เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่133 คนแปลกหน้ายังดีกว่า
หานเส่โยวทำตาโต เธอไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง
บนเอกสารบอกว่าคนนั้นคือ เย่โม่เซิน
ดังนั้น ผู้ชายที่เธอกับเสิ่นเฉียวเที่ยวตามหากันให้วุ่นวายคนนั้น ก็คือเย่โม่เซิน
ที่แท้พ่อของเด็กก็เธออยู่ๆข้างๆเธอ แต่เธอกลับไม่รู้อะไรเลย รวมถึงเย่โม่เซินด้วย
เป็นแบบนี้ไปได้ยังไงกัน?
แปะๆ
อยู่ๆเสียงน้ำจากห้องน้ำก็หยุดลง หานเส่โยวรีบดึงสติตัวเองกลับมาในทันที พี่หานชิงอาบน้ำเสร็จแล้ว ถ้าเกิดเธออยู่ต่อไป ต้องถูกจับได้แน่ๆ
คิดได้ถึงตรงนี้ หานเส่โยวก็รีบเอาเอกสารใส่กลับเข้าไปในซองเหมือนเดิม แต่น่าเสียดายที่เธอลุกลี้ลุกลน พอเธอวางซองเอกสารกลับไปที่เดิมแล้วเตรียมกำลังจะรีบออกไป แขนเสื้อของเธอก็ไปกวาดพวกของบนโต๊ะให้ตกลงมา
ปัง!
โทรศัพท์ที่ตกลงบนพื้นเสียงดังชัดเจน หานเส่โยวตกใจจนแทบจะเป็นบ้า สุดเลยก็เลยต้มรีบหันกลับมาก้มเก็บโทรศัพท์ไว้ที่เดิม แล้วก็เตรียมตัวจะออกไปจากห้องอีกครั้ง ประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออกเสียก่อน
หานเส่โยวหยุดนิ่ง เธอรีบหันหลังกลับไปมองที่ห้องน้ำในทันที
หานชิงที่อาบน้ำเสร็จแล้ว บนเรือนร่างกำยำยังคงมีหยดน้ำเกาะอยู่ ผมสีดำขลับก็ลู่ติดอยู่กับหน้าผากของเขา ดวงตาสีเข้มใบบนหน้าเย็นชาไร้อารมณ์นั่นกำลังจ้องมาที่หานเส่โยว
เขาไม่พูดอะไร ปากเรียวบางทำแค่เม้มเอาไว้ ส่วนสายตาก็ยังคงจับจ้องอยู่ที่หานเส่โยว
ใจของหานเส่โยวเต้นแรง สายตาที่มองไปยังหานชิงมีประกายของความกริ่งเกรง สามารถมองออกว่าท่าทางของเธอมันก็คือโจรที่ถูกจับได้
แต่ว่าแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ หานเส่โยวทำได้แค่กัดริมฝีปาก เธอยื่นมือออกไปทักทายหานชิง “พี่ พี่ใหญ่……”
เสียงที่เอ่ยออกมา หานเส่โยวได้ยินเสียงตัวเองกำลังสั่น
หานชิงไม่ตอบ สายตาของเขาลดระดับลงมา มองมาที่มือของเธอ
หานเส่โยวเริ่มกังวล แล้วรีบดึงมือกลับมาไว้ด้านหลังของตัวเอง แต่เธอก็คิดได้ว่าถ้าทำแบบนี้มันไม่ถูกต้อง เธอรีบเอาโทรศัพท์ออกมา
“ขอโทษนคะพี่ชาย เมื่อกี้ฉันโดนเข้ากับโทรศัพท์ของพี่โดยไม่ได้ตั้งใจ มันก็เลยตกลงมาบนพื้น ไม่รู้ว่าจะเสียหรือเปล่า….” หานเส่โยวพยายามกดอารมณ์ที่มันกำลังตีกันวุ่นวายเหมือนคลื่นที่ซัดสาดในใจของเธอ แล้วพูดขึ้นเสียงเบา
หานชิงยกผ้าขนหนูขึ้นมาเช็ดผมด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ขาเรียวยาวกำลังก้าวมาทางเธอ บรรยากาศเคร่งขรึมที่อยู่บนตัวเขาก็ค่อยๆกดดันหานเส่โยวเช่นกัน
ได้ยินแค่เสียงเรียบเย็นของเขาเอ่ยขึ้น “ไม่ใช่ว่าฉันเคยพูดไปแล้วหรือไง? ถ้าฉันยังไม่อนุญาต ก็ห้ามเข้าออกห้องฉันโดยพลการ”
ฟังจบ สีหน้าของหานเส่โยวก็เปลี่ยนไป
“พี่ชาย ฉันไม่ได้ตั้งใจ….. ฉันก็แค่ได้ยินมาพี่กำลังอาบน้ำอยู่ แค่….ตั้งใจจะเข้ามารอเฉยๆ” พอพูดถึงตรงนี้ หานเส่โยวก็กลัวจนน้ำตาเริ่มเอ่อ สีหน้าน่าสงสารกำลังมองมาที่หานชิง “ครั้งหน้าฉันจะไม่ทำอีกแล้ว ฉันจะออกไปเดี๋ยวนี้เลย”
หานเส่โยววางโทรศัพท์ลง ตั้งท่าจะจากไป
แต่หานชิงกลับรั้งเธอเอาไว้ “เดี๋ยวก่อน”
เธอหยุดเดิน หานเส่โยวตกใจจนยืนนิ่งอยู่กับที่
สายตาแหลมคม หยุดอยู่ที่แผ่นหลังของเธอ หานเส่โยวได้ยินเขาถาม “มีเรื่องอะไร พูดมาสิ”
หานเส่โยวกะพริบตา เธอสูดหายใจเข้าลึก แล้วค่อยๆพูดขึ้น “ก็ ก็ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว แค่เห็นว่าพี่ชายไปต่างประเทศเพิ่งจะกลับมา เส่โยวคิดถึงพี่ชาย ก็เลยมาดูว่าพี่ชายนอนหรือยัง ฉัน…..” เธอเริ่มพูดไม่รู้เรื่องอีกครั้ง หานเส่โยวไม่ชอบตัวเองในตอนนี้มากที่สุด ทั้งๆที่เธออุตส่าห์แถจนรอดแล้วเชียว แต่ว่าเมื่อไหร่ที่เธอเห็นสายตาที่เหมือนกับมองทะลุใจคนของหานชิงได้ทีไร เธอก็รู้สึกเหมือนไม่ว่าเธอจะโกหกอะไรออกไป ก็ต้องโดนจับได้ทุกครั้ง
บวกกับเธอที่เป็นคนใจฝ่อ เพราะฉะนั้นเวลาที่ยืนอยู่ต่อหน้าหานชิงก็ยิ่งรู้สึกไม่มีความมั่นใจ
หานชิงไม่ได้พูดอะไรต่อ สายตาของหันมองอยู่ที่ซองหนังสีน้ำตาล ตอนที่เขากำลังจะหยิบขึ้นมา ก็พบว่าซองมันโดนคนเปิดไปก่อนแล้ว เขาหรี่ตาขึ้นด้วยความหงุดหงิด
“เธอได้ดูเอกสารหรือยัง?”
หานเส่โยวพอโดนเขาถามแบบนี้ ก็หน้าซีดในทันที พอคิดได้ก็ปฏิเสธไป “เปล่า ไม่ได้ดูนี่ พี่ชายฉันก็แค่เพิ่งจะเข้ามาในห้อง แล้วเห็นว่าหน้าจอโทรศัพท์พี่มันสว่างขึ้นพอดี แต่ว่าไม่ระวังก็เลยทำโทรศัพท์พี่ตก”
“……”
เธอช้อนตามองเขา หานชิงหัวเราะด้วยเสียงขึ้นจมูกเบาๆ มีแค่เธอเท่านั้นที่ได้ยิน
“งั้นเหรอ?” เขาถาม
หัวใจของหานเส่โยวเต้นแรง “พี่ เป็นเอกสารสำคัญมากอย่างนั้นเหรอ? แน่นอนว่าฉันไม่มีทางแตะต้องของของคนอื่นอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าอยู่แล้ว เส่โยวเป็นเด็กดีอยู่แล้ว ถ้าไม่มีอะไร เส่โยวกลับก่อนแล้วกัน”
หานชิงเงยหน้ามองเธอ “ไม่อยากรู้เรื่องนั้นแล้วเหรอ?”
“เรื่องนั้น….ไว้ว่ากันพรุ่งนี้ก็ได้พี่ วันนี้พี่น่าจะเหนื่อยมากแล้ว รีบๆพักผ่อนนะคะ”
พูดจบ หานเส่โยวก็รีบหนีออกมาจากห้องของเขา
สายตาเย็นชาของหานชิงมองตามไปที่ตัวของเธอ เขาเปิดซองเอกสารหนังออก หยิบเอกสารด้านในออกมาดูแล้วก็โยนลงไปบนโต๊ะ
ครู่ใหญ่ เขาก็คิดอะไรออก…. เขาหยิบรูปขนาดเท่ากระดาษA4ที่โดนพับเอาไว้ออกมาจากสูทของตัวเอง หลังจากที่เปิดออกดู บนกระดาษแผ่นนั้นก็มีรูปๆหนึ่ง ถึงแม้ว่าใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นจะยิ้มแย้ม แต่ว่าก็ไม่สามารถปกปิดความเย็นชาระหว่างหัวคิ้วทิ้งสองข้างนั้นได้ ดวงตาคู่นั้นยังคงมีประกายของความเย็นชาแสดงออกมา ทำให้มองแล้วก็รู้สึกได้ว่าเองไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป
ตกลงว่าเธอเป็นใครกันแน่…… ทำไมถึงเหมือนกับผู้หญิงคนนั้นในความทรงจำของเขาอย่างกับแกะ
*
ตอนเย็นหลังจากที่เสิ่นเฉียวกลับถึงบ้าน ก็รีบเอาสูทที่เสี่ยวเหยียนให้เธอยืมไปซักจนสะอาด แล้วก็ตากให้แห้ง วันถัดไปตอนไปทำงานจะได้เอาไปคืนให้เธอที่แผนกการเงิน
เสี่ยวเหยียนเห็นว่าเธอเอาสูทมาคืนให้ ก็ทำท่าทางหยิ่งยโส
“ฉันขอบอกเธอก่อนเลยนะ ที่ฉันให้เธอยืมเสื้อผ้าเนี่ย ไม่ได้เพราะว่าอยากจะช่วยเธอหรอกนะ แต่เพราะว่าไม่ต้องการจะเห็นว่าเธออ่อยประธานเย่ของฉัน!”
เสิ่นเฉียวคิดว่าคนตรงหน้าเธอ เป็นคนที่ปากร้ายแต่ใจดี เธอพยักหน้า “โอเค ฉันรู้แล้ว”
เสี่ยวเหยียนเห็นว่าเธอยังคงยิ้มระรื่น เลยหรี่ตาขึ้น “เธอนี่ยังไงกันเนี่ย! ฉันว่าเธอขนาดนี้แล้ว นี่เธอยังไม่โกรธฉันอีกหรอ?”
เสิ่นเฉียวยิ้มตอบ “เพราะว่าฉันรู้ว่าเธอช่วยฉันไง ครั้งนี้ขอบคุณเธอมากนะ ไม่อย่างนั้น ตอนนั้นฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงดี”
“…… ใครอยากให้เธอขอบคุณกัน? ถ้าไม่อะไรก็รีบๆไปได้แล้ว!”
เสิ่นเฉียวก็เลยจำเป็นต้องออกมาก่อน ตอนที่เข้าไปในลิฟต์เธอก็เจอเข้ากับเย่โม่เซินที่อยู่ชั้นบนพอดี ทั้งสองคนจ้องตากันแป๊บหนึ่ง ไม่ได้รอให้เสิ่นเฉียวได้ตั้งสติ เย่โม่เซินก็เป็นคนเบนสายตาก่อน
บรรยากาศเย็นๆที่มันห่อหุ้มอยู่รอบตัวเขาทำให้คนที่อยู่รอบๆแทบจะตัวแข็งทื่อ ก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิดลงเสิ่นเฉียวก็เดินเข้าไป แค่เดินเข้ามาแขนกับแขนของเธอก็รู้สึกได้ถึงความเย็น
วันนี้เธอสวมเสื้อผ้าที่เป็นเซตเสื้อแขนกุดสีเขียวอ่อน สีนี้ช่วยขับผิวของเธอ แต่ว่ามันกำลังโชว์แขนขาวเนียนของเธออยู่ เย่โม่เซินแค่เห็นก็หงุดหงิด
ผู้หญิงคนนี้ เสื้อผ้ายิ่งโป๊ยิ่งกล้าใส่!
“ผู้ช่วยเสิ่น”
เซียวซู่ทักทายเสิ่นเฉียวก่อน
เสิ่นเฉียวหันมาก้มหัวให้เขา แล้วก็กลับไปยืนไม่พูดอะไร
เซียวซู่เริ่มตระหนักได้ว่า ตั้งแต่ที่เสิ่นเฉียวปรากฏตัว บรรยากาศเย็นๆรอบตัวเย่โม่เซินก็แผ่ออกมาเรื่อยๆ ขนาดที่ว่ามันแผ่ไปทั่วพื้นที่ว่างๆภายในลิฟต์จนเต็มแล้วก็ยังคงแผ่ออกมาได้อีก ตอนที่เห็นผู้ช่วยเสิ่นไม่แม้แต่จะมองสักนิดก็หมุนตัวไปแล้ว
ไอ้เจ้าบ้าคนนี้นี่มันยังไงกัน? เมื่อวานตอนกินข้าวที่ร้านอาหารดูเหมือนจะยังดีๆกันอยู่เลย ทำไมแค่คืนเดียวก็……