เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่ 187 เอาเขาหรือว่าเอาฉัน
ให้ตายเถอะ!
เย่โม่เซินจ้องรอยแดงใต้ตาของเธอด้วยความไม่พอใจ
ผู้หญิงคนนี้ทำมาจากน้ำหรอ? เช็ดน้ำตาให้เธอแป๊บเดียวก็กลายเป็นแบบนี้แล้ว
“ห้ามร้องไห้แล้ว” น้ำเสียงของเขาแหบมาก แววตาก็มืดมาก
เสิ่นเฉียวเงยหน้าขึ้นมาจากอ้อมกอดของเขา จ้องเขาด้วยสายตาที่เบลอ
แววตานั้นกำลังเตือนเขาอยู่ หลังจากนั้นก็ใช้แรงดิ้นรน “ไม่ว่ายังไงนายก็ไม่เชื่อฉันอยู่แล้ว ฉันไม่ต้องการให้นายส่งฉันไปโรงพยาบาล”
เย่โม่เซินไม่ได้ขยับ แค่มองเธอด้วยความเย็นชา
เธอดื้อรั้นอีกครั้ง ครั้งนี้เย่โม่เซินกลับล็อกข้อมือเธอไว้
“ฉันเชื่อ”
เสิ่นเฉียวอึ้งไปเลย มองเธอด้วยความแปลกใจ “นาย….นายพูดว่าอะไรนะ?”
“ฉันเชื่อแล้ว ไม่ได้หรอ?” แววตาที่แปลกใจของเธอทำให้ความรำคาญและความเครียดของเขาเพิ่มขึ้น เขาพูดด้วยเสียงต่ำไปประโยคหนึ่ง จากนั้นก็จับเอวเธอไว้ “ฉันบอกว่าฉันเชื่อ ได้ยินหรือยัง”
เสิ่นเฉียวไม่ได้ตอบ เพราะว่าเธอคิดไม่ถึงเลยว่าเย่โม่เซินจะเชื่อเธอ
หลังจากนั้น เสิ่นเฉียวก็มองลงข้างล่าง อารมณ์ดูผิดหวังมาก
เย่โม่เซินมองเธอแล้วพูดว่า “ตอนนี้สามารถไปโรงพยาบาลดีๆ ได้หรือยัง?”
“เซียวซู่ ขับรถ”
เซียวซู่ พยักหน้าขับรถ
รถถูกขับออกไปหนึ่งนาที เย่โม่เซินเห็นว่าสีหน้าของเธอก็ยังคงแย่อยู่ จึงพูดด้วยเสียงที่เย็นชาว่า “ถ้าหากว่าไม่อยากไปโรงพยาบาล ฉันสามารถใช้อีกวิธีหนึ่งช่วยเธอจัดการได้”
ตอนแรกเสิ่นเฉียวได้บินไม่ชัดเจน หลังจากนั้นก็รีบได้สติ เงยหน้าบอกเขาด้วยความตกใจ “นายพูดว่าอะไรนะ?”
เย่โม่เซินจับคางของเธอ ร่างกายของเขาเอนไปข้างหน้าเล็กน้อย กลิ่นอายที่เย็นชาของผู้ชายคลุมเธอไว้
“เหตุผลที่เหมาะสมมาก ไม่ใช่หรอ?”
“ฉันไม่เอา!” เสิ่นเฉียวคิดก็ไม่คิดเลย ปฏิเสธเขาทันที!
ทันใดนั้นเย่โม่เซินก็หรี่ตาด้วยความอันตราย “เธอกล้าปฏิเสธฉัน? รังเกียจฉัน?”
มือที่ใหญ่ของเขาจับคางของเธอ จู่ๆ ก็ใช้แรงดูดไปที่ริมฝีปากของเธอ จากนั้นก็หลีกออกมาเล็กน้อย ก้มหัวของเขาแล้วหายใจ “หรือว่าเธออยากให้เย่หลิ่นหานมาแก้พิษให้เธอ?”
ได้ยินชื่อของเย่หลิ่นหาน เสิ่นเฉียวหดตัวปิดตาน้อย ส่ายหัว “ไม่เอา!”
การตอบสนองของเธอมีความตื่นเต้นเล็กน้อย ทำให้เย่โม่เซินรู้สึกผิดปกติ “เธอตื่นเต้นอะไร?”
แต่ว่าพอได้ยินเธอพูดว่าไม่เอา ในใจลึกๆ ของเย่โม่เซินก็มีความดีใจอยู่ ริมฝีปากก็ค่อยๆ ยิ้มขึ้น “ไม่เอาเขา งั้นจะเอาฉันไหม?”
ไม่เอาเธอ งั้นเอาฉันไหม
เสิ่นเฉียวอึ้งในคำพูดนี้ของเขาแล้ว ยังไม่ทันรอให้เธอได้สติ จู่ๆ เย่โม่เซินก็ใช้แขนที่ยาวล้อมรอบคอของเธอ แล้วกอดเธอเข้ามาในอ้อมกอดด้วยความเกรี้ยวกราด “ตอบคำถาม!”
“เออ….”
ในตอนนั้น เสิ่นเฉียวกลับไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับอย่างไรดี
เธอคิดไม่ถึงเลยว่าเย่โม่เซินจะถามคำถามแบบนี้ เธอยังไม่แน่ใจเลยว่าในใจของเย่โม่เซินคิดอะไรกันแน่แล้ว
ตอนแรกเย็นชาขนาดนั้นแท้ๆ รังเกียจตัวเองขนาดนั้นแท้ๆ แต่ว่าเหมือนจะชอบแกล้งเธอ ยังเป็นหน้าตาที่ตื่นเต้นอีก
เหมือนกับตอนนี้ แววตาที่มืดดำของเธอมีแสงส่องอยู่ ราวกับว่าสัตว์ป่าที่มองเห็นเหยื่อ ยังไงก็ต้องเอาให้ได้ ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่สามารถหนีพ้นความมั่นใจในฝ่ามือของเขาได้
ทันใดนั้น เสิ่นเชียวก็กลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว
“ฉัน…..”
คำตอบแบบนี้เธอไม่มีทางตอบแน่นอน
ไม่ว่าจะเอาใคร ถึงแม้….ในใจของเธอจะชอบเย่โม่เซินจริงๆ ยังไงซะเขาก็อยากได้เธอจริงๆ
แต่เธอก็ไม่มีทางพูดตรงๆ ออกมานี่นา
อีกอย่าง ใครจะไปรู้ว่าหลังจากพูดออกมาแล้วผลจะเป็นยังไง? พอถึงเวลาเย่โม่เซินจะพูดว่าเธอเจ้าชู้อีกหรือเปล่าก็ไม่รู้
“ไปโรงพยาบาลเถอะ” สุดท้าย เธอพูดประโยคนี้ออกมา
เย่โม่เซินเม้มปากอย่างไม่พอใจ “ตอนนี้รู้จักหนีแล้ว? งั้นก็ต้องเลือกคำถามเมื่อกี้ก่อนถึงจะไปโรงพยาบาล”
เสืิ่นเฉียวไม่สบายตัวมาก เขายังใกล้ชิดเธอขนาดนี้อีก ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าก่อนหน้านี้เธอเคยโดนวางยาหนักเกินไป ครั้งนี้คงจะจบแล้ว จะยังมีแรงมาพูดกับเขาอีกได้อย่างไร
เธอหันไปทางอื่น “ฉันไม่อยากเลือก”
“ไม่อยากเลือก?” เย่โม่เซินจ้องเธอด้วยความอันตราย “เธอไม่อยากเลือก! ฉันต่างหากที่เป็นสามีของเธอ!” เขาใช้แรงกอดเธอ แล้วจูบเธออย่างแรง การจูบของเขาทั้งรุนแรงทั้งเร่าร้อน เสิ่นเฉียวร้องด้วยความเจ็บปวด
เมื่อกี้ยังสามารถในควบคุมสติไว้ได้ ตอนนี้ถูกเขาจูบขนาดนี้ถูกโจมตีจนแตกสลายไปหมด เธอพยายามจะผลักเขาออก แต่ว่าเย่โม่เซินกอดเธอแน่นเกินไป มั่นคงเหมือนภูเขารูปหนึ่ง เธอผลักไม่ออกเลย
ในช่องปากของเธอถูกเติมเต็มด้วยกลิ่นความมุ่มมาดปรารถนาของเขา แม้กระทั่งร่างกายของทั้งสองคนก็แนบชิดติดกัน มีเสื้อผ้ากั้นอยู่ก็สามารถรับรู้ได้ถึงความเย็นของเย่โม่เซิน
เธอคิดว่า คงจะเป็นเพราะร่างกายของเธอร้อนเกินไปแล้ว
ฉะนั้น ถึงได้รู้สึกว่าอ้อมกอดของเย่โม่เซินสบายขนาดนี้
ต้องใช่แน่ๆ
สมองกำลังงงอยู่ จู่ๆ เสิ่นเฉียวก็พึ่งรู้ตัวว่าสูทเมื่อกี้ของเธอถูกถอดออก จากนั้นกระจกรถก็ถูกลดลงมา ลมเย็นในค่ำคืนพัดผ่านเข้ามา ทำให้พัดปลิวกระโปรงบางๆ สีแดงของเธอ
สูทที่จับลงมาจากบนตัวของเธอถูกเย่โม่เซินโยนออกไปโดยไม่ลังเล แล้วตกอยู่บนถนน
ภาพๆ นี้เสิ่นเฉียวอึ้งไปเลย จากนั้นยังไม่ทันรู้ตัวก็ถูกเย่โม่เซินจับคางแล้วบังคับให้เธอสบตากับเขา
แววตาของเย่โม่เซินมืดสนิท ราวกับท้องห้าที่เต็มไปด้วยเมฆคร7hม
คืนนี้กระโปรงสีแดงของเธอราวกับเปลวไฟ ตั้งแต่ออกมาก็โดดเด่นจนถึงตอนนี้ มาถึงบนตัวของเธอที่ถูกสูทของเย่หลิ่นหานโอบกอดอยู่ ตอนนั้นเย่โม่เซินมีแม้กระทั่งความคิดที่จะฆ่าพวกเขา
แต่ว่าต่อมาผู้หญิงคนนี้หลับทิ้งเย่หลิ่นหานแล้วเดินมาทางเขา
ฉะนั้นเย่โม่เซินจึงอดใจไม่ได้
กระโปรงสีแดงบนตัวของเธอเซ็กซี่อยู่แล้ว บวกกับถูกฉีกขาดอีก ครั้งนี้ยังเผยให้เห็นร่างกายครึ่งหนึ่งของเธอ ดูวับๆแวมๆ
จู่ๆ เย่โม่เซินก็ก้มหน้ากัดไปที่ไหล่อันขาวราวกับหิมะของเธอ ไม่ได้แรงมาก แต่กลับเจ็บ
เสิ่นเฉียวร้องออกเสียง “นาย….นายทำอะไร?”
“ให้เธอจำไว้” เสียงที่ต่ำของเย่โม่เซินมีความเบลอเล็กน้อย “ต่อจากนี้ห้ามใส่กระโปรงแบบนี้ต่อหน้าผู้ชายคนอื่นแล้ว และห้ามเธอใส่เสื้อของผู้ชายคนอื่นอีก ได้ยินไหม?”
เสิ่นเฉียวไม่ได้พูด มือของเธอกอดไปที่คอของเย่โม่เซินโดยไม่รู้ตัว ร่างกายที่ผอมเรียวพิงเข้าไปบนตัวของเขา พิงอยู่ ราวกับว่าชอบอุณหภูมิในร่างกายของเขามาก
เย่โม่เซินหยุดชะงักไปสักพัก ถามซ้ำว่า “ได้ยินหรือยัง?”
เสิ่นเฉียวทรมาน เพียงแค่ร้องไปคำหนึ่ง กอดคอของเขาไว้แล้วเงยหน้าขึ้น ริมฝีปากที่อ่อนโยนและเร่าร้อนกัดไปที่ลำคอของเขาหนึ่งที
การกระทำนี้ทำเอาทั้งตัวของเย่โม่เซินรวมแน่นไปหมด เส้นเลือดบนหน้าปากก็เผยออกมา เขานำมือของเสิ่นเฉียวออก แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักว่า “เดี๋ยวก่อน ตอบฉันก่อน ไม่เช่นนั้น…..ฉันไม่สนใจเธอแล้ว”
ได้ยินว่าเขาอาจจะไม่สนใจตัวเองแล้ว เสิ่นเฉียวก็รู้สึกเหนื่อยใจ พูดตรงๆ เลยว่า “งั้นนายก็ไม่ต้องสนใจฉันแล้ว ทิ้งฉันไว้ที่ข้างถนนเถอะ ให้ฉันจัดการตัวเองแล้วตาไปเลย”
เย่โม่เซินขมวดคิ้ว
ประโยคนี้ฟังแล้ว ทำไมดูเหมือนว่ากำลังอ้อนอยู่เลย?
เย่โม่เซินโมโหกับเธอไม่ขึ้นจริงๆ จ้องเจอ แล้วน้ำเสียงก็อ่อนโยนลงเยอะมาก
“อยากจะจัดการด้วยตัวเองจริงๆ หรอ?”
เสิ่นเฉียวลืมตามองหน้าเขา แล้วพยักหน้าด้วยความน่าสงสาร
แววตานั้นเหมือนกำลังบอกว่า เธอทรมานไม่ไหวแล้ว รับช่วยเธอหน่อย
เย่โม่เซินควบคุมความหวังของตัวเองที่ถูกยั่วยวนขึ้นมา “งั้นก็ต้องถามฉันว่าตกลงไหม”