เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่1516 ไม่พูดได้หรือเปล่า
บทที่1516 ไม่พูดได้หรือเปล่า
หลังจากที่เสี่ยวเหยียนเดินออกไป เจียงเสี่ยวไป๋ก็เอาแต่คิดแต่เรื่องนี้ แม้แต่มื้อเย็นก็ยังไม่ทันได้กิน
เธอเอาแต่นั่งอยู่บนโซฟา ฟ้ามืดไปแล้วก็ยังไม่รู้เลย แล้วก็ไม่ได้ไปทำอาหารด้วยเหมือนกัน
จนเซียวซู่กลับมา เปิดประตูออกไปมาก็พบว่าภายในห้องมืดสนิท
เขาก็ขมวดคิ้วออกมาทันที คิดว่าเสี่ยวไป๋ไปซนที่ไหนอีกแล้ว เขาไม่อยู่บ้านแค่วันเดียว เธอก็เริ่มซนขึ้นมาอีกแล้ว
ปัง!
แต่ผลสุดท้ายทันทีที่เปิดไฟตรงโคมไฟในห้องรับแขก เซียวซู่ก็เห็นเจียงเสี่ยวไป๋นั่งอยู่บนโซฟาไม่พูดไม่จาอะไรออกมา
เจียงเสี่ยวไป๋นั่งอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าเหม่อลอย เหมือนกับจิตวิญญาณลอยไปลอยมา และสีหน้าก็ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก
เซียวซู่แข็งค้างไปหลายวิ รีบเดินไปตรงหน้าเธอ
“เสี่ยวไป๋?”
เรียกอยู่หลายคำติด กว่าจะเรียกคืนสติของเจียงเสี่ยวไป๋กลับมาได้
เห็นเซียวซู่อยู่ตรงหน้า สีหน้าของเขามองเธออย่างร้อนใจ เจียงเสี่ยวไป๋ก็เขวไปทันที
“เป็นอะไรไป? จะคลอดแล้วหรือเปล่า? หรือว่าไม่สบายตรงไหน? ฉันโทรศัพท์สักหน่อย?”
ถึงยังไงกำหนดคลอดของเสี่ยวไป๋ก็ใกล้เข้ามาแล้ว เหลียงหย่าเหอบอกเขามาว่ากำหนดคลอดมันเป็นเพียงแค่ตัวเลขโดยประมาณเท่านั้น ถ้าเกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นมา ก็สามารถคลอดก่อนกำหนดได้ตลอดเวลา
วันนี้ถึงแม้ว่าเซียวซู่จะทำงานอยู่ข้างนอกทั้งวัน แต่เขาก็เอาแต่คิดเรื่องเสี่ยวไป๋
เดิมทีก็หวั่นใจอยู่แล้ว พอกลับมาก็พบว่าเธอไม่เปิดไฟเลยสักดวง นึกว่าเธอไม่อยู่บ้าน แต่ใครจะรู้ว่าเธอจะนั่งเหม่ออยู่บนโซฟา สิ่งที่เซียวซู่คิดออกได้ก็มีเพียงแค่เหตุผลนี้
เพียงแต่เจียงเสี่ยวไป๋ถูกเขาถามออกมาหลายคำ แต่ก็เอาแต่มองเขาเหม่อๆ ไม่ตอบเขา
ใจของเซียวซู่แกว่งขึ้นมา ตอนที่เตรียมจะหันไปโทรศัพท์ เจียงเสี่ยวไป๋ในตอนนี้ถึงได้ยื่นมือออกไปดึงเขา
เซียวซู่หันหน้ามา มองเธอ
“ฉันไม่เป็นไร” เจียงเสี่ยวไป๋ฝืนยิ้มออกมา “ไม่ต้องโทร และก็ไม่ต้องไปโรงพยาบาล”
“แต่…” เซียวซู่ขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น คิดว่ามันผิดปกติ แต่เจียงเสี่ยวไป๋ก็พูดออกมาอีกว่าตัวเองไม่เป็นไร
“ฉันก็แค่ง่วงนิดหน่อย เกือบจะนอนหลับแล้ว”
พูดจบ เจียงเสี่ยวไป๋ก็ลุกขึ้นมา แต่ผลสุดท้ายเพราะว่านั่งนานเกินไป ตอนที่ลุกขึ้นขาก็ชาขึ้นมา เกือบจะล้มลงไป โชคดีที่เซียวซู่ยื่นมือเข้ามาประคองเธอได้ทันเวลา
“ไม่เป็นไรจริงๆ?” เซียวซู่ยังกังวลอยู่
“ไม่เป็นไรจริงๆ” เจียงเสี่ยวไป๋ส่ายหน้า สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วถึงจะเอ่ยออกไป “คุณวางใจเถอะ ฉันก็แค่ง่วงเท่านั้นเอง ไปนอนสักตื่นก็ดีขึ้นแล้ว”
พูดจบ เจียงเสี่ยวไป๋ก็ผลักมือของเซียวซู่ออกไป จากนั้นก็แบกท้องตัวเองเดินเข้าไปทางห้องนอน
เธอพยายามให้ตัวเองเดินไปอย่างสงบนิ่ง ไม่อยากให้เซียวซู่มองออก จนเข้าห้องไป เข้าไปนั่งบนเตียงนอน เสี่ยวไป๋ถึงได้พบว่าตัวเองสูญเสียเรี่ยวแรงทั้งหมดไป
เธอนอนลงไปด้วยความสับสน ดวงตามองขึ้นไปบนเพดานอย่างเลื่อนลอย
อย่าเป็นอย่างนี้สิเจียงเสี่ยวไป๋ เขาก็แค่พาเธอไปส่งโรงพยาบาลเพราะเท้าของเสี่ยวเหยียนได้รับบาดเจ็บเท่านั้นเอง สถานการณ์มันคับขัน เขาเลือกหนึ่งในเรื่องสำคัญที่จะต้องทำ นี่มันจะโทษอะไรเขาไม่ได้เลย
อีกอย่างสิ่งที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ เธอสามารถยอมรับคนอื่นได้ ทำไมถึงไม่สามารถยอมรับเสี่ยวเหยียนได้
เป็นเธอที่คิดมากไปเอง ไร้เหตุผลเกินไป
ไม่อาจคิดต่อไปได้อีก เจียงเสี่ยวไป๋อยากสลัดเอาความคิดน่าเบื่อพวกนั้นออกไปจากหัวไม่หยุด แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ความคิดพวกนั้นก็เหมือนจะหยั่งลึกเข้าไปในความคิดของเธอมากขึ้น จะยังไงก็ลืมมันไม่ได้สักที
เป็นอย่างนี้ไม่ได้สิ เธอจะเป็นอย่างนี้ไม่ได้
เธอกับเสี่ยวเหยียนเป็นเพื่อนกันแล้ว จะต้องคิดเพื่อเพื่อนรักของตัวเองสิ
ไม่สิ เธอไม่ได้ห้ามไม่ให้เซียวซู่ไปช่วยเสี่ยวเหยียน แต่ทำไมเขาไม่บอกตนล่ะ?
ทั้งๆที่มีโอกาสให้พูดตั้งมากมาย แต่เขาก็ไม่พูดชื่อเธอออกมา
คิดมาจนถึงตอนสุดท้าย เจียงเสี่ยวไป๋ก็เข้าสู่ห้วงความฝันไปด้วยความเหนื่อยล้า
ผลสุดท้ายในฝันก็เต็มไปด้วยภาพเหตุการณ์ที่ตัวเองถูกทิ้งเอาไว้ที่ซูเปอร์วันนั้น เธอออกจากห้องลองเสื้อมา ทำไมถึงไม่เจอเซียวซู่ เอาแต่เรียกชื่อเขาออกมา แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองกลับมา
จากนั้นภาพก็เปลี่ยนไป เจียงเสี่ยวไป๋ก็เห็นเซียวซู่อุ้มเสี่ยวเหยียนขึ้นรถไปอย่างรีบร้อน ลืมไปว่าตัวเองยังมีภรรยาที่ท้องโตคนนึงไปเสียสนิท
“เสี่ยวไป๋ เสี่ยวไป๋”
มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากที่ไกลๆ เจียงเสี่ยวไป๋ส่ายหน้าออกมาพลาง เหงื่อเย็นไหลอาบออกมาพลาง
เหลียงหย่าเหอกับเซียวซู่มองอยู่ข้างๆเตียง พบกับสภาพอย่างนี้ของเจียงเสี่ยวไป๋ เหลียงหย่าเหอพลางเอ่ยออกมา “คงจะฝันร้ายล่ะมั้ง คุณค่อยๆปลุกเธอสิ อย่าให้เธอตกใจล่ะ”
เซียวซู่อับจนหนทาง
เหลียงหย่าเหอดึงคอเสื้อของเขายกเขาออกไป “ให้ฉันจัดการเอง แกออกไป”
“เสี่ยวไป๋ รีบตื่นมาเร็ว เสี่ยวไป๋~” เสียงของเหลียงหย่าเหออ่อนโยนเป็นอย่างมาก แต่ก็เรียกอยู่นานกว่าจะปลุกเจียงเสี่ยวไป๋ขึ้นมาได้
เจียงเสี่ยวไป๋หลังจากที่ตื่นขึ้นมา ดวงตาก็เต็มไปด้วยไอน้ำด้วยกันทั้งคู่ พอกะพริบตาทีนึง หยาดน้ำตาใสๆก็ไหลลงมา
แหมะ
น้ำตาถูกหมอนดูดซับไปในทันที
มองมาจนถึงตรงนี้ เหลียงหย่าเหอกับเซียวซู่นิ่งค้างไปเล็กน้อย หลังจากที่สบตากัน เหลียงหย่าเหอก็เกิดความตึงเครียดขึ้นมาทันที
“เสี่ยวไป๋เอ๋ย เป็นอะไรไป? ฝันร้ายมันน่ากลัวมากเลยใช่มั้ย ทำไมหนูถึงร้องไห้ออกมาล่ะเนี่ย?”
หลังจากที่เหลียงหย่าเหอถามออกไป เจียงเสี่ยวไป๋เองก็ไม่ทันได้ตั้งตัว เธอนึกไม่ถึงว่าตัวเองจะร้องไห้ออกมา หรือว่าในฝันมันเศร้าเกินไป ก็เลยร้องไห้ออกมางั้นหรอ?
คิดมาถึงตรงนี้แล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ยื่นมือออกไปแตะตรงมุมปากของตัวเองเบาๆ ตอนที่เห็นปลายนิ้วของตัวเองเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตาเม็ดใสออกมา เธอก็ยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
“ฉันกลัวจนร้องออกมาเลยหรอเนี่ย?” เจียงเสี่ยวไป๋ยันตัวลุกขึ้นนั่งด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน แต่เธอลุกขึ้นค่อนข้างจะยากลำบาก เหลียงหย่าเหอก็เลยรีบเข้าไปประคองเธอด้วยอีกแรง
ผู้หญิงเหมือนกัน สายตาที่แหลมคมของเหลียงหย่าเหอก็สังเกตเห็นอารมณ์ที่ผิดแปลกไปของเจียงเสี่ยวไป๋ “ฝันร้ายหรอ? ฝันร้ายอะไรกัน บอกแม่หน่อยสิ”
พูดจบ เหลียงหย่าเหอก็หันไปจ้องเซียวซู่อีกครั้ง “เซียวซู่ แกออกไปก่อน”
เซียวซู่กังวลกับอาการของเจียงเสี่ยวไป๋เป็นอย่างมาก แต่เธอก็ไม่ยอมไปโรงพยาบาล เซียวซู่ก็เลยโทรให้เหลียงหย่าเหอมา
นึกไม่ถึงว่าเหลียงหย่าเหอจะสั่งให้เขาออกไป
แต่พอคิดดูแล้ว เซียวซู่ก็เลือกที่จะผันร่างเดินออกไป
“ช่วยปิดประตูห้องด้วย”
หลังจากที่เซียวซู่ปิดประตูห้องลง เหลียงหย่าเหอถึงจะหันไปเอ่ยถามเสี่ยวไป๋ด้วยเสียงเบา
“เซียวซู่ทำเรื่องที่ผิดต่อหนูใช่มั้ย? หนูบอกแม่มา แม่จะไปจัดการเขาเอง”
เจียงเสี่ยวไป๋นึกไม่ถึงว่าเธอจะไวต่อความรู้สึกอย่างนี้ ตัวเองก็แค่ตื่นมาจากฝันร้ายแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาก็เท่านั้นเอง แล้วเธอก็ไม่ได้แสดงอะไรออกไป แต่เหลียงหย่าเหอก็คาดเดาได้ในทันที
จะว่าไปผู้หญิงก็เข้าใจผู้หญิงด้วยกันที่สุดแล้วจริงๆด้วย
“แม่ ฉันไม่เป็นไร เซียวซู่ไม่ได้ทำเรื่องอะไรที่ผิดต่อฉัน แม่อย่าคิดมากไปเลย”
“จะเป็นไปได้ยังไง?” เหลียงหย่าเหอได้ยินแล้วก็ไม่เชื่อ ส่ายหน้าจับมือเธอเอาไว้ “พวกเราต่างก็เป็นผู้หญิงด้วยกันทั้งคู่ ถึงแม้ว่าแม่จะเป็นแม่ของเซียวซู่ แต่ใจของแม่เอนไปทางหนูนะ ดังนั้นแล้วหนูไม่ต้องกลัว มีเรื่องอะไรก็พูดกับแม่มา แม่จะตัดสินใจให้หนูเอง”
“แม่ ไม่เป็นไรจริงๆค่ะ”
“อย่าโกหกแม่เลยเสี่ยวไป๋ อารมณ์ความรู้สึกกับสายตาของหนูมันผิดแปลกไป แม่เห็นมันชัดเจน”
เจียงเสี่ยวไป๋รู้ว่าตัวเองคงปิดต่อไปไม่ได้แล้ว ก็เลยไม่ได้ปฏิเสธออกไปอีก เพียงแค่เอ่ยออกไปว่า “แม่ ฉันรู้สึกไม่ดีจริงๆนั่นแหละค่ะ แต่ตอนนี้ฉันยังไม่ได้จัดการกับอารมณ์ของตัวเองให้เรียบร้อยดีนัก ดังนั้นแล้ว ฉันขอไม่พูดได้หรือเปล่าคะ?”