เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่ 458 เธอยังรักเขาใช่ไหม
บทที่ 458 เธอยังรักเขาใช่ไหม
หลังจากที่เข้ามานั่งในรถ หานมู่จื่อ ยืดเท้าของตัวเองได้เสียที รถเคลื่อนตัวผ่านเย่โม่เซิน หานมู่จื่อ สัมผัสได้ว่าสายตาของเขากำลังมองมาที่ตัวเอง จนกระทั่งรถเคลื่อนตัวออกจากลานจอดรถ สายตาอันร้อนแรงนั่นถึงจะจางหายไป
เธอพรูลมหายใจออกมา จู่ๆ เลิงเยาเยาก็ยื่นหน้าเข้ามาด้วยท่าทีสงสัย
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น ฉันอยากเม้าท์สักหน่อย เธอกับเย่โม่เซินของบริษัทตระกูลหาน”
“ไม่มีอะไรทั้งนั้น” หานมู่จื่อ พูดอย่างรวดเร็ว จนทำให้ภาพที่เลิงเยาเยากำลังเพ้อฝันอยู่หายไปในพริบตา
เลิงเยาเยารู้สึกมึนงงเล็กน้อย ผ่านไปครู่ใหญ่เธอถึงตั้งสติได้ “ไม่จริงมั้ง ถ้าพวกเธอไม่มีอะไรจริงๆ งั้นทำไมเขาถึง…”
เสี่ยวเหยียนจงใจกระแอมออกมานิ่งๆ จากนั้นก็พูดเบาๆ ว่า “เรื่องที่ผ่านไปแล้วก็เหมือนควัน ไม่ต้องถามอะไรแล้ว”
เลิงเยาเยา: “อย่าบอกนะว่าพวกเธอมีอดีตกัน”
เมื่อได้ยินดังนั้น หานมู่จื่อ ก็จ้องเสี่ยวเหยียนเขม็ง เสี่ยวเหยียนรีบหุบปากลงทันที “ไม่มีอะไร ฉันก็พูดไปเรื่อย แต่ว่าวันนี้ฉันโมโหจริงๆ นะ กระโปรงของ จ้าวยี่หรู สรุปแล้วมันยังไงกันแน่ ทำไมถึงไปอยู่บนตัวเธอได้ แถมเธอยังได้หน้าในงานแถลงข่าวอีก คนพวกนั้นต้องเข้าใจว่าหานชิงกำลังจีบเธออยู่แน่นอน!”
เมื่อได้ยินดังนั้น หานมู่จื่อ ก็รู้สึกว่าเรื่องราวมันเลยเถิดไปจนถึงขั้นที่เธอไม่ได้คาดคิดเอาไว้
“พรุ่งนี้ค่อยว่ากันเถอะ เป็นไปไม่ได้หรอกที่พี่ชายของฉันจะเป็นคนส่งให้ เพราะฉะนั้น…”
“พี่ชายเธองั้นเหรอ” เลิงเยาเยาเบิกตาโพลง ดูเหมือนว่าตัวเองจะรู้ความลับอะไรบางอย่างโดยไม่ได้ตั้งใจ
“เธอไม่รู้เหรอ” เสี่ยวเหยียนมองเธออย่างตกใจ “มู่จื่อเป็นน้องสาวของหานชิง”
เลิงเยาเยารู้สึกหายใจติดขัดเล็กน้อย มุมปากของเธอกระตุก “นะ น้องแท้ๆ เหรอ”
“ถ้าไม่ใช่น้องแท้ๆ หรือว่าสร้างขึ้นมางั้นเหรอ” เสี่ยวเหยียนหัวเราะแล้วปรายตามองเธอ จากนั้นเธอก็กอดแขนของ หานมู่จื่อ “ตกใจมากใช่ไหมล่ะ ฉันนึกว่าพวกเธอจะรู้แล้ว ที่แท้ยังไม่รู้นี่เอง”
เลิงเยาเยาพูดอะไรไม่ออก เธอไม่เพียงไม่รู้ แต่เธอเข้าใจมาโดยตลอดว่า หานมู่จื่อ คือคนรักของหานชิง แต่เพราะไม่ชอบเธอ ดังนั้นก็เลยไม่ได้ให้ความสำคัญกับตัวตนของเธอ
แต่ที่เธอคิดมามันเป็นเพียงการเข้าใจผิด
เธอเป็นคนรักของหานชิงซะที่ไหนกันล่ะ เธอเป็นน้องสาวของหานชิงต่างหาก
ที่แท้เธอเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลหาน
ทันใดนั้นเลิงเยาเยารู้สึกเพียงความเจ็บที่ใบหน้าของตัวเอง
เมื่อส่งเลิงเยาเยาถึงบ้านแล้ว หลังจากนั้นรถก็เคลื่อนตัวไปยังตระกูลหาน เมื่อถึงตระกูลหาน หานมู่จื่อ ก็เดินเท้าเปล่าขึ้นไปบนบ้าน หลังจากที่เธออาบน้ำเสร็จแล้วเดินออกมา เธอก็พบว่าห้องมีเพียงความว่างเปล่า ดูเหมือนว่าหานชิงกับเสี่ยวหมี่โต้วจะไม่อยู่
หานมู่จื่อ หยิบมือถือแล้วเดินลงไปชั้นล่าง เจอเสี่ยวเหยียนอยู่ที่นั่นพอดี
“พวกเขาไปไหนล่ะ”
“ได้ยินคนดูแลบ้านบอกว่าพี่ชายเธอพาเสี่ยวหมี่โต้วไปเที่ยวข้างนอก จนถึงตอนนี้ยังไม่กลับมาเลย”
“เป็นอย่างนี้นี่เอง” หานมู่จื่อ พยักหน้า จากนั้นเธอก็ดูเวลา ตอนนี้ยังไม่ถือว่าดึก
อีกอย่างหานชิงก็รู้ถึงความเหมาะสม ดังนั้นเธอจึงกลับห้องได้อย่างวางใจ
หลังจากที่เธอเอนตัวลงนอน ก็นึกถึงท่าทางของเย่โม่เซินที่ขอร้องให้เธอเพิ่มเพื่อนวีแชทเมื่อช่วงค่ำ
เธอเงียบไปพักใหญ่ จากนั้นก็กดเข้าแอพลิเคชั่นวีแชท เห็นเย่โม่เซินอยู่ในรายชื่อเพื่อนของเธอ โปร์ไฟล์ของเย่โม่เซินเหมือนมีแรงดึงดูด หานมู่จื่อ ดูไปดูมาก็กดเข้าไปอย่างไม่สามารถอดใจได้ จากนั้นเธอก็เข้าไปดูประวัติของเขา
สุดท้ายเธอกดเข้าไปในรายชื่อเพื่อนของเขา
ราวกับที่เธอคิดเอาไว้ เย่โม่เซินไม่มีเพื่อนสักคน
อย่าว่าแต่จะแชร์อะไรเลย ขนาดการอัปเดตอะไรจากตัวเขาเองก็ยังไม่มี
ถ้าเขาไม่เพิ่มเพื่อนต่อหน้าของเธอ หานมู่จื่อ คงคิดว่าโปร์ไฟล์นี้ไม่มีคนเล่น
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เธอจึงพรูลมหายใจออกมา
ตั้งแต่ที่เธอกลับมาจากต่างประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเย่โม่เซิน มันไม่ชัดเจนมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องความรู้สึก
เธอจำเป็นต้องหาเวลาไปคุยกับเขาเพื่อทำเรื่องทั้งหมดให้ชัดเจนไหมนะ
ในใจของเธอมีคำถามมากมาย
ในปีนั้นทำไมเขาถึงหย่ากับเธอ ตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง อยู่ด้วยกับหานเส่โยวแล้วหรือยัง
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอก็กัดริมฝีปากล่างของตัวเอง จากนั้นก็หลับตาลงอย่างช้าๆ
ช่างเถอะ ในเมื่อหนีไม่พ้นงั้นก็เผชิญหน้ากับมันละกัน
หลังจากนั้น หานมู่จื่อ ก็หลับไปพร้อมกับมือถือ เมื่อเธอตื่นขึ้นมาอีกทีก็เป็นเช้าวันใหม่แล้ว
หานมู่จื่อ กุมหัวของตัวเองแล้วลุกขึ้นมา มือถือไหลจากหน้าอกของเธอลงมาข้างๆ เธอหยิบมันขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะ แล้วพบว่าข้างนอกสว่างแล้ว
เธอรีบลุกขึ้นแล้วร้องเรียก “เสี่ยวหมี่โต้ว”
ไม่มีเสียงตอบรับ หานมู่จื่อ เปิดประตูแล้ววิ่งออกไปอย่างไม่คิดจนเกือบจะชนกับเสี่ยวเหยียน
“เธอตื่นแล้วเหรอ ฉันยังคิดอยู่ว่าจะปลุกเธอดีไหม ทำไมเธอถึงตื่นป่านนี้” เสี่ยวเหยียนยกมือถือแกว่งไปแกว่งมาตรงหน้าเธอ “จะเก้าโมงแล้ว เธอรู้ไหมเนี่ย”
“เก้าโมงแล้วเหรอ” หานมู่จื่อ ยกมือขึ้นลูบหัวตัวเอง แปลกจัง ทำไมเธอถึงหลับลึกขนาดนี้
“อื้ม รีบไปอาบน้ำเถอะ เราต้องรีบไปบริษัท”
“โอเค”
เธอใช้เวลาสิบนาทีในการอาบน้ำแต่งตัว เธอออกจากบ้านไปพร้อมกับเสี่ยวเหยียน แม้แต่หน้าก็ยังไม่ทันได้แต่ง
ออเดอร์ของ หลินซิงหั่ว เสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็ต้องจัดการของ หลินชิงชิง กับเย่โม่เซิน ดูๆ ไปแล้ว หลินชิงชิง เป็นคนเฉื่อยๆ จนถึงตอนนี้หล่อนก็ยังไม่เร่งเธอ
กลับกันถ้าเป็นเย่โม่เซินเธอคงปวดหัวแย่ หานมู่จื่อ ตัดสินใจเผชิญหน้าแล้ว เพราะฉะนั้นเธอจึงต้องเป็นฝ่ายตอบโต้บ้าง
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หานมู่จื่อ ก็พูดกับเสี่ยวเหยียน “เธอนัดเย่โม่เซินให้ฉันหน่อย หลังจากบ่ายสองเขาว่างหรือเปล่า ให้เขาออกมาเจอฉันหน่อย”
เดิมทีเสี่ยวเหยียนกำลังจัดเอกสารบนโต๊ะ เมื่อได้ยินคำพูดของ หานมู่จื่อ ก็ต้องชะงักไป “เธอพูดว่าอะไรนะ เธอจะเจอเย่โม่เซินงั้นเหรอ”
“อื้ม” หานมู่จื่อ พยักหน้า
“เธอไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม” เสี่ยวเหยียนรีบวางเอกสารในมือแล้ววิ่งไปหาเธอ “ทำไมจู่ๆ ก็อยากเจอเขาขึ้นมาล่ะ อย่าบอกนะว่าเรื่องที่เขาทำเมื่อคืน ทำให้เธอหวั่นไหวเหรอ ถ่านไฟเก่ามันร้อนหรือไง”
“.…..” หานมู่จื่อ เงยหน้าขึ้นมองเธออย่างเหนื่อยใจ “ในหัวเธอคิดอะไรเพ้อเจ้ออยู่” หลังจากนั้นเธอก็ยิ้มแบบหน่ายๆ ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ฉันมีคำถามมากมายที่อยากถามเขา ในเมื่อหนีไม่พ้นก็เจอหน้ากันตรงๆ นี่แหละ”
เสี่ยวเหยียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็เห็นด้วยกับความคิดของเธอ “ที่เธอพูดก็ถูก งั้นเธอก็เคลียร์กับเขาให้ชัดเจน ต่อจากนี้อย่าให้เขามาพัวพันกับเธออีก”
“อื้ม ฉันจะทำตามนั้น”
เสี่ยวเหยียนยังยืนมอง หานมู่จื่อ อยู่ที่เดิม
“เป็นอะไร”
หานมู่จื่อ สงสัยเล็กน้อย
“อันที่จริง เธอยังแอบรักเขาใช่ไหม” เสี่ยวเหยียนคิดให้วุ่นอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายเธอก็ถามออกมา
สีหน้าของ หานมู่จื่อ เปลี่ยนไปจนดูออกได้อย่างชัดเจน “ฉัน…”
“เธอไม่ต้องปฏิเสธ” เสี่ยวเหยียนพูดตัดบท “ฉันรู้ดีว่าใจเธอคิดยังไง สองสามปีมานี้ถึงแม้ตัวเธอจะอยู่ต่างประเทศ แต่เธอก็ติดตามข่าวที่เกี่ยวกับเย่โม่ซิน”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเธอก็ช็อกไปในทันที “เสี่ยวเหยียนเธอ…”