เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่ 352 ไม่หลงเหลือภาพลักษณ์แล้ว
- Home
- เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก…
- บทที่ 352 ไม่หลงเหลือภาพลักษณ์แล้ว
สุดท้ายหานชิงก็ต้องกอดประคองเสี่ยวเหยียนพากลับไปที่ห้อง หลังจากจัดการกับเธอเรียบร้อยจึงลงไปชั้นล่างเพื่อไปหาหานมู่จื่อ
น่าจะเพราะเหนื่อยมาก เพราะงั้นหานมู่จื่อที่ดื่มจนเมาแล้วก็ไม่ได้โหวกเหวกเสียงดังอะไร นอนหลับอยู่ที่โซฟาเป็นที่เรียบร้อย
แต่ว่าในตอนที่หานชิงกำลังจะเดินจากไปนั้น จู่ ๆ เธอก็พลิกตัว จากที่เห็นเธอนั้นกำลังจะพลิกตัวและตกลงมาจากโซฟาไปยังพื้นเย็น ๆ แข็ง ๆ หานชิงจึงรีบเร่งเพื่อที่จะเข้าไปประคองตัวเธอไว้ หลังจากนั้นก็เอาเธอกลับไปที่เดิม
หลังจากที่ผ่านเหตุการณ์ทั้งหมดนี้มา หานชิงก็ถึงกับเหงื่อท่วมหน้าผาก
เดิมทีแล้วดูเหมือนกว่าการที่ชายหนุ่มที่สุขุมต้องมาอยู่ในสภาพนี้มันเป็นเรื่องที่น่าอายทีเดียว
หานชิงมองไปที่หานมู่จื่อที่กำลังหลับอยู่ และส่ายหัวด้วยความเอือม: “พวกเธอทำให้ฉันวุ่นวายกว่าเดิมซะอีก สรุปแล้วนี่ฉันเป็นแขก หรือว่าพวกเธอเป็นแขกกันแน่เนี่ย?”
ช่างเถอะ ยังไงเธอก็เป็นน้องสาวของเขา
หานชิงนั้นเป็นคนที่รักน้องสาวเกินขนาด สุดท้ายเขาก็ยังคงเอาหานมู่จื่อแบกกลับไปที่ห้อง
หลังจากที่เขาจัดการทั้งหมดเสร็จ หานชิงจึงจะกลับไปอาบน้ำที่ห้อง เมื่อเข้าห้องไปก็กลับพบกับเสี่ยวหมี่โต้วที่นอนกอดหมอนข้างอยู่บนเตียง และส่งสายตามองมาที่เขา
“คุณน้า เหนื่อยหน่อยนะครับ~”
หานชิงที่กำลังปลดกระดุมเสื้อออกอยู่นั้น ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้มีความรู้สึกเหมือนกับกำลังโดนหยอกล้ออยู่ “รีบนอนเถอะ”
เขาพูดเตือนขึ้น เสี่ยวหมี่โต้วก็รีบพลิกตัวและห่มผ้าห่มเรียบร้อย: “งั้นก็ฝันดีนะครับคุณลุง พรุ่งนี้เจอกันครับ ~”
*
สืบเนื่องจากอาการเมาหนักจากเมื่อคืน วันต่อมาที่หานมู่จื่อตื่นขึ้นมานั้นก็เป็นเวลาสายมากแล้ว เธอพลิกตัวและรู้สึกว่าหัวของเธอนั้นหนักอึ้ง เมื่อเห็นถึงความสว่างภายในห้องก็ฝืนที่จะลุกขึ้นมาอย่างยากลำบาก
ตอนนี้กี่โมงแล้ว?
หานมู่จื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลา 10 โมงแล้ว จึงลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตาด้วยท่าทีที่ไม่รีบร้อนอะไร
เมื่อเธอแต่งตัวเสร็จและลงไปชั้นล่าง ก็ได้พบกับหานชิงที่กำลังถือโน้ตบุ้ค นั่งอยู่บนโซฟาและกำลังคุยงานอยู่ ดูเหมือนว่าเขานั้นกำลังประชุมผ่านวิดีโอคอล
หานมู่จื่อไม่ได้ทักทายเขา และตรงไปที่ด้านในห้องครัวเพื่อรินน้ำร้อนให้ตัวเองดื่มสักแก้ว
ตอนที่ออกมานั้น หานชิงก็ได้ปิดวิดีโอคอลไปแล้ว “ตื่นแล้วเหรอ?”
“พี่ คุณไม่ต้องทำงานเหรอ?ยังไม่ได้ไปบริษัทเหรอ?”
“ฉันเองก็อยากจะไป แต่พวกเธอจะให้ฉันวางใจได้ยังไงกันล่ะ?แต่ละคนเล่นดื่มไปมากซะขนาดนั้น”
เมื่อได้ยิน หานมู่จื่อก็อดไม่ได้ที่จะแลบลิ้นออกมา เมื่อวานในตอนแรกเธอนั้นไม่ได้คิดว่าจะดื่มมากขนาดนี้ แต่ว่าหลังจากที่ได้เริ่มดื่มไปแล้ว……ก็ลืมไปเลย
เรื่องหลังจากนั้นเธอก็จำไม่ได้เลย ในตอนนี้……ทำได้เพียงมองไปที่หานชิงและถามขึ้น: “พี่ เมื่อคืนนี้ฉันไม่ได้พูดอะไรบ้าบอออกไปใช่มั้ย?”
“เธอคิดว่าไงล่ะ?” หานชิงถามกลับ
หานมู่จื่อยิ้มด้วยท่าทีอึดอัด: “ฉันจะไปรู้ได้ยังไง ถ้าฉันรู้ก็คงไม่ถามพี่หรอก”
“ตอนอยู่ต่างประเทศ พวกเธอก็เป็นแบบนี้กันประจำงั้นเหรอ?”
หานมู่จื่อถึงกับนิ่งไปราว ๆ 2 วิ หลังจากนั้นก็รีบส่ายหน้าและตอบกลับไป: “ไม่ใช่แน่นอน ก็แค่นาน ๆ ที……”
“นาน ๆ ที?” หานชิงยักคิ้วขึ้น สายตาของเขาแฝงไปด้วยบรรยากาศที่ดูอันตราย
“ไม่บ่อยนัก……” หานมู่จื่อรีบเปลี่ยนคำพูด แต่ว่าเห็นใบหน้าที่จริงจังของหานชิง เธอก็รู้สึกได้ว่าเรื่องมันชักจะไม่ค่อยดีแล้ว จึงทำได้เพียงแค่ตรงไปข้างหน้าและพูดขึ้น: “พี่ ฉันกับเธอน่ะก็มีแค่นาน ๆ ที ที่ดื่มกันสักแก้วในตอนที่งานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีก็เท่านั้นเอง ไม่ใช่อย่างที่พี่คิดอยู่แน่นอน แล้วก็ไม่เหมือนกับเมื่อคืนนี้ด้วย”
เพราะว่าอันที่จริงแล้วนั้นมันเลวร้ายยิ่งกว่าที่เขาคิดเสียอีก เมื่อคืนนี้นั้นเอาจริง ๆ แล้วถือว่าพวกเธอนั้นไม่ได้ดื่มมากเท่าไรนัก เพราะงั้นก็เลยถือได้ว่าไม่เหมือนกัน
หานชิงพบว่าตัวเองนั้นกำลังโกรธอยู่ จึงยกมือขึ้นและบีบขมับของตัวเองเบา ๆ : “สรุปนะ เธอน่ะต้องรู้จักดูและตัวเองให้ดี ๆ เธอคิดจะทำอะไรน่ะฉันก็จะไม่ห้ามหรอก แต่ว่าถ้าเกิดว่าทำตามใจตัวเอง โดยไม่ยอมคำนึงถึงสุขภาพร่างกายของตัวเองแล้วล่ะก็ ก็อย่าว่าฉันในตอนที่ฉันส่งคนมาเพื่อดูเธอก็แล้วกัน”
ประโยคสุดท้ายนั้นทำให้สีหน้าของหานมู่จื่อเปลี่ยนไปเล็กน้อย: “ส่งคนมาดูฉัน?หมายความว่ายังไง?”
หานชิงไม่พูดอะไร เม้มปากแน่นและมองตรงไปที่เธอ
ขนตาของหานมู่จื่อกระตุกเล็กน้อย และดึงริมฝีปากด้วยท่าทีที่อึดอัด: “พี่ คงจะไม่ได้หมายความอย่างที่ฉันคิดใช่มั้ย?”
“ก็คล้าย ๆ กับที่เธอคิดนั่นแหละ” หานชิงหันตัวไปหยิบเอาเสื้อสูทที่อยู่ด้านข้างขึ้นมาสวม ในขณะที่ติดกระดุมอยู่นั้นก็พูดขึ้นมาด้วยท่าทีที่จริงจัง: “เธอเองก็ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว คนที่เป็นแม่แล้วอย่างเธอ ถ้าหากแค่ดูแลตัวเองยังทำได้ไม่ดีแล้วล่ะก็ งั้นฉันผู้ที่เป็นพี่ชาย……ก็คงต้องหาคนมาเพื่อดูแลเธอ”
“……พี่ทำไมถึงบอกว่าฉันไม่รู้จักดูแลตัวเองล่ะ?ฉันเป็นน้องสาวของคุณ คุณที่เป็นพี่เองก็ไม่มีคนมาดูนี่นา”
เธอเถียงกลับไป แต่ว่าหานชิงนั้นก็ยังคงไม่มีท่าทีที่เปลี่ยนไป มีเพียงแค่เสียงที่เย็นชามากยิ่งขึ้น
“เธอเองก็รู้ว่าฉันเป็นพี่ชายของเธอ”
ก็ได้ หานมู่จื่อไม่พูดอะไรออกไปต่อ
เขานั้นเป็นพี่ชายที่มีเหตุมีผล เธอที่เป็นน้องสาวก็ควรที่จะฟังที่พี่ชายสั่งสอนให้ดี
“ฉันยังต้องกลับไปเมืองเป่ย เมื่อไร……เธอถึงจะกลับไปที่ตระกูลหาน?”
“พอจะได้มั้ยถ้า……”
“ไม่ได้”
“เอาล่ะ ฉันเข้าใจแล้ว อีก 2 วันให้หลังฉันเองก็มีธุระที่นั่น พอถึงตอนนั้นแล้วก็จะไปแล้วกันนะ”
“อื้ม”
หลังจากที่เขาได้คำตอบที่ตนพึงพอใจแล้ว หานชิงจึงจากไป
หลังจากที่เขาไป หานมู่จื่อยืนอยู่ที่หน้าต่างและม้วนพันผมของเธอเล่น อันที่จริงแล้วพี่ชายของเธอนั้นก็ถือว่าเป็นคนที่ดีมากจริง ๆ เพียงแต่ว่าหลาย ๆ ครั้งเขาก็มักจะเข้มงวดมากเกินไปสักหน่อย เหมือนกับพ่อคนหนึ่งที่คอยดูเธอ
สำหรับเรื่องอื่น ๆ แล้วเขานั้นสามารถปล่อยไปได้ แต่ว่า……เกี่ยวกับเรื่องของความสัมพันธ์ความรักแล้วนั้น เขาไม่ยอมแม้แต่น้อย
แม้ว่าตลอด 5 ปีที่ผ่านมานี้เขานั้นไม่ยอมให้เธอไปนัดบอดเลย เนื่องจากเขานั้นประเมินถึงการมีอยู่ของเสี่ยวหมี่โต้ว และก็คำนึงไปถึงปัญหาสภาพจิตใจของเธออีกด้วย
แต่ว่า……เมื่อกี้ที่เขาพูดนั้นก็บอกได้ว่า……เขานั้นมีความคิดเช่นนี้ขึ้นมา
แล้วก็หลังจากนี้ถ้าหากว่าเธอต้องถูกเรียกไปนัดบอดแล้วล่ะก็ ปัญหาก็คงจะขึ้นอยู่กับเวลาแล้วล่ะ
ต้องคิดให้ดี ๆ ว่าจะทำยังไงให้หานชิงลืมเรื่องนี้ไปได้
ระหว่างที่กำลังคิดอยู่นั้น ก็มีเสียงฝีท้ายออกมาจากด้านหลังเสี่ยวเหยียนลงมาที่ชั้นล่าง มองดูเธอด้วยสีหน้าประหม่า
“พี่ชายเธอไปแล้วเหรอ?”
หานมู่จื่อหันกลับมา “ไปแล้ว ทำไมเหรอ?”
เสี่ยวเหยียนกุมไปที่หน้าอกของเธอ ด้วยท่าทีที่รู้สึกผิด: “ช่างน่าอายจริง ๆ เลย เมื่อคืนฉันดื่มจนเมา เช้าวันนี้ตื่นมาฉันจำไม่ได้เลยว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้าง!”
“อ๊ะ?” หานมู่จื่อเดินตรงไปข้างหน้าด้วยท่าทีนิ่ง ๆ และพูดขึ้นอย่างไม่ได้ใส่ใจอะไร: “แล้วเป็นอะไรล่ะ ฉันเองก็ดื่มจนเมาเหมือนกัน”
“แล้วฉันเป็นเหมือนกับเธอได้ที่ไหนกันล่ะ?” เสี่ยวเหยียนรีบเดินตามเธอไป พูดขึ้นด้วยความรู้สึกผิด: “เธอน่ะเป็นน้องสาวของเขา แต่ว่าฉันเป็นผู้ช่วยของเขา!”
“แล้วยังไงล่ะ?” หานมู่จื่อหันกลับมา เอาหลังพิงกับโต๊ะ กอดอกด้วยมือทั้งสองข้าง และมองไปที่เธอด้วยท่าทีสบาย ๆ
เสี่ยวเหยียนจับไปที่แก้มของเธอและพูดขึ้นอย่างเจ็บปวดหัวใจ: “ผู้หญิงที่ไม่มีความรู้สึกความรักแบบเธอจะเข้าใจฉันได้ยังไงกัน?ฉันน่ะไม่ใช่น้องสาวของเขา เป็นเพียงแค่ผู้หญิงธรรมดาคนนึง แล้วฉันก็กลับเมาเละต่อหน้าเขา เพราะงั้นภาพลักษณ์ของฉันก็คงจะพังทลายหมดแล้ว หลังจากนี้ในใจของพี่ชายของเธอ ฉันก็คงเป็นผู้หญิงที่ไม่ได้เรื่องคนนึง!”
“ไม่ได้เรื่องก็ไม่ได้เรื่องสิ ไม่ใช่ว่าเธอไม่ได้สนใจหรอกเหรอ?หรือว่า……” หานมู่จื่อยักคิ้วขึ้น ทำสายตาหยอกล้อและมองไปที่เธอ
สีหน้าของเสี่ยวเหยียนเปลี่ยนไปทันที ตอนนั้นเองที่เพิ่งจะรู้ตัวว่าตนนั้นเผลอหลุดอะไรออกไป เธอได้สติกลับมาและมองตรงไปที่หานมู่จื่อ
“เธอชอบพี่ฉันเหรอ?” หานมู่จื่อโน้มตัวเข้ามา และถามด้วยเสียงเบา ๆ
“อย่ามาล้อเล่นน่า!” เสี่ยวเหยียนชู 3 นิ้วขึ้นมา “ไม่มีเรื่องแบบนั้นแน่นอน!”