เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่ 191 ยั่วโมโหผมสนุกมั้ย
ปล่อยเพื่อให้ตายใจ?
เสิ่นเฉียวกัดริมฝีปากล่าง ใช้แรงดึงมือของตัวเองกลับมา
“คุณคิดมากไปแล้ว ฉันไม่มีกะจิตกะใจแบบนั้นหรอก”
ไม่มีเหรอ? เย่โม่เซินตรึงเธอด้วยแววตาที่คมกริบ น้ำเสียงข่มขู่เล็กน้อย
เสิ่นเฉียวเม้มริมฝีปาก จ้องมองเย่โม่เซินด้วยสายตาที่ไม่กะพริบ
“คุณก็รู้ว่าฉันถูกวางยา ฉันก็เลยสะลึมสะลือ ดังนั้นถึงทำเรื่องเหล่านั้น สิ่งเหล่านั้นคุณก็จะนับรวมด้วยเหรอ?”
“อ้อ?” ฝีปากบางของเย่โม่เซินริมยกโค้งขึ้นอย่างชั่วร้าย ทันใดนั้นเขาได้ยื่นมือไปดึงเสิ่นเฉียวเข้ามาในอ้อมอก มืออีกข้างจับอยู่ที่ท้ายทอยของเธอ ระยะห่างระหว่างเขาทั้งสองจู่ๆก็ใกล้กันมาก
“สะลึมสะลือ? คุณทำไมถึงยังปฏิเสธเย่หลิ่นหานได้อธิบายให้ผมฟังหน่อย? ยัยผู้หญิงแต่งงานรอบสอง ยังไม่ยอมรับเหรอว่าคุณชอบผม?”
ในขณะนี้เหมือนมีสายฟ้าฟากที่ตัวของเสิ่นเฉียว เธอมองดูเย่โม่เซินที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม หัวใจเต้นเร็วขึ้นทันที เขามีคิ้วที่คมเข้มและจมูกที่โด่ง ยังมีริมฝีปากที่บางเหมือนมีด
เขาทั้งสองใกล้กันมาก ลมหายใจได้รวมเป็นหนึ่งเดียว เสิ่นเฉียวยังเห็นความรู้สึกลึก ๆ ในดวงตาสีดำของเขา
ที่น่าแปลกคือ เสิ่นเฉียวเหมือนโดนมนต์สะกด มองไปที่เขาอย่างเหม่อลอยและถาม
“แล้วคุณล่ะ?”
เย่โม่เซินอึ้งไปทันที
เสิ่นเฉียวมองเขา: “คุณชอบฉันมั้ย?”
เย่โม่เซินชะงัก แล้วหรี่ตาลง
เสิ่นเฉียวหายใจเข้าเฮือกใหญ่ แล้วจ้องมองเขาที่อยู่ใกล้เอื้อมอย่างไม่ขยับ: “เย่โม่เซิน ความรักของฉันจะไม่มีทางมอบให้กับคนที่ไม่ได้รักฉัน หรือคนที่เกลียดฉัน คุณไม่ชอบฉัน แล้วทำไมฉันต้องชอบคุณ?”
“หึ” เย่โม่เซินยิ้มอย่างเยาะเย้ย: “ที่แท้นี่คือเหตุผลที่คุณไม่ยอมรับความจริง? ยัยผู้หญิงแต่งงานรอบสอง ทั้งๆที่คุณหวั่นไหวแล้ว ขณะที่คุณปฏิเสธเย่หลิ่นหานแล้วเดินมาทางผม คุณก็รู้แล้วว่าใจคุณต้องการอะไร ไม่ใช่เหรอ?”
“ใช่ ฉันรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร แต่ฉันก็รู้ว่า ฉันต้องการพิสูจน์อะไร? ฉันเคยมีอะไรกับคุณแล้ว ดังนั้นจะมีอีกครั้งก็ไม่เห็นจะเป็นไร ตอนนี้คุณฟังเข้าใจหรือยัง?”
เสิ่นเฉียวรู้ดีว่า เย่โม่เซินไม่มีทางชอบเธอ
แค่เรื่องลูกในท้องของเธอ เขาก็ไม่มีวันยอมรับเธอได้
ดังนั้น……..เธอจะ ไม่สามารถแสดงออกว่าตัวเองมีใจให้กับเย่โม่เซินได้แม้แต่นิดเดียว เพื่อหลีกเลี่ยง…….การเยาะเย้ยและความปากร้ายของเขาที่ไม่รู้จะจบสิ้น
แน่นอนมือของเย่โม่เซินที่อยู่หลังคอของเธอได้เพิ่มแรงบีบขึ้นมาทันที ใกล้กันแค่นี้ เสิ่นเฉียวรับรู้ได้ถึงไฟโกรธในตัวเขา
“ยัยผู้หญิงแต่งงานรอบสอง ยั่วโมโหผมแล้วสนุกมากมั้ย?”
เสิ่นเฉียวเม้มปาก พูดอย่างจริงจัง: “ฉันก็แค่พูดความจริงเท่านั้น”
แผ่นอกเย่โม่เซินกระพือขึ้นลง สายตาที่คมกริบจ้องเขม็งเธอ จู่ๆก็ยิ้มอย่างเย็นเยือก: “ดี ขอให้คุณรักษาทัศนคติแบบนี้จนกว่าจะออกจากบ้านตระกูลเย่ ก่อนที่คุณจะออกไปจากบ้านตระกูลเย่ หากให้ผมรู้เข้าว่าคุณไปมาหาสู่กับผู้ชายคนไหนหรือมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมล่ะก็ ผมจะทำให้คุณร้องไห้จนต้องขอร้องผม”
“คุณวางใจได้ ฉันไม่มีทางทำให้ตระกูลเย่ต้องขายหน้า แน่นอนหากคุณเห็นว่าฉันอยู่ที่นี่แล้วรกหูรกตาคุณ งั้นเรา……สามารถเลื่อนเวลา………”
“พอแล้ว ออกไปได้แล้ว”
เสิ่นเฉียวยังไม่ทันพูดจับก็ถูกเย่โม่เซินพูดขัดจังหวะอย่างหยาบคาย
เสิ่นเฉียวอึ้งไปชั่วขณะ จากนั้นเม้มปากแล้วพยักหน้า:“ได้ ฉันไปนอนห้องข้างๆ”
จากนั้นเธอก็หันหลังเดินออกไปข้างนอก ขณะที่หันหลังเด็ดเดี่ยวมาก ไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย
เย่โม่เซินมองตามแผ่นหลังบางๆของเธอ รอยยิ้มเย็นชาค่อยๆปรากฏขึ้นบนริมฝีปาก
ช่างเป็นผู้หญิงที่ใจแข็งเหลือเกิน พูดว่าไปก็ไปเลย ลืมบุญคุณคน
ลืมไปหมดแล้ว ว่าเมื่อกี้ใครเป็นคนช่วยเธอ
สมควรตาย!
เสิ่นเฉียวไปถึงอีกห้องหนึ่ง ไม่คิดว่าตรงนี้ยังมีเสื้อผ้าของเย่โม่เซินที่ถูกทิ้งไว้ตรงนี้ เธอเหม่อไปสักพัก แล้วก็ขึ้นไปนอนบนเตียง
*
ในงานเลี้ยงครบปีหานเส่โยวรอตั้งนานก็ไม่เห็นสายตาของเย่โม่เซิน มองอีกครั้งเย่หลิ่นหานก็ได้หายไปจากงานเลี้ยงแล้ว เดิมทีถ้วยรางวัลที่ภาคภูมิใจสำหรับเธอตอนนี้กลับไม่มีความหมายแล้ว
เธอจึงได้เลิกสนทนากับคนที่พยายามมาตีสนิทและยกยอเธอ แล้วไปเปลี่ยนชุดโดยตรง
กลับได้ยินคนที่อยู่ในห้องเปลี่ยนชุดกำลังนินทาคนอื่นอยู่
“กาว…กาวหยุนถ้าหากเป็นภรรยาของคุณชายเย่ งั้นครั้งนี้พวกเราคงต้องตายแน่เลย?”
“เธอกลัวอะไร กาวหยุนที่โมโห เห็นได้ชัดว่าในใจยังมีความโกรธอยู่ เมื่อกี้ฉันแค่ตกใจ แต่ว่ามาคิดอย่างละเอียดแล้ว สายตาที่คุณชายเย่มองเธอ ถึงแม้ว่าจะเป็นภรรยา ก็ไม่ใช่ภรรยาที่เขารัก ไม่อย่างนั้น เขาจะลดตำแหน่งให้ภรรยาตัวเองมาอยู่แผนกเดียวกับพวกเราเหรอ?”
“ถึงแม้ว่า…….คุณชายเย่จะไม่ดีกับเธอ แต่ว่ารองประธานเย่ล่ะ? ยังไงฉันก็น่ากังวลนะ พรุ่งนี้พวกเราจะถูกไล่ออกมั้ย? ครั้งนี้ที่ช่วยพี่เฉียงเวย พวกเราถือว่าซวยมากๆเลย”
หานเส่โยวยิ่งฟังยิ่งรู้สึกว่าผิดปกติ เดินอ้อมไปยังทางต้นเสียงโดยตรง เตะประตูออกอย่างหยิ่งผยอง
“พวกแกคุยอะไรกันอยู่?”
กาวหยุนและชุยหมิ่นลี่คืนนี้ต่างได้รับความหวาดกลัวกันมาแล้ว ตอนนี้การปรากฏตัวกะทันหันของหานเส่โยว ทำให้พวกเธอตกใจเป็นอย่างมาก
“คุณ คุณ คุณ คุณจะทำอะไรน่ะ?” ชุยหมิ่นลี่ตกใจจนต้องหลบไปอยู่ที่ด้านหลังของกาวหยุน: “คุณเป็นเพื่อนผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม? ฉันจะบอกคุณ…..ไม่ใช่พวกเราที่จะทำร้ายเธอ และพวกเราก็ทำไม่สำเร็จ เธอได้ถูกช่วยไปแล้ว”
“ทำร้ายคน? เมื่อกี้พวกแกบอกว่าจะทำร้ายใครนะ? เพื่อนของฉัน?” หานเส่โย่วก็เข้าในทันที ที่พวกเธอพูดถึงน่าจะเป็นเสิ่นเฉียว ถึงว่าล่ะจู่ๆถึงไม่เห็นเสิ่นเฉียว เธอก้าวไปข้างๆและถามอย่างดุเดือด: “พวกแกทำอะไรเธอ?”
กาวหยุนหรี่ตาลง พูดอย่างเย็นชา: “ถึงแม้คุณจะเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลหานพวกเราก็ไม่กลัวหรอก ตระกูลหานถึงแม้จะมีบริษัทที่ยิ่งใหญ่ ก็คงไม่สามารถยื่นมือมายุ่งเรื่องของตระกูลเย่มั้ง พวกเราได้ถูกคนไหว้วางให้วางยาผู้หญิงคนนั้น เพื่อเอาเธอส่งมอบให้กับหัวหน้าแผนกของพวกเรา แต่ว่ารองประธานเย่ได้ปรากฏตัวมาช่วยเธอไปแล้ว จากนั้นคุณชายเย่ก็ได้ปรากฏตัวอีกคน เรื่องราวทั้งหมดก็เป็นแบบนี้ คุณก็ได้รู้เรื่องที่อยากรู้แล้ว ปล่อยพวกเราไปได้หรือยัง?”
พูดจบ กาวหยุนได้ดึงชุยหมิ่นลี่ออกมาโดยตรง กำลังจะก้าวเท้าออกไปข้างนอก
“หยุดก่อน!” หานเส่โยวใช้เสียงที่เย็นเยือกหยุดเขาทั้งสองไว้
กาวหยุนขมวดคิ้ว: “คุณยังจะทำอะไรอีก? คุณคงไม่คิดว่าจะทำอะไรเราสองคนได้จริงๆมั้ง?”
หานเส่โยวยิ้มอย่างเย็นชา เมื่อกี้พวกแกพูดว่า……….คุณชายเย่เป็นคนพาเธอไป?”
“ใช่ไง ทำไมเหรอ?”
ความดุร้ายปรากฏขึ้นในดวงตาของหานเส่โยว หลังจากที่เธอได้รับถ้วยรางวัลรอไปตั้งนานก็ไม่เห็นสายตาของเย่โม่เซิน เธอยังนึกว่าเขาไปไหนเสียอีก ที่แท้ก็มาช่วยเสิ่นเฉียวนี่เอง
ไม่ได้!
ท่าทางที่ตื่นตระหนกของเขา เห็นได้ชัดว่ามีต่อใจเสิ่นเฉียว เพียงแต่ตอนนี้เขาทั้งสองยังไม่มีใครยอมรับมัน
หากปล่อยให้มันพัฒนาต่อไป งั้นอนาคตเสิ่นเฉียวจะไปจากเย่โม่เซินได้อย่างไรกัน?
หากเสิ่นเฉียวไม่ไปจากเย่โม่เซิน เธอหานเส่โยวจะมีโอกาสได้อย่างไรกัน?
คิดถึงตรงนี้ หานเส่โยวอารมณ์ร้ายขึ้นมาทันที ยื่นมือไปกระชากผมที่ยาวของกาวหยุนและชุยหมิ่นลี่ ใช้แรงไปโขกกับฝาผนัง
“อ๊า!” ทั้งสองคนตกใจจนร้องเสียงหลง ท่าทางของหานเส่โยวตอนนี้น่ากลัวเหมือนตัวอสุรกายที่กินคน
“ฉันให้พวกแกทำสิ่งเหล่านี้ พวกแกก็รอผลกรรมที่จะตามมาละกัน!”