เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่ 49 ร่ำเมรัย(1)
บนถนน
เสิ่นเฉียวเดินไปข้างหน้าแต่ละก้าวอย่างหนักอึ้ง ท่าทางของเธอสับสน ขอบตาแดง น้ำตาแข็งตัวอยู่ในดวงตาของเธอ ไม่ไหลรินออกมาแม้แต่หยดเดียว
กระเป๋าในมือของเธอถูกเธอขว้างจนเปลี่ยนรูปร่าง จนดูเป็นของเกรดต่ำ
ปัง!
ใครบางคนวิ่งมาด้วยความเร็วแล้วพุ่งชนเข้ากับเธอ เสิ่นเฉียวล้มลงไปนั่งกองอยู่กับพื้น กระเป๋าของเธอพังแล้ว ของด้านในกระจายออกมาหมด
คนที่ชนเธอยืนทำตัวไม่ถูกอยู่กับที่“ขอโทษครับ!คุณไม่เป็นไรนะ?”
เสิ่นเฉียวนั่งอยู่กับพื้นอย่างมึนงง มองภาพตรงหน้ามึนงง
คนที่วิ่งชนเธอรีบก้มตัวลงมาช่วยเธอเก็บของของเธอขึ้นมา จากนั้นก็วางไว้ในมือของเธอ:“ขอโทษครับ แต่ผมมีธุระด่วน ขอโทษจริงๆ ของทั้งหมดอยู่ตรงนี้แล้วนะครับ”
หลังจากที่คนนั้นเอาของคืนให้กับเสิ่นเฉียวแล้ว ก็รีบลุกขึ้นแล้ววิ่งไปอีกครั้ง
ในมือของเสิ่นเฉียวล้วนเป็นของที่เขาเก็บขึ้นมาให้เธอ ส่วนกระเป๋ากระเด็นไปอยู่ข้างๆ ไม่สามารถใส่ของอะไรได้อีกแล้ว
เสิ่นเฉียวก้มหน้าก้มตา สายตามองต่ำทำให้ไม่อาจรู้ถึงความรู้สึกที่อยู่ในดวงตาของเธอ หลังจากนั้นเธอก็หัวเราะขึ้นมาในทันที
ผู้คนต่างพากันหลีกเลี่ยง ไม่กล้าเดินไปใกล้
มีอะไรบางอย่างหล่นลงมาจากบนใบหน้าของเธอ บนหลังมือของเธอ ไม่ทันไรเสื้อผ้าของเธอก็เปียกชุ่ม
ไม่เหมือนกันว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ เสิ่นเฉียวร้องไห้จนพอแล้วจึงเอามือปาดน้ำตาบนใบหน้าของเธอออกไป จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนและเก็บกระเป๋าใบพังที่หล่นไปอยู่ข้างๆ แล้วเอาของใส่กลับเข้าไปเหมือนเดิม จากนั้นก็ม้วนกระเป๋าเพื่อกันไม่ให้ของหล่นออกมา และลุกขึ้นเดินต่อไปข้างหน้าราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เดิมทีนั้น เธอกลับบ้านไปเพื่อจะไปเอาเงินที่เธอค่อยๆเก็บสะสมมาตลอดหลายปีนี้ไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ร้านสองสามชุด จะได้ไม่ถูกเย่โม่เซินหัวเราะเยาะเอาตลอด แต่ไม่คิดเลยว่าเงินเก็บทั้งหมดจะหายไป แม้กระทั่งแม่แท้ๆของเธอ ยังไล่เธอออกจากบ้าน
นั่นเป็น……แม่แท้ๆที่คลอดเธอออกมา
แต่อยู่ๆแม่กลับ……ไล่เธอออกจากบ้าน
บางครั้งเสิ่นเฉียวก็คิดว่า จริงๆแล้วเธอเป็นลูกแท้ๆหรือเปล่า ทำไมแม่ถึงดูแลน้องสาวดีกว่าเธอตั้งแต่เด็กๆ?เธอไม่รู้ว่ามีส่วนไหนที่เธอทำผิดพลาดไป เธอขยันตั้งแต่เด็ก เชื่อฟังพ่อแม่ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอเป็นเด็กที่ไม่ดื้อ ฉะนั้นเวลาที่พ่อแม่พูดอะไรเธอก็จะไม่ปฏิเสธ
ให้เธอไปแต่งงานกับตระกูลเย่แทนเสิ่นโย่ว เธอก็ทำตามแล้ว แต่คิดไม่ถึงเลยว่า……
มาคิดถึงภูมิหลัง ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้แล้ว
เสิ่นเฉียวเอยเสิ่นเฉียว ชีวิตเธอนี่มันช่างเหมือนกับเรื่องตลกจริงๆ……
**
เย่โม่เซินนั่งอยู่ตรงหน้าต่างคนเดียว มองดูดวงไฟที่อยู่ภายนอกหน้าต่าง ภายในห้องที่เงียบงันมีเพียงเสียงลมหายใจของเขาเพียงคนเดียว เมื่อก่อนช่วงนี้ ยัยผู้หญิงบ๊องนั่นจะต้องออกมาจากห้องอาบน้ำ จากนั้นก็ทำเสียงอยู่บนเตียงเล็ก ๆของเธออยู่พักใหญ่ก่อนจะหลับไป แต่มาวันนี้……
เย่โม่เซินขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วมองไปยังเตียงเล็ก ๆที่อยู่ตรงมุมนั้น
ผ้าห่มปูไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่มีแม้แต่เงาคน
เธอคนนั้น……ดูเหมือนว่าหลังจากที่เลิกงานแล้วก็ออกไปจนตอนนี้ยังไม่กลับมา
เย่โม่เซินยกนาฬิกาตรงข้อมือขึ้นมาดู
ใกล้จะห้าทุ่มแล้ว
ให้มันได้อย่างนี้สิ เธอจะไปค้างนอกบ้านเหรอ?
เซียวซู่เดินเข้ามาพอดี และพูดกับเย่โม่เซินอย่างเคารพว่า:“คุณชายเย่ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”
“รอเดี๋ยว”เย่โม่เซินขยับสายตา เป็นนัยว่าให้เข้ามาหา
เซียวซู่เดินเข้าไปหา:“คุณชายเย่?”
“แล้วผู้หญิงคนนั้นล่ะ?”
ตอนแรกเซียวซู่ยังไม่รู้ว่าที่เย่โม่เซินถามมานั้นหมายถึงผู้หญิงคนไหน และยังคิดว่าหมายถึงผู้หญิงคนก่อนหน้าที่มาค้างคืนกับเขา เขาเกาหัวแล้วพูดว่า:“คุณชายเย่เรื่องนี้ผมได้เพิ่มจำนวนคนไปที่โรงพยาบาลแล้วครับ ช่วงนี้ยังหาผู้หญิงโสดที่เข้าไปตรวจที่โรงพยาบาลเจอเลยครับ คุณชายเย่ผมขอพูดคำเสียมารยาท ใช่……ผู้หญิงที่มีสามีแล้วที่ท่านนอนด้วยมั้ยครับ?”
ได้ยินคำนี้ เย่โม่เซินโมโหเลือดขึ้นหน้า มือกำแน่น“แกว่ายังไงนะ?”
อารมณ์บนตัวของเขาเดือดพล่าน จนแทบจะระเบิดออกมา ทำเอาเซียวซู่ตกใจจนต้องถอยหลังไปหนึ่งก้าว และพูดออกมาด้วยความสั่นกลัว:“เย่ คุณชายเย่ผมแค่ล้อเล่นครับ มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน?ฮ่าฮ่า!”
เย่โม่เซินหรี่ตา พูดอย่างอันตรายว่า:“คนที่ฉันถามหาคือเธอคนนั้น!”
“ผู้หญิงคนไหนครับ?”เซียวซู่ลูบหัวตัวเอง ยังไม่เข้าใจ!
ในขณะที่เย่โม่เซินจะควบคุมความโกรธที่กำลังเดือดดาลอยู่ภายในใจของเขานั้น ในที่สุดเซียวซู่ก็เข้าใจ แล้วรีบชิงพูดขึ้นมา:“ที่คุณชายเย่ถามคือผู้ช่วยเสิ่นเหรอครับ?”
เย่โม่เซินไม่ได้ตอบกลับ
เซียวซู่มองไปรอบ ๆ:“เอ่อ เวลานี้ผู้ช่วยเสิ่นควรจะอยู่ที่นี่แล้วไม่ใช่เหรอครับ?ทำไมวันนี้ไม่เห็นตัวเลย?”
เย่โม่เซินกล้ามเนื้อหน้าผากกระตุก
“แกถามฉัน แล้วฉันจะไปถามใคร?”
เซียวซู่:“……ทราบแล้วครับ ผมจะรีบไปหาเดี๋ยวนี้ครับ!”
สิบนาทีผ่านไปเย่โม่เซินรอจนหมดความอดทนแล้ว ผู้หญิงคนนั้นยังคงไม่มีวี่แววว่าจะกลับมา และเซียวซู่ก็ยังไม่ส่งข่าวมา
ขณะที่เย่โม่เซินกำลังจะเข็นรถวีลแชร์ออกไปนั้น เซียวซู่ก็เดินเข้ามา
“คุณชายเย่เจอตัวแล้วครับ”
*
ร้านเหล้า
แสงสีในสถานบันเทิง เสิ่นเฉียวนั่งอยู่ตรงหน้าบาร์ ยกเหล้าช็อตต่อช็อต
“เอาให้ฉันอีกช็อต”เสิ่นเฉียวดื่มรวดเดียวหมด แล้วยื่นแก้วให้บาร์เทนเดอร์ตรงหน้า“ขอแบบแรงที่สุด!”
เสียงที่ดังของเธอ ดึงดูดเสียงปรบมือชอบใจของกลุ่มชายฉกรรจ์ข้างๆ!
ไม่ใช่ว่าเสิ่นเฉียวดื่มเหล้าไม่เป็น เธอเคยไปงานปาร์ตี้แล้วดื่มจนเลือดออกในกระเพาะอาหารซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องปกติ แต่ทุกครั้งที่เธอกลับบ้านไปแล้วรู้สึกไม่สบาย สามีของเธอหลินเจียงก็จะหลับไปก่อนเสมอ ทำให้เขาไม่เคยถามไถ่เธอเลยซักครั้ง
ตอนแรกเสิ่นเฉียวก็ยังดื่มเหล้าไม่เก่ง แต่หลังๆมาก็ค่อยๆดื่มเป็นแล้ว
เธอไม่ได้เมามานานมากแล้ว
ในมุมมืดมุมหนึ่งเซียวซู่เข็นรถวีลแชร์ของเย่โม่เซิน:“คุณชายเย่ผู้ช่วยเสิ่นอยู่ทางนั้นครับ”
ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ได้หาตัวยากอะไร เย่โม่เซินจ้องมองไปที่เธอท่ามกลางผู้คน
เธอใส่เสื้อผ้าง่ายๆเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนที่ซักจนสีออกขาว รูปร่างของเธอผอมเล็กจนเหมือนเด็กมอปลายที่ไร้เดียงสา นั่งอยู่ตรงหน้าบาร์ ปล่อยผมที่ปกติแล้วจะมัดเอาไว้เหมือนหางม้าลงมา พาดไปบนไหล่ของเธออย่างนุ่มนวล ปกปิดใบหน้าเธอไว้ครึ่งหนึ่ง
แสงจากไฟสีต่าง ๆที่สาดส่องไปที่ผมที่อยู่บนหน้าของเธอ ให้ความรู้สึกที่ดูสลัวๆ ทำให้ใบหน้าสามมิติของเสิ่นเฉียวยิ่งดูนุ่มนวลขึ้นไปอีก ใบหน้ารูปไข่ของเธอแดงขึ้นมา แสดงให้เห็นว่าดื่มไปแล้วไม่น้อยเลยทีเดียว
“คุณชายเย่ดูเหมือนว่าผู้ช่วยเสิ่นจะดื่มไปเยอะเลยนะครับ ดูเหมือนท่าทางเศร้าเอามากๆ ผมไปพาเธอกลับมานะครับ?”
เย่โม่เซินนั่งเงียบ แต่กล้มเนื้อตรงหน้าผากที่กระตุกเผยให้เห็นอารมณ์ของเขาในตอนนี้ !
พวกผู้ชายก็จ้องไปที่เสิ่นเฉียวอยู่นานสองนาน จนตอนนี้อดไม่ไหวต้องเดินไปชวนคุย มือข้างหนึ่งโอบไปที่ไหล่ของเธอ:“คนสวย เศร้าขนาดนี้เลยเหรอครับ?นั่งดื่มคนเดียวมาก็นานแล้ว อยากให้พี่ดื่มเป็นเพื่อนมั้ย?”
เสิ่นเฉียวจ้องไปยังคนที่เอามือโอบไหล่เธอเอาไว้ด้วยสายตาที่มึนเมา จากนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา แล้วปัดมือของชายคนนั้นออกไป:“อย่ามาแตะตัวฉัน”
ชายคนนั้นยืนอึ้ง ไม่คิดว่าผู้หญิงตรงหน้าที่ดูท่าทางจะตัวเล็กน่ารักนุ่มนวล สายตากลับเย็นชาได้ขนาดนี้ เหมือนกับทะเลสาบที่เงียบสงบบนเขา ไร้คลื่นไร้ลม
“ผมมีเจตนาดีนะ ดูคุณดื่มไปเยอะ ก็แค่อยากดื่มเป็นเพื่อนก็เท่านั้น ไม่เห็นต้องรีบปฏิเสธขนาดนี้เลย?”
พูดจบ มือของชายคนนั้นก็โอบไปที่เอวบางเล็กของเธออย่างไร้มารยาท เสิ่นเฉียวดื่มไปไม่น้อย แล้วพอรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่เธอก็ยังมีความรู้สึกป้องกันได้!
“นายปล่อยฉัน……”
“เอามือของนายออกไป”