เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่ 185 ฉันจะต้องอยู่ต่อ
สีหน้าของผู้คนเปลี่ยนไปหมด เซียวซู่โมโหถึงขั้นด่าออกไปเลย
“พวกเธอกล้ามาก คิดไม่ถึงเลยว่าจะวางยาในบริษัท!”
กาวหยุนตกใจจนจะร้องไห้แล้ว “ขอโทษค่ะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับฉันจริงๆ หัวหน้าสวี่เป็นคนสั่งให้ฉันทำแบบนี้ เขาเป็นหัวหน้าของฉัน ฉันไม่กล้าที่จะไม่เชื่อฟังเขาเลย!”
เซียวซู่รู้สึกตรงหน้าอกมีความโมโหผุดขึ้นมา “ยังไม่รีบเดินอีก อยากให้ฉันถลอกหนังเธอไหม?”
กาวหยุนร้องไห้ไปด้วยพาพวกเขาอ้อมไปด้วย จากนั้นก็หยุดเดิน แล้วยืนเหม่อมองข้างหน้า
มีเพียงแต่เสี่ยวเหยียนที่ตะโกนตกใจออกมา
“เฉียวๆ เย่….รองประธานเย่ คุณมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”
เย่หลิ่นหานอุ้มเสิ่นเฉียวไว้ เสิ่นเฉียวที่เงยหน้าขึ้นปิดตาอยู่ ใบหน้าที่ซีดขาวมีรอยตบที่ชัดเจนอยู่
และประตูห้องก็เปิดอยู่ สวี่เลี่ยวถูกต่อยล้มอยู่จ้างประตูจะเป็นจะตาย บนใบหน้าของเขามีแผลมากมาย ดูแล้วจมูกและหน้าช้ำไปหมด ข้างๆ ยังมีชุยหมิ่นลี่ที่ตกใจมาก
หลังจากที่เธอเห็นกาวหยุนแล้ว ก็อยากจะรับเดินเข้ามา แต่พอมองเห็นเย่โม่เซินที่อยู่ไม่ไกลจากกาวหยุนแล้ว ก็หยุดการกระทำครั้งนี้
บนตัวของเสิ่นเฉียวยังคงสวมชุดเดรสสีแดงตัวนั้นอยู่ แต่ว่าผ้าที่อยู่บนชุดเดียวถูกฉีกขาดจนไม่เป็นท่า ดูก็รู้ว่าเคยถูกคนอื่นใช้แรงมาฉีก มีชุดสูทตัวใหญ่คลุมตัวเธอไว้
เย่หลิ่นหานนำเธอที่ตัวเล็กโอบกอดอยู่ในอ้อมกอด ฤทธิ์ยาของเสิ่นเฉียวออกฤทธิ์หนักมาก เย่หลิ่นหานจึงตีให้เธอสลบไป
ภาพๆ นี้แยงเข้าไปในดวงตาของเย่โม่เซิน
คนที่มาก็คิดไม่ถึงว่าจะมีภาพๆ นี้ เสี่ยวเหยียนยืนมองไปนานมาจึงจะดึงสติกลับมา
เมื่อกี้เธอมองไม่เห็นเย่หลิ่นหาน ฉะนั้นถึงได้มาหาเย่โม่เซิน
แต่ว่าวันนี้พวกเขายังมาไม่ถึง เย่หลิ่นหานก็ได้ช่วยเสิ่นเฉียวออกมาแล้ว งั้นก็แสดงว่า…..เย่หลิ่นหานมาถึงก่อนแล้ว?
“พี่ชายใหญ่เร็วจริงๆ ”
หลังจากนั้น เย่โม่เซินก็พูดประชดไปหนึ่งคำ
เย่หลิ่นหานขมวดคิ้ว ถึงแม้ว่าเย่โม่เซินจะมาแล้ว แต่เขากลับไม่ได้ปล่อยเธอออก กลับอุ้มแน่นยิ่งขึ้น แล้วตอบกลับด้วยความเย็นชาไปว่า “พี่รู้ว่านายไม่ชอบเธอ แต่ในเมื่อเธอเป็นภรรยาของนาย นายที่เป็นสามีก็ควรจะปกป้องเธอไม่ใช่หรอ?”
เย่โม่เซินยิ้มมุมปาก นัยน์ตาสีดำคู่นั้นแผงซ่อนความแหลมคมกลิ้งไปมาอยู่
“พี่ชายใหญ่ก็ปกป้องเธอเป็นอย่างดีเลยไม่ใช่หรอ?”
“เธอคือภรรยาของนาย!”
พอเห็นความไม่ใส่ใจภายในตาของเย่โม่เซิน เย่หลิ่นหานก็รู้สึกน้อยใจแทนเสิ่นเฉียว พูดออกมาด้วยความโกรธ!
แววตาของเย่โม่เซินทำเหมือนว่าไม่เข้าใจ
“แล้วยังไงล่ะ? ผู้หญิงทำได้แค่นอนอยู่ล่างตัวของผู้ชายอื่น ฉันเย่โม่เซินไม่ต้องการ”
“นาย!”
เย่หลิ่นหานที่อ่อนโยนมาโดยตลอดโมโหจนเสียการควบคุมอารมณ์ ถ้าหากว่าในอ้อมกอดไม่ได้อุ้มเสิ่นเฉียวไว้ เย่หลิ่นหานคงจะพุ่งเข้าไปจับชายเสื้อของเขาและค่อยเขาไปไม่กี่หมัดแล้ว
ทันใดนั้น เสิ่นเฉียวที่อยู่ในอ้อมกอดก็ขยับ เธอที่สลบอยู่พูดพึมพำอยู่ที่ปาก เย่หลิ่นหานกำลังอยากจะเข้าใกล้ไปฟัง ปรากฏว่าได้ยินคำว่าเย่โม่เซินอย่าชัดเจน…..
เขาหดตัวอย่างแรง แล้วมองไปทางเย่โม่เซิน
คำว่าเย่โม่เซินเรียกได้อ่อนไหวมาก มีความหมายถึงการจอความช่วยเหลือและความน้อยใจ แต่ว่าเธอไม่ได้ลืมตา ดูออกอย่างชัดเจนเลยว่าเป็นการกระทำที่ไม่รู้ตัว
“ได้ยินหรือยัง?” แววตาของเย่หลิ่นหานราวกับตะขอ “เธอเรียกชื่อของนายตลอดเวลา”
ประโยคนั้น ราวกับมือที่จับหัวใจของเย่โม่เซินไว้ เขาหรี่ตาด้วยความอันตราย
“แล้วตัวคนล่ะ?”
ความมืดมิดภายในตาของเย่โม่เซิน เขาขยับริมฝีปากเล็กน้อย “ส่งเธอมาให้ฉัน”
“โม่เซิน ไม่ใช่ว่าพี่อยากจะว่านาย” เย่หลิ่นหานพูดไปด้วย กอดเสิ่นเฉียวที่อยู่ในอ้อมกอดแน่นขึ้นไปด้วย เสียงเบาๆ “ถ้าหากว่านายไม่มีความสามารถมาจะปกป้องเธอ งั้นพวกเธอก็หย่ากันเถอะ”
หลังจากพูดจบ เขาก็อุ้มเสิ่นเฉียวจากไปเลย
“รองประธานเย่!” เซียวซู่รีบเดินตามไปแล้วเรียกเธอไว้ “นี่คุณพูดอะไร นั่นเป็นภรรยาของคุณชายเย่ ขอเชิญคุณปล่อยเธอลงมาด้วย”
“ขอโทษนะ ฉันยังต้องพาเธอไปรักษา ถ้าหากว่าพวกเธออยากช่วยเสิ่นเฉียวจริงๆ สามารถตามมาได้”
เซียวซู่ “คุณ…..”
เย่หลิ่นหานเดินจากไป
เซียวซู่รีบมองไปทางเย่โม่เซิน “คุณชายเย่!”
เย่โม่เซินสีหน้าเย็นชา ไม่มีความรู้สึกใดๆ
“คุณชายเย่!”
เย่หลิ่นหานอุ้มเสิ่นเฉียวจากไป เดินไปสองก้าว แล้วเขาก็หยุดเดิน เพราะว่าเสิ่นเฉียวที่สลบอยู่จู่ๆ ก็จับเสื้อเธอ “ปล่อย ปล่อยฉันลงไป”
“เสิ่นเฉียว?” เย่หลิ่นหานขมวดคิ้ว แล้วมองเธอ
“ปล่อยฉันลงไป” เสิ่นเฉียวขอร้องเขาด้วยเสียงเบาไปหนึ่งประโยค ในที่สุดเธอก็ลืมตาด้วยความลำบาก มองไปทางเย่หลิ่นหาน
แววตาที่เย็นชาคู่นั้นราวกับว่าถูกย้อมด้วยสีแดงจ้า เพราะว่าถูกวางยา ทั้งตัวของเธอจึงเป็นสีชมพูหมด ดูแล้วอ่อนหวานนุ่มๆ เมื่อกี้จำเป็นต้องตีเธอจนสลบเพราะทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้เธอตื่นแล้วงั้นฤทธิ์ยาก็ออกแล้วสิ?
“อย่าดื้อ” . เขาพูดด้วยเสียงค่ำกับเธอ “เธอถูกวางยาแล้ว ตอนนี้ฉันจะพาเธอไปโรงพยาบาล”
เสิ่นเฉียวส่ายหัว “ฉันไม่ไปโรงพยาบาล”
เสียงของเธอไม่เบา แต่กลับยืนหยัดมาก
“จะอยู่ต่อจริงๆ หรอ? ถึงแม้ว่า….เขาไม่สนใจเธอ เธอก็ยังอยากจะอยู่ต่อ?” หลังจากที่เย่หลิ่นหานถามคำถามนี้ไปแล้ว จู่ๆ ในใจก็รู้สึกเกลียดขึ้นมา เกลียดว่าทำไมตอนนั้นถึงให้คุณปู่ทำเรื่องแต่งงานเรื่องนี้
ตอนนี้ทำเอาเธอเหนื่อยและลำบากขนาดนี้
“อืม”
เสิ่นเฉียวจับเสื้อของเธอเขาแน่น “ปล่อยฉันลงมาเถอะ ไม่เช่นนั้น…เขาจะยิ่งเข้าใจผิดฉันไปใหญ่”
“ฉันไม่อยาก….” หน้าผากของเสิ่นเฉียวเหงื่อออกเต็มไปหมด ออกเสียงอย่างลำบาก “ให้เขาเข้าใจฉันผิดอีกแล้ว
ขาของเย่หลิ่นหานเหมือนว่าถูกจับไว้ไม่ขยับเลย และมือก็เหมือนถูกโซ่ล็อกเธอเอาไว้ ไม่ได้ปล่อยเธอลงมา
“พี่ชายใหญ่” ในน้ำเสียงของเสิ่นเฉียวมีความร้องขออยู่ แววตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา
เย่หลิ่นหานใจอ่อน จึงปล่อยเธอลงมาโดยที่ทำอะไรไม่ได้ จากนั้นก็พยุงให้เธอยืนตรง
“จะอยู่ต่อจริงๆ หรอ? เธอจะต้องรู้ ตอนนี้ร่างกายของเธอถูกวางยา ถ้าหากไม่ไปโรงพยาบาลแล้วก็….”
“ฉันรู้” เสิ่นเฉียวพยักหน้า “ฉันรู้อยู่…..”
แต่นั่นแล้วจะทำไมล่ะ ถ้าหากว่าคืนนี้เธอไปกับเย่หลิ่นหานจริงๆ งั้นก็คงเข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว
ฉะนั้นไม่ว่ายังไงแล้ว เธอก็จะต้องอยู่ต่อ
“โม่เซิน!” เย่หลิ่นหานไม่มีหนทางอื่นแล้ว สุดท้ายเธอก็ยังคงยืนหยัดที่จะอยู่ต่อ เขาจึงทำให้แต่หันไปทางเย่โม่เซิน แล้วพูดด้วยความเย็นชาว่า “นายเห็นหรือยัง ผู้ชายที่นายเข้าใจผิดไม่ยอมจากไปกับฉัน ตอนนี้เธอถูกวางยา ถ้าหากว่านายเป็นผู้ชายละก็ ก็พาเธอไปรักษาที่โรงพยาบาล?”
แววตาของเย่โม่เซินเย็นแข็งเย็นชามาก หยุดอยู่บนตัวของเสิ่นเฉียวด้วยความเย็น แต่แค่เพราะว่าทั้งตัวของเสิ่นเฉียวเหมือนกำลังถูกไฟเผา ฉะนั้นจึงไม่ได้รู้สึกถึงความเย็นนี้
ทันใดนั้น เย่โม่เซินก็ยิ้มที่มุมปาก แล้วหัวเราะอย่างเย็นชา “ใครบอกว่าถูกวางยาแล้วต้องไปโรงพยาบาล?”
“พี่ชายใหญ่ชอบช่วยเหลือเธอขนาดนี้ งั้นก็ช่วยให้ถึงที่สุดสิ?”
“เย่โม่เซิน!”
เย่หลิ่นหานโมโหมากแล้ว เดินก้าวไปข้างหน้า แต่กลับถูกเสิ่นเฉียวจับไว้
เสิ่นเฉียวจับชายเสื้อของเขาไว้ แล้วเดินขึ้นมาทีละก้าวๆ เดินไปยังข้างหน้าของเย่โม่เซิน
“ฉันไม่ได้เป็นคนกลับกลอกใจง่าย”