เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ - บทที่ 827 ตอนพิเศษ ซานเป่า ลอบสังหาร
- Home
- เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ
- บทที่ 827 ตอนพิเศษ ซานเป่า ลอบสังหาร
บทที่ 827 ตอนพิเศษ ซานเป่า ลอบสังหาร
เมืองหลวงของต้าฉู่
ชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ เขาเช็ดดาบที่ถือไว้ในมือ ด้วยความระมัดระวัง คิ้วของเขาเฉียบคมดูเย็นชา แต่ยามที่มองดาบกลับดูอ่อนโยนขึ้น
“ลูกพี่ลูกน้อง นั่นคือพระชายาของท่านหรือ?” น้ำเสียงล้อเลียนดังขึ้น
คนผู้นี้ไม่ใช่ใคร เขาคือฉู่เฉิงเหยา ท่านอ๋องเหยาแห่งแคว้นฉู่นั่นเอง เขาเงยหน้าขึ้นมองดูคนตรงหน้าด้วยสายตานิ่งเฉย เขาเป็นคนอุปนิสัยเย็นชาผนวกกับความดุดันที่ได้มาจากการออกรบ ทำให้ผู้คนหวาดกลัวจนไม่กล้าเข้าใกล้
มีเพียง เจียงชูเหวิน ลูกพี่ลูกน้องที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเท่านั้นที่ไม่กลัวและกล้าที่จะพูดหยอกล้อกับเขา
“พระชายาที่แท้จริงของท่านกำลังจะมาแล้ว โปรดใส่ใจนางด้วย พระสนมหลี่ใช้ความพยายามเพื่อคัดเลือกให้ท่านเป็นพิเศษเลยทีเดียว” เจียงชูเหวินพูด แต่ดวงตาของฉู่เฉิงเหยาไร้รอยยิ้ม ทุกคนรู้ดีว่า แม้คุณหนูสกุลจูจะมีสถานะสูงส่ง แต่ความจริงแล้ว นางเป็นเพียงหญิงสาวโง่เขลาเบาปัญญา มีแต่จะทำให้ฉู่เฉิงเหยาเป็นตัวตลกเท่านั้น
“ลูกพี่ลูกน้อง หญิงสกุลจูใกล้เข้ามาแล้ว หากเจ้าแต่งงานไปจริงๆ ทุกคนจะหัวเราะเยาะ เหตุใดเจ้าไม่คิดตอบโต้เลยเล่า?”
เจียงชูเหวินเดินเข้ามาใกล้ ตบหน้าอกเขา
เมื่อเทียบกันแล้วฉู่เฉิงเหยาดูนิ่งเฉยในขณะที่เจียงชูเหวินร้อนรน ใบหน้าของชายหนุ่มเย็นชา เขาผลักเจียงชูเหวินออกไป
“ไม่จำเป็น”
“เจ้าจะให้หญิงโง่มาครอบครองตำแหน่งพระชายาหรือ? ลูกพี่ลูกน้อง หากวันหน้าเจ้าชอบใครขึ้นมาจะทำอย่างไร?” เจียงชูเหวินยังพล่ามต่อ ฉู่เฉิงเหยาหันหลังเดินไปอีกห้องโดยมีเจียงชูเหวินไล่ตามกระชั้นชิด
ไม่เคยมีใครได้รับอนุญาตเข้าไปในห้องหนังสือของฉู่เฉิงเหยา มีเพียงเจียงชูเหวินเท่านั้นที่กล้าหาญ
เมื่อเข้าไปในห้องด้านใน เจียงชูเหวินมองไปยังภาพวาดบนผนัง สีหน้านิ่งค้างไปชั่วขณะ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้เห็นภาพวาดนั่น ลูกพี่ลูกน้องของเขาแขวนภาพไว้ที่ผนังนานมากแล้ว เขาเห็นมาไม่ต่ำว่ายี่สิบครั้ง ทุกครั้งที่เขาเห็นก็อยากจะเอ่ยบอกให้ฉู่เฉิงเหยาแขวนมันไว้ที่ประตูด้านหน้าเพื่อปัดเป่าวิญญาณร้าย
“เสียดายที่แม่ทัพปีศาจผู้นี้จากไปเสียแล้ว” เจียงชูเหวินว่า
ข่าวการเสียชีวิตของแม่ทัพปีศาจเกิดขึ้นเมื่อครึ่งเดือนที่แล้ว ตอนนี้ต้าฉู่ก็ได้รับข่าวนี้เช่นกัน นี่เป็นเรื่องที่น่ายินดีภายใต้ความพ่ายแพ้ของแคว้นต้าฉู่
“ท่านพ่อเล่าว่าฮ่องเต้ทรงเกลียดแม่ทัพปีศาจมาก ลูกพี่ลูกน้อง เจ้าทิ้งภาพนี้ไปเสียเถอะ หากเขารู้เข้าจะเกิดคำครหาได้” เจียงชูเหวินพยายามชักจูงเพื่อไม่ให้เขาขุ่นเคือง
แม้ว่าตอนนี้เขาจะเป็นคนเดียวที่เขามาในห้องนี้ได้ แต่ถ้าหากพระสนมหลี่และองค์ชายรองรู้เข้า จะต้องสร้างความลำบากใจให้ฉู่เฉิงเหยาอีกเป็นแน่
แต่ฉู่เฉิงเหยาไม่ฟังเจียงชูเหวินเลย เขาหยิบธูปออกมาจุด มองคนในภาพด้วยแววตาไม่แสดงออก หากในใจของเขาหวนคิดถึงภาพภูเขาแห่งซากศพและทะเลเลือดเหล่านั้น
เขารู้ว่านางเป็นคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขาม คิดว่าสักวันหนึ่งพวกเขาจะได้เจอกันในสนามรบ ไม่คิดว่านางจะจบชีวิตลงแบบนี้…
พูดตามเหตุผลแล้วเขาควรจะมีความสุขที่ศัตรูได้ตายไป แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกสูญเสียอย่างบอกไม่ถูก
“ลูกพี่ลูกน้อง เหตุใดถึงได้มองภาพแม่ทัพปีศาจเช่นนั้นเล่า เจ้าคงไม่ได้ชอบนางใช่หรือไม่?”
ความเป็นไปในผุดขึ้นในความคิดของเจียงชูเหวิน แม้ว่าแม่ทัพปีศาจจะแข็งแกร่งทรงพลังมาก แต่ถ้าลูกพี่ลูกน้องของเขาชอบหญิงที่มีใบหน้าเช่นนี้ นั่นจะไม่แปลกเกินไปหรอกหรือ?
“หุบปาก! ” ฉู่เฉิงเหยาพูดอย่างเย็นชา ทำให้เจียงชูเหวินรีบปิดปากตัวเองทันที เขารู้ว่าตอนนี้ลูกพี่ลูกน้องของเขาโกรธมาก
ลูกพี่ลูกน้องเขาเกิดความรู้สึกบางอย่างกับแม่ทัพปีศาจผู้นี้จริงๆ เพราะเขาไม่เคยเห็นอีกฝ่ายปกป้องใครเช่นนี้มาก่อน…รอยยิ้มบนใบหน้าเจียงชูเหวินหายไป
แม่ทัพปีศาจผู้นี้คือแม่ทัพของต้าโจว ส่วนลูกพี่ลูกน้องเขาคือองค์ชายของแคว้นต้าฉู่ พวกเขาทั้งสองคนมีตำแหน่งต่างกัน แม้ว่าลูกพี่ลูกน้องของเขาจะหวั่นไหวแต่มันเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว การตายของแม่ทัพปีศาจผู้นี้ถือว่าเป็นเรื่องดี
เจียงชูเหวินเดินไปรอบๆ ห้องอีกครั้งก่อนจะหันหลังกลับไป
เมื่อเดินออกจากจวนของท่านอ๋องเหยาใบหน้าของ เจียงชูเหวินเย็นชาขึ้นทันที พระสนมหลี่ต้องการให้ลูกพี่ลูกน้องของเขาแต่งงานกับคนโง่ เพื่อที่จะทำให้เขาอับอายกลายเป็นเรื่องขบขันทั่วเมืองหลวง แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่มีทางให้แผนการของนางสำเร็จ
หากหญิงโง่เขลาคนนั้นตายระหว่างทางก็จบ…
….
รถม้าคันหนึ่งจอดอยู่หน้าสถานีพักม้า คนขับเป็นชายหนุ่มและมีคนขี่ม้าสองคนอยู่ข้างๆ พวกเขามีผ้าพันแผลพันตามร่างกาย
เมื่อม่านของรถม้าเปิดออก สาวใช้ทั้งสองที่หน้าตาเหมือนกันสองคน เดินลงมาจากรถม้า คนสุดท้ายที่ออกมาคือหญิงสาวที่มีรอยแผลเป็นน่าเกลียดบนใบหน้า สาวใช้ทั้งสองคนพาคุณหนูของนางไปยังประตูโรงเตี๊ยม
“เรามาจากเป่ยเฟิง คุณหนูของเราเป็นบุตรสาวเจ้าเมืองเป่ยเฟิง ตอนนี้อยู่ในระหว่างเดินทางไปอภิเษกกับท่านอ๋องเหยา คืนนี้พวกข้าจึงอยากพักแรมที่นี่”
ชุ่ยหงอธิบายเรื่องราวทั้งหมด เจ้าของโรงเตี๊ยมจึงจัดห้องพักให้แก่พวกเขา เว่ยหนิงได้พักที่ด้านบน ส่วนสาวใช้และยามอยู่ที่ห้องของบ่าวรับใช้ ชุ่ยหงกับชุ่ยหลู่ตามเว่ยหนิงเข้าไปในห้องพัก
“คุณหนู ที่นี่เป็นสถานีพักม้าที่ใกล้ที่สุดในเมืองหลวง เราจะถึงเมืองหลวงภายในอีกสองวัน” ชุ่ยหงกล่าวหญิงสาวพยักหน้ารับรู้
“ท่านจะได้เจอท่านอ๋องเหยาเร็วๆนี้”
แต่สัมผัสที่หกของเว่ยหนิงบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้เจอท่านอ๋องเหยา
“คุณหนูพักผ่อนก่อนเถิด” ชุ่ยหงว่า หลังจากที่ทั้งสองออกไปแล้ว เว่ยหนิงไม่อยากอาบน้ำ นางเพียงแต่นอนลงบนเตียงเท่านั้น วันนี้นางเหนื่อยจากการเดินทางมาก หญิงสาวหลับตาลงผล็อยหลับไป ในความฝันมีคนเรียกชื่อนางเบาๆ
“ซานเป่า”
“ท่านแม่?”
“ซานเป่า”
ในความฝันนางกลายร่างเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่วิ่งไล่ตามความอ่อนโยนและน้ำเสียงที่นุ่มนวล แต่ไม่ว่านางจะตามแค่ไหนก็ไม่ถึงตัวของคนผู้นั้น เว่ยหนิงเห็นใบหน้าของนางไม่ชัด เด็กหญิงตัวเล็กๆ ขดตัวเป็นลูกบอลแล้วร้องไห้ออกมา
“ซานเป่า แม่มาแล้ว” เสียงหนึ่งดังขึ้นที่เหนือศีรษะของนาง เมื่อนางเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะเห็นได้ชัด นางพลันสะดุ้งตื่นขึ้น
“ท่านแม่!” เว่ยหนิงตะโกน
แสงจันทร์ที่สะท้อนบนใบหน้าของนางเผยให้เห็นความสับสน นางไม่รู้สึกว่าเป็นความฝัน ราวกับว่ามันคือความทรงจำหนึ่งของนาง คนที่อยู่ในความฝันคือมารดาของนางเอง….
หญิงสาวขมวดคิ้วคิดสักพักก็ไม่พบความทรงจำอื่นอีก ในขณะนั้นมีเสียงบางอย่างที่ด้านนอก เป็นเสียงฝีเท้าราวๆห้าหรือหกคนกำลังใกล้เข้ามา เว่ยหนิงสัมผัสถึงอันตรายโดยสัญชาตญาณ จึงลุกขึ้นจากเตียงรีบแต่งตัวทันที นางดินเข้าไปใกล้ประตู เสียงฝีเท้าด้านนอกดังขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะมาหยุดที่ประตูห้อง
ลวดเส้นหนึ่งสอดเข้ามาในช่องว่างเล็กๆ สลักถูกปลดออก
ประตูไม้เปิดออกช้าๆ ชายชุดดำห้าคนยืนอยู่ที่ด้านนอก พวกเขาได้รับคำสั่งให้มาสังหารบุตรสาวสกุลจู นางเป็นเพียงคุณหนูธรรมดา จึงไม่ได้เตรียมตัวมากนัก เพราะคิดว่าเป็นงานที่ง่ายมาก เพียงแค่พวกเขาคนใดคนหนึ่งก็ทำสำเร็จได้ หลังจากจบงานแล้วยังมีเวลาไปนั่งร่ำสุราต่ออย่างสบายใจอีกด้วย
แต่หลังจากประตูเปิดออก พวกเขาเห็นหญิงสาวผู้หนึ่งยืนอยู่ที่หน้าประตู นางเอียงคอส่งยิ้มให้พวกเขา
ใบหน้าดุร้ายที่มีรอยยิ้มประดับอยู่ทำให้พวกเขาพากันขนลุกเกรียวไปตามๆกัน….