เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่ 186 เธอชอบเขาขึ้นมาแล้วจริงๆ
- Home
- เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก…
- บทที่ 186 เธอชอบเขาขึ้นมาแล้วจริงๆ
เธอจ้องเย่โม่เซิน สูดจมูก “ไม่ใช่ว่าฉันจะมาเอง ฉันถูกวางยา นายก็เห็น”
เย่โม่เซินถูกคำพูดของเธอพูดจนอึ้งไปสักครู่
เธอกำลังอธิบายกับเขา
หลังจากอธิบายเรียบร้อยแล้ว เสิ่นเฉียวก็ไม่ได้อยู่ต่อ แต่กลับเดินผ่านเย่โม่เซินไป เซียวซู่รับถามเธอ “คุณนายน้อยสอง คุณเดินไปทำไม”
เสิ่นเฉียวเดินตรงไปข้างหน้าโดยไม่พูดอะไรเลย
เย่หลิ่นหานกำหมัดแน่นยืนอยู่ที่เดิม อดทนกับความวู่วามที่อยากจะเดินไปข้างหน้า
ที่เขาอดทนมาโดยตลอด เพราะว่าแววตาของเสิ่นเฉียวดื้อรั้นเกินไปแล้ว ถ้าหากว่าเขาวู่วามไปในตอนนี้ งั้นสิ่งที่เธอทำมาก็เปล่าประโยชน์
คนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นต่างก็งงไปหมด
คนที่งงที่สุดคือกาวหยุนและชุยหมิ่นลี่
พวกเธอทั้งสองเห็นว่าเสิ่นเฉียวถูกลดตำแหน่งแล้ว ช่วงเวลาเหล่านี้จึงใช้แผนการต่างๆ ใส่ร้ายเธอ ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะไม่สำเร็จ แต่ว่าครั้งนี้….พวกเธอกลับทำร้ายเสิ่นเฉียวหนักมาก
อีกอย่าง….คิดไม่ถึงเลยว่า….จะเป็นภรรยาของเย่โม่เซิน!
ภรรยาเลยนะ!!!
จุดจุดนี้ไม่มีใครนึกถึงหรอก! ทันใดนั้น พวกเธอมีความรู้สึกว่าตัวเองจบแล้ว
เสี่ยวเหยียนยืนเหม่ออยู่ที่เดิม เหมือนว่าถูกสะกดจิตไว้ไม่ขยับเลย
ผ่านไปสักพัก เธอเหมือนว่าคิดอะไรออก จึงหันไปแล้ววิ่งไปทางที่เสิ่นเฉียวหายตัวไปเมื่อกี้
“เซียวซู่”
เซียวซู่ที่ถูกเย่โม่เซินเรียกชื่อจึงจะดึงสติกลับมาได้ เข็นเย่โม่เซินไปอีกทาง แล้ววิ่งตามทางที่เสิ่นเฉียวจากไป
เสิ่นเฉียวจับผนังแล้วค่อยๆ เดินไปทางข้างหน้า บนใบหน้าต่างก็เป็นเงาทั้งหมด มีหลายครั้งมากที่เสิ่นเฉียวเกือบจะล้มลงแล้ว
“เฉียวๆ!”
เสี่ยวเหยียนรีบวิ่งไปพยุงที่ข้างกายของเสิ่นเฉียว “เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
“เสี่ยวเหยียน?” เสิ่นเฉียวได้ยินเสียงของเธอแล้ว ก็อธิบายด้วยเสียงต่ำว่า “ขอโทษนะ คือวันนี้…ฉันไม่ได้ถ่ายรูปให้เธอ”
“ตอนนี้พูดเรื่องนี้ทำไม?” เสี่ยวเหยียนจับแขนของเธอไว้” ทั้งตัวของเธอร้อยไปหมดเลย ไอ้สวี่เลี่ยวที่สมควรตาย นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะวางยาเธอ คนที่โง่เหมือนหมูอย่างเงา ไม่ส่องกระจกดูเลยว่าตัวเองเหมาะสมหรือเปล่า ฉันจะรีบส่งเธอไปโรงพยาบาล เธอต้องอดทนนะ”
“อืม….” เสิ่นเฉียวพยักหน้า และพิงไปทางร่างกายของเสี่ยวเหยียน เพราะว่าเสี่ยวเหยียนพึ่งขึ้นมาจากสระน้ำ หยดน้ำที่อยู่บนตัวก็ยังไม่แห้ง ฉะนั้นทั้งตัวของเธอจึงเย็นไปหมด พิงลงไปแล้วสบายมาก
เสิ่นเฉียวรู้สึกดีขึ้นเยอะเลย “ขอบคุณนะ”
เสี่ยวเหยียนรู้สึกว่าทั้งตัวของเธอเหมือนถูกไฟเผาไปหมด ไม่ค่อยชินและรู้สึกสงสารเธอ “ไม่ต้องขอบคุณ รีบไปเถอะ”
“รอก่อน”
ในตอนที่เดินไประยะทางหนึ่งแล้ว เซียวซู่เข็นเย่โม่เซินตามพวกเขามา
“คุณนายน้อยสอง ฉันส่งคุณไปโรงพยาบาลเถอะ”
เสิ่นเฉียวถูกเสี่ยวเหยียนพยุงมาทางข้างหน้า ใช้แววตามองพวกเขาไปหนึ่งที สังเกตเห็นถึงสีหน้าที่ไร้ความรู้สึกของเย่โม่เซิน จึงไม่ได้ตอบ
“หยุด” ในที่สุดเย่โม่เซินก็เปิดปากพูด
เสิ่นเฉียวไม่ได้หยุด เสี่ยวเหยียนกลับหยุดเดิน
ไม่มีทางอื่นแล้ว เธอรู้ถึงภายใต้อำนาจของเย่โม่เซินอยู่แล้ว
“เฉียวๆ หรือว่า….ให้ประธานเย่ส่งเธอไปโรงพยาบาลเถอะ!”
“ไม่ต้อง” เสิ่นเฉียวส่ายหัวปฏิเสธคำขอของเธอ “พวกเราไปกัน”
“คุณนายน้อยสอง ตอนนี้เธอใส่ชุดแบบนี้ คงจะไม่สามารถส่งคุณไปโรงพยาบาลได้”
หลังจากได้ยินแล้ว เสิ่นเฉียวถึงพึ่งสังเกตเห็นว่าบนตัวของเสี่ยวเหยียนยังคงสวมชุดบิกีนี่อยู่ สวมชุดแบบนี้ส่งเธอไปโรงพยาบาล ที่จริงแล้ว….
เสี่ยวเหยียนกลับสีหน้าเปลี่ยนไปเลย “แย่ไปเลย เมื่อกี้เพราะว่าจะมาช่วยเธอจึงรีบวิ่งมา ลืมเสื้อผ้าแล้ว เธอรอฉันอยู่ที่นี่หนึ่งนาที ฉันจะรีบกลับมา!”
หลังจากพูดจบ เสี่ยวเหยียนก็ปล่อยเสิ่นเฉียวลง แล้วหันหลังวิ่งไป
พอเธอไป เสิ่นเฉียวไม่มีแรงแม้แต่ยืน ร่างกายที่พิงผนังไว้ค่อยๆ ไหลลงมา
เย่โม่เซินเข็นตัวเองไปทางข้างหน้า จับข้อมือของเธอ “ไปโรงพยาบาล”
มือของเย่โม่เซินเย็นราวกับน้ำแข็ง จับข้อมือที่ร้อยของเธอจากนั้นก็ถูกสะบัดออก เสิ่นเฉียวจ้องเย่โม่เซินที่อยู่ข้างหน้าด้วยความเกลียด
“ไม่ต้องการให้นายมาสนใจฉัน”
เย่โม่เซินขมวดคิ้ว มองเธอด้วยไม่พอใจ
“ผู้หญิงที่แต่งงานครั้งที่สอง เธอทำอะไร?”
เสิ่นเฉียวค่อยๆ ไหลลงมาจากผนัง เธอไม่มีแรงที่จะอดทนแล้ว เปลือกตาของเธอหนักมาก
“ฉันบอกว่าไม่ต้องการให้นายมาสนใจ ไม่ว่ายังไง….นายก็ไม่เชื่อฉันอยู่แล้ว”
งั้นก็ให้เธอจัดการเองที่นี่เถอะ
เย่โม่เซินขมวดคิ้วหนักมาก และเพราะเธอเป็นแบบนี้ภายในก็เริ่มถูกเผาไหม้ขึ้นมา เธอรู้ไหมว่าตัวเองในตอนนี้น่าดึงดูเพียงไหน? ความหลงใหลในแววตา ทั้งตัวเป็นสีชมพูหมด บวกกับชุดเดรสที่ฉีกขาดตัวนั้น ทำให้คนอยากจะแปลงร่างเป็นหมาป่าทับตัวเธอลงไป
“ขึ้นมา” เย่โม่เซินออกคำสั่งด้วยเสียงที่เย็นชา “ฉันส่งเธอไปรักษาที่โรงพยาบาล”
เสิ่นเฉียวไม่สนใจเขา เย่โม่เซินเข้าไปจับเธอ เสิ่นเฉียวอยู่ที่เดิมไม่ขยับ เย่โม่เซินจึงใช้แรง ร่างกายที่ผอมเรียวของเสิ่นเฉียวก็ถูกเขาจับขึ้นมา จากนั้นก็ล้มลงบนอ้อมกอดของเขา
“นายปล่อยฉัน ปล่อยฉัน! ฉันไม่ต้องการให้นายไปส่ง ฉันจะรอเสี่ยวเหยียนอยู่ที่นี่”
“เซียวซู่ ไปขับรถ” เย่โม่เซินทิ้งประโยคนี้ให้เซียวซู่ เซียวซู่รับคำสั่งแล้วก็รีบหยักหน้าจากนั้นก็ไปทำตามคำสั่ง
เย่โม่เซินใช้มือข้างเดียวจับเอวของเสิ่นเฉียวไว้ แล้วใช้มืออีกข้างหนึ่งขยับล้อของรถเข็น “ดีที่สุดเธอเชื่อฟังฉันดีๆ ไม่เช่นนั้นฉันจะส่งเธอกลับไปที่ห้องโถง หรือว่าเธออยากจะให้คนอื่นเห็นสภาพของเธอในตอนนี้ว่าอยากได้ผู้ชายมากแค่ไหน?”
เสิ่นเฉียวรีบหดตัว “นาย!”
วินาทีต่อมา เย่โม่เซินจับศีรษะข้างหลังของเธอ นำศีรษะของเธอกดทับเข้ามายังบนหน้าอกของตัวเอง “หุบปาก”
มือของเขาว่องไวมาก ในไม่ช้ารถเข็นก็เข็นมาถึงข้างหน้า ในตอนที่เสี่ยวเหยียนเดินมาด้วยใส่เสื้อผ้าวิ่งมาด้วย พอถึงแล้วก็ไม่เหลือใครสักคนแล้ว
เธอยืนงงอยู่ที่เดิมนานมาก ยื่นมือขยี้หัวของตัวเอง
“คงจะ….ถูกคุณชายเย่พาไปแล้วล่ะ”
“ในเมื่อ…..ทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน งั้นก็ไม่ต้องสนใจพวกเขาแล้ว!”
เสิ่นเฉียวถูกเย่โม่เซินพาขึ้นรถไป เธอไม่มีแรง ร่างกายที่เร่าร้อนถูกเย่โม่เซินควบคุมไว้ ไม่สามารถขยับได้เลย อีกอย่างกลิ่นไอของผู้ชายบนร่างกายของเขาล้อมรอบเธออยู่ กลิ่นนี้ทำให้เธอรู้สึกอยากจะมีอะไร อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปกอดเขา
เสิ่นเฉียวรู้ เธอ….มีความรู้สึกกับผู้ชายคนนี้ขึ้นมาแล้วจริงๆ
ใกล้ชิดกันมาก
ถึงแม้ว่าเขาจะปากร้าย คำพูดทั้งหมดที่พูดต่างก็เหมือนยาพิษที่มาขุดเอาหัวใจไป แต่ว่า…เรื่องก่อนหน้านี้ที่เขาทำแทนเธอ ก็ยังคงมีอยู่
ไม่เคยมีใครดีกับเธอขนาดนี้มาก่อนเลย
เธอเองก็ซาบซึ้งใจแล้ว จากนั้นก็รู้สึกหวั่นไหวในตอนนั้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ
ความรู้สึกเป็นสิ่งที่เกรี้ยวกราดจริงๆ ไม่มีเหตุผลใดๆ ก็เกิดขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุแล้ว
มีต้นกล้าเติบโตอยู่ในส่วนลึกของหัวใจของเธอ จากนั้นก็ค่อยๆ เติบโต….
จนกระทั่งตอนนี้ มีรากฝังอย่างแน่น
“ปัง….” หลังจากที่ประตูรถปิดลงแล้ว เย่โม่เซินก็ได้ยินเสียงร้องไห้
เขารู้สึกสงสารมาก ก้มหน้ามองเสิ่นเฉียวที่อยู่ในอ้อมกอด ปล่อยมือออกจับคางของเธอแล้ว สังเกตเห็นว่าใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา
น้ำตาพวกนั้นทำให้เขารู้สึกเครียดขึ้นมา
“ร้องไห้อะไร?” เขายื่นมือ ไปเช็ดน้ำตาของเขาด้วยความรุนแรง
เพราะว่าการกระทำแรงเกินไป เพียงแค่แป๊บเดียวก็เช็ดจนผิวใต้ตาของเสิ่นเฉียวแดงไปหมดแล้ว