เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่ 1636 อยากคืนดี
บทที่ 1636 อยากคืนดี
หลังจากคืนดีกลับยู่ฉือยี่ซูแล้ว อารมณ์ของถางหยวนหยวนก็กลับมาเป็นปกติ
เธอแทบจะทนไม่ไหวที่จะแบ่งปันอารมณ์ดีของตนเองให้กับเมิ่งเข่อเฟย แต่ว่าวันนั้นกลับมาดึกเกินไป เมิ่งเข่อเฟยหลับไปแล้ว
หลังจากนอนลงแล้ว ถางหยวนหยวนก็รู้สึกว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตอนกลางวันเหมือนกับความฝัน ไม่เหมือนความจริงอย่างมาก เพราะเรื่องราวเป็นไปตามที่เธอคิดเอาไว้เลย
เธอนอนอยู่ในความมืดมิด ดวงตาคู่นั้นเบิกโต ไม่อาจข่มตาให้หลับได้ แต่ว่าข้างๆก็ไม่มีคนให้พูดคุยด้วย
จะใช้โทรศัพท์ก็กลัวว่าจะรบกวนคนอื่น ดังนั้นถางหยวนหยวนก็ไม่กล้าพลิกตัวไปมา ได้แต่นอนอย่างเงียบๆ
เธอก็ไม่รู้ว่านอนอยู่นานแค่ไหน ต่อมาสุดท้ายก็งัวเงียหลับไปเลย
รอจนตื่นขึ้นในตอนเช้าวันต่อมา ภายในห้องเงียบเหงา เธอลุกขึ้นไปตรวจดูที่เตียงของเมิงเข่อเฟย พบว่าผ้าห่มถูกพับอย่างดี เห็นชัดว่าเธอออกจากห้องไปแล้ว
เธอขยี้ตา ตนเองนอนตื่นสายเหรอ
ถางหยวนหยวนลงจากเตียงเตรียมไปล้างหน้าแปรงฟัน ก็พบกับหยวนเย่าหันที่ออกมาจากข้างในพอดี
นับตั้งแต่การเปิดโปงครั้งก่อน ทั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้พูดกันอีก เห็นหน้ากันก็เหมือนคนไม่รู้จัก เพราะความสัมพันธ์ทางครอบครัวของถางหยวนหยวน หยวนเย่าหันและจางเสี่ยวลู่จึงไม่กล้าทำอะไรเธอ
ตอนนี้เห็นเธอจะใช้ห้องน้ำ หลังจากที่หยวนเย่าหันเดินออกมา ก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองเธอ
“หยวนหยวน”
ถางหยวนหยวนไม่ได้สนใจเธอ
“เรื่องครั้งก่อน คือพวกเราผิดเอง”
ถางหยวนหยวนเตรียมจะบีบยาสีฟัน ได้ยินอย่างนั้น อากัปกิริยาที่มือก็ชะงักทันที
“พวกเราชอบพี่ชายเธอก็จริง แต่พวกเราไม่เคยหลอกใช้ให้เธอส่งของขวัญให้พวกเรา แล้วยังนินทาเธอลับหลังอีก”พูดมาถึงตรงนี้ สีหน้าของหยวนเย่าหันแสดงให้เห็นความเสียใจ“ขอโทษจริง”
น้ำเสียงขอโทษของเธอก็ดูจริงใจมาก ดังนั้นถางหยวนหยวนจึงหันไปมองเธอ “ความเปลี่ยนแปลงของเธอฉันและเสี่ยวลู่ต่างก็ดูออก อาจจะเป็นเพราะคำพูดของพวกเราสร้างความเจ็บปวดให้เธอ และฉันก็รู้สึกว่า ผู้หญิงเราไม่จำเป็นต้องผอมถึงจะสวย นี่เป็นตัวเลือกของทุกคน คือชีวิตของตัวเธอเอง พวกเราไม่ควรกำหนดกฎเกณฑ์ชีวิตและรูปลักษณ์หน้าตาของเธอ”
พูดจบ หยวนเย่าหันเห็นสีหน้าท่าทางของถางหยวนหยวนผ่อนคลายลง ก็ก้าวมาข้างหน้ากุมมือเธอไว้ “ฉันกำลังขอโทษเธออย่างจริงจัง เธออย่าโกรธพวกเราเลยนะ ฉันสำนึกผิดแล้ว ให้อภัยฉันได้มั้ยหยวนหยวน”
เพราะเรื่องเมื่อคืน ดังนั้นตอนนี้ถางหยวนหยวนก็อารมณ์ไม่ดีนัก บวกกับท่าทางขอโทษที่จริงใจของหยวนเย่าหัน
ดังนั้นถางหยวนหยวนจึงลดความเข้มงวดที่มีต่อเธอลงเล็กน้อย แต่ท่าทางก็ยังเย็นชาแข็งกร้าว
“เธอ ให้ฉันพิจารณาสักครู่นะ ในเมื่อครั้งก่อนที่พวกเธอนินทาฉันลับหลังนั้น ตอนนี้ฉันยังไม่หายโกรธ”
ได้ยินคนอื่นวิจารณ์ตนเอง แต่กลับไม่ได้ชื่นชม แต่เป็นคำพูดดูหมิ่นว่าร้าย ก็ยากที่จะลืมไปได้
ถางหยวนหยวนปกติก็สามารถที่จะไม่คิดอะไร แต่พอนึกขึ้นมา ก็รู้สึกเหมือนกล้ามเนื้อหัวใจตายอย่างนั้น ความรู้สึกนี้สำหรับเธอแล้ว ช่างแย่มากจริงๆ
เธอไม่ชอบ
แต่ว่าคนเขาก็มาขอโทษแล้ว ดังนั้นถางหยวนหยวนก็คิดว่า ควรต้องให้อภัยก็ให้อภัย จะไม่ให้อภัยในทันที แต่ท่าทีผ่อนคลายลงเล็กน้อย
ตอนแรกหยวนเย่าหันก็พูดไปอย่างนั้น ลองหยั่งเชิงท่าทีของเธอ ถ้าเธอยังแข็งกร้าว อย่างนั้นก็รอให้เธอเย็นลงสักพักก่อน
คิดไม่ถึงว่าเธอจะจัดการกับอารมณ์ได้รวดเร็วขนาดนั้น นี่ช่างน่ายินดีมาก “ไม่เป็นไร นี่เป็นความผิดของพวกเราจริงๆ ต่อให้เธอจะโกรธอีกนั่นก็สมควรแล้ว ฉันไม่บีบบังคับเธอ เธอค่อยๆคิด ว่าสุดท้ายแล้วจะให้อภัยพวกเรามั้ย ฉันไม่รบกวนเธอแล้ว ใช่แล้ว ฉันเห็นยาสีฟันเธอใกล้จะหมดแล้ว ดังนั้นจึงซื้อมาให้เธอใหม่ แล้วยังมีแปรงสีฟันกับผ้าขนหนู ฉันวางไว้ข้างให้เธอแล้ว”
ได้ยินดังนั้น ถางหยวนหยวนชำเลืองมอง ก็พบว่ามีผ้าขนหนูกับแปรงสีฟันใหม่คู่หนึ่งจริงๆ
เดี๋ยวก่อน คู่หนึ่งเหรอ
“อีกคู่หนึ่งคือ”
“ให้เมิ่งเข่อเฟย เธอกับหล่อนไม่ใช่เพื่อนรักกันเหรอ”หยวนเย่าหานยิ้มหวานหยด“ดังนั้นจึงเตรียมไว้ให้พวกเธอสองคน ขอโทษด้วยนะ”
ทั้งพูดอ่อนหวานทั้งให้ของ แม้ว่าจะเป็นของเล็กๆน้อยๆ แต่ใจของถางหยวนหยวนก็อ่อนลงไม่น้อยแล้ว ตอนนี้ไม่พูดคำพูดที่เย็นชาแข็งกร้าวอีกแล้ว ได้แต่พูดขอบคุณอย่างไม่สบอารมณ์
“ไม่ต้องเกรงใจ หวังว่าในอนาคตพวกเราจะเป็นเพื่อนที่ดีกันได้ อย่างนั้นฉันไปเรียนก่อนนะ ให้รอเธอมั้ย”
“ไม่ต้องหรอก”
หลังจากรอให้หยวนเย่าหันจากไปแล้ว ถางหยวนหยวนมองดูแปรงสีฟันและผ้าขนหนูของใหม่พวกนั้น แปรงสีฟันเป็นสีชมพูอ่อน ด้านบนยังมีรูปภาพ น่ารักๆอีกด้วย
ผ้าขนหนูมีลายสตรอว์เบอร์รี แต่ผืนของเมิ่งเข่อเฟยมีลายซากุระ สองผืนวางไว้ด้วยกันดูเหมือนเป็นเพื่อนรักกัน
ไม่รู้ทำไม ถางหยวนหยวนรู้สึกว่าโลกนี้ใจดีกับเธอขึ้นมา
โอ้ย คิดต่อไปไม่ได้แล้ว เธอต้องรีบล้างหน้าแปรงฟันไปเรียน
จากนั้นถางหยวนหยวนก็รีบไปที่ในห้องเรียน
รอจนถึงตอนเที่ยงไปโรงอาหาร ถางหยวนหยวนจึงได้ลากเมิ่งเข่อเฟยมาคุยเรื่องที่เธอเจอหยวนเย่าหันที่ห้องน้ำในตอนเช้าแล้วยังเรื่องผ้าขนหนูกับแปรงฟันด้วย
“เฟยเฟย เรื่องก่อนหน้านี้เธอว่าฉันก้าวร้าวมากไปเหรอ พวกเขาถึงมาทำตัวเป็นมิตรกับฉันแบบนี้ พวกเราจะคืนดีกับพวกหล่อนมั้ย”
เมิ่งเข่อเฟยนึกถึงท่าทางน่ากลัวของสองคนนั้น มาถึงริมฝีปากก็เปลี่ยนไปเลย “แล้วแต่ตัวเธอเองเถอะ ถ้ารู้สึกว่าพวกเขาจริงใจ อยากจะคืนดีกับพวกเธอก็ได้”
อีกอย่างสองคนนั้นก็ทำอะไรถางหยวนหยวนไม่ได้
ได้ยินดังนั้น ถางหยวนหยวนรู้สึกว่าอารมณ์เธอตกต่ำลง
“เฟยเฟย ถ้าไม่อย่างนั้นก็ช่างเถอะ ในเมื่อพวกหล่อนสองคนเคยรังแกเธอก่อนหน้านี้ ตอนนี้พอบอกจะคืนดีก็คืนดี ไม่ยุติธรรมกับเธอเลย”
เมิ่งเข่อเฟยหวั่นไหวในใจ มองเธออย่างซึ้งใจ
ตอนลำบากเธอก็ยังคิดถึงตนเอง น่าเสียดาย…
เธอยิ้มมุมปากอย่างไม่มีความหมาย
“ไม่เป็นไรนี่ ยุติธรรมไม่ยุติธรรม ฉันไม่ได้สนใจ”
เธออยากจะคืนดีกับพวกหล่อนก็ไปคืนดีกับพวกหล่อนเถอะ ในเมื่อเธอก็ไม่สนใจ
คำพูดและท่าทางแบบนี้ ห่างเหินมากเป็นพิเศษ ถางหยวนหยวนมองเธออย่างสงสัย“เธอเป็นอะไร”
เมิ่งเข่อเฟยส่ายหน้า“ไม่มีอะไร”
พูดจบ เธอสูดลมหายใจลึกๆพูดว่า“ฉันก็รู้สึกว่าเรื่องมันผ่านไปแล้ว ถ้ายังจะไม่คิดปล่อยวาง อย่างนั้นทุกคนอยู่ในหอพักเดียวกัน จะอึดอัดมากแค่ไหน”
“คืออย่างนี้เหรอ”
“ไม่อย่างนั้นจะเป็นแบบไหน”เมิ่งเข่อเฟยเหมือนนึกอะไรได้“ใช่แล้ว เมื่อวานเธอกับพี่ฉู่เฟิงไปเที่ยวไหน ”
ได้ยินชื่อจงฉู่เฟิง ถางหยวนหยวนก็อึ้งไปเล็กน้อย ตอนแรกคิดจะแบ่งปันเรื่องนี้กับเมิ่งเข่อเฟย แต่ตอนนี้เมื่อเธอถามแบบนี้ ถางหยวนหยวนก็รู้สึกผิดเล็กน้อย
เมื่อวานเธอไม่มีอารมณ์ ดังนั้นจึงไม่ได้บอกว่าไปพบพี่ชายของตนเอง หากวันนี้กลับบอกเมิ่งเข่อเฟยว่าไปพบพี่ชายมา อย่างนั้นเฟยเฟยจะคิดว่าตนเองหลอกลวงเธอหรือเปล่า
คิดมาถึงตรงนี้ ถางหยวนหยวนได้แต่พูดว่า“ก็ ก็ดี”
ได้ยินเธอยอมรับ มีความเย็นชาซ่อนอยู่ในดวงตาของเมิ่งเข่อเฟย แต่ต่อมาไม่นานก็หายไป เหมือนกับว่าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้น พูดอย่างอ่อนโยนว่า“มีความสุขก็ดีแล้ว”