เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่ 250 ใครให้คุณแตะต้องของของผม
- Home
- เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก…
- บทที่ 250 ใครให้คุณแตะต้องของของผม
“เฉียวเฉียว!” หานเส่โยวตกใจจนสีหน้าเปลี่ยนไป
เทียบกับเธอแล้ว เสิ่นเฉียวสงบนิ่งเป็นพิเศษ
“สิ่งที่แกพูดไม่ออก ฉันพูดแทนแกหมดแล้ว”
สีหน้าของหานเส่โยวซีดเซียวมาก จ้องหน้าเธออย่างกับผี
เสิ่นเฉียวหัวเราะเบาๆหนึ่งเสียง ยืนมือไปหยิกแก้มที่เย็นๆของเธอ: “ทำไมต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้น?”
“แก แกอย่าพูดมั่วสิ” หานเส่โยวจับมือเธอไว้ แล้วก็ส่ายหัวแรงๆ: “ฉันกับเย่โม่เซินไม่ได้มีอะไรกันเลยนะ ฉันก็ไม่ได้ชอบเขา! เราไม่ใช่ศัตรูหัวใจกัน เราเป็นเพื่อนรักกัน”
“เพื่อนรักกัน……” เสิ่นเฉียวสะกดสามคำนี้และก้มหน้าลง น้ำเสียงยิ่งอยู่ยิ่งต่ำลง: “เราเป็นเพื่อนรักกันจริงๆ แต่ว่าฉันก็นึกไม่ถึงว่าเราจะชอบผู้ชายคนเดียวกันได้ แต่แกกลับหลอกฉัน”
“ฉันไม่ได้หลอกแกนะ!” หานเส่โยวร้อนใจขึ้นมาจริงๆ ลุกขึ้นและอ้อมไปจับมือของเธอตรงหน้าเธอ อธิบายอย่างร้อนใจ: “เฉียวเฉียว แกได้ยินใครพูดมั่วใช่ไหม? เสี่ยวเหยียนคนนั้นใช่ไหม? เธอยั่วยุอีกแล้วใช่ไหม? แกต้องเชื่อฉันสิ ฉันไม่มีทางทำอะไรกับเย่โม่เซินจริงๆ……”
ตอนที่เงยหน้าขึ้น เสิ่นเฉียวเห็นต่างหูสีชมพูบนหูของเธอกำลังส่องแสงระยิบระยับภายใต้การหักเหของแสงแดด เหมือนกำลังประชดหานเส่โยวอย่างนั้น”
“เส่โยว แกรู้ไหม?” เสิ่นเฉียวจับมือของเธอไว้ แววตามองดูเธออย่างนิ่งๆ: “ต่างหูสีชมพูคู่นั้นบนหูของแก ฉันเคยเห็นมาก่อน”
ประโยคเดียว ทำให้หานเส่โยวหยุดการกระทำทุกอย่างโดยสิ้นเชิง
เธออ้าปาก เหมือนอยากจะพูดอะไรกับเสิ่นเฉียว แต่ว่าตั้งนานยังพูดอะไรไม่ออกเลยสักคำ
เสิ่นเฉียวก็ยังยิ้มแย้มอยู่ พูดอย่างนิ่งๆ: “เรื่องของความรักมันบังคับใจกันไม่ได้ ฉันไม่โทษแกหรอก แต่ว่า……ฉันก็ไม่อาจให้อภัยแกเหมือนกัน”
พูดจบแล้ว เสิ่นเฉียวลุกขึ้น ไม่มองหน้าหานเส่โยวอีก แววตามองนอกประตูอย่างเศร้าใจ
“วันหลัง เราจะไม่ใช่เพื่อนรักกันอีก”
จากนั้นเสิ่นเฉียวก็เดินจากไป หานเส่โยวตะลึงอยู่กับที่ตั้งนาน ถึงคิดจะตามออกไปอธิบาย แต่ว่าตอนที่ตามไปจนถึงหน้าประตู ไม่เห็นแม้แต่เงาของเสิ่นเฉียว
เวลาเพียงสั้นๆ หานเส่โยวใจเต้นจนไม่รู้จะทำยังไงได้ เธอนึกไม่ถึงว่าเรื่องนี้จะถูกเสิ่นเฉียวรู้ได้เร็วขนาดนี้ เธอยังอยากปกปิดไว้อีกช่วงหนึ่ง แค่เธอไม่พูดออกมา นิสัยของเสิ่นเฉียวน่าจะไม่ถามถึงจะถูก
ใครจะรู้ว่าวันนี้เธอกลับตรงไปตรงมาขนาดนี้
หานเส่โยวจึงได้แต่หยิบมือถือออกมาโทรหาเสิ่นเฉียว แต่ว่ามือถือของเธอกลับปิดเครื่องแล้ว ไม่มีทางอื่น ในใจของหานเส่โยวร้อนใจ จึงรีบค้นหาทั่วทุกทั้งสี่ทิศ
หาเกือบครึ่งวัน เธอก็หาไม่เจอแม้แต่เงาของเสิ่นเฉียว ไม่มีทางเลือก หานเส่โยวจึงต้องกลับไปก่อน ใครจะรู้ว่ากลางทางได้รับสายของเซียวซู่ บอกว่าเย่โม่เซินอยากจะพบเธอ
หลังจากที่ได้ยินข่าวว่าเย่โม่เซินอยากจะเจอเธอ อารมณ์ของหานเส่โยวที่ยังเครียดๆเมื่อสักครู่นี้ กลับลืมไปหมดเลย ถามสถานที่ด้วยความดีใจ แล้วก็รีบไปที่นั่นทันที
จนตอนที่เธอรีบไปถึงที่นั่น รู้สึกว่าเย่โม่เซินกำลังมองเธออย่างเยือกเย็น แต่หานเส่โยวก็ยังยิ้มอย่างอ่อนโยนน่ารักและเดินเข้าไป: “โม่เซิน คุณหาฉัน”
เซียวซู่มองเห็นหานเส่โยว ถอยไปข้างๆสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัว พยายามหลีกห่างจากเธอหน่อย
ถึงแม้จะรู้ว่าเรื่องมันเป็นมายังไง แต่เขาก็ไม่ได้หลงรักผู้หญิงคนนี้ เห็นหน้าก็รำคาญแล้ว กล้าหักหลังเพื่อนรักของตนเอง อีกทั้งยังทำได้ไม่รู้สึกละอายใจ เวลาที่เธอมองเห็นเย่โม่เซินแล้ว ลูกตาแทบกระเด็นไปติดอยู่บนตัวเขาเลยทีเดียว
เย่โม่เซินไม่ได้ตอบโต้กับเธอ แค่มองเธอพริบตาเดียว แล้วเหลือบไปเห็นต่างหูสีชมพูคู่นั้นอยู่บนใบหูของเธอ สองตาที่แหลมคมอย่างกับนกอินทรีย์หยุดชะงักอยู่อย่างนั้น แล้วยื่นมือไปดึงแขนของเธอมาที่ข้างๆตัวเอง
“ใครให้คุณใส่ต่างหูคู่นี้?”
น้ำเสียงของเขาเยือกเย็นดั่งน้ำแข็ง คมเหมือนมีดที่เพิ่งลับแล้ว
“อ้า เจ็บ!” แขนของหานเส่โยวถูกเขาดึงจนมีรอยแดงๆ เจ็บจนสีหน้าซีดเซียว แต่เย่โม่เซินยังไม่คิดจะปล่อยเธอ สายตามองไปที่เธออย่างโมโหมาก: “ใครอนุญาตให้คุณเอาของของผม? พูด!”
หานเส่โยวเจ็บจนน้ำตาไหลลงมา “คืนนั้นมันตกลงมาจากกระเป๋าเสื้อสูทของคุณ ฉันเห็นแล้วชอบ ก็เลย……”
“หยิบไปโดยไม่ถามก็คือขโมย! คุณหนูใหญ่ตระกูลหานขาดต่างคู่แค่คู่เดียวอย่างนั้นเหรอ?”
เห็นต่างหูคู่นั้นใส่อยู่บนหูของเธอ ไม่รู้ทำไม เย่โม่เซินรู้สึกอยู่เสมอว่าต่างหูคู่นั้นมันเปรอะเปื้อน
ตอนนั้นเสิ่นเฉียวใส่แล้ว เขารู้สึกน่ารักเป็นพิเศษ แต่ใครจะรู้ว่าเธอไม่ซื้อ แล้วก็ หันตัวเดินออกไปเลย ดังนั้นเขาจึงย้อนกลับไปซื้อภายหลัง เตรียมจะหาโอกาสมอบให้เธอ
แต่ใครจะไปรู้ว่าผู้หญิงคนนี้กลับแย่งไปใส่ก่อนแล้ว!
“ขอโทษ!” หานเส่โยวรู้สึกว่าแขนของตนเองเหมือนจะถูกดึงจนหักแล้ว เจ็บจนเธอร้องไห้น้ำตาไหล จึงได้แต่ขอโทษเย่โม่เซินไม่หยุด: “ขอโทษจริงๆ ฉันชอบต่างหูคู่นี้จริงๆ ดังนั้นจึงเอาใส่ ถ้าคุณโกรธ ฉันจะคืนมันให้คุณ”
พูดจบ เธอยื่นมืออีกข้างหนึ่ง แกะต่างหูคู่นั้น
ใครจะรู้ว่าเย่โม่เซินสลัดมือของเธอออกโดยตรง แล้วก็พูดด้วยเสียงที่เย็นชา: “ไม่ต้องแล้ว ถึงคุณจะแกะออกมา ต่างหูคู่นี้ก็ไม่มีประโยชน์แล้ว”
ได้ยินดังนั้นแล้ว หานเส่โยวหยุดนิ่งกับที่ เธอมองหน้าเย่โม่เซินอย่างตกใจ: “คุณพูดแบบนี้หมายความว่าไง?”
เซียวซู่ที่ยืนอยู่ข้างๆได้ยินแล้วก็พูดเพิ่มเติม: “ก็หมายความว่าคุณทำต่างหูคู่นี้เปื้อนไปแล้วไง จริงๆเลย ยังเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลหานด้วย ทำไมกิริยามารยาทแย่ขนาดนี้? ของของคนอื่นไม่ถามก่อนแล้วก็หยิบไปเลยเหรอ? ใช่คุณหนูใหญ่ตระกูลหานจริงๆหรือเปล่า หรือจะเป็นผู้แอบอ้าง?”
ตอนแรกก็แค่คำระบายเฉยๆ แต่ประโยคนี้กลับทิ่มโดนใจของหานเส่โยว สายตาของเธอเปลี่ยนเป็นความดุร้ายทันที จ้องเซียวซู่และพูดว่า: “คุณพูดบ้าอะไร?”
เซียวซู่ตกใจกับสายตาที่ดุร้ายของเธอ “สายตาอะไรของคุณ?”
สายตาของเย่โม่เซินมองมา หานเส่โยวจึงรีบเปลี่ยนสีหน้ากลับมาเหมือนดังเดิม กลายเป็นท่าทางที่น่ารัก: “โม่เซิน ขอโทษจริงๆนะ……ต่างหูคู่นั้นฉันไม่ได้ตั้งใจจะใส่นะ ฉันก็แค่ตอนที่ตื่นมาแล้วเห็น จากนั้นรู้สึกว่าสวยมาก ฉันคิดว่าคุณจะมอบให้ฉัน ดังนั้นฉันจึง……ใส่มัน ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ถ้าคุณไม่ชอบ วันหลังฉันจะไม่แตะต้องของคุณอีกแล้ว”
พูดจบ หานเส่โยวรีบแกะต่างหูออกมาวางไว้บนฝ่ามือของเย่โม่เซิน
“คืนให้คุณ ฉันสัญญากับคุณ ของที่คุณไม่ให้ฉันแตะต้อง ฉันจะไม่แตะต้องอีกเด็ดขาด”
ต่างหูสีชมพูคู่นั้นกลับมาอยู่ในมือของเย่โม่เซินอีกครั้ง เย่โม่เซินเห็นแล้วรู้สึกรำคาญ ยิ้มอย่างเยือกเย็น: “ใส่ก็ใส่ไปแล้ว คุณคิดว่าผมยังจะเอาอีกเหรอ?”
สีหน้าของหานเส่โยวกลายเป็นสีหน้าที่ซีดขาว จนริมฝีปากไม่มีสีเลือดเลยสักนิด เธอกัดริมฝีปากด้านล่างและพูดเองเออเอง: “ฉันรู้แล้ว ต่างหูคู่นั้นคุณซื้อมาเพื่อจะมอบให้เสิ่นเฉียวใช่ไหม? ขอโทษจริงๆนะ ถ้าฉันรู้ว่าคุณจะเตรียมไว้มอบให้เสิ่นเฉียว ไม่ว่ายังไงฉันคงไม่แตะต้องต่างหูคู่นั้นแน่นอน!”
พูดจบแล้ว หานเส่โยวยกมือขึ้นมาตบหน้าตนเองหนึ่งที: “ฉันมันไม่ดีเอง ฉันไม่ควรมาอยู่ตรงหน้าคุณ ฉันจะไปหาเสิ่นเฉียวเดี๋ยวนี้ ไปยอมรับผิดกับเธอ!”