เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่1554 มาส่งครีมกันแดด
บทที่1554 มาส่งครีมกันแดด
ถึงแม้เมื่อก่อนถางหยวนหยวนจะไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน และท่าทีของจางเสี่ยวลู่ก็ดูค่อนข้างเป็นมิตร แต่เธอก็ยังรู้สึกว่า โทรศัพท์ของตัวเองดังขึ้น เขาไม่ควรมารับโทรศัพท์ของตัวเอง
แต่ว่าเรื่องวุ่นวายใจพวกนี้พอได้ยินเสียงของยู่ฉือยี่ซูก็มลายหายไปหมดทันที
“พี่คะ”
“อืม” เสียงของยู่ฉือยี่ซูทุ้มต่ำ “ฉันอยู่ใต้ตึกของหอพักเธอ ถ้าเธอว่างก็ลงมาหน่อยสิ”
พอได้ยินแบบนั้น ถางหยวนหยวนก็รู้สึกดีใจขึ้นมา “เวลาแบบนี้พี่มาทำอะไรคะ”
“ทำไม ไม่ต้อนรับพี่เหรอ”
“ต้องไม่ใช่อยู่แล้วค่ะ ฉันจะลงไปเดี๋ยวนี้ค่ะ”
พอพูดจบ เดิมทีถางหยวนหยวนอยากจะทิ้งโทรศัพท์ไว้บนเตียง แต่ก็คิดอะไรขึ้นมาได้ เธอก็เลยเก็บโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นก็วิ่งลงไปด้านล่าง
จางเสี่ยวลู่กับหยวนเย่าหันมองตากันทีหนึ่ง จากนั้นก็รีบตามออกไป
“หยวนหยวน พี่ชายเธอมาหาเธอเหรอ เดี๋ยวพวกเราลงไปเป็นเพื่อน”
“หา ? ไม่ต้องหรอก พี่ชายของฉันคงแค่……”
“ไม่เป็นไรๆ พวกเราก็ไม่มีอะไรทำ ไปเป็นเพื่อนเธอแล้วกัน”
สุดท้ายถางหยวนหยวนก็ยังไม่รู้อะไรเลยและพาพวกเธอออกไปด้วย ตอนลงบันไดทั้งสองคนคล้องแขนเธอคนละข้าง ความรู้สึกแบบนี้ทำให้ถางหยวนหยวนรู้สึกประหลาดใจ ทั้งๆที่เธอจะไปเจอพี่ชาย ทำไมสองคนนี้ถึงได้ดูท่าทางดีใจกว่าเธอเสียอีก
ตอนที่ลงไปถึงใต้ตึก ยู่ฉือยี่ซูก็ถูกคนให้ความสนใจและยืนห้อมล้อมอย่างมากมายแล้ว
เพราะว่าเขาหน้าตาหล่อเหลา ทั้งสูงทั้งผอม รวมอยู่ในคนๆเดียว เลยมีเด็กสาวไม่น้อยที่หันมามอง
“คนๆนี้หล่อจังเลย แต่ดูไม่เหมือนนักเรียนโรงเรียนเราเลย เขามาหาใครกันนะ”
“หรือว่ามาหาแฟนสาว ?”
“ถ้าเป็นแฟนสาวล่ะก็ คงน่าอิจฉามากเลย มีคนที่หล่อขนาดนี้มาเป็นแฟนด้วย”
จากนั้นถางหยวนหยวนก็ลงมา และมีจางเสี่ยวลู่กับหยวนเย่าหันติดสอยห้อยตามเธอมาด้วย
“พี่คะ”
“สวัสดีค่ะคุณพี่” จางเสี่ยวลู่กับหยวนเย่าหันเองก็เอ่ยทักทายตามถางหยวนหยวนไปด้วยคำหนึ่ง
ยู่ฉือยี่ซูมองดูถางหยวนหยวนที่ถูกหนีบอยู่ตรงกลางเหมือนแซนด์วิช เงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “ขอฉันคุยกับเขาเป็นการส่วนตัวหน่อยได้ไหม”
จางเสี่ยวลู่กับหยวนเย่าหันชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ก็ได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว
“ได้แน่นอนอยู่แล้วค่ะ พี่ชายพูดอะไรแบบนั้นคะ พวกเราก็แค่มาเป็นเพื่อนเขาเท่านั้น ไม่รบกวนแล้วค่ะ หยวนหยวน พวกเราไปรอเธออยู่ข้างนั้นนะ”
รอจนจางเสี่ยวลู่กับหยวนเย่าหันไปแล้ว ถางหยวนหยวนก็เลยยิ้มออกมาแล้วถามว่า “พี่คะ เพื่อนร่วมหอของฉันเป็นมิตรมากเลยใช่ไหม”
ยู่ฉือยี่ซูมองดูเงาของเพื่อนร่วมหอพักทั้งสองคนที่ห่างออกไป ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ครู่ใหญ่จึงยื่นถุงที่อยู่ในมือไปให้เธอ
“ให้ฉันเหรอ ?”
ถางหยวนหยวนรับถุงมาด้วยความประหลาดใจ “นี่อะไรเหรอคะ ?”
“ครีมกันแดด”
พอได้ยินแบบนั้น ถางหยวนหยวนก็เปิดถุงออก จากนั้นก็เห็นว่าด้านในมีครีมกันแดดสองขวด และก็รู้สึกตื้นตันขึ้นมาทันที “พี่คะ พี่ช่างดีกับหยวนหยวนจริงๆ แต่เฟยเฟยก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอคะ ว่าเธอก็พกมา ให้ฉันใช้ด้วยกันกับเธอก็ได้”
“นั่นเป็นของที่คนอื่นพกมา เธอไม่เกรงใจคนอื่นบ้างเหรอ อีกอย่างถ้าถึงเวลาแล้วไม่พอใช้จะทำยังไง การฝึกทหารไม่ใช่แค่ช่วงเวลาสั้นๆนะ”
คำพูดนี้ทำให้ถางหยวนหยวนรู้สึกว่าค่อนข้างมีเหตุผล “พี่ชายนี่ช่างรอบคอบจริงๆ ก่อนหน้านี้หยวนหยวนคิดไม่ถึงเลย ขอบคุณมากนะคะพี่”
“ยัยซื่อบื้อ ได้ของแล้วก็ขึ้นไปเถอะ”
“พี่ชายแค่จะมาส่งครีมกันแดดเหรอคะ ?”
“ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะ ? ยังอยากได้อะไรอีก ?”
ถางหยวนหยวนเบิกตาโต มองดูยู่ฉือยี่ซูอย่างใสซื่อแล้วบุ้ยปาก ไม่พูดอะไร “เปล่า เปล่าค่ะ”
ถึงแม้เธอจะไม่ได้พูดอะไร แต่ว่าดวงตากลมโตคู่นั้นก็แสดงท่าทีผิดหวังออกมาอย่างชัดเจน
“ยัยเด็กไร้น้ำใจ ฉันเอาครีมกันแดดมาส่งให้ตอนดึกดื่นแบบนี้ เธอก็ไม่ถามพี่ชายสักคำว่ากินข้าวหรือยัง ยังจะมาโทษพี่อีกว่าไม่เอาของกินมาให้เธอ”
“อืม หยวนหยวนขอโทษค่ะ หยวนหยวนผิดไปแล้ว พี่ชายกินข้าวหรือยังคะ ถ้ายังไม่ ให้หยวนหยวนพาพี่ชายไปกินข้าวไหมคะ ?”
ยู่ฉือยี่ซูเหลือบไปมองสองคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลและกำลังทำท่าทางกระตือรือร้นทีหนึ่ง แล้วน้ำเสียงก็หมองลงหลายระดับ
“วันนี้ไม่ไปแล้ว ครั้งหน้าแล้วกัน เธอกินอะไรสักหน่อย แล้วไปพักผ่อนเถอะพรุ่งนี้ต้องไปฝึกทหาร อย่าลืมทาครีมกันแดดด้วย ไปอ่านคู่มือเสริมเอาเองแล้วกัน อย่าปล่อยให้แดดเผาจนได้แผลล่ะ”
พอพูดจบ ยู่ฉือยี่ซูก็ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าของตัวเองแล้วหยิบเอากล่องเล็กๆที่ละเอียดงดงามออกมาให้ถางหยวนหยวน “แล้วก็ นี่ให้เธอ”
พอถางหยวนหยวนเห็นกล่องใบนั้นแล้ว ดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมาทันที
“ลูกอมชอกโกแล็ก ขอบคุณค่ะพี่ชาย!”
เธอดีใจมาก เลยโผเข้าไปกอดยู่ฉือยี่ซูไว้ทันที ฉากนี้ทำให้คนอื่นที่กำลังมุงดูอยู่รู้สึกอิจฉาเป็นที่สุด
“พอเถอะ อะไรจะขนาดนั้น กอดแปบเดียวก็พอแล้ว” ถึงแม้คำพูดของยู่ฉือยี่ซูจะดูรังเกียจ แต่ในแววตากลับเต็มไปด้วยความรักใคร่เอ็นดู
ถางหยวนหยวนกอดยู่ฉือยี่ซูอย่างอาลัยอาวรณ์ครู่ใหญ่ก่อนจะคลายออก แล้วพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนว่า “พี่คะ ให้หยวนหยวนพาพี่ไปกินข้าวเถอะ วันนี้ตอนมาฉันเห็นหน้าโรงเรียนมีของอร่อยเต็มไปหมดเลย แล้วยังมีร้านบะหมี่เนื้อร้านหนึ่งด้วย ฉันรู้สึกว่าร้านของพวกเขาต้องรสชาติไม่เลวแน่ๆ”
พอพูดจบ ถางหยวนหยวนก็รู้สึกเหมือนน้ำลายตัวเองกำลังจะไหลออกมา
ทำไมยู่ฉือยี่ซูจะไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
“ที่สำคัญก็คือตัวเองอยากกินสินะ”
เดิมทียู่ฉือยี่ซูนั้นไม่คิดจะออกไปด้วยกันกับเธอ เพราะว่าทั้งสองคนที่อยู่ตรงนั้นกำลังจ้องเขม็งมาทางนี้ แต่ว่าถ้ายังหนูน้อยเป็นคนอยากกินเองล่ะก็ สถานการณ์ก็ต่างไปจากเดิมแล้ว
“ถ้าอยากกินล่ะก็ งั้นก็ไปเถอะ เดี๋ยวพี่ชายเลี้ยงเอง”
“ขอบคุณค่ะพี่ เดี๋ยวฉันโทรไปชวนเฟยเฟยไปด้วย ได้ไหมคะ แล้วยังมีเพื่อนร่วมหอของฉันอีกสองคน ช่วงบ่ายพวกเขาเลี้ยงอาหารตะวันตกหยวนหยวนด้วย”
“ชาวบ้านเขาเลี้ยงอาหารตะวันตกเธอ แต่เธอกลับเลี้ยงบะหมี่เนื้อชาวบ้านเขา ไม่รู้สึกอายบ้างเหรอ”
“ไม่หรอก ไม่หรอก!”
เพื่อนร่วมหอพักทั้งสองคนคอยแอบฟังอยู่ตลอด ถึงแม้จะอยู่ห่างไกล แต่ก็ยังได้ยินบทสนทนาของทั้งสองคนอย่างชัดเจน
หลังจากได้ยินคำนี้แล้ว ทั้งสองคนก็รีบพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ไม่ว่าจะกินอะไรก็เหมือนกัน พวกเราเองก็ชอบกินบะหมี่เนื้อเหมือนกันค่ะ”
“จริงเหรอ ?” ถางหยวนหยวนค่อนข้างดีใจ “ถ้าพวกเธอก็ดีแล้ว งั้นเดี๋ยวให้พี่ชายฉันพาพวกเราไปกิน”
จากนั้นถางหยวนหยวนก็โทรไปหาเมิ่งเข่อเฟยให้ไปด้วยกัน ถึงแม้หญิงสาวทั้งสองคนจะดูไม่ค่อยเต็มใจ แต่อยู่ต่อหน้ายู่ฉือยี่ซูเลยไม่กล้าแสดงท่าทางออกมาแม้แต่น้อย
ตอนแรกเมิ่งเข่อเฟยก็ไม่อยากลงมา แต่หลังจากถูกถางหยวนหยวนเรียกไปสองรอบ ถึงได้ยอมมาด้วย
หลังจากเมิ่งเข่อเฟยลงมาแล้ว จางเสี่ยวลู่กับหยวนเย่าหันก็ราวกับลืมเรื่องก่อนหน้านี้ไปหมดแล้ว และเข้าไปคล้องแขนเธอด้วยท่าทางสนิทสนม
เมิ่งเข่อเฟยต่อต้านเล็กน้อย แต่จางเสี่ยวลู่กลับกดเสียงต่ำแล้วพูดว่า “อย่าแสดงท่าทางพิรุธออกมาเชียว ไม่อย่างนั้นฉันจะทำให้เธออยู่ที่โรงเรียนนี้ต่อไปไม่ได้อีกเลย”
การคุกคามอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้ทำให้เมิ่งเข่อเฟยรู้สึกโกรธมาก เงยหน้าขึ้นจ้องหน้าเขาทีหนึ่งอย่างโกรธเคือง จางเสี่ยวลู่คิดไม่ถึงว่าเธอจะแสดงสีหน้าแบบนี้ออกมา อึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เข่อเฟย เธอไม่สบายหรือเปล่า ให้โทรไปหาพ่อแม่เธอหน่อยดีไหม”