เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ - บทที่ 98 ไปเมืองใหญ่
บทที่ 98 ไปเมืองใหญ่
ถังหลี่ไม่รู้ว่าทางด้านสกุลขงเกิดอะไรขึ้นบ้าง เมื่อนางกลับบ้านหญิงสาวได้รับจดหมายที่ทำให้นางมีความสุข
จดหมายนี้เขียนโดยเว่ยฉิง นางเคยบอกกับเว่ยฉิงว่าอยากหาเวลาเข้าไปดูร้านชาดร้านอื่นในเขตเมือง ชายหนุ่มบังเอิญต้องไปทำธุระพรุ่งนี้พอดี ดังนั้นเขาจึงถามถังหลี่ว่าอยากไปด้วยกันหรือไม่?
นางครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ช่วงนี้ถังหลี่นั้นงานยุ่งมากและไม่ได้มีเวลาให้บุตรทั้งสองเลย ดังนั้นการไปทั้งครอบครัวจะไม่เป็นเรื่องดีหรือ? นางล้มตัวนอนบนเตียงแทบอดใจรอไม่ได้ที่จะได้พบสามีในวันรุ่งขึ้น
เช้าวันต่อมา ถังหลี่ลุกจากที่นอน
หลังจากนั้นไม่นานนักเด็กทั้งสองก็ตื่นขึ้น ดวงตาของเด็ก ๆ เป็นประกายด้วยความคาดหวัง คนทั่วไปต่างอยากเข้าไปในเมืองใหญ่ พวกเขาก็เช่นกัน เด็ก ๆ อยากเข้าไปดูในเมือง พวกเขาเคยอยู่แต่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ไม่เคยเห็นว่าโลกภายนอกเป็นอย่างไร ..
สำหรับพวกเขาแล้วเมืองหลวงนั้นอยู่ไกลเกินไป และแผ่นดินก็กว้างใหญ่ ในแคว้นต้าโจวมีอยู่หนึ่งร้อยสี่สิบเมือง ชิงเหอมีสิบหกเมือง เมืองที่อยู่ใกล้กับเมืองเหย่าสุ่ยที่สุดคือเมืองเหอตง
ครอบครัวของถังหลี่กำลังเดินทางไปที่เหอตง หลังจากถังหลี่และลูกทั้งสองรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว เว่ยฉิงก็มาถึงบ้านด้วยรถม้าที่ชายหนุ่มเช่ามา มันเร็วกว่ารถม้าแบบอื่นมาก จากเหย่าสุ่ยไปเหอตงหากใช้รถม้าธรรมดาจะใช้เวลาถึงสี่ชั่วยาม ในขณะที่รถม้าคันนี้ใช้เวลาเพียงสองชั่วยามเท่านั้น
ถังหลี่เดินออกไปพร้อมกับเด็ก ๆ
“ป้าจ้าวฝากดูแลบ้านด้วยนะ”
ป้าจ้าวยืนอยู่ที่ประตูบ้าน ยิ้มและมองดูเจ้านายทั้งสามเดินออกไป
“เจ้าค่ะนายหญิง ขอให้เป็นสนุกนะเจ้าคะ”
เว่ยฉิงอุ้มลูก ๆ ขึ้นไปบนรถม้าทีละคนก่อนจะเดินไปหาถังหลี่
“ฮูหยิน ข้าอุ้มไหม?”
ถังหลี่เอื้อมมือไปหาเว่ยฉิงและยิ้มกว้าง เขาอุ้มนางขึ้นไปบนรถม้า ถังหลี่นั่งข้างในรถม้าส่วนชายหนุ่มนั่งด้านหน้า เขากุมบังเหียนม้าก่อนจะสะบัดเชือกเป็นสัญญานให้ม้าออกเดิน
นี่เป็นการนั่งรถม้าครั้งแรกของเอ้อร์เป่าและซานเป่า ทั้งคู่ตื่นเต้นกับประสบการณ์ใหม่มาก เด็กน้อยพากันมองออกไปด้านนอกหน้าต่างในขณะที่รถม้ากำลังแล่นไป
สายตาของถังหลี่มองไปยังแผ่นหลังของเว่ยฉิง ดูไปแล้วก็เหมือนกับการพาครอบครัวไปเที่ยวเล่น
แต่คงจะดีกว่านี้หากต้าเป่าและสวี่เจวี๋ยมาด้วยกัน
เว่ยฉิงรับรู้ถึงสายตาที่มองมายังตัวเอง เมื่อเขาหันศีรษะกลับมาก็เห็นภรรยากำลังมองมา
ฮึฮึ… ภรรยาแอบมองเขาอยู่หรือ? แต่เขาจับได้แล้ว..
ที่จริงแล้ว เขาดูหล่อเหลายามที่ได้ขี่ม้ามากกว่า หากมีโอกาสจะแสดงให้นางเห็นว่าเขาขี่ม้าได้สง่างามเพียงใด!
เมื่อเดินทางผ่านไปได้ครึ่งทาง ถนนเริ่มขรุขระเล็กน้อยทำให้ความเร็วของรถม้านั้นช้าลง ถังหลี่กอดเด็กทั้งสองคนไว้ข้างกาย ซานเป่าเอื้อมมือของนางออกมาและกอดเอวของมารดาไว้ราวกับเกี๊ยวน้อย ๆ
“ท่านแม่ ข้างหน้ามีคนอยู่เยอะเลย” เอ้อร์เป่าพูดขึ้นทันที
ถังหลี่เปิดม่านและมองออกไป นางเห็นว่ามีคนจำนวนมากเดินอยู่ข้างหน้าของพวกเขา คนเหล่านั้นพากันแบกของ ทั้งก้อนหิน รูปปั้น ราวกำลังจะไปก่อสร้างอะไรบ้างอย่าง…
พวกเขาพากันเดินขวางรถม้าของถังหลี่เอาไว้
“ภรรยาเราพักกันหน่อยไหม?” เว่ยฉิงหยุดรถม้าหันไปพูดกับถังหลี่ที่นั่งอยู่หลังม่าน
“เอาสิ” ถังหลี่ลงจากรถม้าพร้อมเด็กทั้งสองคนในอ้อมกอด
ชายหนุ่มลงจากรถม้าก่อนจะอุ้มทั้งสามคนลงมายืนด้านล่าง เขาหยิบกาน้ำออกมาจากบนรถม้าแล้วเทน้ำใส่จอกให้แต่ละคน ส่วนเว่ยฉิงและถังหลี่แบ่งปันถ้วยใช้รวมกัน เจ้าจิบ ข้าจิบ อย่างคุ้นเคย
เว่ยฉิงมองไปไม่ไกลก็เห็นว่ากลุ่มคนด้านหน้าพวกเขากำลังแบกเสาสีแดงขนาดใหญ่
“เขากำลังสร้างอะไร?”
“ไปดูกันไหม?” ถังหลี่เองก็สงสัยเช่นกัน
ทั้งสองเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ มากขึ้น ผู้คนนับสิบชีวิตกำลังแบกเสาไปตามถนน ตอนนี้มีหินก้อนใหญ่ขวางไว้ทำให้ไม่สามารถขนของต่อไปได้
“พวกเรายกขึ้นสูงอีกหน่อย”
“มันหนักเกินกว่าจะยกแล้ว ย้ายก้อนหินก้อนนี้ออกไปเถิด”
“ก้อนหินใหญ่เช่นนี้จะเอาออกอย่างไร”
“ให้คนสามสี่คนไปช่วยกัน ! ”
พวกเขานับสิบคนต่างหอบและอ่อนแรง เว่ยฉิงที่เดินมาเห็นพวกเขาสามสี่คนกำลังจะยกหิน เขาก็พับแขนเสื้อขึ้นเผยให้เห็นแขนที่แข็งแรงของตนเอง มือใหญ่ทั้งคู่วางลงบนหินก้อนนั้น เขาก้มตัวแล้วออกแรงผลักหินหนักห้าร้อยชั่งออกไป
หากไม่มีหินที่ขวางทางแล้ว เสาต้นนี้ก็จะเลี้ยวที่หัวมุมถนนได้อย่างราบรื่น
“พี่ชายขอบคุณมาก!” หนึ่งในสิบคนที่กำลังแบกเสาพูดกับชายหนุ่มด้วยรอยยิ้ม ดวงตาของเขากวาดมองไปที่เว่ยฉิงก่อนที่จะถอนหายใจ
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่…พวกเจ้าทำอะไรกันอยู่หรือ?” เว่ยฉิงมองไปที่ถนนมีวัสดุก่อสร้างวางเรียงรายกันอยู่
“สร้างวัดน่ะ” ชายคนนั้นกล่าว
“วัดอะไรหรือ?”
“วัดเจ้าแม่กวนอิมที่สร้างโดยขุนนางใหญ่ในซ่างจิงเพื่อขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์”
“สร้างด้วยเหตุใดหรือ?” เว่ยฉิงยิ่งฟังก็ยิ่งสงสัย
“เหมือนเขาสูญเสียลูกสาวไป ก่อนจะพบนางอีกครั้งในบริเวณใกล้ ๆ นี้ ท่านเหมือนจะเป็น..”
“แม่ทัพ”
ชายคนนั้นมองไปที่สตรีงดงามผู้หนึ่งที่พูดขึ้นมา เขายิ้มรับ
“ใช่เป็นท่านแม่ทัพ วัดนี้ได้รับการบริจาคเงินโดยภรรยาของท่าน”
เขาเหลือบมองเว่ยฉิง
“พี่ชาย ข้าไม่ว่างตอนนี้ ไว้ท่านมาที่บ้านข้าในเหอตง หากข้าว่างจะเลี้ยงเหล้าท่านนะ!”
หลังจากพูดจบเขาก็เดินจากไป
เว่ยฉิงหันไปมองภรรยาตนเองเห็นท่าทางนางดูสับสน
ถังหลี่กำลังคิดถึงกู้อิ๋น ดูเหมือนว่าจวนแม่ทัพจะให้ความสำคัญกับบุตรสาวที่หายสาบสูญมาก
กู้อิ๋นได้รับความรักจากบิดามารดาในฐานะของ…เจ้าของร่างเดิมผู้นี้.. ซึ่งก็คือตัวนางนั่นเอง
กู้อิ๋นเป็นคนทะเยอทะยานและมีนิสัยร้ายกาจ นางหลอกเอาจี้หยกไปแล้วไต่เต้าขึ้นเป็นถึงฮองเฮา กลายเป็นบุตรสาวท่านแม่ทัพ อีกทั้งนางยังเป็นตัวเอกของเรื่องนี้ หากถังหลี่ปรากฏตัวขึ้นในซ่างจิงเมื่อใด กู้อิ๋นคงต้องกำจัดนางอย่างแน่นอน
เท่าที่นางจะพอทำได้ในตอนนี้ก็คือ นางต้องแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้กู้อิ๋นไม่สามารถกำจัดนางได้ง่าย ๆ และเพื่อจะแข่งขันกับนางให้ได้ …ท่าทางของถังหลี่ในตอนนี้จึงดูเยือกเย็นและสง่างาม
“ภรรยา…เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าเป็นท่านแม่ทัพ?” เว่ยฉิงถาม
“พี่รองเคยพูดถึงน่ะ เขามาจากซ่างจิง” ถังหลี่กล่าว
เมื่อเห็นว่าภรรยาของตนยังคงนิ่งเงียบ เขาจึงกล่าวขึ้นมาทันที
“ฮูหยินเจ้าไม่สบายใจหรือ ? ต่อไปเมื่อข้ามีงานและฐานะที่ดี ข้าจะบริจาคเงินสร้างวัดให้เจ้านะ ”
เขาช่างโง่งมจริง ๆ คิดว่านางกำลังทุกข์เพราะอิจฉาที่คนอื่นมีวัดเป็นของตัวเองหรือ?
เมื่อมองไปที่ใบหน้าหล่อเหลาและหยาบกระด้างของอีกฝ่าย อารมณ์ของถังหลี่ก็ดีขึ้น
นางโชคดีที่ได้มาเจอบุรุษผู้นี้
เขาเป็นบุรุษที่จะกลายเป็นวายร้ายผู้ยิ่งใหญ่ได้ อีกทั้งเขายังมีความลับเก็บซ่อนอยู่ แต่ตอนนี้ไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็ตาม เขาคือสามีของข้า!
ถังหลี่กอดแขนของเขา นางเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและแย้มยิ้มราวกับดอกไม้
“ได้สิ ข้าจะรอเจ้านะ”