เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่ 387 ผู้ชายนัดบอด
“ไปเถอะ” หานมู่จื่อเก็บของเสร็จก็เดินออกจากห้องประชุม
จางยู่ที่อยู่ในห้องประชุมกลับทนไม่ไหวเอ่ยปาก: “นี่เพิ่งจะเปิดบริษัทไม่กี่วันก็เอาคำสั่งซื้อลูกค้ามาได้แล้ว คงเป็นคุณหานช่วยหาคนให้เธอสินะ?”
พูดจบ จางยู่ก็กอดอก แล้วหัวเราะเยาะอย่างเย็นชา: “รู้แค่ว่าเป็นผู้หญิงที่พึ่งผู้ชาย เห็นชัดๆ ว่าที่จริงไม่มีเรื่องอะไร แต่ยังออกคำสั่งพวกเราไปมา”
ไม่มีใครคล้อยตามคำพูดของจางยู่ พอจางยู่พูดอยู่คนเดียวก็รู้สึกอึดอัด จึงได้แต่มองทุกคน
“หรือว่าพวกเธอไม่รู้สึกกัน?”
หลี่จุ้นเฟิงยกยิ้มขึ้น: “ถ้าฉันมีทุนเดิม แล้วมีผู้หญิงที่สวยเหมือนเธอแบบนี้มาพึ่งพาฉัน ฉันก็ยอมมอบโลกทั้งใบให้เธอ”
“นาย! นายมันสกปรกไร้ยางอาย! คิดไม่ถึงว่านายยังจะอยากได้ผู้หญิงแบบนี้! ผู้หญิงแบบนี้ไม่รู้ว่าเป็นของเล่นมากี่ครั้งแล้ว ”
ซูกั่วเอ๋อเก็บรวบรวมข้อมูลขึ้นมา ก่อนจะมองจางยู่อย่างจนปัญญาแวบหนึ่ง: “จางยู่ ฉันเห็นว่าเธอไม่มีความสุขตลอดเลย ไม่อย่างนั้น…เธอก็อย่าทำเลย?”
พอจางยู่ได้ยิน ก็ถลึงตาใส่เธอทันที: “เธอหมายความว่าอย่างไร? นี่เธอรีบไล่ฉันเหรอ? ซูกั่วเอ๋อถึงตาเธอพูดตั้งแต่เมื่อไหร่?”
ซูกั่วเอ๋อใช้สองมือเท้าคาง แล้วถอนหายใจหนัก ๆ
“แน่นอนว่ายังไม่ถึงตาฉันพูด แต่เธอมักจะบ่นต่อหน้าพวกเราทุกคนนี่นา ทุกคนได้รับเงินเดือนล่วงหน้า ตอนนี้เธอพูดมากขนาดนี้ ทำไมเธอไม่ปฏิเสธเงินเดือนตอนแรกเสียล่ะ?”
“ฉัน…”
“ซูกั่วเอ๋อเธอพูดแบบนี้ไม่ถูกแล้ว ตอนแรกที่เลขาซูจิ่วของคุณหานมาหาพวกเรา ไม่ได้บอกว่าเจ้านายของพวกเราจะเป็นคนแบบนี้”เซียวยียีที่นั่งข้างหลินเจิงอยู่ไม่ไกลอดช่วยจางยู่พูดสักประโยคหนึ่งไม่ได้
พอซูกั่วเอ๋อได้ยิน ก็เลิกคิ้วแล้วมองเธอแวบหนึ่ง “ไม่ว่าเจ้านายจะเป็นคนอย่างไร ก็ยังต้องทำงานไม่ใช่เหรอ? รับเงินมาแล้วก็ต้องทำงาน พวกเธอเป็นผู้ใหญ่แล้วยังไม่เข้าใจอีกเหรอ?”
เซียวยียีลุกขึ้นมา: “เธอพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร? เธออยากจะบอกว่าพวกเรารับเงินมาแล้วไม่ทำงานใช่ไหม?”
พอได้ยิน ซูกั่วเอ๋อก็ยิ้มบาง ๆ
“ฉันไม่ได้พูดอย่างนี้เซียวยียีไม่ต้องทำท่าอยากจะมีเรื่องก็ได้ แต่ว่าเธอเป็นกุลสตรีนิ?”
พอผู้ประโยคนี้ ซูกั่วเอ๋อก็เหลือบมองหลินเจิงที่อยู่ไม่ไกลจากข้างหลังเธอด้วยแววตาที่สื่อความหมายแวบหนึ่ง
เซียวยียีรีบตอบสนองกลับทันที หลินเจิงยังอยู่ตรงนี้และดูเหมือนว่าเธอเพิ่งจะแสดงออกเกินคำว่ากุลสตรีไปแล้ว
สีหน้าเธอเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว แล้วรีบนั่งลงไปใหม่อีกครั้ง
ใครจะคิดว่าตอนนี้หลินเจิงได้เก็บข้อมูลเสร็จเรียบร้อย จากนั้นลุกขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชาแล้วออกจากห้องประชุมไป
“หลินเจิง!” เซียวยียีเห็นแบบนั้นก็อยากจะก้าวตามไปเร็ว ๆ แต่หลินเจิงไม่ได้สนใจเธอเลย เธอนั่งหมดอาลัยตายอยากลงไปที่เดิมแล้วจ้องซูกั่วเอ๋ออย่างดุดันแวบหนึ่ง
“จ้องฉันทำไม??”
“ทั้งหมดนี้เป็นความผิดเธอ หลินเจิงไม่สนใจฉันแล้ว”
พอได้ยิน ซูกั่วเอ๋อก็หัวเราะเยาะ: “เขาไม่เคยสนใจเธอเลยไม่ใช่เหรอ?”
“เธอ!”
“ยียี ไม่ต้องพูดกับเธอแล้ว” จางยู่เก็บของแล้วเดินมาข้าง ๆเซียวยียี: “ผู้หญิงแบบนี้ไม่จำเป็นต้องพูดกับเธอเยอะขนาดนี้ เธอไม่อยากอยู่ฝั่งเดียวกับเราก็ปล่อยเธอไป พวกเราอย่าไปสนใจ”
เซียวยียี เหมือนจะเห็นด้วยกับเธอ ทั้งสองเดินออกจากห้องประชุมด้วยกัน
ภายในห้องประชุมจึงเหลือเพียงหลี่จุ้นเฟิงกับซูกั่วเอ๋อ ส่วนหลี่จุ้นเฟิงก็กำลังมองซูกั่วเอ๋ออย่างสนอกสนใจอย่างมาก
“ผู้หญิงแบบเธอนี่ กลับมีความเก่งกาจไม่เบา พอดูอย่างละเอียด เธอก็หน้าตาไม่เลวนะ สนใจไปทานข้าวเย็นด้วยกันไหม?”
ความรังเกียจฉายผ่านดวงตาของซูกั่วเอ๋อแต่ในไม่ช้าเธอก็คิดอะไรบางอย่างแล้วพยักหน้า:“ได้สิ”
หลี่จุ้นเฟิงมองเธอแล้วยิ้มเล็กน้อย
เพราะหลินซิงหั่วชื่นชอบชุดราตรีในงานเลี้ยงของตระกูลชุดนั้นที่หานมู่จื่อวาด ดังนั้นเธอจึงใช้เวลาสรุปแบบร่างอย่างรวดเร็ว หลังจากให้เสี่ยวเหยียนไปวัดขนาดตัวของหลินซิงหั่วอย่างรวดเร็วแล้วจึงพูดเรื่องรายละเอียดของการผลิต
สำหรับเรื่องนี้ หลินซิงหั่วยังคงวนเวียนคอยพูดคุยกับเธอในWeChatหลายครั้ง
หลินซิงหั่ว: {เรื่องวัดขนาดตัวแค่นี้นักออกแบบใหญ่อย่างคุณก็ไม่มา แงแงแง! }
หานมู่จื่อ: {ฉันมักจะให้โอกาสเหล่านี้กับเสี่ยวเหยียน ฉันทำเองหมด เธอก็ไม่มีข้าวกินแล้ว}
หลินซิงหั่ว: {พูดถูกแล้ว! มู่จื่อคุณจิตใจดีมาก! คิดเผื่อคนอื่นด้วย!}
หานมู่จื่อ: “……”
หลินซิงหั่วคนนี้ซื่อบื้อเหรอ?
หานมู่จื่อ: {ฉันยังมีงานต้องทำ ไว้ค่อยคุยกันทีหลัง}
หลินซิงหั่ว: {โอเคโอเค เทพธิดารีบไปทำธุระเถอะ}
ผู้จัดการที่อยู่ข้าง ๆ เห็นข้อความที่เธอส่ง ก็หมดคำพูดได้แต่ระบายความในใจกับสวรรค์แล้ว
“ฉันว่าเธอจำเป็นต้องทำแบบนี้ด้วยเหรอ? ถึงจะชื่นชอบ เธอก็ควรสำรวมหน่อย ถ้าหากฝ่ายนั้นคิดว่าเป็นเหมือนพวกที่คอยเฝ้าคิดถึงอะไรแบบนั้นแล้วตกใจหนีไปจะทำอย่างไร?”
พอได้ยิน หลินซิงหั่วก็ได้สติกลับคืนมาทันที เธอกุมแก้มของตัวเอง: “ฉันดูไม่เหมือนเลสเบี้ยนหรอกนะ? ฉันก็แค่ชื่นชอบไอดอลของตัวเองแค่นั้น อีกฝ่ายจะต้องเข้าใจสิ!”
ครั้งก่อนมีแฟนคลับผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งตามไปรับเธอที่สนามบินทุกครั้ง คอยส่งข้อความถามไถ่เธอทุกวัน โพสต์ Weibo ให้เธอทุกวัน เธอก็ยังไม่สงสัยหล่อนอีก?” เฉินเฟยเอ่ยเธอนี้กระทบใส่หน้าเธออย่างไม่ลังเลเลยสักนิด
หลินซิงหั่วรู้สึกอายเล็กน้อย มุมปากกระตุกหลังจากนั้นโบกมือแล้วเอ่ย: “นั่นมันผ่านไปแล้วนี่นา ตอนนั้นฉันไม่รู้ว่าถูกเธอตามเป็นติ่งดารามันจะเป็นแบบนั้น”
“ถ้ามีเวลาไม่สู้ดูข้อความของลูกพี่ลูกน้องเธอสักหน่อยเถอะ? ฉันจำได้ว่าเมื่อก่อนหล่อนเคยส่งข้อความมาให้เธอไม่ใช่เหรอ?”
“อ้อ ฉันดูแล้วนะ” หลินซิงหั่วเอ่ยถึงลูกพี่ลูกน้อง “เพียงแต่ว่าฉันไม่สนใจเรื่องนัดบอดของเธอแค่นั้น ไหน ๆ ก็พูดแล้ว……นัดบอดจะเจอคนดีอะไรแบบนั้นได้อย่างไรกันล่ะ ดูท่าทางเพ้อฝันของเธอสิ”
“…จะพูดแบบนี้ไม่ได้ นัดบอดก็เป็นตัวเลือกที่ดีนะ เพียงแต่ขึ้นอยู่กับโชคชะตาแล้ว”
หลินซิงหั่วไม่เห็นด้วย เปิด Moments ขึ้นมาแล้วโพสต์รูปที่ตนเองกับหานมู่จื่อถ่ายด้วยกัน: ได้ถ่ายรูปร่วมกับกับเทพธิดาของตัวเองมีความสุขจัง รัก/ซุกซน/
เฉินเฟยที่มองอยู่ข้าง ๆ “……”
หลังจากเพิ่งโพสต์ Moments ได้ไม่นาน หลินชิงชิงลูกพี่ลูกน้องของ หลินซิงหั่วก็ส่งข้อความถึงเธอ
หลินชิงชิง: {พี่สาว ที่แท้คุณก็ออนไลน์อยู่เหรอ? ฉันก็คิดว่าคุณกำลังถ่ายละครจนถึงตอนนี้เสียอีก}
โอ้ว โพสต์ Momentsแล้วลืมซ่อนเธอเสียแล้ว
หลินซิงหั่ว: {ฉันเพิ่งจะเล่นน่ะ}
หลินชิงชิง: {พี่สาว ข้อความก่อนหน้านี้ที่ส่งให้คุณดูหรือยัง?}
หลินซิงหั่ว: {ฉันจะลองดู คู่นัดบอดเหรอ~ ฝ่ายนั้นหล่อไหม?}
หลินชิงชิง: {หล่อ! พี่สาว คุณลองดูรูปสิ!}
ฝ่ายนั้นส่งรูปมาให้เธออย่างรวดเร็ว หลินซิงหั่วมองแวบหนึ่ง ก็ร้องว้าวแล้วกระโดดขึ้นมาบนเก้าอี้
“ทำไมเป็นอะไร?” เฉินเฟยถูกท่าทางตื่นตกใจแบบนี้ของเธอทำให้ตกใจเกือบตาย จึงรีบเข้ามาพยุงแล้วถามเธอ
“สุดยอด!” หลินซิงหั่วจ้องรูปของผู้ชายคนนั้น แล้วเอ่ยอย่างชื่นชม: “ผู้ชายครั้งนี้ไม่เลวจริง ๆ เลย! นี่หลินชิงชิงทำอย่างไรให้โชคดีแบบนี้?”
เธอรีบตอบกลับหลินชิงชิง
หลินซิงหั่ว: {หล่อ! แต่ทำไมรูปนี้ถึงดูคุ้นตาล่ะ?}
หลินชิงชิง: {ภูมิใจ/เธอเพิ่งจะรู้สึกคุ้นตาเหรอ ผู้ชายในฝันของผู้หญิงทุกคนในเมืองเป่ย ประธานเย่ของบริษัทตระกูลเย่ เย่โม่เซินอย่างไรล่ะ!}
“เชี้ย เด็กสาวคนนี้โชคดีจริง ๆ เลย แต่เธอจะบังเอิญเจอผู้ชายที่ดีขนาดนี้ได้? เพียงแต่ว่า…ผู้ชายแบบนี้จะมองเธอเหรอ?