เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่ 1649 จูงมือ
บทที่ 1649 จูงมือ
“ไม่มีคู่ จะไปมีคู่ได้ยังไง?”
จางหนิงอู่ทำสีหน้างงงวย “คนที่เพอร์เฟคขนาดนี้ยังไม่มีคู่? หรือว่าเขามีอะไรแปลกๆไม่เหมือนคนอื่น?”
คุณแม่จางตีลูกสาวตัวเองเบาๆด้วยความเอือมระอา
“ในสมองของลูกกำลังคิดอะไรอยู่? คนที่เพอร์เฟคอย่างเขาไม่คนที่ถูกใจ แล้วจำเป็นต้องมีอะไรแปลกๆด้วยเหรอ? ถ้าเอาตามความคิดของลูก ผู้ชายดีๆก็แปลกไปหมดทุกคนน่ะสิ?”
จางหนิงอู่ยกยิ้มมุมปาก “หนูก็ไม่ได้หมายความอย่างนั้น หนูแค่แปลกใจว่า จนป่านนี้แล้วทำไมเขายังโสด”
“ลูกไม่ต้องไปสนใจหรอก แม่ว่าเขาน่าจะมีความคิดเหมือนกับลูกนั่นแหละ จนถึงตอนนี้ก็ยังโสด ยังไม่รีบเข้าไปทำความรู้จักอีก?”
ภายใต้การยุยงของคุณแม่จาง ท้ายที่สุดจางหนิงอู่ก็เกิดการหวั่นไหว จึงหยิบลิปสติกและแป้งพับออกมาเติมหน้าตัวเอง จากนั้นก็เดินตรงไปยังยู่ฉือยี่ซู
“สู้ๆนะลูก”
คุณแม่จางยืนมองร่างเพรียวของลูกสาวจากด้านหลัง แล้วถูฝ่ามือด้วยความสุข ลูกสาวของเธอสวยขนาดนี้ ดีกว่ายัยผู้หญิงอ้วนตระกูลถางแน่นอน ยู่ฉือยี่ซูเห็นลูกสาวของเธอแล้วต้องชอบแน่เลย
ถ้าทั้งสองคนไปได้ด้วยดี ในอนาคตตระกูลที่ตระกูลเย่และตระกูลหานสนับสนุนจะไม่ใช่บริษัทตระกูลถางอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นบริษัทตระกูลจางแทน
จินตนาการถึงสถานะของตระกูลจางในอนาคตแล้ว คุณแม่จางก็รู้สึกตัวกำลังจะลอยขึ้นมาเลย
ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ จางหนิงอู่ยิ่งรู้สึกว่ารูปลักษณ์ของผู้ชายนั้นหล่อเหลามาก ดูดีกว่าที่เธอจินตนาการไว้เสียอีก ก่อนหน้านี้รู้สึกแค่ว่าหล่อ ทว่า ตอนนี้ยิ่งเข้าใกล้ จางหนิงอู่รู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นแรงมาก
ยิ่งอยู่ยิ่งใกล้ ในตอนที่จางหนิงอู่กำลังจะทักทายเขา
ทันใดนั้น ก็มีเสียงอุทานของฝูงชนดังขึ้น จางหนิงอู่ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เห็นทุกคนมองไปในทิศทางเดียวกัน แม้แต่ผู้ชายหล่อเหลาคนนั้นก็หันไป จางหนิงอู่จึงหันไปดูด้วยเช่นกัน
หญิงสาวในชุดยาวสลวยสีเงินทอง สวมรองเท้าส้นสูง กำลังค่อยๆเดินเข้ามาในงาน แสงไฟสาดส่องไปที่ตัวหญิงสาวคนนั้น ทำให้กากเพชรที่ตาของเธอประกายกว่าเดิม อายแชโดว์สีชมพูเข้ากันได้ดีกับใบหน้าของเธอ
ใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นมีขนาดเท่าฝ่ามือ หน้าตาสะสวยและประณีต ดวงตาคู่โตใสสะอาดราวกับว่าออร่าทั้งหมดในโลกนี้รวมอยู่ในดวงตาของเธอ เธอเหมือนจะตื่นเต้นเล็กน้อย แต่เธอก็พยายามทำให้ตัวเองผ่อนคลายที่สุด ความเขินอายและสีหน้าของเธอนั้นช่างเข้ากันนัก
ทันใดนั้น จางหนิงอู่อึ้งและยืนนิ่งไป
ผู้หญิงคนนี้คือ………
วันนี้เป็นงานเลี้ยงก้าวผ่านวัยของลูกสาวตระกูลถาง เธอแต่งตัวสวยขนาดนี้ แถมแสงไฟก็สาดส่องไปที่ตัวเธอ ดังนั้น เธอคงจะเป็นลูกสาวตระกูลถางถางหยวนหยวนสินะ?
แต่ว่า ได้ข่าวว่าลูกสาวตระกูลถางอ้วนเหมือนหมูเลยไม่ใช่เหรอ? แล้วคนนี้คือใครกัน?
และไม่ใช่เพียงแค่จางหนิงอู่ คนอื่นๆที่อยู่ในงานก็ตกตะลึงและเริ่มจับกลุ่มคุยกัน
“คนนี้คือใครกัน? ทำไมแสงไฟถึงไปสาดส่องบนตัวเธอ?”
“เธอโง่หรือเปล่า ในเมื่อแสงไฟสาดส่องไปที่ตัวเขาขนาดนั้นก็แสดงว่าเป็นเจ้าของงานน่ะสิ แล้วลองเดาอายุจากหน้าแล้ว คงจะเป็นลูกสาวตระกูลถางนั่นแหละ”
“แต่ได้ข่าวว่าลูกสาวตระกูลถางเป็นคนอ้วนไม่ใช่เหรอ? คนตรงหน้าหุ่นดีขนาดนี้ จะเป็นคุณหนูถางได้ยังไง?”
“นั่นมันเรื่องตั้งแต่สมัยไหนแล้ว คนอื่นเขาจะลดน้ำหนักไม่ได้เลยหรือไง?”
“OMG”
คำพูดเหล่านี้เข้าหูจางหนิงอู่ จากนั้นเธอก็หันกลับไปมองผู้ชาย แล้วหันกลับมามองถางหยวนหยวนอีกครั้ง
แล้วเธอก็มีความคิดแปลกๆผุดขึ้นมาในใจ หญิงสาวคนนี้ช่างเหมาะสมกับชายรูปงามในเมื่อสักครู่เหลือเกิน
เมื่อความคิดนี้อยู่ในหัว จางหนิงอู่แทบจะกัดลิ้นตัวเองทิ้ง ถุ้ยๆๆ ผู้ชายเพอร์เฟคแบบนั้นมีไม่มาก แต่เธอกลับยกให้คนอื่นง่ายๆแบบนี้?
ทว่า ดูจากรูปร่างหน้าตาแล้ว ทั้งสองคนเหมาะสมกันมากจริงๆ
คู่รักหน้าตาแบบนี้ ถ้ามีลูกด้วยกัน ลูกต้องออกมาสวยและหล่อมากแน่เลย?
จางหนิงอู่คิด
ตอนแรกถางหยวนหยวนก็เตรียมตัวมาดีแล้ว ทว่า หลังจากที่แสงไฟสาดส่องไปยังตัวเธอนั้น เธอก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้น ทำได้เพียงหายใจเข้าลึกๆ แล้วเดินเข้าไปภายในงานเลี้ยง มุ่งตรงไปยังบุคคลที่หัวใจสั่งให้ไปหา
เพราะทั้งสองอยู่ห่างกันค่อนข้างไกล ก็เลยเดินไปได้อย่างปกติ หลังจากที่ยิ่งใกล้ยู่ฉือยี่ซู ถางหยวนหยวนก็มีความคิดที่อยากจะบินเข้าไปหาเขาโดยเร็ว
และน่าจะเพราะความตื่นเต้น ตอนที่กำลังจะเดินไปถึงตัวเขา ถางหยวนหยวนก็ขาพลิก
สีหน้าของเธอเปลี่ยนไป ในใจรู้สึกกระวนกระวายไปหมด
กำลังจะล้มลงพื้นแล้ว แต่เมื่อนึกถึง รองเท้า ชุด และเมคอัพกับผมที่อุตส่าห์ใช้เวลาทำหลายชั่วโมง
ถางหยวนหยวนทำอะไรไม่ถูก และตัดสินใจที่จะเดินต่อไป
สายตาผู้คนต่างก็จ้องไปที่ตัวเธอ เมื่อเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวก็อุทานขึ้นมา
“กรี๊ด!”
ในช่วงเวลาแห่งความเสี่ยงนั้น มือหนาที่อบอุ่นก็มาจับไว้ที่ข้อมือเล็กของถางหยวนหยวน แล้วดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด
คุณพ่อถางที่กำลังจะพุ่งเข้าไปเพราะเห็นว่าลูกสาวของตัวเองกำลังจะล้ม เมื่อเห็นเหตุการณ์เมื่อสักครู่ เขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก คุณนายถางเอือมระอาจนพูดเอ็ดเขาไปเล็กน้อย “คุณไม่เห็นเหรอว่ายี่ซูอยู่ตรงหน้า? คุณไม่จำเป็นต้องทำเหมือนฮีโร่จะเข้าไปช่วยหรอก?”
คุณพ่อถางเบะปาก แล้วถูจมูกของตัวเองเบาๆ “ทำไมผมถึงรู้สึกว่า ลูกสาวเราโตขึ้น ต่อไปก็จะออกเรือนแล้วล่ะ?”
คุณนายถางขึ้นเสียงเล็กน้อย “ออกเรือนแล้วยังไง? ถ้าตอนนั้นฉันไม่ออกเรือน แล้วจะได้แต่งงานกับคุณเหรอ?”
คุณพ่อถางที่ถูกเอ็ดยิ้มออกมาเล็กน้อย “จะว่าไปมันก็จริง”
ท่ามกลางสายตาผู้คน ถางหยวนหยวนถูกยู่ฉือยี่ซูดึงเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด ทั้งคู่ไม่ได้ล้มลงไป แต่ทั้งสองคนมีความใกล้ชิดมากต่อหน้าผู้คน
ถางหยวนหยวนหน้าแดงขึ้นมาทันที กระวนกระวายใจจนอยากจะผละตัวยู่ฉือยี่ซูออก
แต่เธอผละไม่ออก เพราะแขนของยู่ฉือยี่ซูนั้นมีแรงเยอะมาก เขาพยุงให้เธอยืนดีๆแล้วก็พูดขึ้นว่า “รีบอะไร? ไม่ได้ตั้งใจอุ้มเธอขึ้นมาเสียหน่อย แค่พยุงตัวเธอเอง คนอื่นเขาจะว่าอะไรได้?”
ถึงจะเป็นเช่นนี้ ทว่า ถางหยวนหยวนก็ยังคงเขินอายจนสีหน้าแดงระเรื่อ
เธอพูดกับยู่ฉือยี่ซูเบาๆว่า “ฉันแค่ตื่นเต้นนิดหน่อยค่ะพี่”
“ไม่ต้องตื่นเต้น มีพี่อยู่ทั้งคน”
มีพี่อยู่ทั้งคน
ประโยคนี้ทำให้ถางหยวนหยวนรู้สึกปลอดภัย ไม่ว่ายังไง ก็มีพี่เขาอยู่ข้างๆ เธอไม่ต้องตื่นเต้น
จากนั้นพิธีกรในงานก็ขึ้นมาพูดการดำเนินการต่างๆของงานเลี้ยงในวันนี้ เดิมทีถางหยวนหยวนคิดว่าพิธีก้าวผ่านวัยจะยุ่งยากและลำบาก จึงเตรียมการมาพร้อมแล้ว เธอก็เลยตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา
ตลอดจนสิ้นสุดพิธี เธอก็ยังคงมึนงง
“แค่นี้ ก็เสร็จแล้ว?”
“ใช่”
ยู่ฉือยี่ซูบีบมือของเธอเบาๆ “เธอยังอยากอยู่ในงานต่อไหม?”
หลังได้ยิน ถางหยวนหยวนก็ส่ายหัว “พี่คะ เราลงไปจากเวทีได้หรือยัง?”
“ได้แล้ว ต่อไปก็ให้พ่อแม่ของเธอมากล่าวอะไรสักหน่อย หิวหรือยัง? เหนื่อยไหม? เดี๋ยวพี่พาไปหาของกินเอาไหม?”
ถางหยวนหยวนรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย จึงพยักหน้าตอบ
“โอเคค่ะ ฉันหิวนิดหน่อย แต่ว่า…….ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อแล้ว ฉันอยากออกไปสูดอากาศ และรับลมข้างนอก ได้ไหม?”
ยู่ฉือยี่ซูยิ้มมุมปาก จากนั้นก็จูงมือของเธอแล้วเดินลงจากเวทีท่ามกลางสายตาผู้คน
เหตุการณ์นี้สามารถดึงดูดความสนใจได้จากผู้คนมากมาย คุณแม่จางที่อยู่ไม่ไกลนัก เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ใจก็เหมือนจะสลาย
“นึกว่ายังมีโอกาสให้ลูกสาวเข้าไปเป็นสะใภ้ตระกูลเย่เสียอีก”
ใครกันนะที่ปล่อยข่าวมั่วว่าลูกสาวตระกูลถางเป็นคนอ้วน?