เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่ 44 เป็นไปได้มั้ยว่าพวกคุณมีชู้
- Home
- เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก…
- บทที่ 44 เป็นไปได้มั้ยว่าพวกคุณมีชู้
“เธอน่าจะไปทางตระกูลลู่ค่ะ”
สายตาที่มืดมนของเย่โม่เซินดูเสียใจอย่างบอกไม่ถูก ผ่านไปสักพักปากอันเรียวยาวบางของเขาโค้งตามองศาแบบเยาะเย้ย
“รนหาที่ตายจริง ๆ”
“คุณชายเย่ลู่สุนฉางคนนั้นไม่ใช่สิ่งที่ดีเลย พวกเราต้อง……”
“ไม่จำเป็น”เย่โม่เซินพูดตัดบท ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา:“เธออยากจะส่งให้ถึงมือ ก็มารอดูกันว่าหัวเธอจะแข็งขนาดไหน”
“แต่ว่า!”เซียวซู่ตอบกลับค่อนข้างร้อนรน:“ตายชายที่ตัณหาจัดแซ่ลู่นั้น ถ้าเกิดว่า……”
เย่โม่เซินหรี่ตามองอย่างอันตราย:“งั้นเธอก็ต้องโทษตัวเองแล้วล่ะ!”
เซียวซู่:“……”
**
บริษัทตระกูลลู่
“สุนฉาง เมื่อคืนคุณบอกว่าจะมาฉัน แต่ฉันรออยู่ที่บ้านตั้งนานคุณก็ไม่มา คุณไม่รักฉันแล้วใช่มั้ย?”หญิงสาวในชุดที่ร้อนแรงพยายามถูไปบนตัวของลู่สุนฉางอย่างหนัก มือทั้งสองข้างโอบคอของเขาไว้และยั่วยวนต่างๆนาๆ
ลู่สุนฉางหัวเราะเสียงต่ำแล้วเข้าไปใกล้ซอกคอของอีกฝ่าย:“ที่รัก เมื่อคืนผมไปงานเลี้ยงมา ยุ่งมากเลย คืนนี้ผมจะไปหานะ”
“จริงนะคะ?ห้ามหลอกฉันอีกนะ”หญิงสาวทำปากจู๋อย่างไม่เต็มใจ และขอจูบ
ลู่สุนฉางสายตามืดมน มือของเขาโอบเอวของหญิงสาวไว้แน่น ก้มหัวลง
“ประธานลู่”เสียงที่นุ่มนวลของหญิงสาวดังขึ้นมาทันใด
ท่าทางของลู่สุนฉางหยุดลง และหญิงสาวในอ้อมกอดก็ถูกขัด เงยหน้าขึ้นมามองไปตามที่มาของเสียงอย่างไม่พอใจ
เสิ่นเฉียวถือกระเป๋าไว้ในมือแน่น เธอยืนมองพวกเขาอยู่กับที่อย่างเขินอาย
ขัดขวางความสุขของคนอื่น เป็นเรื่องที่ไร้คุณธรรมอย่างยิ่ง
แต่บทเรียนครั้งที่แล้วในสวนดอกไม้บอกเสิ่นเฉียวไว้ว่า ถ้าหากเธอห้ามลู่สุนฉางเอาไว้ช้ากว่านี้ อาจเป็นไปได้ว่าพวกเขาคงจะระเริงบทรักสิบแปดบวกต่อหน้าต่อตาเธอไปแล้ว เธอไม่สามารถทนดูได้ แต่เธอไม่อาจมีเวลามารออยู่เฉยๆที่นี่ได้
ลู่สุนฉางจับจ้องไปที่เธอ หรี่สายตาเล็กน้อย “อ้าว?เธอเองเหรอ”
“ที่รัก รู้จักเธอด้วยเหรอคะ?”หญิงสาวมองเสิ่นเฉียว สายตานั้นเผยเจตนาร้ายอย่างทันที และจ้องมองไปที่เธออย่างระแวดระวัง
หญิงสาวเชื่อฟังคำสั่งของลู่สุนฉาง เป็นสิ่งมีชีวิตที่อันตรายมากจริง ๆ
เพราะเขาเจ้าชู้สำส่อนมากเกินไปจริง ๆ
“รู้……จักมั้ยเหรอ?” ลู่สุนฉางหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วมองเสิ่นเฉียว:“สาวน้อย พวกเรารู้จักกันมั้ย?”
เสิ่นเฉียวคาดการณ์ไว้แต่แรกแล้วว่าการมาถึงของเธอคงไม่ราบรื่นเป็นแน่ เธอจึงเตรียมตัวเตรียมใจมาเรียบร้อยแล้ว ได้ยินลู่สุนฉางเอ่ยถามมาแบบนี้ เธอก็ยื่นนามบัตรที่อยู่ในกระเป๋าให้ลู่สุนฉาง:“ฉันคือผู้ช่วยของประธานเย่โม่เซินบริษัทตระกูลเย่ เสิ่นเฉียวค่ะ”
หญิงสาวไม่พอใจ:“ในเมื่อเป็นคนของบริษัทตระกูลเย่ แล้วเธอมาทำอะไรที่ตระกูลลู่?”
เสิ่นเฉียวยิ้มออกมาเล็กน้อย:“มาหาประธานลู่ย่อมเป็นเรื่องของสัญญาค่ะ”
น้ำเสียงของเธอถ่อมตัว สีหน้าแววตาไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมามากนัก สายตาเธอจดจ้องไปที่ลู่สุนฉาง
ลู่สุนฉางมองเธออยู่นานสองนาน ก่อนจะหัวเราะเยาะออกมา:“คุยเรื่องสัญญา เธอเหมาะสมเหรอ?อยากให้ฉันเซ็นสัญญาด้วย เว้นแต่ว่าคุณชายเย่ของพวกเธอจะมาขอด้วยตัวเอง”
“คุณชายเย่ขาของเขามีปัญหา ประธานลู่ได้โปรดเข้าใจด้วยค่ะ”
เสิ่นเฉียวยังคงตอบหน้าตาย
ลู่สุนฉางจ้องไปที่เธอสักพัก แล้วพูดกับหญิงสาวในอ้อมแขนขึ้นมาทันใดว่า:“เธอกลับไปก่อน”
หญิงสาวอารมณ์เสีย ไม่ยอมไป:“สุนฉาง อย่าทำแบบนี้สิคะ คุณต้องไปส่งฉันกลับบ้านสิ”
“อย่าดื้อ”สีหน้าของลู่สุนฉางเคร่งขรึมขึ้นมา บรรยากาศรอบตัวเปลี่ยนไปในทันใด
หญิงสาวมือไม้สั่น มองไปที่เขาอย่างมึนงง ลู่สุนฉางลูบไปที่หัวของเธอ:“ฉันชอบผู้หญิงที่เชื่อฟังที่สุดเลยนะ หื้ม?”
“งั้น……ก็ได้ ฉันกลับก่อนนะ”
หญิงสาวเดินและจ้องไปที่เสิ่นเฉียวอย่างจงเกลียดจงชัง เห็นได้ชัดว่าเธอกลายเป็นศัตรูหัวใจไปแล้ว
เสิ่นเฉียวสีหน้านิ่งเฉยเหมือนเดิม
รอจนเธอเดินจากไป ลู่สุนฉางหยิบกุญแจรถออกมา:“คุยกันบนรถดีกว่า”
ได้ยินแบบนั้น เสิ่นเฉียวก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ เธอกัดฟัน:“ประธานลู่ ข้างนอกมีร้านกาแฟอยู่ ฉันคิดว่าที่นั่นเหมาะที่พวกเราจะไปคุยมากเลยนะคะ”
“เอ๋ เธอจะมาคุยธุระกับฉัน ควรจะต้องเป็นฉันที่จะเลือกสถานที่ไม่ใช่?”ลู่สุนฉางก้าวขึ้นมาอย่างทันที พยายามจะโอบเสิ่นเฉียวไว้ในอ้อมแขน เสิ่นเฉียวสีหน้าเปลี่ยนไป เธอถอยหลังไปสองสามก้าว:“ประธานลู่อยากไปที่ไหนคะ?”
“ขึ้นรถ!”
เสิ่นเฉียวยืนตัวตรงอยู่กับที่ ไม่ขยับแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เธอไม่เข้าใจเลยก็คือ เธอยิ่งทำตัวเคร่งขรึมแบบนี้ ลู่สุนฉางก็ยิ่งอยากเห็นเธอไม่เคร่งขรึม หรือไม่ก็ถูกแกล้งจนตื่นตระหนกทำตัวไม่ถูก
นานเท่าไหร่แล้ว ที่ไม่ได้เจอผู้หญิงที่น่าสนใจแบบนี้?
ตั้งแต่ที่เขามีเงินทอง ก็จำไม่ค่อยได้แล้วสิ
เสิ่นเฉียวกัดริมฝีปากแน่น มองไปที่เขา“แค่ฉันขึ้นรถ ประธานลู่ก็จะทำสัญญากับตระกูลเย่ใช่มั้ยคะ?”
ลู่สุนฉางยิ้มมุมปาก:“ก็ต้องมาดูกันว่าเธอมีความจริงใจมั้ย”
เสิ่นเฉียวขมวดคิ้ว
ข้างหน้าคือเหวลึก แค่เธอไป
“ขึ้นรถมาก่อนเถอะ ฉันยังไม่วางแผนเลยว่าจะทำอะไรกับเธอ ฟ้าก็ยังไม่มืดซะหน่อย”ลู่สุนฉางกะพริบตา เสิ่นเฉียวขนลุกขนพองขึ้นมา ชายที่น่ากลัวคนนี้!
เธอหันหลังจะเดินจากไป!
“เพิ่งจะมาถอดใจเอาตอนนี้ ไม่สายไปหน่อยเหรอ?”ลู่สุนฉางเดินตามขึ้นไปข้างหน้า“ผมทำเพื่อคุณเลยนะที่ให้แฟนของผมกลับไปน่ะ ผู้ช่วยเสิ่นคงจะไม่ทำตัวไม่ให้เกียรติผมแบบนี้หรอกใช่มั้ย?”
“ก็ร้านกาแฟที่อยู่นอกบริษัท ทำไมคุณไม่ไปล่ะ!”
พูดจบ เสิ่นเฉียวใช้แรงพลักมือของลู่สุนฉางออก ก่อนจะเดินออกจากลานจอดรถไปข้างนอก
รูปร่างที่สูงยาวเข่าดีกับหุ่นผอมบางของเธอ และยังมีการตัดสินใจที่แน่วแน่นั้น ทำให้ลู่สุนฉางได้ไอเดีย สายจับจ้องไปที่แผ่นหลังของเธอ จากนั้นไปหยุดบนแขนของเธอ
เสิ่นเฉียวมาถึงร้านกาแฟ เลือกโซนที่ไม่ค่อยมีคนแล้วนั่งลง รอไปประมาณสองนาที ลู่สุนฉางก็เดินเข้ามา
ประธานของกลุ่มบริษัทเดินเข้ามาในร้านแล้วลงนั่งข้างๆเธอ เอื้อมมือจะมากอดเธอ สีหน้าของเสิ่นเฉียวเปลี่ยนไป:“ประธานลู่ กรุณาระมัดระวังเรื่องกิริยาด้วยค่ะ!”
จากนั้นก็ลุกขึ้น แล้วเสิ่นเฉียวก็ไปดูอยู่ตรงข้ามกับเขา
ลู่สุนฉางแสยะยิ้ม:“เธอนี่ช่าง สรุปว่าจะมาคุยเรื่องสัญญากับฉันจริงๆใช่มั้ย?”
เสิ่นเฉียวเรียกพนักงานมาสั่งกาแฟไปสองแก้ว จากนั้นก็ตอบเสียงต่ำไปว่า:“เรื่องคืนนั้น ฉันต้องขออภัยคุณด้วย!”
“โอ้ะ?”ลู่สุนฉางขมวดคิ้ว:“เย่โม่เซินไม่กล้ามาเอง เลยส่งเธอมางั้นเหรอ?”
“ฉันอยากมาด้วยตัวเองค่ะ ไม่เกี่ยวกับเขา”เสิ่นเฉียวเม้มปาก
“แล้วถ้าฉันบอกว่า ฉันไม่รับคำขอโทษจากเธอล่ะ?”
เสิ่นเฉียวเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาทั้งสองเย็นยะเยือก เข้ากันกับการแสดงออกบนใบหน้าของเธอ ที่แข็งทื่อเป็นไม้กระดาน
เมื่อก่อนลู่สุนฉางคิดว่าผู้หญิงหัวโบราณแบบนี้ไม่น่าสนใจเป็นที่สุด แต่ทว่าวันนี้เสิ่นเฉียวทำให้ความรู้สึกของเขาไม่เหมือนเดิม
“ทำข้อตกลงกับตระกูลเย่ สำหรับบริษัทตระกูลลู่นับว่าคุ้มค่า ยิ่งไปกว่านั้นนี่เป็นโครงการที่สำคัญโครงการหนึ่ง ประธานลู่ๆม่มีความจำเป็นจะต้องตอบปฏิเสธเลยนะคะ”
พนักงานมาเสิร์ฟกาแฟพอดี เสิ่นเฉียวหันไปขอบคุณพนักงาน ก่อนจะพูดต่อว่า:“จากที่ฉันพูดมาทั้งหมด ประธานลู่เองก็เริ่มจากศูนย์ ตระกูลลู่มีวันนี้ได้นับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายประธานลู่น่าจะเข้าใจที่สุดแล้ว ในเมืองเป่ย การที่ได้ทำข้อตกลงกับตระกูลเย่ถือว่าเป็นโอการที่หาได้ยากยิ่ง ฉันไม่เชื่อว่าประธานลู่จะปล่อยโอกาสดีๆแบบนี้ให้หลุดลอยไปหรอกนะคะ”
“วิเคราะห์ได้ไม่เลว ที่จริงฉันก็ไม่อยากปล่อยโอกาสดีๆแบบนี้ให้หลุดมือหรอก แต่ว่า……ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว เงินฉันหามาได้แล้ว ตอนนี้ฉันก็ค่อนข้างมีหน้ามีตา อยากให้ฉันทำข้อตกลงกับตระกูลเย่ เว้นแต่เสียว่าเย่โม่เซินเขาจะมาขอโทษด้วยตนเอง”
“นี่มันเป็นไปไม่ได้!”
“จะปกป้องคุณชายเย่ของพวกเธอเกินไปมั้ง?หรือว่าพวกเธอจะกิ๊กกันอยู่?”