เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่1558 รักความสะอาด
บทที่1558 รักความสะอาด
หลังจากจบการฝึกทหาร ทุกคนต่างก็ถูกแดดเผาจนดำ พอดีกับที่วันที่สองเป็นวันจันทร์ ดังนั้นทุกคนก็เลยไม่มีเวลาพักผ่อน ตอนที่กลับไปถึงโรงเรียนก็เป็นเวลาใกล้ค่ำแล้ว พอถางหยวนหยวนได้จับโทรศัพท์แล้วสิ่งแรกที่ทำก็คือส่งข้อความไปให้ยู่ฉือยี่ซู
แต่เพิ่งจะได้จับโทรศัพท์ ก็ได้รับข้อความจากยู่ฉือยี่ซู
“มาที่ประตูหน้าโรงเรียนหน่อย ฉันมีของจะให้เธอ”
ถางหยวนหยวนเลยยัดโทรศัพท์เข้าไปใต้หมอน แล้ววิ่งออกไปทันที
จางเสี่ยวลู่กับหยวนเย่าหันพอเห็นฉากนี้แล้ว ก็มองตากันทีหนึ่งจากนั้นก็วิ่งมาหมายจะหยิบโทรศัพท์เธอ เมิ่งเข่อเฟยพลิกตัวไปทับไว้ทันที “อย่ามาจับของๆเขา”
“เมิ่งเข่อเฟย ถอยไปเดี๋ยวนี้”
“เธออีกแล้วเหรอ เธอคงเตรียมใจพร้อมที่จะเป็นศัตรูกับพวกเราแล้วสินะ”
จางเสี่ยวลู่ดึงผมยาวของเมิ่งเข่อเฟย ท่าทางดุร้ายเหมือนจะฆ่าเธอให้ตาย เมิ่งเข่อเฟยเชิดหน้า ในแววตาไร้ความเกรงกลัว “เธอตบสิ เป้าหมายของพวกเธอคือพี่ชายของหยวนหยวนไม่ใช่เหรอ พอดีว่าฉันรู้จักกับพี่ชายเขามาตั้งนานแล้ว เธอกล้าตบฉันครั้งหนึ่ง ฉันก็จะไปบอกพี่ชายของถางหยวนหยวน ว่าพวกเธอเป็นพวกมีความสัมพันธ์ไม่ชัดเจนกับคนอื่นไปทั่ว”
“เธอกล้าเหรอ!” จางเสี่ยวลู่ยกมือขึ้น อีกนิดเดียวก็จะฟาดฝ่ามือลงไปแล้ว แต่กลับถูกหยวนเย่าหันที่อยู่ข้างๆดึงตัวไว้ก่อน
“ทำอะไร ?” จางเสี่ยวลู่จ้องหยวนเย่าหันอย่างไม่พอใจ แต่กลับถูกเธอลากออกไปอีกทาง “ครั้งก่อนถูกสั่งสอนไปเธอยังไม่เข็ดหลาบอีกเหรอ ตอนนี้ยังจะลงมืออีก เธอตีเขา มีแต่จะทำให้คนอื่นมองเห็นเบาะแส ถ้าเขาอยากจะฟ้องเธอขึ้นมาก็ง่ายแสนง่าย อีกอย่าง…… เขาสนิทกับถางหยวนหยวนขนาดนั้น ถ้าเขาพูดเรื่องไม่ดีของพวกเราต่อหน้าถางหยวนหยวน หรือพูดเรื่องไม่ดีของพวกเราต่อหน้าพี่ชายหล่อน แล้วต่อไปจะทำยังไง?”
หลังจากได้ฟังคำพูดของเธอแล้ว จางเสี่ยวลู่ก็สงบลง จากนั้นก็หันไปถลึงตาใส่เมิ่งเข่อเฟยทีหนึ่ง ก่อนจะหยุดลง
“ครั้งนี้จะปล่อยเธอไป”
ถางหยวนหยวนวิ่งไปใกล้จะถึงประตูใหญ่แล้ว มองเห็นแต่ไกลว่ายู่ฉือยี่ซูยืนพิงริมประตูอยู่ ในมือถือถุงใบหนึ่ง
เขายืนพิงอย่างสบายอารมณ์อยู่ตรงนั้น ตอนก้มหน้าลงหน้าม้าก็ลู่ลงเล็กน้อย ขนตาครอบด้วยตาไว้เบาๆ ทำให้ดวงตาของเขายิ่งดูคมเข้มขึ้น เส้นความโค้งของใบหน้าด้านข้างมีความประณีตเหมือนงานเขียนของศิลปินชื่อดัง เหมือนโครงร่างของบุคคลที่ถูกร่างขึ้นมาอย่างละเอียดพิถีพิถัน
“พี่คะ!”
ถางหยวนหยวนเรียกออกไปเสียงหนึ่ง จากนั้นก็พุ่งเข้าไปกอดเอวของยู่ฉือยี่ซู
คนปกติไหนเล่าจะทนการพุ่งชนแบบนี้ได้ แต่ว่าร่างกายของยู่ฉือยี่ซูนั้นดีมาก ถูกยัยหนูน้อยพุ่งชนอย่างแรงแบบนี้ ก็ยังไม่แม้แต่จะก้าวถอยหลัง แถมยังไม่ไหวติงแม้แต่น้อย
เขาก้มลงมองปลายศีรษะของถางหยวนหยวนทีหนึ่ง แล้วยืนมือไปลูบ
“ทำไมวิ่งเร็วขนาดนั้น”
ถางหยวนหยวนเงยหน้า แล้วก็สบตากับยู่ฉือยี่ซูเข้าพอดี
“โดนแดดเผาหรือเปล่า ?”
หลังจากเธอเงยหน้าขึ้นแล้ว ยู่ฉือยี่ซูก็พบว่าบนใบหน้าเธอมีรอยแผลเป็นรอยหนึ่ง ถึงแม้บาดแผลจะค่อยๆสมานกันแล้ว แต่ว่าแผลยาวมาก เลยทำให้ยู่ฉือยี่ซูต้องหรี่ตาอย่างอันตราย
“เกิดอะไรขึ้น ?”
“อะ ?” ถางหยวนหยวนแอบอุทานในใจว่าแย่แล้ว และรีบยกมือขึ้นมาบังแก้ม “กรีดโดนโดยไม่ระวัง”
“ไม่ระวัง ?”
“อืม”
ยู่ฉือยี่ซูจับข้อมือเธอไว้ แล้วดึงมือเธอออก เข้าไปก็เข้าไปด้านหน้าแล้วมองดูอย่างละเอียด ครู่หนึ่งบรรยากาศรอบตัวก็เยือกเย็นขึ้นหลายระดับ
“ใครเป็นคนทำ ?”
ถางหยวนหยวนกะพริบตาปริบๆทีหนึ่ง ไม่ได้ตอบอะไร
เธอไม่กล้าพูด เพราะเธอจำได้ว่าเมื่อก่อนตอนเด็กๆ มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งในห้องรังแกตัวเอง มาดึงกระโปรงตัวน้อยของเธอ ปรากฏว่าถูกยู่ฉือยี่ซูจับโยนลงไปในท่อน้ำใกล้ๆโรงเรียน ท่อน้ำไม่ได้ลึก เท่าบริเวณน่องเท่านั้น
จากนั้นพี่ชายก็บีบให้เด็กคนนั้นนั่งอยู่ในท่อน้ำตลอดทั้งบ่าย และบอกว่าต่อไปห้ามดึงกระโปรงเด็กผู้หญิงแบบนี้อีก ไม่อย่างนั้นจะไม่โดนเพียงแค่นี้แน่
ทำเอาเด็กผู้ชายคนนั้นกลัวจนต่อจากนั้นก็กลับตัวกลับใจ ไม่กล้าก่อกวนใครอีก
ถางหยวนหยวนกลัวว่าพี่ชายจะทำแบบนั้นกับจางเสี่ยวลู่ด้วย ดังนั้นเลยไม่กล้าพูด
“ไม่บอกเหรอ ?” ยู่ฉือยี่ซูหัวเราะเสียงต่ำทีหนึ่ง “ตอนนี้หัดเรียนรู้ที่จะปิดบังพี่ชายแล้วเหรอ โตขึ้นแล้วใช่ไหม ดังนั้นเลยคิดว่าพี่ชายไม่ต้องสนใจก็ได้ใช่ไหม”
“ไม่ใช่นะคะพี่!” พอถางหยวนหยวนได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเขาแล้ว ก็รู้สึกร้อนรนขึ้นมาทันที “หยวนหยวนก็แค่กลัวว่าพี่ชายจะเป็นกังวล ที่จริงพวกเขาตบตีกัน จากนั้นหยวนหยวนอยากจะเขาไปห้าม จากนั้นก็ถูกตบเข้าโดยไม่ระวัง”
“ตบตี ?”
ถางหยวนหยวนเล่าเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในการฝึกทหารก่อนหน้านี้ให้ยู่ฉือยี่ซูฟังอย่างละเอียด พอยู่ฉือยี่ซูได้ฟังแล้วก็หรี่ตาลง
“ครีมกันแดดถูกขโมย ?”
ถางหยวนหยวนพยักหน้าอย่างว่าง่าย “ใช่ค่ะ จู่ๆก็หาไม่เจอ หายไปทั้งสองขวดเลย ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำหายนะคะพี่ แต่หาไม่เจอจริงๆ แต่ว่าเฟยเฟยดีกับฉันมาก เขาแบ่งของเขามาให้ฉันใช้ ฉันก็เลยไม่ถูกแดดเผา”
“อืม” ยู่ฉือยี่ซูฟังแล้วก็พูดขึ้นเสียงเรียบว่า “ต่อไปถ้าคนอื่นตีกันเธออย่าวิ่งเข้าไปตามอำเภอใจอีก”
“แต่ว่าเฟยเฟยตีกับคนอื่นก็เพราะฉันนะคะ ฉันเห็นเขาถูกตีในใจก็รู้สึกอึดอัด ยังไงก็ต้องเข้าไปช่วย”
“แล้วเธอช่วยได้ไหมล่ะ ?”
“ไม่ค่ะ……”
“ไม่เพียงช่วยไม่ได้ แถมยังทำตัวเองบาดเจ็บอีก ถูกไหม ?”
ถางหยวนหยวนรู้สึกหมดความมั่นใจทันที พูดอะไรไม่ออก ทำได้แค่มุ่ยปากยืนอยู่ตรงนั้น ผ่านไปครู่หนึ่งถึงได้พูดออกมาอย่างน้อยใจว่า “ถึงจะบาดเจ็บ แต่ฉันก็เต็มใจค่ะ เฟยเฟยเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของฉัน ถึงแม้ฉันจะโดนรังแก แต่ฉันก็ทนเห็นเขาโดนรังแกไม่ได้”
“ครั้งหน้าเธอต้องไปเรียกคุณครู หรือจะตีงูก็ตีที่เจ็ดนิ้ว ตอนตบตีกันอีกฝ่ายกังวลอะไรเป็นที่สุด ? พวกเธอต่างก็ยังเป็นนักเรียนอยู่ เข้าใจไหม ?”
ตอนแรกถางหยวนหยวนก็คิดไม่ออก พอเข้าใจแล้วตาก็เป็นประกายขึ้นมาทันที “เข้าใจแล้วค่ะพี่ ครั้งหน้าหยวนหยวนจะทำแบบนั้น”
“ใช่แล้วพี่คะ พี่เอาอะไรมาให้ฉันเหรอ ?”
ยู่ฉือยี่ซูยื่นถุงไปให้เธอ “แม่ฉันบอกให้เอามาให้เธอ พวกของกินของใช้น่ะ เธอเอาเข้าไป กลางคืนห้ามเถลไถล มือถือถ้าไม่มีธุระก็อย่าใช้ ตั้งใจเรียนเข้า”
“โห ขอบคุณมากค่ะคุณน้ามู่จื่อ”
“เข้าไปเถอะ”
“อืม แล้วเจอกันค่ะพี่!”
จากนั้นยู่ฉือยี่ซูก็ทอดมองเงาของแผ่นหลังถางหยวนหยวนตลอดทาง จนเงาของเธอหายลับไป ถึงได้เตรียมจะจากไป
เพิ่งจะขึ้นรถบัส ยู่ฉือยี่ซูก็ได้สายที่โทรมาจากจงฉู่เฟิง
“โหพี่ซู ตอนนี้นายอยู่ไหน นายรีบกลับมาเลยนะ ผู้หญิงคนนั้นวันนี้ก็มาดักรอนายอีกแล้ว”
พอได้ยินแบบนั้น ยู่ฉือยี่ซูก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “คนไหน ?”
“ยังจะมีใครอีก ก็เวินจิ่งหรัวดอกไม้แห่งโรงเรียนคนนั้นไง เธอแต่งตัวสวยมาก ตอนนี้อยู่ในหอพัก บอกว่าจะมาชวนนายไปงานเลี้ยงวันเกิดเธอ”
“ไม่ไป บอกให้เธอไปซะ”
“โห พี่ซู พวกเราบอกให้เธอไป เธอไม่ยอมไปนี่นา ตอนนี้มาอยู่บนเตียงนายเนี่ย”
“……รอฉันกลับไป”
พอได้ยินว่าผู้หญิงคนนั้นขึ้นไปอยู่บนเตียงของตัวเอง แววตาของยู่ฉือยี่ซูก็มืดลงทันที
หลังจากวางสายไปแล้ว พอจงฉู่เฟิงหันไปก็พบว่าเวินจิ่งหรัวกำลังส่งยิ้มมาให้ตัวเอง “ขอบคุณที่นายช่วยโทรหาเขาให้ฉันนะ อีกเดี๋ยวเขาก็กลับมาแล้วใช่ไหม”
จงฉู่เฟิงเบ้ปาก “ฉันขอแนะนำให้เธอลงมาก่อนดีกว่านะ ยี่ซูเป็นพวกรักสะอาด เธอทำแบบนี้เหมือนถอนขนบนหัวเสือ ระวังโดนเขมือบนะ”