม่เหมือนกับที่คิดเอาไว้เลย ไม่รู้ว่าหน้ากากชิ้นนี้สร้างขึ้นจากวัสดุชนิดใด น้ำหนักของมันเบามาก เมื่อนางสวมบนใบหน้าก็พบว่ามันช่างเหมาะเจาะพอดีกับใบหน้าของตนเองอย่างเหลือเชื่อ
เว่ยหนิงมองกระจก หน้ากากชิ้นนี้ดูดุร้ายอย่างที่นางคิดเอาไว้ แต่กลับเบาสบาย เมื่อนางมองดูหน้ากากชิ้นอื่นๆ ในร้าน นางไม่คิดว่าร้านนี้จะทำงานฝีมือเช่นนี้ออกมาได้
“แม่นางชอบหรือไม่?” เจ้าของร้านถาม
เมื่อเขาถามคำถามนี้ สายตาของเขาเหลือบไปยังทิศอื่นอย่างไม่รู้ตัว
“ข้าชอบมาก” น้ำเสียงของเว่ยหนิงเต็มไปด้วยความสุข เงาดำที่อยู่ในมุมมืดที่เจ้าของร้านมองไปก็คลี่ยิ้มออกมาเช่นกัน
“เถ้าแก่ ข้าต้องจ่ายเพิ่มอีกเท่าไร?”
“เอ่อ..หนึ่งตำลึงขอรับ”
“ราคาถูกขนาดนั้นเลยหรือ?” เว่ยหนิงประหลาดใจมาก
“เอ่อ ..สิบตำลึง” เขาว่า
เว่ยหนิงคิดว่าเจ้าของร้านดูแปลกคนจริงๆ เหตุใดถึงได้เปลี่ยนราคาของหน้ากากกลับไปมา?
เว่ยหนิงมอบเงินสิบตำลึงให้แก่เขาก่อนจะจากไป
หลังจากที่นางออกไปแล้วเงาร่างหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น
“หน้ากากของท่านถูกสร้างขึ้นโดยยอดฝีมือแห่งหมู่บ้านหยูเยว่ใช่หรือไม่” เจ้าของร้านถาม
ทุกคนในแวดวงอาชีพนี้ย่อมรู้ดีว่า ใครเป็นปรมาจารย์สุดยอดของงานฝีมือระดับนี้
หมู่บ้านหยู่เยว่อยู่ห่างไกลมาก เขาจะไม่รับทำหน้ากากให้ผู้ใดง่ายๆ การที่ชายคนนี้เดินทางไปไกลถึงที่แห่งนั้น เพื่อเกลี้ยกล่อมให้ผู้เป็นยอดฝีมือสร้างหน้ากากที่สวยประณีตชิ้นนี้ให้ได้ นับเป็นการสิ้นเปลืองทั้งแรงกายและแรงใจอย่างมากจริงๆ
“เหตุใดท่านถึงไม่บอกนางถึงความตั้งใจที่ท่านมีต่อนางเล่า”
“นางไม่จำเป็นต้องรู้” ตู้เย่ว่า
เขาแค่อยากทำอะไรดีๆ กับเว่ยหนิงโดยไม่จำเป็นว่านางจะรับรู้หรือไม่
ร่างของตู้เย่หายไปอย่างรวดเร็ว เจ้าของร้านส่ายศีรษะไปมา
ช่างประหลาดคนเสียจริง!