เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ - บทที่ 821 ตอนพิเศษ ซานเป่า ลอบสังหาร 1
- Home
- เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ
- บทที่ 821 ตอนพิเศษ ซานเป่า ลอบสังหาร 1
บทที่ 821 ตอนพิเศษ ซานเป่า ลอบสังหาร 1
เมืองซินหนาน
สตรีในชุดสีแดงกำลังขี่ม้าไปตามถนนด้วยความองอาจ
“ท่านแม่ทัพเว่ย”
“ท่านแม่ทัพเว่ยกลับมาแล้ว”
ผู้คนต่างโห่ร้องขึ้นมา เป็นเว่ยหนิงที่อยู่ที่นั่น ในช่วงเวลาหลายปีมานี้นางได้แสดงความสามารถที่มี จนชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วซินหนาน ชาวบ้านต่างขนานนามนางว่า แม่ทัพปีศาจ เป็นการเรียกขานที่เต็มไปด้วยความยกย่องนับถือ หาใช่เป็นการดูหมิ่นเยาะเย้ยเหมือนที่คนในแคว้นต้าฉู่เรียกนางลับหลัง
นางเป็นปีศาจของแคว้นฉู่แต่ในขณะเดียวกันนางเป็นผู้ปกป้องรักษาแคว้นต้าโจวของพวกเขา
เว่ยหนิงกลัวว่าตนเองจะพลาดทำร้ายผู้คนในเมืองนางจึงชะลอความเร็วของม้าลง พลางพยักหน้าตอบรับคำทักทายจากผู้คนบนท้องถนน
เว่ยหนิงขี่ม้าเลาะไปตามซอยก่อนจะหยุดที่บ้านหลังหนึ่ง
ในเมืองซินหนานมีจวนแม่ทัพ แต่ว่าเว่ยหนิงไม่ได้อยู่อาศัยที่นั่น นางซื้อบ้านเป็นของตัวเอง ชีวิตส่วนใหญ่ของเว่ยหนิงมักจะอยู่ในค่ายทหาร และกลับมาที่ซินหนานบ้างเป็นระยะๆ ความตั้งใจในการซื้อบ้านของนางก็เพื่อที่อาจารย์จะได้อาศัยอยู่สักพักในช่วงที่เหนื่อยจากการเดินทางที่ยาวนาน
เมื่อนึกถึงอาจารย์ หญิงสาวถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ผ่านมาเจ็ดหรือแปดเดือนแล้วที่นางไม่ได้พบเขาเลย เว่ยหนิงได้รับเพียงจดหมายไม่กี่ฉบับ ก่อนหน้านั้นนางจะได้จดหมายเดือนละฉบับ แต่ช่วงนี้ห่างเป็นสองเดือนต่อหนึ่งฉบับแทน ไม่รู้ว่าเขาลืมไปแล้วหรือไม่ว่านางคือลูกศิษย์ของเขา?
“เว่ยหนิง!”
เว่ยหนิงมองคนที่เดินเข้ามาหา เขามีใบหน้าอ่อนเยาว์ ชายคนนี้คือจางจ้าวหมิง
“เว่ยหนิง ท่านแม่ทัพเรียกให้เจ้าไปที่จวนแม่ทัพ” จางจ้าวหมิงว่า
“ท่านอาจาง มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?” เว่ยหนิงถามอย่างสงสัย
“ไม่มี แต่ท่านป้าชิงของเจ้ามาน่ะ”
เว่ยหนิงมีความสุขขึ้นมาทันที ท่านลุงรองของนางกับท่านป้าชิงเข้ากันได้ดีมาก ตู้ชิงหยูเดินทางไปรอบโลก เมื่อนางคิดถึงกู้หวนอวี้ก็จะกลับมาทุกๆ สามหรือสี่เดือน แต่เพราะท่านลุงรองของนางบาดเจ็บ ท่านป้าชิงจึงมาเยี่ยมบ่อยมากขึ้น
เว่ยหนิงคิดถึงนางมากจนรีบขึ้นม้ากลับไปที่จวนแม่ทัพทันที
“ท่านอาจางน้ำหนักขึ้นหรือเปล่า?” เมื่อนางมาถึงที่จวนแม่ทัพ เว่ยหนิงอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปที่จางจ้าวหมิงอีกครั้ง ใบหน้าของเขายังเหมือนเด็กหนุ่ม จนดูออกยากว่าเขาน้ำหนักขึ้นหรือเปล่า? แต่ถ้าสังเกตให้ดีถึงจะรู้ได้
“อ้วนขึ้นหรือ? เป็นไปได้ ข้ากินทุกอย่างที่เยี่ยนเยี่ยนกินไม่ได้ แทนนางน่ะ” จางจ้าวหมิงใช้มือแตะที่ใบหน้าของตนเอง รอยยิ้มแห่งความสุขฉายชัดบนใบหน้า
ในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมาจางจ้าวหมิงติดตามกู้หวนอวี้มายังชายแดน ส่วนตู้เยี่ยนยังอยู่เมืองหลวง สุดท้ายพวกเขาก็ทนไม่ได้ที่จะต้องแยกจากกัน ตู้เยี่ยนจึงได้มาหาเขาที่ซินหนาน
ตอนนี้สามีภรรยาทั้งคู่ลงหลักปักฐานอยู่ที่ซินหนาน เมื่อเร็วๆ นี้ตู้เยี่ยนตั้งครรภ์ ทำให้จาวจ้าวหมิงอารมณ์ดีขึ้นมาก
“โอ๊ย! นางน่ะเรื่องมากจู้จี้จุกจิกเรื่องกิน กินอะไรก็ไม่ถูกใจทั้งนั้น ข้าจะทำอย่างไรได้เล่า ก็ต้องกินของที่นางไม่กินเสียทุกครั้งด้วยความเสียดาย”
“ดูสิ! ข้าอ้วนขึ้นแล้ว เยี่ยนเยี่ยนยังจะว่าข้าผอมอีก ไม่รู้ว่าสายตานางมีปัญหาหรืออย่างไร?”
เมื่อพูดถึงภรรยา จางจ้าวหมิงทำเหมือนไม่ใส่ใจ แม้จะเต็มไปด้วยคำตำหนิ แต่สีหน้าเขายิ้มแย้มเต็มไปด้วยความรักใคร่ จนเว่ยหนิงรู้สึกเหมือนตนกินอาหารสุนัขเข้าไปเต็มปาก
ทั้งสองเดินเข้าไปในจวนแม่ทัพ ไม่นานเว่ยหนิงเห็นร่างที่คุ้นเคย หญิงสาวรีบวิ่งเข้าไปหาอย่างเร็วรี่
ตู้ชิงหยูอ้าแขนออกกอดเว่ยหนิงเอาไว้
“โอ้! ให้ข้าดูแม่ทัพหญิงของเราหน่อยสิ” นางกอดเว่ยหนิง กวาดตาสำรวจใบหน้าเล็กๆ อย่างระมัดระวัง
ผิวของเว่ยหนิงยังคงขาวผ่องราวหิมะ เนียนเหมือนหยกเนื้อดี นางมีความงามตามธรรมชาติ ตู้ชิงหยูบีบสองแก้มของเว่ยหนิงด้วยความพึงพอใจ
“งดงามมาก”
“ท่านป้าชิง ท่านยังสวยเหมือนเดิมเลย” เว่ยหนิงกระพริบตา ตู้ชิงหยูดีดหน้าผากของนาง
“ปากน้อยๆ นี่ช่างหวานเสียจริง” ใบหน้าเล็กๆสดใสของเว่ยหนิงปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา ในขณะที่ทั้งคู่พูดคุยกัน เว่ยหนิงเห็นสายตาของคนผู้หนึ่งจับจ้องมองนางอยู่นานแล้ว
นางหันกลับไปมอง ชายหนุ่มในชุดสง่างาม เขาคือตู้เสี่ยวไป๋
“เสี่ยวไป๋” เว่ยหนิงเรียก
“เว่ยหนิง” เขามองเว่ยหนิงแล้วคลี่ยิ้มออกมา เว่ยหนิงปลีกตัวไปคุยกับตู้เสี่ยวไป๋ ทำให้กู้หวนอวี้ดีใจมากเพราะเขาจะได้อยู่กับคนรักเพียงลำพัง
“คราวนี้เจ้าวางแผนจะอยู่นานแค่ไหนหรือ?” กู้หวนอวี้ถาม
“ต้องดูว่าท่านแม่ทัพจะยุ่งเพียงใด จะดูแลข้าดีหรือไม่?” ตู้ชิงหยูตอบ ครั้งสุดท้ายที่นางมาเยี่ยมเขาใกล้กับตอนที่มีรายงานด่วนเข้ามา กู้หวนอวี้จึงต้องรีบไปที่นั่น นางจำไม่ลืม
“ข้าขอโทษ” เขามีสีหน้ารู้สึกผิดมาก นางหัวเราะออกมา
“ข้าล้อเล่น.. สงครามเป็นเรื่องสำคัญ ท่านต้องมีสมาธิจดจ่อกับการต่อสู้ อย่าได้วอกแวกคิดถึงเรื่องอื่น ถ้ากล้าบาดเจ็บอีกครั้ง ข้าจะไม่มาหาท่านแล้ว” ตู้ชิงหยูขู่ นางต่อยเขาที่หน้าอกเบาๆ กู้หวนอวี้คว้ามือคนรักเอาไว้ คลี่ยิ้มรับคำ
“ข้ารู้..”
ความรักของพวกเขามั่นคงและหนักแน่นมากยิ่งขึ้น
ในอีกด้านหนึ่ง เว่ยหนิงและตู้เสี่ยวไป๋กำลังเดินอยู่บนทางเดินที่ปูด้วยหินในจวนแม่ทัพ เด็กน้อยตัวอ้วนทั้งสองในอดีตได้เติบโตเป็นบุรุษรูปงามและหญิงสาวแสนสวย
“ตอนเจ้ายังเด็ก เจ้าบอกว่าจะเป็นแม่ทัพแล้วให้ข้าจะเป็นหมอจำได้หรือไม่?”
เว่ยหนิงพยักหน้า ตอนนั้นนางและตู้เสี่ยวไป๋ยังเล็กมาก โลกของเด็กๆ ช่างเรียบง่าย เพียงรู้ว่ามีสหายที่ดีอยู่ด้วยกันเท่านั้น ตอนนี้ตู้เสี่ยวไป๋กลายเป็นหมอจริงๆ เขาติดตามตู้ชิงหยูไปทุกที่ และช่วยชีวิตผู้คนมากมาย
ตู้เสี่ยวไป๋รักษาคนไข้จำนวนมาก คนเหล่านั้นคือความกังวลและหน้าที่รับผิดชอบของเขา เขาไม่สามารถที่จะติดตามเป็นหางเล็กๆของเว่ยหนิงได้ตามสัญญาที่เคยลั่นวาจาไว้
“ข้าขอโทษ ที่ข้าไม่สามารถปกป้องเจ้าได้” ตู้เสี่ยวไป๋เอ่ยขึ้น
“ให้ตายสิ เจ้าอ่อนแอขนาดนี้คงเป็นข้ากระมังที่ต้องปกป้องเจ้าในสนามรบมากกว่า” เว่ยหนิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม ตู้เสี่ยวไป๋หัวเราะออกมา
“ยานี้สำหรับเจ้า” ตู้เสี่ยวไป๋ยื่นขวดกระเบื้องเคลือบสองขวดให้แก่เว่ยหนิง
“ขวดหนึ่งบรรเทาอาการปวด อีกขวดสำหรับห้ามเลือด ที่ขวดข้าทำสัญลักษณ์ไว้”
ยาของตู้เสี่ยวไป๋เป็นยาที่ดีและหาได้ยาก ยาเหล่านี้คือความทุ่มเททั้งหมดของเขา เว่ยหนิงรับไปพร้อมกับรอยยิ้มสว่างสดใส
“ขอบคุณนะเสี่ยวไป๋”
“ท่านแม่ทัพ โปรดรักษาร่างกายของท่านด้วย” เขามองนางเอ่ยปากด้วยเสียงเบา
เว่ยหนิงพยักหน้า ในระหว่างกินอาหารเว่ยหนิงเห็นตู้เยี่ยน ใบหน้าเรียวของนางกลมขึ้นเล็กน้อย นางกับท่านอาจางดูคล้ายกันมากขึ้นเรื่อยๆ
ตู้เยี่ยนเคยเป็นคนโผงผางเปิดเผย แต่เมื่อนางตั้งครรภ์ หญิงสาวกลับอ่อนโยนและนุ่มนวลมากขึ้น ใบหน้าของนางฉายแววของความเป็นมารดา
ถังหลี่และเว่ยฉิงถูกพูดถึงในระหว่างการสนทนา
“ข้าได้รับจดหมายจากท่านพ่อท่านแม่ พวกเขาบอกว่าจะกลับไปที่เมืองหลวงและมาอยู่ที่ซินหนานระยะหนึ่ง” เว่ยหนิงกล่าว จู่ๆ ดวงตาของตู้ชิงหยูก็สดใสขึ้น
“ถังถังกำลังมาหรือ? งั้นข้าจะอยู่รอนางอยู่ที่นี่”
กู้หวนอวี้วาดรอยยิ้มในดวงตา การเดินทางมาซินหนานต้องใช้เวลาหลายเดือน นั่นหมายถึงตู้ชิงหยูจะอยู่กับเขาเป็นเวลาหลายเดือนเช่นกัน เขาพอใจจนถึงกับกินข้าวอีกชามเลยทีเดียว
หลังจากที่มื้อเย็นจบลง เว่ยหนิงก็กลับไปที่บ้าน นางใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในค่ายทหารไม่ค่อยได้มาที่นี่ มันจึงถูกทิ้งร้าง นางต้องทำความสะอาดเผื่อเอาไว้ในยามที่อาจารย์กลับมา
เว่ยหนิงผลักประตูเข้าไปในลานฝึกซ้อมที่ไม่มีอะไรพิเศษ แต่เป็นสถานที่ที่นางชอบมากที่สุด อาจารย์ของนางชื่นชอบการฝึกซ้อมต่อสู้มากที่สุด
เว่ยหนิงเดินไปที่สวนด้านหลังของบ้าน เมื่อนางเข้าไปที่ลานฝึกจึงได้เห็นว่ามีใครบางคนอยู่ในลานฝึกนั่น