เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่1519 เดิมทีพวกคุณก็ไม่ได้มีอะไรกันอยู่
- Home
- เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก…
- บทที่1519 เดิมทีพวกคุณก็ไม่ได้มีอะไรกันอยู่
บทที่1519 เดิมทีพวกคุณก็ไม่ได้มีอะไรกันอยู่แล้ว
จากนั้นเซียวซู่ก็ตามเจียงเสี่ยวไป๋เข้าห้องคลอดไปด้วย พ่อแม่ของเซียวซู่กับเสี่ยวไป๋ทั้งสองฝ่ายต่างพากันรออยู่ด้านนอกด้วยความร้อนใจ ตอนที่ได้ยินเซียวซู่บอกว่าจะตามเข้าห้องคลอดไปด้วยนั้น ตู้เซียวหยู่ก็รู้สึกทำอะไรไม่ถูกขึ้นมาเล็กน้อย
“เฮ้ย ผู้หญิงคลอดลูก ให้สามีเข้าไปมันจะเหมาะหรอ?”
เหลียงหย่าเหอที่อยู่ข้างๆรีบพูดต่อออกมาทันที “เหมาะสิมันเหมาะอยู่แล้ว ไม่เข้าไปจะรู้ถึงความเจ็บปวดในการคลอดลูกของผู้หญิงอย่างเราได้ยังไงกัน? ยิ่งไปกว่านั้นเดิมทีก็เป็นสามีภรรยากันอยู่แล้ว ไม่มีอะไรไม่เหมาะหรอก วางใจเถอะ”
ถึงแม้ว่าการคลอดลูกจะเป็นหนทางพื้นฐานที่ผู้หญิงจะต้องผ่านกันอยู่แล้ว เมื่อก่อนตัวตู้เซียวหยู่เองก็เคยผ่านมาแล้วเหมือนกัน แต่พอมาถึงตาลูกสาวของตัวเอง ตู้เซียวหยู่ก็ร้อนใจจนนั่งไม่ติดที่ เดินไปเดินมาอยู่นั่น
สุดท้ายก็ยังคงเป็นเจียงเหย็นเคอที่ดึงเธอให้นั่งลง
“อย่าเดินไปเดินมาสิ ผมเวียนหัวไปหมดแล้ว”
“ฉันไม่ได้เดินไปเดินมา ฉันก็แค่เป็นห่วงลูก เสี่ยวไป๋เด็กคนนั้นกลัวเจ็บน่ะสิ โธ่”
“วางใจ ตั้งแต่วันนี้ไปมันไม่ใช่เด็กน้อยแล้ว มันเป็นแม่คนแล้ว จะต้องเข้มแข็งอยู่แล้ว”
“จะว่าไปก็ใช่”
“คุณแม่ยายเอ๋ย ไม่ต้องกังวลไปหรอก เซียวซู่ก็อยู่ด้านในเป็นเพื่อนเสี่ยวไป๋แล้ว คุณแม่เสี่ยวไป๋ก็ต้องปลอดภัย คลอดลูกอย่างราบรื่นไร้ซึ่งปัญหาใดๆแน่”
ตอนที่คุณหมอกำลังเตรียมพร้อมอยู่นั้น เซียวซู่ก็อยู่เป็นเพื่อนอยู่ใกล้ๆเจียงเสี่ยวไป๋
เจียงเสี่ยวไป๋จับมือเขา ทันใดนั้นเองก็นึกเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เอ่ยออกไปกับเซียวซู่ด้วยเสียงเบา “คุณเข้ามาหน่อย ฉันมีเรื่องอยากถามคุณ”
เซียวซู่มีความยอมเชื่อฟังและคล้อยตามต่อเจียงเสี่ยวไป๋ในตอนนี้ทุกอย่าง ได้ยินอย่างนั้นแล้วก็รีบเข้าไปหาทันที “ว่าไง?”
“คนคนนั้นที่คุณไปส่งที่โรงพยาบาลวันนั้น คือใครกันน่ะ?”
ได้ยินอย่างนั้น ร่างของเซียวซู่ก็แข็งค้างไปเล็กน้อย มองเสี่ยวไป๋ไปอย่างไม่อยากที่จะเชื่อ ทำไมเธอถึงถามเรื่องนี้ในเวลานี้กัน?
หรือว่าเธอจะรู้ว่าคนในวันนั้นคือเสี่ยวเหยียน?
“ทำไม? วันนั้นคุณบอกเองไม่ใช่หรอว่าเป็นคนแปลกหน้า? คนแปลกหน้าจริงๆน่ะหรอ? ไม่ใช่ว่าเป็นดอกไม้ที่คุณลูบไล้หรือไม่ก็ทุ่งหญ้าที่คุณเหยียบย่ำไปทั่วที่ด้านนอกหรอกหรอ?”
เจียงเสี่ยวไป๋เอยเย้าไปคำนึง จากนั้นสีหน้าก็แปรเปลี่ยนจนดูเจ็บปวดออกมาทันใด “ฉันแค่ถามคำถามเดียวเอง คุณคงไม่ได้ไม่อยากตอบฉันหรอกมั้งนะ?”
เห็นสีหน้าของเธอ เซียวซู่ก็ร้อนรนอย่างมาก เขาอยากเล่าเรื่องวันนั้นออกไปมาก ความจริงเขาเองก็เคยพูดไปแล้วครั้งหนึ่ง เพียงแต่ตอนนั้นเสี่ยวไป๋นอนหลับไปแล้ว
ในตอนหลังเขาก็เลยไม่ได้เอ่ยถึงมันขึ้นมาอีก
ถึงยังไงมันก็แค่เรื่องทั่วไปเรื่องหนึ่ง พูดออกมาซ้ำๆ เสี่ยวไป๋จะต้องคิดมากแน่ๆ
ถึงยังไงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเสี่ยวเหยียนเดิมทีมันก็ค่อนข้างจะละเอียดอ่อนอยู่แล้ว
ตอนนี้เจียงเสี่ยวไป๋ใกล้จะคลอดแล้ว เซียวซู่เองก็ไม่อยากให้ปัญหาใหม่สอดเข้ามาอีกในตอนนี้ ดังนั้นเขาก็เลยเอ่ยไปอย่างรวดเร็วว่า “แน่นอนว่าไม่ใช่อยู่แล้ว เธอถามฉันก็จะตอบ วันนั้นก็แค่คนแปลกหน้าคนหนึ่งเท่านั้นเอง เธอไม่ระวังจนชนฉันเข้า แล้วเธอก็ล้มลง ตอนแรกฉันก็อยากบอกเธอสักหน่อยอยู่หรอก แต่เธอก็รีบไปโรงพยาบาลอีก ฉันทนดูไม่ไหวก็เลยเข้าไปพาเธอไปเอง”
พูดจบ เซียวซู่ย่อตัวลง มองตาของเธอ “เสี่ยวไป๋ ฉันพูดความจริงทั้งนั้นเลยนะ นี่มันเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว วันนั้นไม่ได้ตั้งใจทิ้งเธอโดยที่ไม่สนใจเลยจริงๆนะ หลังจากนั้นฉันก็ยังไปหาเธอที่ซูเปอร์มาร์เก็ตอีกทีนะ”
“อืม” เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มจางๆออกมา พลางพยักหน้า “โอเค ฉันเข้าใจแล้ว”
เธอดูเหมือนว่าจะไม่มีความผิดปกติใดๆ เหมือนกับว่าได้ยอมรับคำอธิบายของเขาแล้ว แต่ไม่รู้ว่าทำไม ในใจของเซียวซู่ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่เลย
เขากุมมือของเสี่ยวไป๋แน่น “ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เธอก็สำคัญที่สุด อย่าคิดมากเลย ตกลงมั้ย?”
“อืม”
ความไม่สบายใจของเซียวซู่ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ
จวบจนเจียงเสี่ยวไป๋คลอดลูกเสร็จแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋กลัวเจ็บ ก็เลยไม่ยอมผ่าคลอด เพราะว่าพอคิดว่าเธอจะต้องเปิดปากแผลที่ท้อง เธอก็เหงื่อไหลอาบออกมาแล้ว
ดังนั้นแล้วครั้งนี้ก็เลยเลือกคลอดแบบธรรมชาติ
แต่เพราะว่าท้องใหญ่เกินไป กระบวนการคลอดจึงไม่ราบรื่น ในระหว่างที่จนปัญญาอยู่นั้นเองก็เลยต้องเลือกการผ่าคลอดแทน
จนเด็กคลอดออกมาได้อย่างราบรื่น เจียงเสี่ยวไป๋ยังสลบไม่ได้สติ คุณหมอเอาลูกมาให้เซียวซู่ดู แต่ใครจะรู้ว่าเซียวซู่จะไม่หันมามองเลยแม้แต่แวบตาเดียว มัวแต่จับมือของเจียงเสี่ยวไป๋แน่นไม่ยอมปล่อย มองเธอไปอย่างเป็นกังวล
เธอทุ่มเทลงไปเยอะมาก เยอะมากจริงๆ
เจียงเสี่ยวไป๋นอนหลับไม่ได้สติอยู่นาน ในระหว่างนั้นเองสติของเธอก็เอาแต่ว้าวุ่นอยู่ตลอด เหมือนกำลังลอยคว้างอยู่ในมหาสมุทรก็ไม่ปาน แต่ในระหว่างนี้เองเธอก็รู้สึกว่ามีคนคนหนึ่งกำลังดึงมือเธออยู่ตลอด ดึงเอาไว้แน่นมาก
เหมือนกับกลัวว่าเธอจะหายไปไม่มีผิด
จวบจนเจียงเสี่ยวไป๋ตื่นขึ้นมา เซียวซู่ก็ยังกุมมือเธอแน่นอยู่เหมือนเดิม พอลืมตาออกมาก็สบเข้ากับตาของเขาพอดี
เห็นเธอตื่นขึ้นมาแล้ว เซียวซู่เหมือนกับเซอร์ไพรส์ทั้งยังเหมือนกับซาบซึ้งใจไปด้วย เบ้าตาแดงออกมาเล็กน้อย
“เธอตื่นขึ้นมาสักทีนะ”
เห็นเซียวซู่ที่อยู่ตรงหน้า ภายในใจของเจียงเสี่ยวไป๋ก็เกิดความรู้สึกที่ปนเปกันไปหมด ส่งยิ้มจางๆออกไป
“ตื่นแล้ว คุณคงไม่ได้เฝ้าอยู่ตรงนี้ตลอดหรอกใช่มั้ย?”
เซียวซู่ไม่ได้ตอบออกไป
เจียงเสี่ยวไป๋ถามไปอีกครั้ง “คงไม่ได้อยู่ท่านี้มาตลอดเลยหรอกมั้งใช่มั้ย?”
เซียวซู่เดิมอยากบอกว่าไม่ใช่ แต่ขยับเพียงเล็กน้อยขาก็ชาไปถึงกระดูกแล้ว อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงอู้อี้ออกมาไม่ได้ เจียงเสี่ยวไป๋เผยสีหน้าหน่ายใจออกมา
“คุณนี่มันจริงๆเลย ที่คือโรงพยาบาล ถ้าฉันมีอะไรคุณก็ไม่ได้เฝ้าฉันอยู่ตรงนี้หรอกนะ ทำไมถึงต้องกังวลขนาดนั้นด้วย?”
เซียวซู่ไม่ได้พูดต่อออกมา ค่อยๆยันตัวไปนั่งลงข้างเตียง ขาของเขาชาไปหมดแล้ว แต่ก่อนหน้านี้ยังไม่รู้สึกอะไรออกมาเลยจริงๆ หลังจากที่เจียงเสี่ยวไป๋พูดขึ้นมา เขาก็รู้สึกชาและปวดขึ้นมาทันที
“โอเคมั้ย? คุณนวดดูสักหน่อย”
“อืม โอเค ไม่เป็นไร”
เซียวซู่คิดว่า ความรู้สึกชาปวดนิดๆหน่อยๆนี้ เมื่อเทียบกับความเจ็บปวดในการคลอดลูกของเจียงเสี่ยวไป๋แล้ว มันช่างเล็กน้อยมากจนไม่มีค่าพอที่จะเอ่ยถึงเลยด้วยซ้ำ
จิตใจเธอตอนนี้ดีขึ้นมาแล้ว เซียวซู่คิดว่าบางอย่างก็ควรจะบอกเธอไปตอนนี้
“ก่อนหน้านี้เธอถามฉันไม่ใช่หรอว่าคนที่เจอที่ซูเปอร์มาร์เกตคือใคร?”
เจียงเสี่ยวไป๋นึกไม่ถึงว่าเขาจะเป็นฝ่ายพูดเรื่องนี้ขึ้นมาเอง เธอยังนึกว่าเขาจะไม่อยากพูดเสียอีก หายใจค่อนข้างแรงอยู่ซักพัก จากนั้นเธอก็เป็นฝ่ายเอ่ยออกไปเองว่า “ใช่ แต่คุณก็เคยพูดแล้วไม่ใช่หรอ? เรื่องนี้ก็ไม่ต้องคุยกันอีกแล้วล่ะมั้ง”
เธอไม่อยากพูดถึงเรื่องนั้นขึ้นมาอีก
เธอได้เคยถามไปออกไปแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้พูดความจริง เป็นความรู้สึกที่ใจอยู่ไม่เป็นสุขก็ดี อะไรอื่นมันก็ดีไปหมด
เธอตัดสินใจไปเรียบร้อยแล้ว ไม่คิดจะเปลี่ยนอีกแล้ว
“ไม่ จำเป็นต้องคุย” เซียวซู่มองเธอไปด้วยความจริงจังและเข้มงวด “นี่มันเป็นเรื่องร้ายแรงเรื่องหนึ่งเลยนะ ก่อนหน้านี้เธอถามมาแล้วฉันไม่ได้ตอบเพราะกลัวว่าเธอจะคิดมาก ตอนนี้ฉันคิดว่าควรจะบอกเธอสักหน่อยน่าจะดีกว่า”
“ฉัน…”
ไม่รอจนเจียงเสี่ยวไป๋พูดจบ เซียวซู่เล่าเรื่องนั้นออกไปตรงๆ
“คนที่ชนฉันวันนั้นก็คือเสี่ยวเหยียน หานชิงเกิดอุบัติเหตุ ตอนเธอชนฉันตัวเธอก็ขาแพลง เดิมทีฉันก็อยากจะเข้าไปหาเธอ แต่เธอเหมือนจะขาดสติไปแล้ว รีบออกไปข้างนอกอย่างกับคนบ้า ฉันกลัวว่าจะเกิดเรื่องกับเธอ ก็เลยพาเธอไปส่งโรงพยาบาล แต่ฉันสาบานนะว่าระหว่างฉันกับเธอไม่ได้มีอะไรแล้ว”
เขาพูดออกไปด้วยความจริงจัง ตั้งอกตั้งใจ เกิดความกลัวว่าตัวเองพูดออกไปไม่ดีแล้วจะทำให้เจียงเสี่ยวไป๋โกรธขึ้นมา
เจียงเสี่ยวไป๋เก็บเอาท่าทางน้ำเสียงของเขาเข้ามาในสายตา
“ระหว่างคุณกับเธอ ไม่ใช่ว่าเดิมทีแล้วก็ไม่ได้มีอะไรเลยอยู่แล้วหรือไงกัน?”
เธอไม่เคยชอบคุณเลย เป็นคุณเองที่ไปชอบเขา ไปหลงรักเขาข้างเดียว แล้วยังไปดื่มเหล้าที่ร้านเหล้าเพื่อให้ลืมความทุกข์อีก
พวกคุณไม่ได้มีอะไรกันอยู่แล้ว
เจียงเสี่ยวไป๋กำลังคิดอยู่ในใจ แต่ถึงแม้ว่าจะไม่มีอะไรเลย เขาก็ยังเลือกเธอก่อนเสมอ