เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่153 ถูกรังแก
เสี่ยวเหยียนจ้องมองเธอไปสักพัก จากนั้นจึงพูดอย่างตะกุกตะกัก
“งั้นถ้าคุณโดนลดตำแหน่งไปแล้ว จากนี้คุณจะทำยังไงดีล่ะ?”
ทำยังไงดี? เสิ่นเฉียวจะทำยังไงได้?
“ฉันยังมีตัวเลือกอีกหรอ?” เธอยิ้มอย่างขมขื่น
เสี่ยวเหยียนพยักหน้า “มีแน่นอน”
เสิ่นเฉียวยักคิ้วขึ้น
เสี่ยวเหยียนพูด “คุณสามารถเลือกงานทำความสะอาด หรือไปเป็นพนักงานทั่วไปไง ฉันรู้สึกว่า….คุณชายเย่ก็ถือว่าโอเคเลย อย่างน้อยยังให้ตัวเลือกกับคุณ”
เสิ่นเฉียว:“……”
เธอรู้สึกว่าเสี่ยวเหยียนสามารถถูกประเมินว่าเป็นเพื่อนรักที่เลวที่สุดก็ว่าได้
“ฉันพูดอย่างจริงจังเลยนะ ฉันรู้สึกว่าคุณไปเป็นพนักงานทำความสะอาดยังดีกว่า ถึงแม้ว่างานจะหนัก แต่ไม่มีคนมากมายมากลั่นแกล้งวางอุบายใส่คุณ ก่อนหน้านี้มีข่าวลือระหว่างคุณกับคุณชายเย่ ถ้าคุณไปทำงานกับพวกพนักงานทั่วไปละก็มีหวังผู้หญิงพวกนั้นจะกินหัวคุณล่ะสิ!”
ไม่ต้องให้เสี่ยวเหยียนบอกหรอก เสิ่นเฉียวเองก็สามารถรับรู้ได้
แต่ก่อนตอนที่เธอยังเป็นผู้ช่วยก็มีคนกล้าที่จะลงมือกับเธอ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนนี้ที่เธอโดนลดตำแหน่งเลย
รู้สึกได้ว่าอนาคตอยู่ยากแน่ เสิ่นเฉียวหลับตาลงด้วยความรู้สึกที่เอือมระอา
“แต่คุณก็อย่ามองโลกในแง่ร้ายจนเกินไป ไม่แน่พอทุกคนเข้าใจคุณแล้วก็อาจจะไม่เกลียดคุณแล้วไง? คริคริคริ”
ถ้าเลือกได้ละก็เสิ่นเฉียวเลือกที่จะลาออกแน่นอน
แต่ช่วยไม่ได้ ตามที่เซียวซู่บอก เธอยังติดค้างเงินเดือนและโบนัสกับทางบริษัทอยู่
ท้ายที่สุดเสิ่นเฉียวคิดดูให้ดีแล้ว เธอเลือกที่จะทำงานกับพวกพนักงานทั่วไป
หลังจากที่เสี่ยวเหยียนรู้เรื่อง เธอก็อดไม่ได้ที่จะกังวลใจ “นี่มันเรื่องอะไรของคุณน่ะ? ฉันบอกไปแล้วไม่ใช่หรอว่าคุณไปที่นั่นก็มีแต่โดนพวกเธอกินหัวไง? คุณยังส่งตัวเองไปถึงที่อีกหรอ?”
“คุณพูดไม่ผิด เรื่องที่ฉันโดนลดตำแหน่งทุกคนรู้เรื่องกันหมด ต่อให้ฉันไปเป็นพนักงานทำความสะอาด คุณคิดว่าทุกคนก็จะปล่อยฉันไปอย่างนั้นหรอ? ถึงตอนนั้นพวกเธอก็ต้องคิดหาวิธีจัดการฉันอยู่ดี ถ้ามันเป็นแบบนี้แล้ว ฉันไปเผชิญหน้ากับพวกเธอซึ่งๆหน้ายังจะดีกว่ารึเปล่า”
เมื่อฟังจบ เสี่ยวเหยียนจ้องมองเธอไปสักพัก อยู่ๆเธอก็พูดให้กำลังใจ “นึกไม่ถึงว่าคุณจะมีความกล้าขนาดนี้ จากนี้เป็นต้นไปเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นเราสองคนไม่รู้จักกันนะ! อย่าทำให้ฉันซวยไปด้วยนะ”
เสิ่นเฉียวหัวเราะ “โอเค”
เธอชินไปแล้วล่ะ
ต่อหน้าคนอื่นเย่โม่เซินก็บอกว่าเธอเป็นแค่ลูกน้องเท่านั้น ลับหลังเธอก็ไม่ใช่ภรรยาของเขา
ดังนั้นหลังจากที่เสี่ยวเหยียนพูดคำพูดนี้ออกมา เสิ่นเฉียวก็รู้สึกว่ามันคือเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว คนที่มีเรื่องวุ่นวายเช่นนี้ใครจะไปชอบกัน?
หลังจากที่เสิ่นเฉียวเก็บของเรียบร้อยแล้วเธอก็ไปรายงานตัว เป็นไปตามที่เธอคิดทุกอย่าง ตอนที่พึ่งมาถึงหัวหน้าก็แสดงอำนาจให้เธอเห็นทันที
พาเธอไปที่โต๊ะทำงานตัวหนึ่ง “จากนี้เป็นต้นไปที่นี่คือที่ทำงานของคุณ คนที่พึ่งมาใหม่ก็ต้องรู้กฎระเบียบ รุ่นพี่ให้คุณทำอะไรก็กระตือรือร้นหน่อย เข้าใจมั้ย?”
เมื่อฟังคำพูดนี้จบ เสิ่นเฉียวรู้สึกว่าหัวหน้าคนนี้ก็ไม่ได้ร้ายขนาดนั้น แต่….เข้มงวดเป็นอย่างมาก
เสิ่นเฉียวพยักหน้า
เมื่อหัวหน้าเดินออกไป พนักงานกลุ่มหนึ่งที่นั่งอยู่ด้านข้างก็เริ่มพูดถกเถียงกันขึ้นมา
“ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นคนแบบไหนก็กล้าที่จะยัดเข้ามาในบริษัทจริงๆ คิดว่าตัวเองสามารถเป็นผู้ช่วยท่านประธานได้ สุดท้ายตอนนี้กลับโดนลดตำแหน่ง แถมยังลดลงมาต่ำขนาดนี้”
“ฉันได้ยินมาว่าท่านประธานลดตำแหน่งให้เธอเลือกว่าจะเป็นพนักงานทำความสะอาดหรือเป็นพนักงานทั่วไป เธอเลือกที่จะเป็นพนักงานทั่วไป”
“จริงๆเลย หน้าตาอย่างเธอไปเป็นพนักงานทำความสะอาดน่ะเหมาะที่สุดแล้ว มาอยู่ตรงนี้กับพวกเราทำไมกัน? ผู้หญิงที่อาศัยการหลับนอนแบบนี้ นอกจากเก่งเรื่องบนเตียงแล้วอย่างอื่นก็คงจะทำอะไรไม่เป็นสินะ ไปเป็นพนักงานทำความสะอาดน่ะดีที่สุดแล้ว”
“เห้ย เด็กใหม่ คุณยังมียางอายอยู่มั้ย? พวกเราที่นี่ไม่ได้ขาดคนหรอกนะ คุณไปเป็นพนักงานทำความสะอาดไม่ได้หรอ?”
มีคนตะโกนด่าอยู่ด้านหลังของเสิ่นเฉียว
เสิ่นเฉียวตัดสินใจที่จะไม่ถือสาพวกเธอ ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจคำพูดเหล่านั้น
นึกไม่ถึงเมื่อคนเหล่านั้นเห็นว่าเธอไม่โต้ตอบอะไร พวกเธอกล้าที่เดินเข้ามากระชากผมของเธอ “ฉันพูดกับคุณอยู่นะ ทำเป็นไม่สนใจคุณมีมารยาทรึเปล่าน่ะ?”
เสิ่นเฉียวรู้สึกเจ็บ ดังนั้นเธอจึงลุกขึ้นมายืน จ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่เย็นชา
“คุณพูดกับฉันตอนไหนกัน? คุณทักทายฉันแล้วรึไง? มารยาทน่ะหรอ ของแบบนี้ฉันมีแน่นอน แต่ฉันรู้สึกว่าคุณสามารถที่จะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นกว่านี้ อย่ามาแตะต้องคนอื่นไปเรื่อย”
ผู้คนกลุ่มนี้เดิมทีคิดว่าเธอดูเป็นคนที่น่าจะรังแกได้ง่าย นึกไม่ถึงว่าเธอจะลุกขึ้นมายืนแล้วกล้าที่จะโต้ตอบ
“คุณพูดอะไรนะ? เด็กใหม่อย่างคุณกล้าพูดแบบนี้กับฉันหรอ? ตกลงคุณรับรู้ถึงสถานการณ์ของตัวเองบ้างมั้ย? คุณมาถึงที่นี่แล้วยังกล้าที่จะขัดพวกเรา? อยากตายนักใช่มั้ย?”
เสิ่นเฉียวจ้องมองคนกลุ่มนี้ด้วยสายตาที่เย็นชา
ผู้คนกลุ่มนี้ยังคงพูดไม่ดีต่อเธอเรื่อยๆ
“ใช่แล้ว ถ้าไม่อยากตายละก็ทางที่ดีเชื่อฟังพวกเราดีกว่า ผู้หญิงที่เก่งเรื่องบนเตียงอย่างคุณพวกเราเห็นมานักต่อนักแล้ว จัดการมาก็เยอะเช่นกัน”
“ฮ่าฮ่าใช่แล้ว ถ้ารู้ตัวว่าผิดไปแล้ว ตอนนี้รีบออกไปข้างนอกซื้อกาแฟกับขนมเค้กมาให้พวกเราทุกคนในออฟฟิศ คนละชุดเลยนะ บางทีพวกเราอาจจะเห็นแก่สิ่งนี้ไม่ทำร้ายคุณในภายหลังก็ได้ ”
หึ เสียเงินซื้อของให้คนที่ตัวเองเกลียด อีกทั้งยังเป็นคนที่ทำร้ายตัวเองอีกด้วย
พวกเธอคิดว่าสมองของตัวเธอโดนลาถีบมารึไง?
เสิ่นเฉียวส่งเสียง หึ ออกมาหนึ่งที เธอกลับไปนั่งประจำตำแหน่งของตัวเองแล้วไม่พูดอะไรกับพวกเธออีก
เธอเปิดคอมพิวเตอร์
“คุณ คุณหมายความว่ายังไง? คุณกล้าเมินพวกเราหรอ?!”
“ขอโทษด้วยนะ พวกคุณไม่ใช่หัวหน้าของฉัน ฉันก็ไม่ใช่ผู้ช่วยส่วนตัวของพวกคุณ พวกคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะเรียกให้ฉันไปทำอะไรให้พวกคุณ”
คอมพิวเตอร์ค่อนข้างช้า หลังจากที่เสิ่นเฉียวเปิดคอมแล้วเธอก็กดเข้าไปในโปรแกรมฆ่าไวรัส จากนั้นสแกนไวรัสในคอมหนึ่งรอบ
คนที่อยู่ด้านข้างกำลังมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น “หึ โอเค พวกเราไม่วิธีที่จะทำอะไรคุณได้สินะ? งั้นหัวหน้าจะมีสิทธิ์หรือไม่? คุณคอยดูละกัน!”
เสิ่นเฉียวไม่สนใจพวกเธอ เธอยังคงจัดการกับคอมพิวเตอร์ของตัวเองต่อไป
เธอรู้ดีว่าคนเหล่านี้ล้วนแต่อยากจะกินหัวของเธอ แต่เธอก็รู้ดี ต่อให้เธอซื้อของให้ทุกคนแล้ว ทุกคนก็มีแต่หัวเราะเยาะเธอมากขึ้นเท่านั้น
ดังนั้น เธอจึงแข็งกร้าวเช่นนี้ต่อไป ไม่มีอะไรที่เธอต้องถอยและติดสินบนอะไร
ในวันนี้เธอมาถึงจุดนี้แล้ว เธอทำได้เพียงหากพวกเธอจะใช้ลูกเล่นไหนมาเธอก็ต้องรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นให้ได้
เมื่อผ่านไปสักพัก หัวหน้าเรียกเธอเข้าไปในห้องทำงาน จากนั้นมอบแฟ้มเอกสารหลายเล่มให้กับเธอ
“เอกสารข้างในนี้คือสิ่งที่ต้องใช้ในการประชุมตอนเย็น ประชุมจะเริ่มในอีกหนึ่งชั่วโมงหลังจากนี้ คุณไปจัดการให้เรียบร้อยภายในหนึ่งชั่วโมง”
เมื่อฟังจบ เสิ่นเฉียวรับแฟ้มเอกสารมาแล้วพลิกดูด้านในของแฟ้ม เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย “หัวหน้า อันนี้ใช้เวลาแค่หนึ่งชั่วโมงในการจัดการให้เสร็จ มันค่อนข้างจะยากรึเปล่า?”
หัวหน้าเงยหน้าขึ้นมามองเธอ “ค่อนข้างยาก? คนที่ก่อนหน้านี้เป็นถึงผู้ช่วยท่านประธานอย่างคุณ งานจัดการเอกสารไม่ใช่เรื่องที่คุณควรจะถนัดรึไง? อย่าบอกนะว่าคุณก็เป็นเหมือนกับที่พวกเธอพูดมาว่าไม่มีความสามารถเลยสักนิด??”
เสิ่นเฉียว “….ไม่ใช่ ฉันจะไปจัดการให้เสร็จ”
เมื่อพูดจบเสิ่นเฉียวก็ถือแฟ้มเอกสารแล้วเดินออกไปจากห้องทำงาน
ผู้หญิงหลายคนยืนล้อมอยู่รอบๆโต๊ะของเธอ พวกเธอจ้องมองเธอที่กำลังทุกข์อย่างมีความสุข
“เธอไม่ใช่บอกหรอว่าพวกเราไม่สามารถเรียกใช้เธอได้? ตอนนี้โดนหัวหน้าจิกหัวใช้แล้วสินะ? เอกสารมากมายขนาดนั้น ฉันจะดูว่าเธอจะจัดการทั้งหมดนี้ให้เสร็จก่อนที่จะเริ่มประชุมได้ยังไง ถ้าจัดการไม่เรียบร้อยละก็พวกเราสามารถไล่เธอออกไปจากแผนกได้มั้ย? ยังไงซะบริษัทตระกูลเย่ไม่เคยเลี้ยงคนที่ไร้ความสามารถเอาไว้!”
เสิ่นเฉียวไม่ได้สนใจคำพูดไร้สาระเหล่านั้น แต่เธอกลับนั่งอยู่หน้าคอมแล้วเปิดแฟ้มเอกสารออกมา จากนั้นตั้งใจจัดการกับเอกสาร