เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ - บทที่ 818 ตอนพิเศษ ซานเป่า ออกศึกครั้งแรก 1
- Home
- เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ
- บทที่ 818 ตอนพิเศษ ซานเป่า ออกศึกครั้งแรก 1
บทที่ 818 ตอนพิเศษ ซานเป่า ออกศึกครั้งแรก 1
ในชั่วพริบตาเดียวเว่ยหนิงก็เข้าสู่เดือนที่หกของการอยู่ในค่ายทหาร
หลังจากเผชิญหน้ากันมาตลอดทั้งปี สงครามระหว่างต้าโจวและต้าฉู่ก็ปะทุขึ้นอีกครั้ง อัครเสนาบดีแห่งต้าฉู่ทะเยอทะยานมาก แม้จะโน้มน้าวอย่างไรเขาก็ไม่ฟังเสียงทัดทาน แม้แต่ฮ่องเต้แคว้นฉู่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้
กองทัพฉู่รุกรานชายแดนต้าโจว สังหารผู้บริสุทธิ์ไปหลายคน แต่แคว้นต้าโจวไม่ใช่ที่ที่ใครจะมาหยามได้ง่ายๆ โดยเฉพาะภายใต้การป้องกันของแม่ทัพแห่งสงคราม การรบจึงเกิดขึ้นอีกครั้ง
นี่เป็นการออกศึกครั้งแรกของเว่ยหนิง หากไม่เคยเข้าไปในสนามรบจริงๆ ก็ไม่ต่างอะไรกับการเรียนในตำรา
แม่ทัพคนใดที่อยู่ภายใต้สังกัดของกู้หวนอวี้และมีประสบการณ์ในการรบ เขาจะได้ก้าวขึ้นตำแหน่งทีละขั้น ซึ่งเว่ยหนิงนั้นก็ไม่ได้รับการดูแลเป็นพิเศษแต่อย่างใด นางเหมือนทหารทั่วๆ ไปที่ต้องคอยรับคำสั่งจากแม่ทัพที่ตำแหน่งสูงกว่า
ภารกิจของเว่ยหนิงในครั้งนี้คือการทำลายคลังเสบียงของต้าฉู่
เว่ยหนิงและซุนต้าหู่อยู่ในหน่วยเดียวกัน แม้ซุนต้าหู่จะเป็นหัวหน้า แต่เว่ยหนิงเป็นคนตัดสินใจ
“ให้ตายสิ! ทำลายคลังเสบียงหรือ? ข้าอยากจะฆ่าพวกมันมากกว่า” ซุนต้าหู่พูดด้วยความโมโห
“เหตุใดต้องฆ่า? การทำลายคลังเสบียงของศัตรูมีความสำคัญกว่ามาก หากพวกนั้นไม่มีอาหารและหญ้าให้ม้า ขวัญกำลังใจของกองทัพคงไม่มี เป็นวิธีง่ายๆที่จะเอาชนะพวกนั้นได้ คนของเราจะได้ไม่ต้องสูญเสียมากนัก” เว่ยหนิงดุเขา ไม่มีประโยชน์ที่จะใช้เหตุผลกับหัวหน้าซุน เขาจะเชื่อฟังต่อเมื่อโดนดุเท่านั้น
ทันทีที่ได้ยินเว่ยหนิงพูดเช่นนี้ ซุนต้าหู่ตบหัวตัวเองแล้วบอกว่า
“แม่ทัพเว่ยพูดถูก ข้าเบาปัญญาเอง”
เขาหยุดบ่นและทำตามคำสั่งของเว่ยหนิง ในกลุ่มของพวกเขามีอยู่ห้าคน ตามเส้นทางที่หน่วยสอดแนมให้มา พวกเขาต้องมุ่งหน้าไปยังคลังเสบียงของศัตรู เป็นการเดินทางผ่านภูเขาและแม่น้ำที่ยากลำบาก รูปร่างของเว่ยหนิงไม่ใช่ปัญหาในการเดินทางเลย ซ้ำนางยังช่วยสหายในกลุ่มอีกด้วย พวกเขาเดินทางผ่านภูเขาและป่าทึบเป็นเวลาสองวัน ในที่สุดก็เข้าใกล้ค่ายของศัตรู
เว่ยหนิงและผู้ติดตามนอนราบอยู่บนที่สูงแล้วมองลงไปที่ข้างล่าง คลังเสบียงของต้าฉู่ได้รับการปกป้องอย่างแน่นหนาไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเข้าไปทำลาย ยิ่งไปกว่านั้นศัตรูยังมีความระแวดระวังมากอีกด้วย พวกเขากระจายคลังเสบียงออกเป็นสามที่ด้วยกัน
“ข้าคิดว่าแบ่งเป็นสามกลุ่มจะทำได้ง่ายขึ้น” ซุนต้าหู่คิดง่ายๆ
“ข้าคิดว่าพวกเราจะถูกพบและโดนจับก่อนที่จะได้เผาเสบียง” เว่ยหนิงกล่าว
ซุนต้าหู่พูดไม่ออก เขาเกาศีรษะตัวเองพลางคิดว่าจะทำอย่างไรดี หลังจากคิดอยู่นานท่ามกลางความหวังของสามคนที่เหลือ เขาก็พูดออกมาว่า
“แม่ทัพเว่ย ข้าจะทำตามคำสั่งของท่าน”
“….”
เว่ยหนิงนอนอยู่บนชะง่อนผามองไปทางค่ายของศัตรู นางดูแผนที่ในมือเพื่อหาตำแหน่งของคลังเสบียงด้านใต้ จากแผนที่จะเห็นว่ากระจัดกระจายอยู่สามแห่ง อีกสองแห่งคือทางตะวันออกเฉียงใต้และตะวันตกเฉียงเหนือ ถ้าเผาคลังใดคลังหนึ่ง จะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นเสียก่อน แต่หากแบ่งคนออกเป็นสามกลุ่ม…
ดูเหมือนว่าตอนนี้จะมีเพียงวิธีนี้เท่านั้น เว่ยหนิงชี้ไปที่คลังเสบียงที่ใกล้ที่สุดก่อนจะสั่งคนสองคน
“เจ้าไปเผาตรงนี้”
“ขอรับท่านแม่ทัพ”
เว่ยหนิงชี้ไปที่คลังเสบียงอีกที่หนึ่งที่ห่างจากภูเขา
“หัวหน้าซุนกับเสี่ยวหลิวไปที่นี่”
“ข้าไปคนเดียว เสี่ยวหลิวจะอยู่กับท่าน” ซุนต้าหู่กล่าว เขาเป็นทหารที่ผ่านศึกสงครามมามากมาย แม่ทัพเว่ยจะปลอดภัยกว่าหากนางมีคนอยู่ด้วย
เว่ยหนิงไม่ได้โต้แย้งอะไร
“เจ้าระวังตัวด้วย ข้าจะไปตรงนี้ ส่วนเจ้าไปที่ไกลที่สุด” เว่ยหนิงสั่ง ทำให้เขาพอใจมาก เพราะที่นั่นเป็นที่ที่อันตรายที่สุด
พวกเขาวางแผนการก่อนจะลงมือในช่วงมืด เสี่ยวหลิวเป็นเด็กหน้าตาธรรมดา แต่เขาเป็นทหารมาห้าหรือหกปีแล้ว ทำให้มีทักษะพอสมควร
“แม่ทัพเว่ย คลังเสบียงที่อยู่ใกล้น้ำเป็นจุดที่อันตรายที่สุด” เสี่ยวหลิวกล่าว เว่ยหนิงเหลือบมองเขาด้วยใบหน้าประหลาดใจ
“ข้าไม่ใช่คนไม่มีหัวคิดเหมือนหัวหน้าซุน” เสี่ยวหลิวกล่าว “หากเกิดไฟไหม้ในคลังริมน้ำจะดับไฟได้ง่ายสุด ที่นั่นเป็นทำเลที่ดีและเป็นคลังที่มีเสียงและยามเฝ้าการมากที่สุด”
“ไม่เลวนี่เจ้าหนู” เว่ยหนิงตบไหล่เขา
เสี่ยวหลิวรู้สึกไม่สบายใจที่ถูกชมเชย ใบหน้าเขาหน้าแดงขึ้น
“ข้าเรียนรู้จากการสังเกต แต่ท่านกลับรู้ทั้งๆ ที่ไม่เคยเข้ามาในสนามรบเลย”
พวกเขาทั้งสองคนแอบย่องออกไปในตอนกลางคืน มุ่งหน้าไปที่คลังเสบียง นี่เป็นครั้งแรกที่เว่ยหนิงทำภารกิจ นางดูนิ่งสงบทั้งๆ ที่ความจริงนางกังวล
ข้าหวังว่าความโชคดีของท่านแม่จะช่วยข้าในการทำภารกิจนี้…
ทันใดนั้นทหารยามกลุ่มหนึ่งก็เดินเข้ามา พวกเขารีบซ่อนตัวอย่างรวดเร็วในความมืดระหว่างกระโจมทั้งสอง เว่ยหนิงกลั้นหายใจ ตอนนี้นางได้ยินเสียงเคลื่อนไหวรอบตัวอย่างชัดเจน ก่อนที่เสียงตะโกนดังขึ้นใกล้ๆ
“ไอ้เด็กนี่ไม่รู้อะไร เขาต้องการให้พวกเราล่าถอย เพราะว่ากองทหารของต้าโจวแข็งแกร่งกว่า นี่ไม่ได้ทำให้ศักดิ์ศรีของพวกเราถูกทำลายหรือไง?”
“ท่านแม่ทัพใจเย็นก่อน ท่านอ๋องเหยาเป็นเพียงเด็กเหลือขอเท่านั้น เหตุใดท่านต้องลดตัวทะเลาะกับเด็กด้วย อย่างไรก็ตามเขาเป็นองค์ชาย ฝ่าบาททรงอนุญาตให้เขาเข้าร่วมรบในครั้งนี้เพื่อหาประสบการณ์ คำพูดของเขา ท่านแค่ฟังเท่านั้นไม่จำเป็นต้องทำตาม” เสียงหนึ่งปลอบโยนเขา
เว่ยหนิงได้ยินเพียงเล็กน้อยเท่านั้นก่อนที่จะรีบเคลื่อนตัวออกไปอย่างรวดเร็ว
ท่านอ๋องเหยา..
มารดาของนางเคยพูดถึงคนผู้นี้ ว่าเป็นคนที่มีทักษะการวางอุบายที่ยอดเยี่ยม ต่อไปจะเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ในภายหน้า นางต้องระวังคำพูดและเล่ห์เหลี่ยมเมื่อเผชิญหน้ากับเขา ในขณะที่คิดเว่ยหนิงก็มาถึงคลังเสบียงแล้ว
คลังแห่งนี้อยู่ห่างจากแม่น้ำไม่มากนัก หากเป็นกองไฟเล็กๆ คงจะดับก่อนไหม้หมดเป็นแน่ หลังจากสำรวจดูถี่ถ้วนแล้วจะเห็นได้ว่าโอกาสที่จะลอบจุดเพลิงเผาเป็นไปได้ยากมาก
เว่ยหนิงจะต้องจัดการยามที่เฝ้าอยู่พวกนี้ก่อนโดยที่ทหารลาดตระเวนไม่เห็น
เว่ยหนิงและเสี่ยวหลิวซ่อนตัว พวกเขาสังเกตว่าช่วงที่ทหารลาดตระเวนปรากฏตัวซึ่งมีเพียงเวลาแค่หนึ่งก้านธูปเท่านั้น
ต้องทำให้สำเร็จภายในเวลาหนึ่งก้านธูป…
ฝ่ามือของเว่ยหนิงชื้นเต็มไปด้วยเหงื่อ ทันทีที่ทหารลาดตระเวนจากไป เว่ยหนิงและเสี่ยวหลิวยิงหน้าไม้ไปที่ขาของทหารยาม จากนั้นจึงเข้าไปสังหารด้วยความเร็ว
นี่เป็นครั้งแรกที่นางฆ่าคน แม้จะเป็นศัตรูแต่ก็ยังเป็นสิ่งมีชีวิตทำให้นางรู้สึกไม่ค่อยดี
แต่เมื่อนึกถึงทหารต้าโจวและประชาชนผู้บริสุทธิ์ นางก็กล้าที่จะลงมือ หลังจากที่จัดการยามแล้ว ทั้งสองรีบเทน้ำมันที่คลังเสบียงและจุดไฟอย่างรวดเร็ว
คลังเสบียงทั้งสามแห่งถูกเผาในเวลาเดียวกัน ค่ายแห่งนี้เกิดความวุ่นวายขึ้นทันที การล่าถอยของเว่ยหนิงและเสี่ยวหลิวจึงเป็นไปอย่างราบรื่น
เมื่อไปถึงยังสถานที่ที่นัดไว้ หัวใจของนางเต้นถี่รัว ตอนนี้คนทั้งสองที่ไปยังสถานที่ใกล้ๆ กลับมาแล้ว แต่ซุนต้าหู่ยังไม่กลับมา
หลังจากรอสักพักก็ยังไม่เห็นเขากลับมา หรือว่าเขาอาจจะตกอยู่ในอันตราย หากกลับไปช่วยเหลือเขาไม่เพียงแต่ล้มเหลวในการการทำภารกิจ แต่ยังเป็นการเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงอีกด้วย
แต่ถ้าไม่ช่วย….
พวกเขาจะทิ้งสหายร่วมรบไว้ข้างหลังได้อย่างไร?