เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่ 84 นายสามารถขอตัวเธอไปได้
- Home
- เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก…
- บทที่ 84 นายสามารถขอตัวเธอไปได้
พูดเกลี้ยกล่อมแทนเย่โม่เซิน?
ไม่สิ ทำไมเย่หลิ่นหานถึงได้พูดแทนเย่โม่เซินละ? ปกติถึงแม้ว่าเย่โม่เซินจะปฏิบัติต่อเขาอย่างไม่ค่อยเลวร้าย แต่ยังไงก็พูดดีๆใส่กันไม่ได้แน่นอน
“ ถึงอย่างไรเธอก็ไม่ได้รู้จักเย่โม่เซินตั้งแต่แรก ระหว่างพวกเธอยังต้องใช้เวลาขัดเกลากันอีกเยอะ ”
เสิ่นเฉียวส่ายหน้า “ พี่ใหญ่ ที่ฉันร้องไห้ไม่ใช่เป็นเพราะเขาหรอก พี่ใหญ่ไม่ต้องไปพูดแทนเขา ”
ได้ฟังดังนั้น เย่หลิ่นหานก็งงเล็กน้อย และได้ยิ้มออกมา: “ งั้นก็ดี ฉันคิดว่าพวกเธอทะเลาะกันสะอีก ”
เสิ่นเฉียวไม่ได้พูดอะไร ก้มหน้าก้มตาดื่มซุปทีละเล็กทีละน้อย
เธอก้มหัว ท่าทางที่ผมกระจายลงมา ดูน่ารักมาก เย่หลิ่นหานยกมืออยากจะไปลูบหัวของเธอ แต่ตอนที่ใกล้จะสัมผัสกับหัวของเธอนั้น มือของเย่หลิ่นหานกลับชะงักไป
เขามองเสิ่นเฉียว และหันมามองฝ่ามือของตัวเอง สุดท้ายก็เก็บมือกลับไป
เวลานี้ โทรศัพท์ของเย่หลิ่นหานได้ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา “ เธอค่อยๆกินนะ ฉันออกไปรับโทรศัพท์ ”
“ อือ ”
หลังจากที่เย่หลิ่นหานออกไปรับโทรศัพท์ เสิ่นเฉียวก็รู้สึกสบายใจขึ้นเยอะ
ถึงแม้ว่าเย่หลิ่นหานจะดีกับเธอมาก แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น เพราะฉะนั้น เสิ่นเฉียวถึงได้รู้สึกไม่สบายใจ
ขณะนี้เขาออกไปแล้ว เธอถึงได้หมุนตัวกลับมา และกินข้าวต่อเงียบๆ
ผ่านไปประมาณหนึ่งนาที เย่หลิ่นหานก็กลับเข้ามา “ น้องสะใภ้ ที่บริษัทมีงานด่วนนิดหน่อย ฉันต้องกลับก่อน กินเสร็จแล้วจะมีคนใช้มาเก็บทำความสะอาด ตอนเย็นฉันจะให้คนรถมารับเธอไปส่งที่บ้าน ”
เสิ่นเฉียวได้ยินว่าบริษัทมีงานด่วน สีหน้าก็ได้เปลี่ยนไปทันที: “ วันนี้ฉัน……ยังไม่ทำเรื่องลาเลย ฉัน…… ”
“ ป่วยขนาดนี้ โม่เซินคงไม่เอาเรื่องเธอหรอก พักผ่อนเถอะ ”
หลังจากที่เย่หลิ่นหานไปแล้ว เสิ่นเฉียวถึงได้รู้สึกว่ามันไม่ถูก
เธอคือน้องสะใภ้ของเขา เป็นภรรยาของเย่โม่เซิน จะมาอยู่ในบ้านของเย่หลิ่นหานได้ยังไง?
ถ้าเย่โม่เซินรู้เข้า ถึงตอนนั้นคงต้องหลบหลีกอารมณ์ของเขาอีกแน่ๆ
อีกอย่าง เธอต้องหลีกเลี่ยงการสงสัย ไม่อย่างนั้นคนข้างนอกจะนินทาเย่หลิ่นหานเอาได้
คิดได้ดังนั้น เสิ่นเฉียวจึงรีบกินของให้เสร็จ หลังจากนั้นก็ลุกขึ้น
คนใช้เข้ามาพอดี
“ คุณหนูเสิ่น คุณทานเสร็จแล้ว? ”
เสิ่นเฉียวหน้าแดงนิดหน่อย: “ อือ ขอบคุณที่ต้อนรับนะคะ แต่วันนี้ฉันมีงานด่วน ฉันต้องขอตัวกลับก่อน ”
“ คุณหนูเสิ่นอย่ารีบค่ะ คนรถกำลังมารับคุณนะคะ ”
ได้ฟังดังนั้น เสิ่นเฉียวก็ได้ชะงักไป “ คนรถ? ”
“ ใช่ค่ะ คนรถที่คุณชายหานใช้ประจำ เขาต้องไปส่งคุณชายหานที่บริษัทก่อน หลังจากนั้นก็จะกลับมารับคุณค่ะ ”
เสิ่นเฉียวชะงักไป “ ไม่ต้องก็ได้ค่ะ รบกวนเกินไปแล้ว ฉันกลับเองได้ ป้ายรถเมล์แถวนี้อยู่ตรงไหนคะ? ”
คนใช้มีใบหน้าเก้อเขิน: “ คุณหนูเสิ่น คุณไม่ใช้รถที่จัดให้หรอคะ? ”
เสิ่นเฉียวส่ายหน้า “ ไม่ใช้ค่ะ ฉันนั่งรถเมล์กลับไปสะดวกกว่า รบกวนบอกป้ายรถเมล์สายต่อไปให้ฉันด้วยค่ะ ”
สุดท้าย คนใช้เห็นความมุ่งมั่นของเสิ่นเฉียวจริงๆ จึงทำได้เพียงพาเธอไปส่งที่ป้ายรถเมล์ด้วยตัวเอง “ ที่นี่ไงคะคุณหนูเสิ่น ”
“ ขอบคุณนะคะ ” เสิ่นเฉียวยิ้มให้เธอ
คนใช้ชื่นชมและตกใจเล็กน้อย จึงส่ายหน้าไปมา: “ คุณหนูเสิ่นไม่ต้องเกรงใจค่ะ นี่เป็นครั้งแรกที่คุณชายหานพาผู้หญิงเข้าบ้าน คุณหนูเสิ่นต้องคว้าโอกาสไว้ให้ดีๆนะคะ ฉันขอตัวก่อน ”
พูดเสร็จ ไม่รอให้เสิ่นเฉียวตอบสนองกลับมา คนใช้ก็ได้เดินจากไปแล้ว
เสิ่นเฉียวยืนงง ยังคงกำลังดูดซึมความหมายที่คนใช้เพิ่งพูดเมื่อสักครู่
ผ่านไปสักพัก เธอมีสีหน้าเก้อเขินเล็กน้อย
เห็นได้ชัดว่า คนใช้คนนี้เข้าใจความสัมพันธ์ของเธอกับเย่หลิ่นหานผิดไปแล้ว?
*
บริษัท
ได้จัดการประชุมขึ้นอย่างกะทันหัน คนในบริษัทไม่มีใครรู้มาก่อน อีกทั้งนึกไม่ถึงว่าเย่โม่เซินจะวิจารณ์รองประธานเย่ในที่ประชุม ทำให้ผู้ถือหุ้นพากันงง ไม่รู้เลยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
ตอนแรกเย่หลิ่นหานยังหาคำตอบไม่ได้ ต่อมาเย่โม่เซินมักจ้องจับผิดเขา อีกทั้งสายตาที่แหลมคมเหมือนมีดนั้นได้มองมาที่เขา เหมือนเขาไปแย่งของล้ำค่าที่เย่โม่เซินรักมาอย่างนั้นแหละ และอยู่ๆเย่หลิ่นหานก็นึกถึงหญิงสาวที่กำลังกินข้าวอยู่ที่วิลล่าส่วนตัวของเขาขึ้น มุมปากจึงยกยิ้มเล็กน้อย
รอจนการประชุมสิ้นสุดลง เย่หลิ่นหานก็เดินขึ้นไปข้างหน้า
“ โม่เซิน ทำไมวันนี้อารมณ์ร้อนจัง? ”
เย่โม่เซินยิ้มเย็น: “ รองประธานเย่ทำเรื่องงามหน้าเอาไว้ ในเอกสารสัญญาเกิดความผิดพลาดที่เกิดจากความสะเพร่า พี่ไม่มีจิตสำนึกเลยสักนิดเดียว ”
เย่โม่เซินไม่เคยไม่มีเหตุผล วันนี้เขาเหวี่ยงใส่เย่หลิ่นหานก็ถือว่าเหวี่ยงถูกคนแล้ว เพราะเอกสารสัญญาเกิดความผิดพลาดขึ้นจริงๆ
“ พี่สะเพร่าเอง พี่ต้องขอโทษนายด้วย ”
“ เพียงแต่ วันนี้นายอารมณ์ร้อนไปหน่อย ”
สายตาของเย่โม่เซินเหมือนหนามที่แหลมคม: “ พี่คิดว่าตัวเองทำผิดแล้ว คนอื่นจะโกรธไม่ได้หรอ? ”
“ ไม่ใช่แบบนั้น พี่แค่เดาสาเหตุที่ทำให้นายโกรธก็เท่านั้นเอง ” เย่หลิ่นหานยิ้มเล็กน้อย และเดินขึ้นไปข้างหน้าสองก้าว: “ วันนี้ตอนที่ฉันไปโรงพยาบาล เจอน้องสะใภ้ด้วย ”
ได้ฟังดังนั้น เส้นเลือดบนหน้าผากของเย่โม่เซินก็ปูดขึ้นมาทันที
นึกไม่ถึงว่าเย่หลิ่นหานจะกล้าพูดถึงเธอต่อหน้าเขา? เขากำลังคิดอะไรอยู่?
“ น้องสะใภ้เป็นลม ฉันจึงพาเธอกลับไป ”
น้ำเสียงเพิ่งหยุดลง เย่หลิ่นหานก็รับรู้ถึงความหนาวเย็น ที่แพร่กระจายออกมาจากบนตัวของเย่โม่เซิน เป็นความหนาวเย็นที่บ้าคลั่ง เย่หลิ่นหานชะงักไปเล็กน้อย ในดวงตาที่อ่อนโยนปรากฏแสงที่ไม่เปิดให้ใครรับรู้ขึ้น
เซียวซู่ที่อยู่ข้างๆรู้ว่าอารมณ์ของเย่โม่เซินไม่สามารถควบคุมได้แล้ว จึงรีบเดินขึ้นไปพูดอย่างรวดเร็ว: “ รองประธานเย่ คุณทำเกินไปหรือเปล่าครับ? คุณนายน้อยสองเป็นลม คุณไม่พาเธอไปโรงพยาบาล กลับพาไปที่บ้านแทน คุณกำลังคิดอะไรอยู่หรอครับ? ”
ที่เขาพูดถือว่าเกรงใจมากแล้วนะ
เย่หลิ่นหานยิ้มเล็กน้อย “ เธอวิ่งออกมาจากในโรงพยาบาล ในโรงพยาบาลน่าจะมีคนที่เธอไม่อยากเจอ หรือมีเรื่องที่ทำให้เธออยากหลบหนี หรือเธอไม่ชอบโรงพยาบาล ถ้าฉันยังพาเธอกลับเข้าไป งั้นไม่เท่ากับว่าฉันทำร้ายเธอหรอ? เซียวซู่ ทำเรื่องอะไรต้องคิดให้รอบคอบก่อนนะ ”
“ เหอะ พี่คิดรอบคอบแล้วละสิ งั้นพี่ใคร่ครวญแล้วหรือยัง ว่าเธอคือผู้หญิงของผม ”
“ โม่เซินหมายความว่า ไม่ให้ฉันไปสนใจน้องสะใภ้ที่สลบไม่ได้สติ? ”
“ คุณพูดบ้าอะไร? ” เซียวซู่รู้สึกโกรธนิดหน่อย: “ ป่วยก็ต้องไปโรงพยาบาล ไม่ชอบโรงพยาบาลจะไม่ไป แบบนี้ได้หรอ? ”
“ และอีกอย่างจิตใจของรองประธานเย่ทำด้วยอะไรกันแน่ หลังจากที่คุณนายน้อยสองเป็นลมไป ทำไมคุณถึงไม่โทรหาพวกเราละ? ”
“ วันนี้พวกนายอารมณ์ร้อนจริงๆด้วย โม่เซิน พี่แค่รู้สึกว่าขาของนายไม่สะดวก จึงไม่ได้โทรหานาย นายไม่โทษพี่หรอกใช่ไหม? ”
เย่โม่เซินยิ้มเย็น “ พี่ว่าไงละ? ”
“ ที่พี่มาบริษัทก็เพื่อจะมาบอกนาย ว่าเลิกงานแล้วก็ไปรับเธอกลับบ้านด้วย ”
“ เธออยากอยู่ที่ไหนก็ให้เธออยู่ไป ผู้หญิงประเภทนั้นสมควรให้ผมไปรับกลับบ้านหรอ? ”
เย่โม่เซินได้ติดเครื่องทำการเหน็บแนมอีกครั้ง
เย่หลิ่นหานขมวดคิ้ว น้องชายที่อยู่ตรงหน้าเขามีอะไรชอบไม่พูดจริงๆด้วย
“ ที่ผมไม่อยากให้พี่ไปใกล้ชิดกลับเธอ ก็เพราะเธอคือผู้หญิงที่เห็นแก่เงิน อีกอย่าง บนตัวของเธอยังมีตำแหน่งคุณนายน้อยสองค้ำคอไว้อยู่ จะได้ไม่ตกเป็นขี้ปากคนอื่น ผมไม่ได้บอกว่าผมเป็นห่วงเธอ และจะไปรับเธอ ”
“ โม่เซิน? ”
“ ถ้าพี่ชอบเธอ พี่ก็ไปพูดเรื่องนี้กับนายท่าน ว่าขอตัวเธอไป ”
“ …… ”
เสิ่นเฉียวรีบมาที่บริษัท ไถ่ถามที่ที่พวกเขาอยู่อย่างชัดเจนแล้ว และตอนที่เธอมาถึงหน้าห้องประชุม ก็ได้ยินประโยคนี้เข้าพอดี
เธอยืนอยู่ที่ประตู และเห็นเย่โม่เซินที่อยู่ข้างในแล้ว
ใบหน้าของเขาเย็นชา สายตาเย็นเหมือนบึงน้ำลึก ที่ไม่มีอุณหภูมิใดๆ คำพวกนั้น เหมือนหนามแหลมคมที่แทงลงไปบนทรวงอกของเธอ