เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่ 183 เธอหนีไม่พ้น
“เธอหนีไม่พ้นหรอก” สวี่เลี่ยวเดินมากดทับมือของเธอไว้ แล้วพลิกมือจับไปที่ข้อมืออันเรียวของเธอ ตั้งใจกดเสียงให้ต่ำจะได้ดูโหด “คืนนี้ทุกคนต่างก็กำลังร่วมกิจกรรมในงานอยู่ เดี๋ยวหลังจากที่การแข่งขันว่ายน้ำจบแล้วจะมีกิจกรรมที่สนุกกว่า ถึงแม้เธอจะหนีออกไปได้แล้ว แต่ก็ไม่มีใครมาช่วยเธอ สู้เชื่อฟังฉันดีกว่านะ ฉันสามารถอ่อนโยนกับเธอหน่อย”
“ปล่อยฉัน!” เสิ่นเฉียวใช้แรงสะบัดมือเขาออก แล้วแถวหลังออกหลายก้าวมาก
นี่เกิดอะไรขึ้นกับเธอ ทำไมมือเท้าของเธอไม่มีมีเรี่ยวแรงเช่นนี้
เสิ่นเฉียวมองดูนิ้วของตัวเองที่สั่น ใบหน้าที่ขาวผ่องแดงยิ่งขึ้น
มีความเร่าร้อนค่อยๆ ผ่านขึ้นมาจากหน้าอก ความรู้สึกนี้….คุ้นเคยมาก
เป็นความรู้สึกเหมือนกับครั้งนั้นที่เธอถูกลู่สุนฉางพาเข้าไปในห้องแล้วล็อกเธออยู่ในห้อง
หรือว่า….เธอถูกวางยาอีกแล้ว?
ความคิดนี้พึ่งผุดขึ้นมา เสิ่นเฉียวก็รู้สึกผิดหวังหนักมาก
“เสี่ยวเสิ่น ก่อนหน้านี้ฉันก็เคยเตือนเธอแล้ว ให้เธออยู่กับฉัน แต่ว่าเธอไม่ตกลง งั้นฉันก็ต้องใช้แผนต่อไป เธอต้องรู้….หัวหน้าแบบฉัน ก็ยังชอบเธอมาก ถ้าหากว่าวันนี้เธอเชื่อฟังละก็ ต่อจากนี้ฉันรับรองเลยว่าในแผนกไม่มีใครกล้ารังแกเธอแน่นอน เป็นไง?”
เสิ่นเฉียวพิงอยู่กับผนังที่เย็น เธอหยิกขาของตัวเองอย่างแรง ให้ตัวเองได้สติหน่อย
ปรากฏว่ากลับเห็นสวี่เลี่ยวเดินตรงมาทางเธอ ยื่นมือจะมาปลดกระดุมบนเสื้อเธอ แววตานั้นมีแสงสว่างเจิดจ้าไปหมด ภายในห้องที่มืดมิดราวกับว่าเป็นสัตว์เผยแสงสว่าง
ไม่ได้….
เธอไม่สามารถเสียตัวที่นี่ได้
ถ้าหากว่าเธอถูกสวี่เลี่ยวจัดการไปแล้ว งั้นต่อจากนี้แววตาที่เย่โม่เซินมองเธอจะยิ่งรังเกียจเธอเข้าไปใหญ่ เขาจะรู้สึกว่าเธอมันสกปรก!
ไม่ได้!
ไม่ได้เด็ดขาด!
ก่อนที่สวี่เลี่ยวจะมา เสิ่นเฉียวใช้แรงทั้งหมดผลักสวี่เลี่ยวออกไป
“ถ้าหากนายกล้าแตะต้องฉันแม้แต่เส้นผมเส้นเดียว ฉันเป็นผีก็ไม่มีทางปล่อยนายไปแน่นอน”
ตอนแรกสวี่เลี่ยวคิดว่าเธอไม่มีแรงอะไรแล้ว ใครจะไปรู้ว่าพอถูกเธอผลักแบบนี้ ทั้งคนของเขาล้มลงไปยังบนพื้นเลย
“หืม? ยายังไม่ออกฤทธิ์หรอ? เธอถึงได้มีแรงมากมายขนาดนี้?”
เสิ่นเฉียว “…..นายเป็นคนวางยาฉันหรอ?”
“เสี่ยวเสิ่น อย่าโทษพี่เลี่ยวเลย~ ประเด็นคือเธอเนี่ยดื้อรั้นเกินไปแล้ว ก็เลยต้องใช้แผนการเล็กน้อย”
“เจ้าเล่ห์!” เสิ่นเฉียวกัดริมฝีปาก แล้วใช้สติทั้งหมดที่มีพูดกับสวี่เลี่ยวว่า “หรือว่านายไม่รู้หรอว่าฉันกับเย่โม่เซินคู่กัน?”
“เธอพูดว่าอะไรนะ? ประธานเย่?”
“นายคิดว่าฉันถูกลดตำแหน่งแล้ว เขาก็จะไม่เอาฉันแล้วจริงหรอ?” เสิ่นเฉียวพิงผนัง แล้วพยายามใช้แรงจ้องฝ่ายตรงข้าม “ถ้าหากเขาไม่เอาฉันแล้วจริงๆ ทำไมถึงแค่ลดตำแหน่งฉันแต่ไม่ไล่ฉันออกล่ะ?”
สวี่เลี่ยวถูกเธอพูดจนอึ้งไปหมด ผ่านไปนานมากก็ยังไม่รู้ตัว
“เธอหมายความว่าอะไร หรือว่าความหมายของเธอคือ….เธอกับประธานคบกันจริงๆ?”
“ถูกต้อง!”
เพื่อที่จะช่วยตัวเอง เสิ่นเฉียวพูดออกไปหมดแล้ว เธอกัดริมฝีปากของตัวเอง “เขาก็แค่โกรธฉันอยู่ ใช้เรื่องการลดตำแหน่งมาประชดฉันเท่านั้น ถ้าหากว่าเขาไม่อยากเจอฉันจริงๆ ก็ไม่มีทางเก็บฉันไว้ เขาลดตำแหน่งฉัน แค่เพราะว่าสักวันหนึ่งจะย้ายฉันกลับไปอยู่ข้างกายเขาอีก!”
ถึงแม้ว่าประโยคพวกนี้แม้แต่เสิ่นเฉียวก็ไม่เชื่อ แต่ว่าเธอจะสามารถทำอะไรได้อีก? อยู่ที่นี่เน่าๆ แบบนี้ ทุกคนต่างก็ร่วมงานอยู่ข้างหน้า เธอจะตะโกนร้องจนกล่องเสียงแตกก็ไม่มีใครมาช่วยเธอ
“ที่เธอพูดเป็นความจริง?” สวี่เลี่ยวอึ้งไปเลย ถ้าหากว่าเป็นแบบที่เสิ่นเฉียวพูดจริงๆ งั้นเขาก็ไม่สามารถแตะต้องตัวเธอแล้ว
ถ้าหากว่าแตะต้องแล้ว งั้นต่อจากนี้เขายังจะสามารถทำงานต่อที่บริษัทตระกูลเย่ได้อีกไหม?
“วันนี้นายส่งฉันออกไปจากที่นี่ ฉันสามารถทำเป็นว่าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นได้ และจะไม่เปิดโปงนาย ต่อจากนี้เราสองคนก็แค่หัวหน้าและลูกน้อย แต่ว่าถ้าหากว่านายแตะต้องฉัน…ฉันสาบาน ถึงแม้ว่าฉันจะตายแล้ว ฉันก็จะดึงนายลงมาจากตำแหน่งนั่น หัวหน้าสวี่ เรื่องที่มีแต่ได้ไม่มีเสียแบบนี้ สิ่งที่ได้มาต้องเสียไปมากมายขนาดนี้ นายคงไม่ทำหรอกมั้ง?”
ทันใดนั้นสวี่เลี่ยวก็เงียบลงทันที ก้มหน้าลงกำลังพิจารณาอยู่
“สวี่เลี่ยว นายไม่ต้องถูกเธอโกหกแล้ว เธอถูกย้ายมาที่แผนกเรานานขนาดนี้แล้ว ถ้าหากว่ามีคนคิดถึงเธอจริงๆ เธอจะถูกส่งมาที่นี่หรอ?” มีเสียงเสียงหนึ่งมาจากข้างนอก เป็นเสียงของชุยหมิ่นลี่ เธอถูกส่งมาให้จับตาดูไว้
สถานการณ์ข้างในเธอได้ยินอย่าวงชัดเจน
กลัวว่าสวี่เลี่ยวจะติดกับดักของเสิ่นเฉียว จึงรีบออกเสียง
สวี่เลี่ยวอึ้งไปสักครู่ “ใช่แล้ว ถ้าหากว่าประธานเย่ยังคิดถึงเธออยู่ จะไม่มองเธอแม้แต่แวบเดียวได้ไงล่ะ เธอกลับมาโกหกฉัน!”
“ฉันไม่ได้โกหกนาย!” เสิ่นเฉียวพูดตะโกนดัง “ไม่ว่ายังไงฉันก็อยู่ที่นี่ นายคิดให้ดีก็แล้วกัน! จะเอาอนาคตของนาย หรือว่าฉัน?”
“สวี่เลี่ยว ไม่ต้องเลือกเลยด้วยซ้ำ นายสามารถได้ทั้งสองอย่าง อย่าลืมพี่เฉียงเวยของเราสิ พวกเรายังคงช่วยนายอยู่ ตำแหน่งนี้ไม่มีทางไม่มั่นคงแน่นอน”
“เฉียงเวยคือใคร?” เสิ่นเฉียวยิ้มอย่างเย็นชา “หรือว่าอำนาจของเขามีมากกว่าเย่โม่เซินหรอ?”
สวี่เลี่ยวลังเลมาก
เสิ่นเฉียวรอไม่ไหวแล้ว เพราะว่าความเร่าร้อนที่ผ่านก็มาจากหน้าอกของเธอกำลังโจมตีเธออย่างไม่หยุด ถ้าหากว่ายังคงเป็นแบบนี้ต่อไป เธอคงจะไม่สามารถควบคุมสติของตนเองได้
ให้ตายเถอะ!
เสิ่นเฉียวยื่นมือมากัดนิ้วของตัวเอง ให้ตัวเองรักษาสติไว้
เธอค่อยๆ เดินไปทางประตู เดินไปด้วยพูดไปด้วย “พึ่งพาตำแหน่งของหัวหน้า นายอยากได้ผู้หญิงแบบนี้จะไม่มีหรอ….อย่าเป็นเพราะว่าฉันทำให้นายล้มเหลว เปิดประตู”
“สวี่เลี่ยว อย่าฟังเธอ! นี่เป็นโอกาสเดียวที่นายพูดถึงมาโดยตลอดเลยนะ ถ้าหากว่าพลาดครั้งนี้ไป ครั้งหน้านายอยากหาโอกาสก็ไม่มีแล้ว! สวี่เลี่ยว!”
สวี่เลี่ยวได้ยินเธอพูดแบบนี้แล้ว ก็ได้สติกลับมา
ใช่แล้ว ผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าเขาคิดไว้นานขนาดนี้ ไม่ง่ายเลยกว่าจะรอถึงงานประจำปีครั้งนี้ที่ได้มีโอกาสลงมือ ถ้าหากปล่อยเธอไปแบบนี้แล้วก็….
“อีกอย่าง คืนนี้นายนอนกับเธอแล้ว งั้นเธอก็คือรองเท้าเน่าแล้ว ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เธอจะมีอะไรกับประธานเย่จริงๆ ประธานเย่ก็คงจะไม่เอารองเท้าเน่าๆ อีก ฉะนั้นนายไม่จำเป็นต้องกลัวเธอเลย”
สีหน้าของเสิ่นเฉียวเปลี่ยนไป รีบเดินไปทางประตูอยากจะเปิดประตูสวี่เลี่ยวก็ได้สติกลับมาพุ่งตรงไปกอดเธอไว้ แล้วหัวเราะขึ้นมา
“พูดได้ถูก ถ้าหากว่าพอถึงเวลาเธอกล้าพูดไปมั่ว ฉันก็จะบอกว่าเธออ่อยฉัน ประธานเย่ก็ทำอะไรฉันไม่ได้”
“อ้า ปล่อยฉัน!” เสิ่นเฉียวใช้แรงผลักเขาไปทางข้างหลังสวี่เลี่ยวหื้มไปคำหนึ่ง แล้วล็อกไหล่ของเธอไว้ ดึงผ้าพาดไหล่บางๆ บนตัวของเธอออก ทำให้ข้างหน้าเผยหน้าอกขาวเนียนขนาดใหญ่
ทันใดนั้น ภาพๆ นี้ทำให้สวี่เลี่ยวลืมตาไม่ออกแล้ว
“เสี่ยวเสิ่น….” สวี่เลี่ยวกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว ราวกับปีศาจเลย “เธอต้องฟังฉัน! ฉันรับรอง เธออยากได้อะไรฉันจะให้เธอหมด!”
ประตูเปิดไม่ออกแล้ว เสิ่นเฉียวได้แต่สิ่งเข้าไปข้างนาย แล้วอ้อมไปทางโต๊ะอีกฝั่ง “นายอย่าขยับมา”
ชุยหมิ่นลี่ที่อยู่ข้างนอกได้ยินเสียงในห้อง ก็ยิ้มที่มุมปากด้วยความได้ใจ
และกิจกรรมข้างนอกก็กำลังเป็นไปอย่างสนุกสนาน
เสี่ยงเหยียนว่ายไปนานมากถึงได้สังเกตเห็นว่าข้างบนไม่มีเงาของเสิ่นเฉียว ฉะนั้นเธอจึงใจไม่อยู่กับตัวขึ้นมา ทันใดนั้นรางวัลชนะเลิศจึงถูกหานเส่โยวเอาไป
“ไม่ใช่บอกว่าเธอจะชนะฉันหรอ? ทำไมจู่ๆ ถึงช้าไปขนาดนั้นล่ะ? หรือว่าแรงไม่พอตั้งแต่แรกอยู่แล้ว”
หลังจากฟังแล้ว เสี่ยวเหยียนก็มองเธอไปหนึ่งที พูดอย่างเย็นชาว่า “เธออย่ามาได้ใจเลย เพื่อนรักเธอไม่อยู่แล้วเธอก็ไม่สังเกตเห็นหรอ?”
หานเส่โยวหยุดพูดไปเลย มองไปรอบๆ ข้างไม่เห็นเสิ่นเฉียวจริงๆ ด้วย