เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่1592 ถ่ายรูปคู่
บทที่1592 ถ่ายรูปคู่
บ้านพักในหมู่บ้านหิมะสวยมาก ล้วนแต่สร้างขึ้นมาแบบพิเศษ ด้านบนมีหิมะตกค้างไว้เป็นกอง ภายใต้หิมะขาวสะอาดบริสุทธิ์ บ้านพักแต่ละหลังมีลักษณะคล้ายๆกัน ด้านหน้าบ้านพักมีพลั่วกับไม้กวาดวางไว้ อีกทั้งยังมีโคมไฟแขวนไว้ด้วย
ถางหยวนหยวนของให้ยู่ฉือยี่ซูปล่อยเธอลงมา ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปหลายรูป ก่อนที่เธอจะเหมือนนึกอะไรออก จึงเงยหน้าขึ้นแล้วเอ่ยถามยู่ฉือยี่ซู
“พี่ชายคะ พวกเรายังไม่เคยถ่ายรูปคู่ด้วยกันเลย ขอถ่ายรูปด้วยได้ไหมคะ”
หลังจากได้ยินคำขอของถางหยวนหยวนยู่ฉือยี่ซูไม่เคยที่จะปฏิเสธอยู่แล้ว เขาจึงรีบพยักหน้าให้ “ได้สิ”
สมัยนี้ความสามารถของโทรศัพท์ครบครันมาก ดังนั้นถางหยวนหยวนจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเปิดกล้องหน้า “งั้นพี่ชายคะ พวกเราใช้เครื่องนี้ถ่ายนะคะ”
“อืม”
หลังจากที่เธอตั้งค่ากล้องเสร็จ ยู่ฉือยี่ซูก็โค้งตัวเข้าใกล้เธอ ถางหยวนหยวนที่เดิมทีคิดจะหามุมถ่ายรูปดีๆ ใครจะรู้ว่าหลังจากที่เขาก้มหน้าเข้ามา ภาพบรรยากาศด้านหลังจึงถูกบังไปจนหมด
มุมที่เธอหาอยู่ตั้งนานเปล่าประโยชน์ไปทันที
อีกทั้งหลังจากที่ยู่ฉือยี่ซูขยับเข้ามาใกล้ มือของถางหยวนหยวนก็เริ่มสั่นเล็กน้อย เธอกระพริบตาปริบๆ เธอมองใบหน้าที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์
พี่ชายหน้าตาหล่อเหลา ดวงตามีเสน่ห์น่าหลงใหล เหมือนที่ผู้หญิงพวกนั้นพูดกัน ในดวงตาของเขาเหมือนทะเลกว้าง พอมองมาที่เธอ ดวงตากับใบหน้าล้วนแต่กลมไปหมด ช่างแตกต่างกับพี่ชายลิบลับ
ทันใดนั้นเอง อารมณ์ของถางหยวนหยวนก็เริ่มไม่ดีเล็กน้อย
ในขณะที่เธอกำลังจะขยับโทรศัพท์ออก ยู่ฉือยี่ซูก็ยื่นมือออกไปกดที่ปุ่มถ่ายรูปบนหน้าจอ
รูปภาพจึงปรากฏขึ้นมาทันที
ถางหยวนหยวนตกตะลึงเล็กน้อย ถ่ายไปแล้วเหรอ เธอยังรู้สึกว่าตัวเองหน้าอ้วนมาก ไม่อยากถ่ายเลย
“ฉันจะถ่ายด้วย ขอถ่ายด้วยคน”
จงฉู่เฟิงที่เดินตามมาข้างหลังเห็นทั้งสองคนกำลังถ่ายรูปกันอยู่ จึงทิ้งกระเป๋าไว้ด้านข้าง แล้วเดินมาแทรกกลางระหว่างทั้งสองคน มือข้างหนึ่งจับข้อมือขาวเนียนของถางหยวนหยวนไว้
“น้องอ้วน ถ่ายรูปกับพี่ฉู่เฟิงบ้างสิครับ”
พอพูดเสร็จเขาก็รีบแย่งโทรศัพท์มาจากถางหยวนหยวน โดยไม่สนว่าเธอจะตอบตกลงหรือเปล่า “มามา พี่ฉู่เฟิงเป็นคนถือโทรศัพท์เอง มือของพี่ยาว ถ่ายรูปวิวด้านหลังมากกว่า”
หลังจากที่ถูกจงฉู่เฟิงแย่งโทรศัพท์ไป เขาก็กดถ่ายรูปคู่กับถางหยวนหยวนไปหลายรูป ตลอดเวลาที่ถ่ายรูปถางหยวนหยวนอยู่ในอาการงุนงง เพราะเธอยังไม่ทันได้ตั้งตัวเลย
หลังจากถ่ายรูปเสร็จ จงฉู่เฟิงก็กดเปิดอัลบั้มรูปภาพ พอเห็นว่าแต่ละรูปสีหน้าของถางหยวนหยวนอยู่ในอาการนิ่งอึ้ง ส่วนเขาทำสีหน้าแตกต่างกันทุกรูป
น่าสนุกจริงๆเลย
จงฉู่เฟิงคิดในใจ
แต่ว่าไม่เป็นไร ตอนนี้ได้ถ่ายรูปคู่ก็ไม่เลวแล้ว เขายิ้มกว้างแล้วหันไปมองทางถางหยวนหยวน “รูปพวกนี้ส่งมาให้พี่ฉู่เฟิงด้วยนะครับ”
“ได้ค่ะ”
ถางหยวนหยวนไม่รู้สึกว่าเรื่องแค่นี้จะมีปัญหาอะไร
หลังจากนั้นจงฉู่เฟิงก็ใช้โทรศัพท์ของเธอส่งรูปที่ถ่ายด้วยกันส่งเข้าไปในวีแชทของตัวเอง แล้วยื่นโทรศัพท์คืนให้เธอ
“ต้องเก็บรูปคู่ที่ถ่ายกับพี่ฉู่เฟิงไว้ด้วยนะครับ”
“อืม ได้ค่ะพี่ฉู่เฟิง”
ในขณะที่พวกเขากำลังถ่ายรูปกันอยู่อย่างสนุกสนาน อานเชี่ยนเพิ่งจะเดินมาถึง ก่อนหน้านี้เธอยังคิดอยู่เลยว่าจะเอารูปของถางหยวนหยวนส่งเข้าไปในกลุ่มเพื่อนวีแชท ตอนนี้ถือเป็นโอกาสของเธอแล้ว
เธอเดินหอบเข้าไปแล้วพูด “ฉันเองก็อยากจะถ่ายค่ะหยวนหยวน เรามาถ่ายรูปด้วยกันสักรูปนะ”
ถางหยวนหยวนที่กำลังจะตอบตกลง ยู่ฉือยี่ซูที่ยืนเงียบอยู่นานกลับเอ่ยพูดขึ้นมาซะก่อน “เข้าไปข้างในกันเถอะ ข้างนอกเริ่มมืดแล้ว เราเข้าไปดูห้องพักกันก่อน วันแรกไม่ต้องรีบร้อน”
จงฉู่เฟิงรีบให้ความร่วมมือ “ใช่แล้ว พวกเรามาเที่ยวกันแบบอิสระ ยังมีอีกหลายวันที่จะเที่ยวกับถ่ายรูป ผมเอากล้องมาด้วย ถ้ากระเป๋าถูกส่งมาถึง ตอนที่ออกไปเที่ยวเราใช้กล้องถ่ายรูปถ่าย ผลลัพธ์ที่ออกมาจะดีกว่า”
สุดท้ายคำขอของอานเชี่ยนก็ไม่ประสบความสำเร็จ
เธอจ้องมองแผ่นหลังของถางหยวนหยวนด้วยสายตาเคียดแค้น จงใจใช่ไหม ทำไมถ่ายรูปกับพวกเขาทั้งสองคน แต่พอถึงคราวเธอ ยู่ฉือยี่ซูกลับไม่ยอมให้เธอถ่ายรูปกับถางหยวนหยวน
หรือว่าเรื่องก่อนหน้านี้ยู่ฉือยี่ซูจะมองออกอย่างนั้นเหรอ
ไม่นะ เธอจะต้องหาโอกาสอธิบายกับยู่ฉือยี่ซูให้เข้าใจ
บ้านพักที่พวกเขาเลือกมีทั้งหมดสองชั้น ชั้นล่างเป็นห้องครัว ห้องน้ำและสถานที่กินข้าว ด้านบนเป็นห้องพัก
ห้องพักมีทั้งหมดสามห้อง ยู่ฉือยี่ซูกับจงฉู่เฟิงพักกันคนละห้อง ถางหยวนหยวนกับอานเชี่ยนพักห้องเดียวกัน
ก่อนหน้านี้อากาศด้านนอกหนาวจนตัวแข็ง หลังจากเข้าไปในบ้านพัก แขนขาถึงเริ่มกลับมาอุ่นเหมือนเดิม เจ้าของห้องพักยังยกน้ำซุปร้อนๆออกมาต้อนรับพวกเธออีกด้วย น้ำมันที่ลอยตัวขึ้นมาทำให้เธอรู้สึกเลี่ยน
“นี่คือน้ำซุปเนื้อแกะค่ะ ฤดูหนาวแบบนี้ดื่มแล้วจะทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น ตอนนี้ด้านนอกหิมะตกหนักมาก พวกคุณเดินมาถึงที่นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย รีบดื่มให้ร่างกายอบอุ่นก่อนเถอะค่ะ”
ถางหยวนหยวนที่ได้ยินว่าเป็นน้ำซุปเนื้อแกะ ดวงตาของเธอก็เป็นประกาย แล้วรีบยื่นมือออกไปรับ
“ขอบคุณค่ะคุณน้า”
เจ้าของบ้านพักเห็นถางหยวนหยวนที่ใบหน้าแดงก่ำ ดวงตากับใบหน้ากลม ที่ดูน่ารักมาก จึงยิ้มละไม ก่อนจะพูด “ไม่ต้องเกรงใจค่ะ รีบดื่มก่อนเถอะค่ะ”
สุดท้ายอานเชี่ยนก็ทนความหนาวเหน็บไม่ไหว จึงเดินเข้าไปรับน้ำซุปมาดื่ม
ตอนที่มือของเธอสัมผัสโดนมือของเจ้าของบ้านพัก เจ้าของบ้านพักก็ส่งเสียงออกมาอย่างตกใจ “ทำไมมือถึงได้เย็นแบบนี้คะ การเดินทางคงจะลำบากมากเลยสินะคะ”
หลังจากที่เจ้าของบ้านพักเห็นเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ จึงอดที่จะเอ่ยเตือนไม่ได้ “พวกคุณเด็กสาวนี่นะ มาสถานที่แบบนี้จะเอาแต่ห่วงสวยโดยไม่สนใจอากาศไม่ได้นะคะ ตอนนี้พวกคุณอายุยังน้อย ไม่รู้สึกอะไร ถ้าอายุมากขึ้น จะต้องเจ็บป่วยบ่อยๆแน่ๆ อีกอย่างเดิมทีร่างกายของผู้หญิงก็เป็นธาตุเย็นอยู่แล้ว จะต้องรักษาความอบอุ่นของร่างกายให้ดีนะคะ”
อานเชี่ยนที่กำลังดื่มน้ำซุปเนื้อแกะอยู่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่ชอบดื่มน้ำซุปเนื้อแกะตอนนี้รสชาติกลับดีมาก น้ำซุปร้อนกลายเป็นไอความร้อนเข้าไปในร่างกายของเธอ ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทันที
สักพักสีหน้าของเธอก็กลับมาแดงสุขภาพดีเหมือนก่อนหน้านี้
ส่วนถางหยวนหยวนที่ดื่มไปแล้วหนึ่งชาม เธออดที่จะเม้มปาก แล้วหันไปพูดกับเจ้าของบ้านพักด้วยสีหน้าเอียงอาย “คุณน้าคะ หนูขออีกชามได้ไหมคะ”
เจ้าของบ้านพักที่เพิ่งเคยเห็นเด็กสาวน่ารักอย่างถางหยวนหยวนเป็นครั้งแรก อีกทั้งน้ำเสียงที่เธอใช้เรียกตนเองก็น่ารักมากด้วย เธอจึงยิ้มกว้างพร้อมกับตอบรับคำขอของเธอ
“ได้สิจ๊ะ”
อานเชี่ยนที่ได้ยินกลับดูถูกอีกฝ่ายอยู่ในใจ
ของแบบนี้ดื่มให้ร่างกายอบอุ่นก็พอแล้ว แต่เธอกลับขอดื่มเพิ่มอีกหนึ่งชาม คนอ้วนก็คือคนอ้วน ขอแค่มีของกินก็หยุดปากไว้ไม่ได้ ไม่คิดถึงเรื่องแคลอรี่เลย
ผู้หญิงแบบนี้ ไม่มีทางผอมได้แน่นอน
ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ทำไมจงฉู่เฟิงถึงได้ชอบผู้หญิงแบบนี้ได้ ผู้หญิงหุ่นผอมเพรียวไม่ดีกว่าหรือไง
เธอแอบมองบนอย่างดูถูกไม่ได้ เธอดื่มน้ำซุปจนหมดชาม
เพราะถางหยวนหยวนเป็นที่ชื่นชอบมาก หลังจากที่เธอดื่มน้ำซุปเสร็จ เจ้าของบ้านพักก็นำขนมที่เธอเก็บสะสมไว้ออกมาให้เธอ
“สาวน้อย แค่เห็นก็รู้ว่าหนูเป็นคนเข้าใจคุณค่าของอาหาร พวกนี้เป็นขนมที่น้าเก็บสะสมไว้ ปกติจะไม่เอาออกมาต้อนรับแขกหรอกนะจ๊ะ วันนี้พวกเราถูกชะตากัน น้าถึงได้เอาออกมาให้หนูลองชิมดู”