เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่1502 กล่าวขอโทษสักคำ
บทที่1502 กล่าวขอโทษสักคำ
“ไม่เป็นไรค่ะ เด็กน้อยยังไร้เดียงสาอยู่ พอง่วงแล้วก็นอนเท่านั้นเอง”
เด็กหญิงน่ารักอย่างถางหยวนหยวน ทำให้หานมู่จื่อนึกภาพเสี่ยวโต้วหยาตอนโต เธออดไม่ได้ที่จะให้คุณนายถางกล่าวโทษเธอ ดังนั้นจึงเปิดปากพูดขึ้นมา
เสี่ยวหมี่โต้วเดินตามหลังถางหยวนหยวนมา
พอประธานถางกับคุณนายถางเห็นเสี่ยวหมี่โต้วเข้า ก็มีสีหน้าตื่นตกใจ ที่จริงด้วยยีนเด่นของเย่โม่เซินกับหานมู่จื่อทั้งสองคนแล้ว จะให้กำเนิดเด็กที่สวยงามออกมาก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร
แต่ว่าเสี่ยวหมี่โต้วคนนี้กลับเหมือนพ่อของเขาราวกับแกะ เหมือนเกินไปแล้ว
ดังนั้นโดยไม่ทันรู้ตัว คุณนายถางก็เลยเผลอจ้องเสี่ยวหมี่โต้วอยู่เสียนาน จนตอนที่ถางหยวนหยวนดึงชายเสื้อของเธอ เธอถึงได้สติกลับมา
“คุณนายเย่คะเด็กคนนี้เหมือนคุณชายเย่มากจริงๆ ดูดีเหลือเกิน ทั้งสูงทั้งผอม ไม่เหมือนหยวนหยวนของพวกเราเลย ตัวอ้วนกลมขนาดนี้ แถมยังหยุดปากตัวเองไม่ได้อีก”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” หานมู่จื่อยิ้มบางๆ “เด็กตัวเล็กกินเก่งเป็นเรื่องปกติค่ะ เด็กผู้หญิงพอโตแล้ว รักสวยรักงามแล้ว ก็จะรู้เองแหละค่ะว่าอะไรที่กินมากไม่ได้”
“จะว่าไปก็ใช่ค่ะ”
“เอาเถอะค่ะ วันนี้พวกเราก็มารบกวนเป็นเวลานานมากแล้ว คงต้องกลับแล้ว คุณนายเย่คะ วันนี้ต้องขอบคุณมาก หยวนหยวนมารบกวนให้พวกคุณแล้วจริงๆ วันนี้ดึกมากแล้ว พวกเราขอพาเขากลับก่อนนะคะ”
หานมู่จื่อกะพริบตาปริบๆ แล้วยิ้มบางๆ “ที่จริงก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เด็กตัวเล็กแค่นี้จะไปรบกวนอะไรกัน อีกอย่างเธอก็เข้ากับเสี่ยวหมี่โต้วของพวกเราได้ดีมาก ถ้าหากเธออยากอยู่ต่อล่ะก็ ฉันก็เตรียมห้องใหม่ให้เธอได้นะคะ”
อะไรนะ ? สองสามีภรรยาบริษัทตระกูลถางตกใจมาก นึกว่าตัวเองหูฝาดไปเองเสียอีก เพราะว่าพวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าหานมู่จื่อจะเป็นกันเองขนาดนี้ ยังจะเตรียมห้องให้ลูกสาวของพวกเขาอีก ปกติแล้วครอบครัวแบบนี้ ควรจะต้องดูถูกพวกเขาไม่ใช่หรือ ?
แล้วทำไมถึงยัง……
“ไม่ต้องค่ะ ไม่ต้องค่ะ ถ้าอยู่ต่อคงเกรงใจแย่ หยวนหยวน รีบขอบคุณคุณน้ากับพี่ชายเร็ว”
ถางหยวนหยวนกล่าวกับหานมู่จื่อและเสี่ยวหมี่โต้วอย่างมีมารยาทว่า “ขอบคุณค่ะคุณน้าคนสวย ขอบคุณค่ะพี่ชาย”
ช่างปากหวานเสียจริง หานมู่จื่อรู้สึกว่าเธอช่างน่าเอ็นดูจริงๆ
“ไม่เป็นไรจ่ะ ถ้าอย่างนั้นต่อไปก็มาเที่ยวบ่อยๆนะ”
ทั้งสองฝ่ายแสดงความเกรงใจต่อกันแล้ว จากนั้นสองสามีภรรยาบริษัทตระกูลถางก็พาตัวถางหยวนหยวนกลับไป
หลังจากขึ้นรถแล้ว ถางหยวนหยวนก็พิงขาของหม่ามี๊ตัวเองแล้วเล่าเรื่องที่ประสบพบเจอมาในวันนี้ สามีภรรยาบริษัทตระกูลถางคอยฟังที่เธอเล่า คุณน้าให้เธอกินบัวลอย เสี่ยวหมี่โต้วพาเธอไปซื้อช็อกโกแลตกับสายไหม แล้วยังพาเธอไปเล่นเกมอีก ต่อมาเธอก็หลับแล้วเสี่ยวหมี่โต้วก็เป็นคนแบกเธอออกมา
สองสามีภรรยาต่างก็ตื่นตกใจมาก
“คุณคะ เมื่อก่อนได้ยินมาว่าคุณชายเย่ของบริษัทตระกูลเย่ไม่น่าคบหาไม่ใช่เหรอ ทุกคนต่างก็กลัวเขา แล้วทำไมนี่ถึงไม่ค่อยเหมือนกับที่เขาลือกันเลยล่ะ”
“เฮ้อ คุณชายเย่ก็คือคุณชายเย่ วันนี้ก็เห็นคุณชายเย่แล้วไม่ใช่เหรอ เขาเป็นบุคคลแบบไหน ภรรยาที่แต่งด้วยก็ต้องทั้งสวยทั้งใจกว้างอยู่แล้วสิ เด็กคนนั้นก็ช่างถูกอบรมสั่งสอนมาดีจริงๆ”
“เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นเรื่องจริงใช่ไหม ทำไมฉันถึงได้รู้สึกว่าเหมือนเรื่องจินตนาการเลย”
“อย่าว่าแต่เธอรู้สึกเหมือนจินตนาการเลย วันนี้ตอนที่คุณชายเย่ไปหาฉัน ฉันยังรู้สึกเหมือนไม่ใช่เรื่องจริงเลย”
“หยวนหยวนของพวกเรา มีบุญมากเลยใช่ไหม แต่ดูยัยนี่สิ รู้จักแต่เรื่องกิน กินเยอะขนาดนั้นถ้าต่อไปโตขึ้นแล้ว จะทำยังไงล่ะทีนี้”
“ก็เด็กนี่นา อยากกินก็กินเถอะ ถ้าโตขึ้นมาแล้วแต่งไม่ออก อย่างมากพวกเราก็เลี้ยงเธอตลอดชีวิตไง”
ทั้งสองสามีภรรยามีลูกสาวแค่คนเดียว ก็เลยตามใจเธอเข้ากระดูก
ส่วนอีกด้านหนึ่ง หานมู่จื่อรอจนพวกเขาไปแล้ว จึงได้ถามเสี่ยวหมี่โต้ว
“เป็นยังไงบ้าง ลูกพอใจกับเพื่อนเล่นที่แดดดี้ลูกหามาให้ไหม”
พอได้ยินแบบนั้น เสี่ยวหมี่โต้วก็นิ่งอึ้งไป “แดดดี้เป็นคนหามาเหรอ ?”
“ใช่สิ เขาได้ยินว่าบริษัทตระกูลถางมีลูกสาวคนหนึ่งน่ารักมาก ดังนั้นก็เลยอยากแนะนำให้พวกลูกรู้จักกัน เห็นวันนี้ลูกก็เข้ากับเธอได้ดีเลยนี่นา”
ที่จริงหานมู่จื่อสังเกตเห็นว่าเสี่ยวหมี่โต้วค่อนข้างชอบถางหยวนหยวน ดังนั้นก็เลยอยากพูดสถานการณ์นี้ให้ฟัง ปกติพวกเขาสองพ่อลูกต่างก็เอาแต่ตั้งแง่ใส่กัน หวังว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนจะอบอุ่นขึ้น
แต่คิดไม่ถึงว่าหลังจากพูดออกมาแล้ว หน้าของเสี่ยวหมี่โต้วก็บึ้งตึงขึ้นมาทันที
พอสังเกตเห็นว่าสีหน้าของเขาไม่ปกติ หานมู่จื่อก็เลยรีบหยุด แล้วเดินไปตรงหน้าเสี่ยวหมี่โต้วก่อนจะยื่นมือไปลูบหัวเขา “ลูกกับแดดดี้อย่าเอาแต่ตั้งแง่ใส่กันเลย เขาเป็นห่วงลูกจริงๆนะ”
เสี่ยวหมี่โต้วเบ้ปากอย่างไม่สบอารมณ์ ผ่านไปครู่ใหญ่ถึงพูดขึ้นว่า “หม่ามี๊ แดดดี้สำคัญกว่าเสี่ยวหมี่โต้วเหรอ ?”
พอได้ยินแบบนั้น หานมู่จื่อก็ชะงักไปครู่หนึ่ง ไม่ได้คิดไว้ก่อนว่าจะอธิบายปัญหานี้กับเสี่ยวหมี่โต้วยังไง
แต่เสี่ยวหมี่โต้วกลับปัดมือเธอทิ้ง แล้วหันหลังเดินจากไป
หานมู่จื่ออยากจะไล่ตามไป แต่กลับไม่ได้ตามไป และในเวลานั้นเอง หานมู่จื่อถึงได้พบว่า ลูกของเธอนั้นโตขึ้นแล้วจริงๆ
เสี่ยวหมี่โต้วในตอนนี้ตัวสูงขายาว เดินได้เร็วมาก คิดว่าอีกไม่กี่ปี เขาก็คงโตขึ้นจนสูงเท่าตัวเองแล้ว
เขาได้รับสืบทอดยีนมากจากเย่โม่เซิน ดังนั้นส่วนสูงของหานมู่จื่อก็เลยเทียบกับเขาไม่ได้เลย
พอคิดถึงท่าทางโกรธเคืองของเขาเมื่อครู่แล้ว หานมู่จื่อก็ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายอีกครั้ง ดูท่าว่าคืนนี้เธอคงต้องหาโอกาสคุยกับเสี่ยวหมี่โต้วหน่อยแล้ว
ก่อนเข้านอน เสี่ยวหมี่โต้วนั่งอยู่ริมหน้าต่าง ทอดมองวิวด้านนอกหน้าต่าง แต่ในใจกลับคิดถึงเรื่องเมื่อตอนกลางวัน
เขาชอบถางหยวนหยวนจริงๆ ก็เพราะเธอเป็นเด็กอวบอ้วนตัวน้อยแสนน่ารัก ไม่ว่าใครเห็นก็คงชอบ แต่ว่ากลับกลายเป็นคนที่แดดดี้ของเขาหามา แดดดี้หมายความว่าอย่างไรกัน เพราะรู้สึกว่าเขาเกาะติดหม่ามี๊เกินไปอย่างนั้นหรือ ?
ส่วนหม่ามี๊ก็ยังเห็นด้วยอีก แถมยังพูดเรื่องดีๆของแดดดี้ต่อหน้าเขาด้วย
ตอนนี้หม่ามี๊คิดว่าเขาเกาะติดตัวเองมากไปใช่ไหม รู้สึกว่าเขาน่ารำคาญมาก แต่ว่าเมื่อก่อน พวกเขาสองแม่ลูกพึ่งพากันและกัน หม่ามี๊ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย
ก๊อก ก๊อก
“เสี่ยวหมี่โต้ว นอนแล้วเหรอ ?”
เสียงของหม่ามี๊ เสี่ยวหมี่โต้วนิ่งไปครู่หนึ่ง ไม่ได้พูดอะไร
“หม่ามี๊มีเรื่องอยากคุยกับลูกนิดหน่อย ขอเข้าไปได้ไหม ?”
หานมู่จื่อยืนถามเสียงเบาอยู่นอกประตู หากไม่ได้รับอนุญาตจากเสี่ยวหมี่โต้วก่อน เธอก็จะไม่ดันประตูเข้าไป
เสี่ยวหมี่โต้วไม่ยอมตอบ เธอก็ยืนรออยู่ตรงนั้นเงียบๆ
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว ถึงได้ยินเสียงซึมๆเสียงหนึ่งดังขึ้น
“เข้ามาสิครับ”
หานมู่จื่อยิ้มออกมา แล้วดันประตูเข้าไป
“ยังไม่นอนเหรอ ?” หานมู่จื่อปิดประตูตามเบาๆ เธออาบน้ำมาแล้ว เปลี่ยนเป็นชุดนอน พอเข้าไปก็ขึ้นไปนั่งบนเตียง จากนั้นก็กวักมือเรียกเสี่ยวหมี่โต้ว “มานี่สิ”
เสี่ยวหมี่โต้วนั่งอยู่ริมขอบหน้าต่าง พอเห็นท่าทางของเธอแล้ว ก็ถามอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “อะไรครับ”
“มาสิ หม่ามี๊ไม่ได้คุยกับลูกนานแล้ว วันนี้มาคุยเป็นเพื่อนหม่ามี๊หน่อยนะ ได้ไหม ?”
ถึงแม้ในใจของเสี่ยวหมี่โต้วจะยังงอนอยู่ แต่พอเห็นหานมู่จื่อปลอบเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เขาก็ยอมแพ้อย่างรวดเร็ว สุดท้ายก็อิดออด เดินไปที่ข้างเตียง แต่ก็ไม่ได้ขึ้นเตียง
หานมู่จื่อดึงมือเขา ดึงให้เขาขึ้นไป
เสี่ยวหมี่โต้วนั่งอยู่ข้างเธอด้วยท่าทางงอนๆ
“เรื่องในวันนี้ หม่ามี๊ต้องขอโทษลูกด้วยนะ”
ได้ยินแบบนั้น เสี่ยวหมี่โต้วก็เงยหน้าขึ้นมาทันที หม่ามี๊มาเพื่อขอโทษอย่างนั้นหรือ