เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่ 54 ใช้พื้นที่ตู้เสื้อผ้าของเขา
- Home
- เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก…
- บทที่ 54 ใช้พื้นที่ตู้เสื้อผ้าของเขา
คำถามหน้าไม่อายแบบนี้ทำให้เสิ่นเฉียวถึงกับพูดไม่ออก เธอเหลือบมองเขาเงียบๆ อย่างไม่เห็นด้วย แต่พอนึกถึงเมื่อวาน คนที่พาเธอกลับมาก็คือเขาเอง ในใจจึงรู้สึกซาบซึ้ง และได้แต่หลบตามองต่ำ
“ไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่ ก็ขอบคุณคุณมากนะ”
แบบนี้อีกแล้ว
มาแบบยั่วโมโห ใช้ไม้นี้อีกแล้ว
เย่โม่เซินเหลือบตามองต่ำอย่างอารมณ์ร้อน เธอจะทำเป็นอารมณ์ดีต่อหน้าตนไม่ได้เลยใช่ไหม ถึงได้มีแต่ทำท่าทีแบบนี้ใส่ คิดดังนั้น ไฟแห่งความโกรธก็ค่อยๆ ลุกกรุ่นขึ้นในทรวง เอ่ยขึ้นเสียงแข็ง “ฉันแค่กลัวว่าเธอจะทำขายหน้าตระกูลตระกูลเย่ ถ้าไม่เช่นนี้ ต่อให้คุณตายอยู่ตรงหน้าฉันก็จะไม่สนใจ”
คำพูดที่ไร้เยื่อใย ราวกับกระบี่อาบยาพิษที่ปักลึกเข้าไปถึงก้นบึ้งขั้วใจของเสิ่นเฉียว เสิ่นเฉียวถึงกับพูดไม่ออก เก็บทุกความรู้สึกไว้ลึกๆ ทำได้เพียงเอ่ยตอบกลับไปแบบนี้
“ฉันเข้าใจแล้ว”
พูดจบ เธอกลับหลังหันเดินแล้วเข้าห้องน้ำไป
หลังจากออกมาจากห้องน้ำ เย่โม่เซินได้ออกไปทำงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เสิ่นเฉียวเตรียมตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าออกไปข้างนอก แต่กลับหากระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเองไม่เจอ อีกอย่างเสื้อผ้าเธอที่เคยแขวนไว้ในตู้เสื้อผ้าก็หายไปหมดด้วย
สีหน้าของเสิ่นเฉียวเปลี่ยนไป กลับหลังหันเดินออกไปด้านนอก
ทันใดนั้นมีเด็กรับใช้คนหนึ่งเข็นราวเสื้อผ้าเข้ามาพอดี พอเห็นเธอเข้าจึงหยุดฝีเท้าลง ตะโกนเรียกอย่างร้อนรน “คุณผู้หญิงคะ”
เสิ่นเฉียวถึงกับตกใจ มองไปที่พวกเธอด้วยความสงสัย “นี่พวกเธอ…”
“คุณผู้หญิงคะ คุณผู้ช่วยเซียวสั่งให้พวกเราเอามาส่งที่นี่ค่ะ”
เสิ่นเฉียวเงียบไป นึกถึงเสื้อผ้ากองใหญ่ที่เย่โม่เซินซื้อให้เธอเมื่อคืนวาน “ให้ฉันหมดเลยหรอ”
“ใช่ค่ะ คุณผู้หญิง”
พูดจบ พวกสาวใช้ก็พากันเข็นเสื้อผ้าเข้าไปในห้อง จากนั้นเก็บใส่เข้าไปในตู้เสื้อผ้าเธอทีละชุดๆ
นับว่าเย่โม่เซินยังพอมีน้ำใจอยู่บ้าง เพราะตู้เสื้อผ้าเขาใหญ่มาก เสื้อผ้าของเขาก็ไม่มีอะไรมาก ดังนั้นจึงไม่ค่อยกินพื้นที่ในตู้เสื้อผ้าเท่าไหร่ พื้นที่ที่เหลืออยู่จึงเหลือไว้ให้เสิ่นเฉียว สาวใช้หยิบเสื้อผ้าอันหรูหราเหล่านั้นเก็บใส่ตู้เสื้อผ้าอย่างเรียบร้อย จากนั้นจึงหันมาบอกเธอ “คุณผู้หญิงคะ ทั้งหมดนี้คือชุดของคุณ พวกเราเสร็จธุระแล้ว ถ้าไม่มีอะไรแล้วพวกเราขอตัวก่อนนะคะ”
เสิ่นเฉียวนิ่งเงียบมองไปที่ตู้เสื้อผ้าที่ถูกจัดวางเต็มตู้อย่างเป็นระเบียบอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเงยหน้าขึ้นมองสาวใช้ที่กำลังจะออกไป “เดี๋ยวก่อน”
สาวใช้ชะงักฝีเท้าอย่างเร็วพลัน หันกลับมามองเธอ “คุณ คุณผู้หญิง มีอะไรอีกหรอคะ”
“แล้วเสื้อผ้าฉันที่อยู่ในตู้ก่อนหน้านี้ล่ะ และก็ยังมีกระเป๋าเสื้อผ้าฉันอีก”
พอได้ยิน สีหน้าของสาวใช้เปลี่ยนไป ตอบอธิบายเสียงเบา “คุณผู้หญิงคะ กระเป๋าเสื้อผ้ามันเก่าแล้ว พวกเราก็เลย…..ทิ้งไปแล้ว และเสื้อผ้าพวกนั้น….”
เสิ่นเฉียวได้ยินดังนั้น หน้าถอดสีทันที “โยนทิ้งแล้วหรอ พวกเธอจะมาโยนของของฉันทิ้งตามใจได้ยังไงกันห๊ะ”
เธอเอ่ยถามขึ้นด้วยความโมโห
สาวใช้ก้มหน้าก้มตาตัวสั่น “ขอโทษนะคะ คุณผู้หญิง คุณ..คุณชายรองเป็นคนสั่งให้พวกเราเอาไปทิ้ง ดังนั้น…”
ได้ยินแบบนี้ เสิ่นเฉียวก็เข้าใจโดยทันที ที่แท้ก็เป็นฝีมือของเย่โม่เซินนี่เอง เพราะเขาดูถูกเสื้อผ้าที่เธอใส่ ก็เลยซื้อชุดใหม่ให้เธอ รวมถึงจัดการกับสิ่งของเก่าๆ ทั้งหมดของเธอ
ช่างเถอะ นี่ไม่ใช่ความผิดของพวกเธอ พวกเธอก็แค่ทำตามคำสั่งของเย่โม่เซินเท่านั้น
“ขอโทษนะคะ คุณผู้หญิง ขอ..โทษด้วยจริงๆ ค่ะ”
“ช่างเถอะๆ พวกเธอไม่ได้ผิด กระเป๋าเสื้อผ้าฉันอยู่ไหน” ในนั้นมีของสำคัญมากของเธอ
“ในห้องเก็บขยะ ฉันจะพาคุณไปค่ะ”
“อืม”
เสิ่นเฉียวตามสาวใช้คนหนึ่งเดินนำไปที่ห้องเก็บขยะ พอถึงก็เห็นกระเป๋าเสื้อผ้าของตนถูกโยนไว้ในมุมหนึ่ง เธอรีบเข้าไปเปิดมัน สาวใช้วิ่งตามไปข้างๆ พลางอธิบาย “กระเป๋าถูกทิ้งไว้ที่นี่ตลอด ไม่เคยถูกใครเปิด คุณหนูรองตรวจสอบดูว่ามีอะไรหายไปหรือเปล่า”
เสิ่นเฉียวตรวจสอบดู ถอนหายใจอย่างโล่งอก “ไม่มี ขอบใจนะ”
“ไม่ต้องเกรงใจค่ะคุณผู้หญิง แต่ว่า….กระเป๋านี้คุณจะเอากลับไปด้วยไหมคะ”
เสิ่นเฉียวพยักหน้า “อืม”
“แต่ว่า…” สาวใช้เอ่ยขึ้นอย่างลังเล “คุณผู้ชายจะ…”
“เรื่องเขาเธอไม่ต้องสนใจ ถ้าเกิดเขาถาม เธอก็แค่ตอบว่าโยนทิ้งไปแล้ว แต่ฉันเป็นคนเก็บกลับมาเอง”
พูดจบ เสิ่นเฉียวก็ลากกระเป๋ากลับไป สาวใช้เดินตามไปข้างหลังเงียบๆ และสุดท้ายก็ไม่ได้เอ่ยอะไรต่อ
เสิ่นเฉียวกลับถึงห้อง ก็เปิดสำรวจกระเป๋าอีกรอบ แล้วหยิบถุงที่อยู่ข้างในออกมา ข้างในมีชุดกระโปรงสีดำ เป็นชุดที่เธอตั้งใจไปซื้อมาจากร้านก่อนที่จะแต่งงาน แต่ต่อมาพอทำงานเธอก็ไม่มีโอกาสได้ใส่มันอีกเลย
จนถึงตอนนี้ก็ไม่มีโอกาสได้ใส่แล้ว แค่เอาออกมาลองใส่ดูแล้วกัน
แต่ว่า…
เสิ่นเฉียวหันกลับมามอง เสื้อผ้าที่เต็มตู้ แววตาค่อยๆ เศร้าลง เธอเคยบอกว่าเธอจะไม่ใช้เงินของเขา ไม่ว่ายังไงก็จะไม่ใช้
ณ ห้องทำงาน
“ก๊อกๆ —”
“เข้ามา”
ประตูถูกผลัก เข้ามา พร้อมกับการปรากฏกายของหญิงสาว ที่ยกกาแฟมาเสิรฟ์ถึงโต๊ะของเขา
“คุณชายเย่กาแฟค่ะ” เสิ่นเฉียววางกาแฟลงบนโต๊ะอย่างไร้อารมณ์ จากนั้นกลับหลังหันเตรียมจากไป
สายตาของเย่โม่เซินจับจดอยู่บนกองเอกสารที่อยู่ตรงหน้า นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ จึงเหลือบตาขึ้นมอง เห็นเสิ่นเฉียวที่ใส่ชุดกระโปรงสีดำ รูปทรงใหญ่โค้ง แต่ต่อให้ใส่มาทำงานก็ดูไม่เทอะทะ อีกอย่างยังลู่ไปกับหุ่นที่เรียวงามของเธอ
เพียงแค่…
ชุดนี้ไม่ใช่ชุดที่เขาซื้อเมื่อคืนวาน
คิดได้ดังนั้น เย่โม่เซินเอ่ยขึ้น
“เดี๋ยวก่อน”
เสิ่นเฉียว หยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงเรียก หันหลังกลับมา
“คุณชาย ยังต้องการอะไรอีกค่ะ”
เย่โม่เซิน หรี่ตาลง
วันนี้เสิ่นเฉียวแต่งหน้ามา ริมฝีปากถูกแต่งแต้มด้วยลิปสติกสีเมเปิ้ลที่ออกรุ่นมาใหม่ เปลี่ยนใบหน้าที่เคยดูจืดชืดให้มีสีสันขึ้นมา ผมสยายยาวถึงเอว ทำให้ใบหน้าเธอดูอ่อนโยนขึ้นมา
แต่งแบบนี้ดูดีกว่าปกติเป็นอย่างมาก แต่ว่า เย่โม่เซินกลับไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“ชุดนี้มาจากไหน”
พอได้ยินเสิ่นเฉียวก็ชะงักไป เม้มมุมปากพลางเอ่ยขึ้น “ของฉันเอง”
เห็นเขาที่จ้องตัวเองอยู่นาน เสิ่นเฉียวจึงรีบอธิบาย “เมื่อก่อนฉันมีแต่เก็บไว้ วันนี้ก็เลยหยิบออกมาใส่ดู”
เย่โม่เซินเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ “ทำไมไม่ใส่ชุดที่ฉันซื้อให้”
“ก็เมื่อวานฉันบอกคุณไปแล้วไง ว่าฉันจะไม่ใช้เงินของคุณ” เสิ่นเฉียวเอ่ยต่ออย่างหนักแน่น “ฉันเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น”
“เหอะ” เย่โม่เซิน เค้นหัวเราะ “ไม่ใช้เงินของฉันจริงๆ หรอ แล้วเธอคิดว่าที่เธอกินเธอใช้อยู่ทุกวันนี้นั้นของใครกัน”
“ฉัน…” เสิ่นเฉียวพบว่าตัวเองไม่อาจปฏิเสธเขาได้ หายใจเข้าลึกๆ พลางเอ่ยขึ้น “ฉันรู้ว่าที่ฉันกินฉันใช้อยู่ทุกวันนี้เป็นของคุณ ฉันจะตั้งใจทำงาน ให้คุณหักออกจากเงินเดือนฉันได้เลย”
“เธอคิดว่าเศษเงินเดือนของเธอนั้นมันพอหรอ”
เสิ่นเฉียวเงียบไป แน่นอน บ้านตระกูลเย่ใหญ่ขนาดนั้น เงินเดือนของเธอคงไม่พอสำหรับค่าเช่าบ้านแน่นอน “แล้วคุณจะเอายังไง ไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่ ฉันจะตั้งใจทำงานหาเงินมาคืนคุณแน่นอน ที่บริษัทมีงานอะไรที่ฉันช่วยได้เชิญคุณมอบหมายมาเลย”
พูดจนสุดท้าย เสิ่นเฉียวเริ่มมีแรงฮึดสู้ขึ้นมา ใบหน้าขาวนวลเต็มไปด้วยความจริงจัง
เย่โม่เซินจึงพบว่า เธอจริงจังกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ไม่ได้มีเจตนาใดๆ เลย