เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่1530 อย่าหันกลับมา
บทที่1530 อย่าหันกลับมา
ทั้งหนัก ทั้งเจ็บ
เจียงเสี่ยวไป๋ผลักเขาไม่ไหว จึงได้แต่ปล่อยให้เขาลิ้มรสริมฝีปากของเธอจนกว่าจะเพียงพอ เขาใช้ลิ้นควานไปทั้งโพรงปากของเธอจนกว่าจะพอใจ
ตอนแรกเธอรู้สึกได้ถึงกลิ่นบุหรี่ที่รุนแรงมาก แต่ในช่วงหลังเธอเองก็ลืมไปแล้วว่าตัวเองกลืนกลิ่นบุหรี่เข้าไปมากน้อยแค่ไหน
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ เซียวซู่ถึงได้ยอมปล่อยเธอ แล้วก้มศีรษะลงมาให้หน้าผากชิดกัน ก่อนจะจ้องมองเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง
“ไปเถอะ ผมจะรอคุณกลับมาเสมอ ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็จะรอ”
พอพูดจบ เซียวซู่ก็ปล่อยมือจากไหล่ของเธอ แล้วยังผลักให้เธอเดินไปข้างหน้า เดิมทีเจียงเสี่ยวไป๋นึกว่าเขาจะไม่ยอมให้เธอจากไปซะแล้ว ที่แท้มันก็เป็นจูบแห่งการจากลานี่เอง
“อย่าหันกลับมา ถ้าคุณยังไม่คิดจะกลับมาอยู่เคียงข้างผม คุณก็อย่าให้ความหวังกับผม”
ตอนที่พูดประโยคนี้ ขอบตาของเซียวซู่แดงก่ำ
ผู้ชายสูงหนึ่งร้อยแปดสิบกว่าเซนติเมตรกลับยืนตาแดงมองแผ่นหลังของเจียงเสี่ยวไป๋ภายใต้สายตาของผู้คนจำนวนมากในสนามบิน
ภายในใจของเจียงเสี่ยวไป๋เหมือนถูกเข็มหลานพันเล่นทิ่มแทง ในขณะที่น้ำตากำลังจะไหล เธอรีบหันหลังแล้วเดินเข้าไปที่จุดตรวจโดยไม่หันกลับมาอีกเลย
หลังจากผ่านกระบวนการตรวจเรียบร้อย ก็ยังมีสายตาคู่หนึ่งมองตามแผ่นหลังเธอไป สุดท้ายเจียงเสี่ยวไป๋ก็ไม่แม้แต่จะหันหลังกลับมามอง
หลังจากเธอรับกระเป๋าเดินทางมา เธอก็เดินลากกระเป๋าเดินทางเข้าไปภายในสนามบินทันที
ถ้าดูจากแผ่นหลังของเธอ จากมุมมองของเซียวซู่เธอเดินไปอย่างเด็ดเดี่ยวมั่นคง ไม่มีแม้แต่ความเสียใจ
แต่ในตอนนี้เจียงเสี่ยวไป๋กลับน้ำตานองหน้า อย่าว่าแต่เซียวซู่ไม่ให้เธอหันกลับเลย ตัวเธอเองก็ไม่กล้าหันกลับไปเหมือนกัน
ตลอดช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันมา ความรักที่เธอมีต่อเซียวซู่มันลึกซึ้งมากในระดับหนึ่ง การที่เธอเลือกจะเดินจากไป เธอเองก็รู้สึกปวดใจจนใจแทบขาด
แต่เธอรู้สึกว่าถ้าเธอไม่จากไป เรื่องบางเรื่องเธอก็ข้ามผ่านไปไม่ได้เหมือนกัน
เธอไม่อยากยอมทนความเสียใจเพื่อลูก เธอเชื่อว่าเซียวซู่จะดูแลลูกได้
เธอเป็นแม่ที่ใจร้ายมากจริงๆ
เจียงเสี่ยวไป๋เดินลากกระเป๋าเดินทาง แล้วก้าวเดินอย่างรวดเร็ว เพราะคนที่เดินไปเดินมาต่างก็มองมาที่เธอกันหมด เธอไม่มีเวลามาสนใจ เธอเดินไปหาห้องน้ำ แล้วปรับอารมณ์ตัวเองให้เป็นปกติ
หลังจากปรับอารมณ์เรียบร้อย เจียงเสี่ยวไป๋ก็ตบหน้าตัวเองสองสามที เพื่อพยายามยิ้มหน้ากระจก
ไม่เป็นไรหรอก เขาไม่รักเรา เราจากไปน่ะดีแล้ว เธอเดินจากมาอย่างมีศักดิ์ศรี เธอควรจะดีใจถึงจะถูก
ในเมื่อเขาไม่รักเธอ แล้วเธอยังจะหน้าด้านอยู่กับเขา นี่สิถึงจะเรียกว่าคนโง่
ดูสิ เจียงเสี่ยวไป๋ ว่าเธอกล้าหาญถึงขนาดไหน
หลังจากให้กำลังใจตัวเองเสร็จ อารมณ์ของเจียงเสี่ยวไป๋ก็ดีขึ้นเล็กน้อย หลังจากนั้นเธอก็เดินลากกระเป๋าไปรอขึ้นเครื่อง
ส่วนอีกด้าน
เซียวซู่เดินเปิดประตูเข้ามา เดิมทีเขาคิดจะเดินไปดูลูกสักหน่อย แต่พอเดินเข้าไปถึงได้เห็นว่าไฟในห้องถูกเปิดสว่าง เหลียงหย่าเหอกับตู้เซียวหยู่นั่งรอเขาอยู่ในนั้น ขอบตาของทั้งสองคนแดงก่ำ เห็นได้ชัดว่าเพิ่งร้องไห้เสร็จ
ทั้งสามคนมองหน้ากัน ก่อนที่เหลียงหย่าเหอจะลุกขึ้นจากโซฟา แล้วเดินเข้าไปหาเซียวซู่ ก่อนจะทั้งดุทั้งด่าเซียวซู่อย่างหนัก
“เจ้าลูกไม่ได้เรื่อง ฉันคลอดแกมาให้เสียทรัพยากรธรรมชาติทำไมกันนะ เมียตัวเองยังรั้งไว้ไม่อยู่ แกยังจะทำอะไรได้อีก”
ถึงต้องเผชิญหน้ากับการดุด่าของเหลียงหย่าเหอ เซียวซู่ก็ไม่ตอบโต้อะไร เขายืนนิ่งเหมือนตอไม้ ปล่อยให้เหลียงหย่าเหอดุด่าตามสบาย
สุดท้ายตู้เซียวหยู่ก็ทนมองไม่ได้ จึงเดินเข้าไปห้ามปรามเหลียงหย่าเหอ “เอาล่ะค่ะ คุณอย่าเพิ่งโมโหไปเลย เสี่ยวไป๋จากไปแล้ว ถึงคุณจะตีลูกให้ตายตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์แล้ว”
“จะไม่มีประโยชน์ได้ยังไงกันคะ ตีเจ้าลูกบ้านี้ให้ตายดิฉันจะได้ระบายอารมณ์ เจ้าลูกโง่เง่าคนนี้ทำให้ดิฉันรู้สึกผิดหวังมากจริงๆ”
“พอแล้วค่ะ”ตู้เซียวหยู่พูดเสียงเข้ม ก่อนจะดึงอีกคนไปด้านข้าง “อย่าทำอย่างนี้อีกเลยนะคะ ถึงแม้เซียวซู่จะเป็นลูกชายของคุณ แต่คุณจะด่าจะตีเขาแบบนี้ไม่ได้ ช่างมันเถอะค่ะ แล้วอีกอย่าง เสี่ยวไป๋เองก็ผิดเหมือนกันที่จากไปแบบนี้ เราปล่อยให้ลูกๆแก้ไขปัญหากันเองเถอะค่ะ”
พอพูดถึงตรงนี้ ตู้เซียวหยู่ก็นิ่งเงียบไปสักพัก ก่อนจะพูดออกมา “ก็เหมือนตอนที่เราไปดูดวงให้พวกเขา แล้วพวกเขายังคงยืนยันที่จะแต่งงานกันไงคะ ตอนนี้เองก็เหมือนกันค่ะ เราต้องเคารพการตัดสินใจของพวกเขา”
เหลียงหย่าเหอถูกเธอพูดจนต้องยอม เธอไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกไปดี จึงได้แต่หลับตาลงอย่างเหนื่อยใจ
ในห้องมีเสียงเด็กร้องไห้ดังขึ้นมา อีกทั้งยังเป็นเสียงร้องที่หนักมากด้วย เหลียงหย่าเหอกับตู้เซียวหยู่จึงรีบวิ่งเข้าไปปลอบหลาน ทิ้งให้เซียวซู่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
ก่อนที่เหลียงหย่าเหอจะเข้ามาดึงเสื้อของเขา เขายังพอจะยืนได้มั่นคง แต่หลังจากที่ทั้งสองเดินจากไป เขาก็ทรุดตัวลงอย่างหมดแรง
เสี่ยวไป๋จากไปแล้ว เธอไปจากเขาแล้วจริงๆ
เธอจากเขาไปแล้ว แล้วเธอจะกลับมาหาเขาอีกไหม
ถึงแม้เขาจะเต็มใจรอ แต่เขาจะต้องรอไปจนถึงเมื่อไหร่
เซียวซู่หลับตาลง หัวใจของเขาแตกสลายราวกับกระจก ภาพความทรงจำของเขากับเสี่ยวไป๋ปรากฏขึ้นทั่วทุกมุมในบ้าน แต่ตัวจริงกลับหายไปแล้ว
ที่แท้ หัวใจของเขาก็ถูกผู้หญิงร่าเริงจิตใจดี โอบอ้อมอารีคนนั้นครอบครองไปหมดแล้ว แต่เขาไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง เขามันโง่เอง ที่ไม่เคยสารภาพรักกับเธอแบบจริงจังเลยสักครั้ง
ถ้าหากเรื่องราวมันสามารถย้อนกลับไปได้ เขาจะยังเลือกเส้นทางนี้อีกไหม
ความคิดนี้วนเวียนอยู่ในสมองของเซียวซู่ตลอด มันทั้งเจ็บปวดและทรมานอย่างถึงที่สุด
เขาอยู่อย่างนี้ทั้งคืน จนตู้เซียวหยู่ต้มโจ๊กเสร็จ แล้วเรียกเขาไปกิน
“ขอบคุณนะครับคุณแม่ แต่ผมยังไม่รู้สึกหิวเลย”หลังจากที่เซียวซู่ปฏิเสธตู้เซียวหยู่อย่างมีมารยาท เขาก็ลุกขึ้นยืน แล้วเดินตรงไปที่ห้องนอน
“เซียวซู่ หยุดเดี๋ยวนี้นะ”ตู้เซียวหยู่ตะโกนเรียกเขา “ลูกจะไม่ยอมกินไม่ยอมนอนเลยหรือไง ลูกทำอย่างนี้ไม่รู้สึกผิดต่อเสี่ยวไป๋บ้างหรือไงกัน”
พอได้ยินแบบนั้น เซียวซู่ก็หยุดชะงัก ไม่มีท่าทีจะเดินไปต่อ
“เสี่ยวไป๋ตอนนี้จากไปแล้ว ถ้าลูกไม่ลุกขึ้นมา แล้วลูกจะดูแลหลานของแม่ได้ยังไงกัน เธอทิ้งหลานไว้กับลูก เพราะหวังว่าลูกจะดูแลเลี้ยงดูอย่างดีนะจ๊ะ”
ตู้เซียวหยู่สูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “แม่รู้จ๊ะ แม่เป็นแม่แท้ๆของเสี่ยวไป๋พูดแบบนี้ออกจะดูเห็นแก่ตัวไปบ้าง แต่เสี่ยวไป๋เป็นลูกสาวของแม่ แม่เข้าใจนิสัยของเธอดี เธอไม่มีทางทำอะไรที่มันเกินกว่าเหตุโดยไม่มีสาเหตุ ที่เธอจากไปจะต้องมีสาเหตุแน่ๆ แต่ว่าสาเหตุมันคือเรื่องอะไรแม่ไม่รู้ด้วยหรอก และแม่เองก็ไม่อยากจะเข้าไปยุ่งด้วย”
คำพูดนี้ทิ่มแทงเข้าไปในใจของเซียวซู่อย่างแรง
ถูกต้องแล้ว ที่เสี่ยวไป๋จากไปมีสาเหตุจริงๆ เป็นความผิดของเขาเอง
“ขอโทษนะครับ เป็นความผิดของผมเอง”
“แล้วตอนนี้ลูกกำลังทำอะไรอยู่ ตอนที่แม่บอกผลดูดวงของพวกลูกกับเสี่ยวไป๋ เด็กคนนั้นยังคงยืนยันอย่างหนักแน่นว่าจะแต่งงานกับลูก ตั้งแต่เล็กจนโตแม่ไม่เคยเห็นเธอมั่นใจในเรื่องอะไรได้เท่านี้มาก่อนเลย แล้วผลสุดท้ายล่ะ แม่นึกว่าเธอจะหาคู่ชีวิตที่จะทำให้เธอมีความสุขไปตลอดชีวิตได้แล้ว แต่ใครจะรู้ว่าพวกลูกเพิ่งแต่งงานกันได้ไม่นานก็เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ลูกบอกกับแม่มาตามตรง ลูกได้ทำอะไรผิดต่อเสี่ยวไป๋หรือเปล่า”
คำถามจากแม่ภรรยา ทำให้เซียวซู่ไม่รู้ว่าจะตอบกลับอย่างไร
“ตอบไม่ได้หรือว่าอายที่จะตอบ”
เซียวซู่ยังคงเงียบ
“ถ้าหากลูกยังคงไม่ยอมตอบ งั้นตอนนี้ลูกก็ไปกินข้าวเช้าซะ แล้วเข้าห้องไปพักผ่อน ลุกขึ้นมาให้ได้ นิสัยของลูกสาวแม่ แม่รู้ดี ถ้าเธอคิดได้ เธอก็จะกลับมาเองนั่นแหละจ๊ะ”
พอได้ยินแบบนั้น แววตาของเซียวซู่ก็เริ่มมีประกายความหวัง “จริงเหรอครับ”