เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่ 253การแย่งชิง
พอพูดถึงเรื่องแจ้งตำรวจ คุณแม่เสิ่นก็แปลกๆ ไป ไม่กล้าตอบคำถามเธอ
เสิ่นเฉียวได้แค่หยิบโทรศัพท์ออกมา : “งั้นหนูจะแจ้งตำรวจตอนนี้เลย ”
“อย่าแจ้งตำรวจ! ” คุณแม่เสิ่นจับมือเธอไว้ สายตาตื่นตระหนกพูดว่า : “เฉียวเฉียว เรื่องนี้ถึงแจ้งตำรวจก็ไม่มีประโยชน์ ฝั่งนั้นน่าจะหนีไปแล้ว! ”
“หนีไปแล้วก็แจ้งตำรวจได้ ให้ตำรวจจัดการเรื่องนี้ หนีไปพร้อมกับเงินจำนวนมาก นั่นคือการฉ้อโกง ” เสิ่นเฉียวยังต้องโทร คุณแม่เสิ่นตกใจจนต้องแย่งโทรศัพท์มาจากเธอ
“อย่าแจ้งตำรวจ! ”
ตอนนี้คุณพ่อเสิ่นฟังต่อไม่ไหวแล้ว ตรงไปเปิดประตูห้องและตะโกนว่า : “เฉียวเฉียวเธออย่าฟังที่แม่เธอพูดเลอะเทอะมาก เงินพวกนั้นที่จริงก็คือเธอเอาไปพนัน! ”
“คุณหยุดพูดได้แล้ว! ” คุณแม่เสิ่นโกรธจนอยากจะไปปิดปากเขา คุณพ่อเสิ่นเปิดออก : “ฉันพูดเรื่องจริงจะเป็นไร? เธอยังทำให้เฉียวเฉียวแย่ไม่พออีกหรอ? เงินสามแสนก่อนหน้านั้นเธอได้มายังไง? ตอนนี้เธอแพ้แล้วยังจะมาเอาเงินที่เธออีกหรอ? เธอไม่ฆ่าเธอซะเลยล่ะ! ”
เสิ่นเฉียว:“……”
เธอจ้องมองเหตุการณ์ต่อหน้าเธอด้วยความประหลาดใจ
คิดไม่ถึงว่าฉากแค่ไม่กี่ปี สถานการณ์ของครอบครัวนี้ก็เปลี่ยนเป็นแย่ลง เธอเดินไปต่อหน้าคุณแม่เสิ่นด้วยความมึนงง เสียงงงๆ : “แม่ แม่ติดการพนันตั้งแต่เมื่อไหร่? ”
คุณแม่เสิ่นหลบสายตา ไม่กล้าพูดอะไร
“หลังๆ มานี้ คิดว่าเธอแต่งงานเข้าตระกูลเย่แล้ว มีเงินแล้วเริ่มจะขยับขยายแล้ว ไปโม้กับคนอื่นทุกวัน จากนั้นก็โดนคนหลอก ”
เสิ่นเฉียว:“……แล้ว ครั้งที่แล้วแม่ไปยืมเงินฉัน เป็นเพราะแม่เอาเงินของครอบครัวไปแพ้จนหมดแล้ว? เพราะแบบนี้ถึงไปหาฉันเอาเงินสามแสนนั่น? ”
คุณแม่เสิ่นไม่ได้พูดอะไร ท่าทางดูสำนึกผิด
เสิ่นเฉียวอยู่ดีๆ ก็รู้สึกขำขึ้นมา “แล้วแม่เอาเงินสามแสนไปแล้วไม่ได้เอามาคืนเงินของครอบครัวที่ขาดไป ยังจะเอาไปเล่นการพนันต่ออีก? ”
“เฉียวเฉียว แม่ทำไม่ดีกับลูก แต่ครั้งนี้ลูกต้องช่วยแม่ ไม่งั้น…..ชีวิตของแม่คงจบแล้ว”
เสิ่นเฉียวเหนื่อยใจจนหลับตา “ตอนแรกฉันคิดว่ากลับมาบ้านจะรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของบ้าน คิดไม่ถึง…..แต่คุณกลับทำให้ฉันมีแต่ความเหนื่อยล้าที่ไม่มีที่สิ้นสุด แม่รู้ไหม? เงินสามแสนนั่น ฉันต้องค่อยๆ หามาคืนนะ ”
“คืนอะไร? ” คุณแม่เสิ่นทำตาโตไม่เชื่อ จับแขนของเธอ : “เธอเป็นคุณนายของบ้านตระกูลเย่นะ เธอเป็นคุณนายที่สูงส่ง ทำไมต้องคืนเงิน? เฉียวเฉียว แม่รู้ว่าผิดไปแล้ว เธอช่วยแม่ครั้งนี้ได้ไหม? ”
เสิ่นเฉียวถูกเธอเขย่าจนแทบจะยืนไม่นิ่งแล้ว เธอยืนอยู่ตรงนั้นไม่มีชีวิตชีวา เหมือนกับอีกวินาทีเดียวจะล้มลงไป
เธอหลับตาลงอย่างสิ้นหวัง : “แม่ แม่คิดว่า……ฉันมีเงินมากมาย? หรือคิดว่าฉันอยู่ในตระกูลเย่ไม่ถูกรังเกียจ ฉันแต่งงานเข้าบ้านตระกูลเย่หลายเดือนแล้ว แม่ไม่เคยถามฉันเลย…..แค่ประโยคเดียว ฉันสบายดีไหม? ”
คุณแม่เสิ่นอึ้งอยู่ตรงนั้น มองที่เธออย่างงงๆ
สักครู่ต่อมาเธอเหมือนกับจะบ้าขึ้นมา จับแขนของเธอแล้วพูดว่า : “เธอพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง? เธอหมายความว่าจะไม่ยอมช่วยฉันแล้วใช่ไหม? หรือเธออยากเห็นแม่ของเธอถูกฆ่าใช่ไหม? เธอช่างไม่กตัญญูเอาซะเลย ที่ฉันเลี้ยงมาตั้งหลายปีคือเลี้ยงหมาป่าตาขาวงั้นหรอ? ”
พูดถึงตรงนี้ คุณแม่เสิ่นยกมือขึ้นตีไปที่ร่างกายของเธอ ตีเธออย่างแรง
เสิ่นเฉียวยืนอยู่ตรงนั้น กัดริมฝีปากอย่างแน่น : “ถึงแม่จะตีหนูจนตาย ฉันก็ไม่มีเงิน! ”
คุณพ่อเสิ่นก็มาห้ามปราม : “จะตีเธอทำไม? เธอเอาจากเธอไปสามแสนยังไม่พอหรอ? เฉียวเฉียวแต่งงานกับคนพิการ ใครจะรู้ว่าอยู่ในตระกูลเย่ด้วยสถานะอะไร? อย่าทำให้เธอลำบากใจเลย เฉียวเฉียว ลูกกลับไปเถอะ เรื่องนี้พ่อกับแม่จะหาวิธีเอง ”
“ไม่! กลับไปไม่ได้! เธอไปแล้วใครจะให้เงิน? ” คุณแม่เสิ่นเหมือนกับบ้าไปแล้ว เพราะคิดว่าตัวเองคืนเงินไม่ได้อาจจะถูกจับไปตัดมือตัดเท้า เธอก็กลัวแล้ว ได้แต่จับแขนของเสิ่นเฉียวอย่างแน่น จนแขนของเธอมีเลือดออก
บาดแผลที่ตัวของเสิ่นเฉียวที่จริงยังไม่ดีขึ้นทั้งหมด แผลเก่ายังไม่หายแผลใหม่ก็มาอีกแล้ว
เธอก้มหัว มองไปที่แผลใหม่อย่างว่างเปล่ามีอาการบาดเจ็บเก่า ๆ ที่ซับซ้อนอยู่ข้างใต้ อดไม่ได้ที่จะหัวเราะหลังจากนั้น
เธอเจ็บจนขนาดนี้แล้ว กลับมาบ้านแม่ก็ไม่มีใครสนใจถามเธอสักคำ แล้วยังทำให้เธอเจ็บอีก
บางครั้งเธอก็คิด ที่จริงแล้วเธอเป็นลูกสาวของตระกูลเสิ่นไหม ทำไมคุณแม่เสิ่นทำกับเธอ –ต่างจากที่ทำกับเสิ่นโย่วต่างกันมากขนาดนี้!
“เฉียวเฉียว เธอรีบไป! ”
สุดท้ายคุณพ่อเสิ่นทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว รีบไปลากคุณแม่เสิ่นไว้ จากนั้นให้สัญญาณเสิ่นเฉียวรีบไป
ตอนนี้ท่าทางคุณพ่อเสิ่น สำหรับเสิ่นเฉียวไม่สงสัยเลยว่าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขกัน เสิ่นเฉียวมองที่คุณพ่อเสิ่นอย่างซาบซึ้ง
ออกมาที่ถนนแล้ว เสิ่นเฉียวรู้สึกว่าตัวเองช่างไม่มีที่ไปจริงๆ
ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เสิ่นเฉียวไม่ได้สนใจ แต่โทรศัพท์ก็ดังอยู่ไม่หยุด
สุดท้าย เสิ่นเฉียวเห็นโทรศัพท์ดังไม่หยุด ก็เลยรับโทรศัพท์
“ฮัลโหล? ”
เสียงของเธอดูไม่มีแรง
“เฉียวเฉียว! ” เป็นเสียงของเสี่ยวเหยียน เสียงของเธอฟังแล้วดูมีชีวิตชีวา ดูมีพลัง : “ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน? ทำไมวันนี้ไม่มาบริษัทล่ะ? หรือว่าเป็นวันหยุดพักผ่อน? ”
ได้ยินเสียงของเสี่ยวเหยียน เสิ่นเฉียวนิ่งไปสักพัก สักครู่ถึงตอบ : “อืม วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ”
“ว้าว วันนี้ฉันก็หยุดพักผ่อน นอนจนถึงตอนนี้พึ่งจะตื่น!ฉันไปหาเธอดีไหม? วันนี้พวกเราไปเดินช็อปปิ้งกัน! ”
เสิ่นเฉียวมองไปที่ถนน แล้วกะพริบตา : “ไม่เอาดีกว่า? ”
ตอนนี้เธอจะมีอารมณ์อะไรไปเดินช็อปปิ้งล่ะ?
“เธอรีบบอกฉันว่าเธออยู่ที่ไหน ฉันจะไปหาเธอ ส่งโลเคชั่นให้ฉัน ฉันบอกว่าฉันต้องการก็คือต้องการ! ” เสี่ยวเหยียนสั่งเธอโดยตรง เสิ่นเฉียวไม่รู้จะทำยังไง ไม่แต่ส่งโลเคชั่นให้เธอ จากนั้นไปหาที่ล้างแผลที่แขน จัดการเสร็จแล้วรอให้เสี่ยวเหยียนมาหาเธอ
ตอนที่เสี่ยวเหยียนหาเธอเจอ เห็นแขนของเธอมีรอยแผลใหม่เพิ่มมา สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นไม่น่ามองแล้ว
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น? เธอทำไมถึงเจ็บถึงขนาดนี้? หรือเธอเจอผู้หญิงแก่พวกนั้นอีกแล้ว? พวกเธอทำร้ายเธอหรอ? ”
เธอถามต่อเนื่องหายคำถาม ถามจนเสิ่นเฉียวหัวเราะ “ไม่มีอะไรหรอก ฉันไม่ระวังลื่นล้มเฉยๆ ”
“เธอขี้โกหก” เสี่ยวเหยียนจ้องมองเธออย่างดุร้าย แล้วลากเธอขึ้นรถ : “ไปที่บ้านฉันจัดการสักหน่อยเถอะ”
“เธอ……”
“บอกเธอละกัน รองประธานเย่เป็นคนโทรหาฉัน บอกว่าวันนี้ท่าทางเธอไม่ค่อยดี ให้ฉันมาหาเธอ ”
รองประธานเย่……
เย่หลิ่นหาน?
เสิ่นเฉียวสายตาเปลี่ยนไปมาก คิดไม่ถึงว่าเขาจะ…..
“เธอบอกว่าผู้ชายคนนั้นเกิดอะไรขึ้น? เขาอยากจะทำดีกับเธอมาเองไม่ได้หรอ? ให้ฉันมาอยู่เป็นเพื่อนเธอ วิธีจีบคนแบบนี้แปลกเกินไปแล้ว อีกอย่างที่สำคัญเธอเป็นพี่น้องกับเขา เฉียวเฉียว ฉันต้องพูดเรื่องนึงกับเธอ! รองประธานเย่ถึงแม้จะหล่อ แล้วยังอ่อนโยนอีก แต่รู้สึกว่าบุคลิกเขาไม่ค่อยดี พฤติกรรมของเขาสอดรู้สอดเห็นผิดศีลธรรม! ”