เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ - บทที่ 828 ตอนพิเศษ ซานเป่า การตอบโต้
- Home
- เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ
- บทที่ 828 ตอนพิเศษ ซานเป่า การตอบโต้
บทที่ 828 ตอนพิเศษ ซานเป่า การตอบโต้
พวกนักฆ่าตกใจมาก แต่เพราะความเป็นมืออาชีพทำให้ไม่สะดุ้งจนวิ่งหันหลังหนีไป
“ฆ่านาง”
หนึ่งในพวกนั้นตะโกนขึ้นมา ในมือมีมีดสั้นที่สะท้อนเงาของแสงจันทร์ ฟาดฟันมาที่เว่ยหนิงโดยตรง แต่นางกลับหลบได้อย่างไม่ต้องใช้ความพยายาม นางเคลื่อนไหวบิดแขนที่เขาถือมีดสั้นจนมีดหลุดออกจากมือ นางคว้ามีดสั้นไป จากนั้นจึงได้โจมตีสังหารนักฆ่าตรงหน้าตามสัญชาตญาณ นักฆ่าพากันตกใจมาก พวกเขาฝึกศิลปะการต่อสู้มาหลายปี จนทำให้รู้ว่า การเคลื่อนไหวแค่ไม่กี่ครั้งของหญิงสาวผู้นี้มากด้วยฝีมือเพียงใด
ไม่ว่าจะอย่างไรพวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง…
ขาของนักฆ่าอ่อนแรง ตอนนี้มีแต่อยากหันหลังวิ่งหนี แต่เมื่อถอยไปได้ไม่กี่ก้าวที่เบื้องหน้าของเขาก็ถูกขวางไว้ ทันทีที่เงยหน้าขึ้น ใบหน้ายิ้มแย้มของนางก็ปรากฏขึ้นมา
“เจ้าจะหนีไปไหนหรือ? ข้าอยู่ที่นี่แล้ว” ใบหน้าของนางเปลี่ยนเป็นเย็นชา
“หนีไปแบบนี้จะไม่ง่ายไปหน่อยหรือ?”
นางไม่ได้จัดการกับพวกเขาทันที เพราะคนเหล่านี้อ่อนแอมาก แต่กลับแกล้งราวกับแมวหยอกหนู ในตอนที่พวกเขาจะวิ่งหนีไปได้นางก็ต้อนกลับมา หลังจากโดนนางหยอกเย้าหลายครั้ง จิตใจของพวกเขาก็พังทลาย นักฆ่าพากันคุกเข่าร้องขอความเมตตา
เว่ยหนิงเย้ยหยัน ผู้ชายพวกนี้ควรถูกเรียกว่านักฆ่าหรือ?
นักฆ่าตัวจริงน่ะต้องเป็น….
ร่างสูงโปร่งเพรียวในชุดสีแดงปรากฏในความคิดของนาง เพียงพริบตาเขาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
การเคลื่อนไหวครึกโครมทำให้ชุ่ยหงและเหลียงเฉิงตื่น ทั้งสองวิ่งมานี่ทันทีก่อนจะตกตะลึงนิ่งอึ้งไป
“คุณหนูพวกเขาคือ..”
“นักฆ่า” นางเปิดริมฝีปากแล้วพูดสองคำง่ายๆ ทั้งสองตกใจมาก
“ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
“พวกเขาต่างหากที่เป็น” เว่ยหนิงยิ้มแบบช่วยไม่ได้
“ไปเอาเชือกมามัด” นางสั่ง ทั้งสองไปเอาเชือกมามัดนักฆ่าพวกนี้ไว้
“คุณหนู ทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”
“นอนพักเถอะ พรุ่งนี้ค่อยส่งพวกเขาให้เจ้าหน้าที่” เว่ยหนิงหาวแล้วเดินกลับห้องไป พวกนักฆ่าถูกโยนไปนั่งที่มุมห้องด้วยความสั่นกลัว การเย้าแหย่ของนางทำให้พวกเขาไม่กล้าหนีอีกต่อไป ได้แต่นั่งรวมตัวกันให้อุ่นใจเท่านั้น
วันต่อมา เว่ยหนิงลุกขึ้นอาบน้ำและทานอาหารแต่เช้า จากนั้นจึงนำมือสังหารห้าคนไปให้ทางการ
เมืองหลวง
“อะไรนะ คนที่ถูกส่งไปถูกจับให้ทางการหมดหรือ?” เจียงชูเหวินที่ดื่มชาอยู่ตกใจมากจนน้ำชาในถ้วยกระฉอกเกือบหก
เดิมทีเขาอยากช่วยลูกพี่ลูกน้องกำจัดคนโง่เท่านั้น ไม่คิดว่าคนที่ถูกส่งไปถูกจับส่งให้ทางการ มันเกินความคาดหมายของเขาไปมาก
“คุณชายครับ คุณหนูจูมีฝีมือมาก” ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขารายงาน
“คุณหนูผู้โง่เขลาจะมีฝีมือยอดเยี่ยมได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ?”เจียงชูเหวินครุ่นคิด
จากการสืบสวนของผู้ใต้บังคับบัญชา หญิงสกุลจูผู้นี้ เป็นคนสติไม่ดี โง่เขลา เบาปัญญา ทั้งหน้าตายังน่าเกลียดถึงเพียงนั้น ไม่รู้หนังสือและศิลปะการต่อสู้
มีบางอย่างไม่ถูกต้อง….
เจียงชูเหวินลุกขึ้น
“เตรียมรถม้า ข้าจะไปจวนท่านอ๋องเหยา”
จวนอ๋องเหยา
เมื่อเจียงชูเหวินมาถึง เขาตรงไปยังลานฝึกของท่านอ๋องทันที ที่นั่นเขาเห็นชายร่างกายแข็งแกร่งกำลังฝึกเพลงดาบ เป็นลูกพี่ลูกน้องของเขาฉู่เฉิงเหยานั่นเอง
เขามองท่าทางกล้าหาญของลูกพี่ลูกน้องอย่างเพลิดเพลิน เมื่อการซ้อมจบลงฉู่เฉิงเหยาเช็ดเหงื่อออกจากร่างกายเสร็จแล้วจึงได้เดินเข้ามาหา
“ลูกพี่ลูกน้อง คุณหนูจูกำลังจะมาถึงแล้ว”
สีหน้าของฉู่เฉิงเหยาสงบนิ่งไร้อารมณ์
“ข้าเกรงว่ามีบางอย่างที่ไม่ปกติกับคุณหนูจู ข้าส่งนักฆ่าไปแต่พวกเขาถูกจัดการได้หมด” เจียงชูเหวินกล่าว
“เจ้าควรระวังตัวเอาไว้”
ใบหน้าของฉู่เฉิงเหยายังไร้ความรู้สึก เขาไม่คิดสนใจคุณหนูจูเลย ในขณะที่เจียงชูเหวินเริ่มสนใจนางแทน
เมื่อรถม้าของคุณหนูจูเข้ามายังเมืองหลวง นางพักที่สถานีพักม้าไม่ไกลเท่าไหร่นัก เจียงชูเหวินเป็นคนแรกที่ขอพบนาง แต่ปรากฏว่าเขาโดนเมิน…
“คุณหนูของพวกบ่าวเดินทางมาไม่นานเพิ่งได้พักผ่อน คุณชายมาหาพรุ่งนี้เถอะเจ้าค่ะ” น้ำเสียงที่นางใช้ค่อนข้างดุดัน
ในทางกลับกันเจียงชูเหวินประทับใจมาก เดิมทีเขาคิดว่าคุณหนูและสาวใช้จากเป่ยเฟิงจะหวาดกลัวหลังจากที่ต้องเข้ามาในเมืองหลวง
“ท่านอ๋องเหยากับข้าเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เขามีภารกิจมากจึงให้ข้ามาต้อนรับก่อน”
“คุณชาย คุณหนูของพวกเราเหนื่อยมาก ต้องการพักผ่อนเจ้าค่ะ” ความคิดของนางไม่เปลี่ยนไปเลย
เจียงชูเหวินนิ่งอึ้ง เขาไม่เคยคิดว่าสาวใช้ของนางจะไม่ใส่ใจกับเขาเช่นนี้ อีกทั้งบ่าวเป็นอย่างไรนายก็เป็นเช่นนั้น
ตอนนี้เขาเริ่มสงสัยหญิงสาวสกุลจูมาก เขาฝืนยิ้มออกมา
“พรุ่งนี้ข้าจะมาอีกครั้ง”
ที่สถานีพักม้าจิงเฉิงแห่งนี้ สะดวกสบายกว่าที่ก่อนมากนัก เว่ยหนิงอาบน้ำแล้วนอนทั้งวัน เมื่อตื่นมาอีกครั้งก็เข้าสู่วันใหม่แล้ว หลังจากที่ล้างหน้าทานอาหาร นางก็ได้ยินที่ชุ่ยหงรายงา
“คุณหนู ลูกพี่ลูกน้องของท่านอ๋องเหยามาเยี่ยมเจ้าค่ะ” ชุ่ยหงรายงาน
ระหว่างการเดินทางชุ่ยหงเริ่มภักดีและเชื่อฟังคำสั่งของหญิงสาวผู้นี้มาก ไม่ว่านางจะสั่งอะไร พวกเขาพร้อมที่ะทำตามทุกอย่าง
“ให้เขารอ ข้ายังกินมื้อเช้าอยู่”
ยิ่งเจียงชูเหวินต้องรอคอยนานมากเพียงใด? หัวใจของเขาก็ยิ่งรุ่มร้อนมากยิ่งขึ้น เขาอยากรู้อยากเห็นว่าหน้าตาของหญิงสกุลจูเป็นอย่างไร?
เมื่อชูเหวินได้พบนางเข้าจริงๆ เขาฝันสลาย
รอยแผลเป็นที่ใบหน้าทั้งด้านซ้ายและด้านขวาของนางดูน่ากลัวมาก
“ข้าได้ยินมาว่าคุณชายเจียงต้องการพบข้า?” นางพูดด้วยความเขินอายซ้ำยังขยิบตาให้กับเขาอีกด้วย เจียงชูเหวินแทบอยากอาเจียน เขารีบหาข้ออ้างก่อนจะวิ่งหนีไป
ท่าทางของเว่ยหนิงเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที นางรู้ว่าชายที่วิ่งหนีไปคือคนที่ส่งมือสังหารมาฆ่านาง นางได้สอบปากคำนักฆ่าแล้ว
นางไม่สนใจเจียงชูเหวิน เพียงแค่อยากเจอท่านอ๋องเหยาเท่านั้น เว่ยหนิงรู้สึกคุ้นเคยชื่อนี้ และอาจจะทำให้ฟื้นความทรงจำขึ้นมาได้
เว่ยหนิงลูบคาง ครุ่นคิด
เมื่อไหร่นางจะได้เจอเขา?
หลังจากที่เจียงชูเหวินออกจากโรงเตี๊ยมเขารีบไปที่จวนท่านอ๋องเหยาทันทีเพื่อบอกเล่าสิ่งที่พบเจอ
“ลูกพี่ลูกน้อง คุณหนูจูไม่เพียงแต่บ้าและโง่ นางยังอัปลักษณ์อีกต่างหาก”
ฉู่เฉิงเหยาไร้ปฏิกิริยา
“นาง…นางให้ท่าเย้ายวนข้า แต่ข้าแทบอยากอาเจียน!” เมื่อคิดถึงฉากนั้นเขาแทบอยากอาเจียนออกมาจริงๆ
“ข้าไม่ได้วางแผนจะพบนางตั้งแต่แรก” ฉู่เฉิงเหยาว่า นับตั้งแต่ฮ่องเต้พระราชทานอภิเษกสมรสให้ เขาไม่มีความตั้งใจจะยอมรับอยู่แต่เดิม เขาจึงไม่สนใจและไม่คิดจะทำอะไรกับนางทั้งสิ้น
ฉู่เฉิงเหยาไม่เจอหญิงสกุลจูมาหลายวันแล้ว ตอนนี้เหมือนว่านางจะถูกลืมอยู่ที่โรงเตี๊ยม
ที่เมืองหลวง หอคอยกวนฮวา
ร่างในชุดสีแดงยืนอยู่บนหลังคา เพื่อมองทิวทัศน์ที่กว้างไกลของเมืองหลวง การจ้องมองของเขาราวกับต้องการเจาะทะลุกำแพงทุกหลังเพื่อหาร่างที่คุ้นเคย
ถังหลี่และเว่ยฉิงยืนอยู่บนชั้นสอง พวกเขามองร่างที่อยู่บนดาดฟ้าฝั่งตรงข้าม
“เมื่อเทียบกับตู้เย่แล้วดูเหมือนข้าจะไม่มีความเป็นมารดามากเท่าเขา” ถังหลี่เปรยออกมา
ระหว่างการเดินทางตู้เย่กระวนกระวายมากกว่านาง จนถังหลี่และเว่ยฉิงเหมือนคนนอก
“ตู้เย่ทำให้ข้ารู้สึกว่าเว่ยหนิงเป็นโลกทั้งใบของเขา” เว่ยฉิงที่ไม่ใช่คนพูดอย่างจริงจังถึงกับออกความเห็นที่แหลมคม
“พอไม่เจอร่องรอยของเว่ยหนิง เหมือนกับว่าเขาสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป”
“ใช่ เราควรรีบหาเว่ยหนิงเพื่อที่เขาจะได้จิตวิญญาณของตัวเองกลับคืนมา” ถังหลี่ว่า
แต่ในเมืองหลวงที่กว้างใหญ่แห่งนี้ เว่ยหนิงจะไปอยู่ที่ไหนกัน?