เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่ 196 เธอทำเรื่องที่ผิดต่อคุณ
- Home
- เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก…
- บทที่ 196 เธอทำเรื่องที่ผิดต่อคุณ
ฟังถึงตรงนี้ เสิ่นเฉียวอึ้งไปชั่วขณะ
“มันหมายความว่าไง?”
หลินเจียงขอโทษเธอไม่หยุด: “ผมรู้ว่าเป็นผมที่ไม่ดีเอง ก่อนหน้านั้นที่อยู่ในโรงพยาบาลที่ผมคอยตอแยคุณแล้วพูดคำพูดสารเลวเหล่านั้น วันนี้ผมมาขอโทษคุณ ขอให้คุณอภัยให้ผม เฉียวเฉียว คุณต้องให้อภัยผมนะ หากคุณไม่อภัยให้ผม ผมกับเป่าเอ๋อและลูกคงมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้”
เสิ่นเฉียวไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรกันแน่ อยู่ๆเขาก็วิ่งมาขอร้องให้เธอปล่อยเขาอย่างแปลกประหลาด ยังพูดอะไรว่าเขากับลูกและเมียน้อยจะมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้
“คุณกำลังพูดอะไรอยู่ ฉันฟังไม่เข้าใจแม้แต่คำเดียว!”
เสิ่นเฉียวถอยหลังไปสองสามก้าว หลบหลีกมือของหลินเจียง มือของหลินเจียงหล่นลงบนพื้น เงยหน้าเห็นเสิ่นเฉียวหน้ามุ่ยคิ้วขมวด นึกว่าเธอไม่ยินยอมให้อภัยตัวเอง เขาจึงลุกขึ้นยืน
เสิ่นเฉียว อย่ามาทำเป็นงงหน่อยเลย? ไม่ใช่เธอหรอกเหรอให้ผู้ชายของเธอมาเล่นงานผมน่ะ? ผมเพิ่งเสียเงินก่อตั้งบริษัทเล็กๆขึ้นมา ยังไม่ได้กำไลคืนเลย ทั้งหมดโดนผู้ชายของเธอทำพังหมดแล้ว ตอนนี้ผมมาขอให้คุณอภัย คุณก็แค่เห็นแก่ที่เราเคยรักกันแล้วอภัยให้ผมสักครั้งได้ไหม?
เขาพูดอย่างวู่วาม สายตายังเต็มไปด้วยความเกลียดชัง แต่ว่าเสิ่นเฉียวไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ แต่ก็ได้ข้อมูลจากคำพูดของหลินเจียงเล็กน้อย แต่ข้อมูลเหล่านี้ยังน้อยมาก
ผู้ชายของเธอ………
ผู้ชายของเธอเป็นใคร? หรือว่าจะเป็นเย่โม่เซิน?
ไม่น่าใช่ เย่โม่เซินไม่เคยเห็นหลินเจียงมาก่อน คงไม่สามารถไปเล่นงานเขา?
“เสิ่นเฉียวคุณอย่าแกล้งหน่อยเลยน่ะ ก็ผู้ชายที่เคยช่วยเธอตอนอยู่หน้าประตูโรงพยาบาลไง? ฉันยังได้ยินว่าเขาให้เงินคุณแม่ของคุณสามแสนใช่ไหม?”
ได้ยินแบบนี้แล้ว เสิ่นเฉียวสีหน้าเปลี่ยนไปทันที: “คุณพูดอะไรนะ? คุณรู้เรื่องนี้ได้ยังไง?”
“หากไม่อยากให้คนอื่นรู้ นอกจากตัวเองจะไม่ทำ!” หลินเจียงพูดอย่างดุเดือด:“เรื่องสกปรกที่เธอทำจะให้ฉันเล่าให้เธอฟังทีละเรื่องทีละเรื่องเหรอ?”
เสิ่นเฉียว: “ฉันทำเรื่องสกปรกอะไร? คุณช่วยเล่ามาทีละเรื่องทีละเรื่องซิ!”
เธอก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าว ใช้สายตาที่คมเฉียบจ้องมองหลินเจียง ออร่าบนหน้าก็เปลี่ยนไปจากเดิม เธอก็อยากรู้เหมือนกัน เธอไปทำเรื่องสกปรกเหล่านั้นเมื่อไหร่?
หลินเจียงถูกรังสีที่ยิ่งใหญ่บนตัวเธอทำให้ตกใจ ใจเสาะจนต้องถอยหลังหนึ่งก้าว
“คุณ คุณนึกว่าตัวเองวิเศษวิโสหรือไง? สารรูปคุณตอนนี้คือถูกผมพูดจนสมองรับไม่ได้ถึงโกรธขนาดนี้ใช่ไหม? เสิ่นเฉียว เสียแรงที่เมื่อก่อนผมรู้สึกว่าคุณเป็นผู้หญิงที่สะอาดบริสุทธิ์ ไม่คิดว่าคุณก็จะหน้าด้านได้ขนาดนี้ ยั่วยวนผู้ชายยังไม่พอ ยังเอาเงินของเขามาผลาญที่บ้านแม่อีก ตอนนี้ผมจะบอกคุณให้ทำไมผมถึงไม่แตะต้องคุณ? ก็เพราะว่าผมรู้ตั้งนานแล้วว่าคุณมันเป็นพวกลุ่มหลงชื่อเสียงเงินทองดังนั้นจึงไม่อยากแตะต้องตัวคุณ ฉันก็กลัวว่าบ้านแม่ยายอยู่ดีๆก็มารีดไถฉัน ไม่คิดว่ามีคนโดนซะแล้ว เสิ่นเฉียวคนในครอบครัวเธอช่างมีความสามารถหรือเกิน!”
คุณหุบปากเดี๋ยวนี้นะ เสิ่นเฉียวโกรธจนขัดจังหวะพูดของเขา
“ยังไม่แต่งงานคุณก็ไปอยู่กับซือฉีนเป่าแล้ว ยังไม่หย่าคุณก็มีลูกแล้ว ถูกหวยห้าล้านคุณก็จะหย่ากับฉันทันที ฉันแต่งงานกับคุณตั้งนานไม่ได้ค่าชดเชยใดๆเลย คุณนึกว่าฉันกลัวคุณมากหรือไง? เสิ่นเฉียวหัวเราะ รอยยิ้มมุมปากที่ดุร้าย: “หากไม่ใช่เห็นว่าเราเคยรักกัน คุณคิดว่าฉันจะไม่เอาอะไรง่ายๆแบบนี้เหรอ? หลินเจียง พูดให้ชัดเจนหน่อยคุณมันก็ผู้ชายเฮงซวย ลืมบุญคุณคน เป็นกองขยะที่ไม่สามารถร่วมทุกข์ร่วมสุขได้ ฉันไม่รู้ว่าใครกำลังเล่นงานคุณ แต่มันก็ไม่เกี่ยวกับฉันเลยสักนิด วันนี้คุณได้พูดคำพูดที่ไม่น่าฟังถึงเพียงนี้ ฉันก็มีคำพูดที่จะบอกคุณ”
เสิ่นเฉียวจ้องมองตาของเขา ค่อยๆพูดขึ้น: “สมน้ำหน้า”
หลินเจียง: “คุณ!”
“ไม่ต้องมาหาฉันอีก ไม่งั้น………ครอบครัวคุณอาจจะพังหรือตายกันเร็วขึ้นก็ได้”
หลินเจียงโกรธจนปากสั่น เพราะคำข่มขู่ของเธอ ทำให้โมโหจนเถียงไม่ออก
เสิ่นเฉียวหันหลังกลับแล้วเดินจากไป แต่ดวงตาที่ไม่เอาไหนตอนที่หันหลังมันก็แดงขึ้นมาแล้ว ตอนที่เธอเตรียมที่จะออกจากตรงนี้ หลินเจียงคุกเข่าลงมาเกาะขาของเธอไว้: “ขอโทษด้วยเฉียวเฉียว เป็นผมที่เลอะเลือนทำผิดต่อคุณ เป็นผมที่ลืมบุญคุณคน ผมหลินเจียงมันไม่ใช่อะไรทั้งนั้น แต่ตอนนี้บริษัทผมกำลังเผชิญกับวิกฤติ ผมกำลังจะล้มละลาย และผมต้องชดใช้เงินจำนวนมาก ผม ผมรับไม่ได้! เสิ่นเฉียว คุณช่วยผมหน่อยได้ไหม ช่วยผมด้วย!”
“มันเป็นสิ่งที่คุณไม่ควรจะได้อยู่แล้ว อย่าลืมสิว่าที่คุณถูกหวยนั้นฉันเป็นคนซื้อให้คุณเอง”
แต่แล้ว เขากลับมาหย่ากับเธอทันที จากนั้น…….ไม่ได้แบ่งเงินให้เธอแม้แต่แดงเดียว
ถึงแม้เธอจะไม่คิดถึงเงินเหล่านั้น แต่การกระทำแบบนี้ของเขามันเหมือนคนบ้าคลั่ง
“เฉียวเฉียว……..”
ไม่ต้องเรียกชื่อฉันแล้ว คุณไม่เหมาะ เสิ่นเฉียวใช้แรงก้าวเท้าออก ยังไงก็แล้วแต่หลินเจียงไม่ยอมปล่อยขาเธอออกง่ายๆ ราวกับว่าวางแผนมาแล้วว่าจะเกาะเธอเอาไว้
เฉียวเฉียว คุณแค่ช่วยผมครั้งเดียว ครั้งเดียวก็พอ ต่อไปนี้คุณก็คือคนที่มีบุญคุณของผม
เสิ่นเฉียวหายใจเฮือกใหญ่ หลับตาลง ในหัวเต็มไปด้วยภาพของเมียน้อยที่อุ้มท้องมาโอ้อวดเธอ เขามีชู้ในขนาดที่แต่งงาน พาเมียน้อยเข้ามาไล่เธอออกจากบ้าน ทำให้เธอต้องถูกคนร้ายพรากพรหมจรรย์ในคือฝนตก เธอหนีกลับไปบ้านตระกูลเสิ่นจากนั้นก็ถูกบังคับให้แต่งงานกับตระกูลเย่ วันนี้ถึงมีสภาพแบบนี้ ทั้งหมดนี้ได้มาเพราะหลินเจียงประทานให้
ทำไมเธอต้องช่วยเขา? ไม่มีทางช่วยแน่นนอ!
“ฉันพูดเป็นครั้งสุดท้าย ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้” เสิ่นเฉียวลืมตาขึ้น นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเย็นเยือก ทันใดนั้นก็แปลเปลี่ยนประหลาดใจ
เธอไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะมาปรากฏตรงหน้าของเธอ
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ เซียวซู่ได้เข็นเย่โม่เซินออกมาตรงหน้าพวกเธอ ตอนนี้ชายร่างสูงและหล่อเหลาที่นั่งอยู่บนรถเข็นกำลังเฝ้ามองพวกเขาราวกับเทพเจ้า แววตาสีดำคู่นั้นเต็มไปรอยยิ้มเยาะเย้ย
เขาทำไมถึงอยู่ที่นี่ได้?
เซียวซู่ได้มองเธอด้วยสายตาที่เห็นใจ ไม่ต้องรอให้เสิ่นเฉียวพูด คนที่อยู่ข้างหลังเธอหลินเจียงได้กระโดดออกมาราวกับลิงตัวหนึ่งคุกเข่าลงตรงใต้ขาของเย่โม่เซิน “ผมจำคุณได้ ก่อนหน้านี้คุณกับเสิ่นเฉียวเคยไปปรากฏตัวที่ห้าง คุณคือประธานเย่แห่งบริษัทตระกูลเย่ใช่ไหม? เสิ่นเฉียวเป็นแฟนของคุณใช่ไหม? ประธานเย่ คุณต้องช่วยผม ช่วยผมด้วย!”
“อ้อ? แววตาของเย่โม่เซินเต็มไปด้วยความรังเกียจ แล้วก็เลิกคิ้วถาม: ช่วยคุณ? คุณต้องการให้ผาช่วยอะไรคุณล่ะ?”
“ประธานเย่ ของเพียงคุณยินยอมช่วยผม ผมจะบอกความลับกับคุณ ความลับของเสิ่นเฉียว!”
เสิ่นเฉียวที่ยืนอยู่ข้างๆราวกับท่อนไม้ ในใจเธอด้านชาเล็กน้อย แต่ว่าได้ยินของหลินเจียงที่พูดแบบนั้นแล้ว จู่ๆในใจเธอก็เต้นตุ๊บตั๊บอีกครั้ง เหมือนเป็นรางไม่ดี
“คุณจะทำอะไร?” เธอถามอย่างสงสัย
หลินเจียงหัวเราะเห่อๆ: “ประธานเย่ คุณดูเธอกลัวแล้ว เธอทำเรื่องที่ผิดต่อคุณ ประธานเย่………ขอเพียงยินยอมช่วยให้บริษัทผมได้เกิดใหม่อีกครั้ง ผมก็จะบอกเรื่องราวที่เธอกลัวให้คุณฟัง!”
สีหน้าของเสิ่นเฉียวเปลี่ยนไปมาก ใจเต้นราวกับเสียงตีกลอน
หลินเจียงคงไม่บอกเรื่องที่พวกเขาไม่เคยมีอะไรกันให้เย่โม่เซินฟังนะ?