เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่1595 เปลี่ยนแปลงตัวเอง
บทที่1595 เปลี่ยนแปลงตัวเอง
“ได้ครับ ไม่คุยด้วยก็ไม่คุยด้วย ไม่สนใจเธอก็พอแล้ว”
“พี่ฉู่เฟิงคะ ขาพี่ยังเจ็บอยู่ไหม” ถางหยวนหยวนมองไปที่หน้าขาของเขา “เมื่อตะกี้พี่ชนโดนขอบโต๊ะ”
“พี่ไม่เป็นไร” จงฉู่เฟิงกลั้นน้ำตาแล้วพูดยิ้มๆ “น้องไม่ร้องไห้พี่ก็ไม่เป็นไร จะให้ชนอีกกี่ครั้งพี่ก็ยอม”
พอพูดจบ เขาก็ยื่นมือออกไปเช็ดน้ำตาให้เธอ “อย่าร้องไห้เลยนะ หยวนหยวนของเราดวงตาน่ามองถึงขนาดนี้ ถ้าร้องไห้มากเกินไป แล้วไม่น่ามองขึ้นมาจะทำยังไง”
ดวงตาน่ามองอย่างนั้นเหรอ
ถางหยวนหยวนกัดริมฝีปากเบาๆ “ดวงตาของหนูน่ามองเหรอคะ”
“น่ามองสิครับ” จงฉู่เฟิงตอบอย่างรวดเร็ว “บนตัวน้องอ้วนของเรามีตรงไหนไม่น่ามองบ้าง น่ามองทุกที่เลย ดังนั้นอย่าไปฟังในสิ่งที่อานเชี่ยนพูดพวกนั้นเลยนะ”
“หนูไม่เป็นไรแล้วค่ะ” ถางหยวนหยวนรีบเช็ดน้ำตาทิ้ง แล้วเอ่ยพูด “พี่ฉู่เฟิงไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ เมื่อตะกี้หนูพูดกับน้องสาวพี่แรงไปเหมือนกัน ถึงแม้เธอจะพูดแรงไป แต่พอหนูคิดดูดีๆ ที่เธอพูดมามันก็ถูก หนูอ้วนมาก…”
“น้องไม่ได้อ้วนสักหน่อย”
เธอยังพูดไม่ทันจบ จงฉู่เฟิงก็พูดขัดขึ้นมาซะก่อน “ใครกล้าว่าน้องอ้วน ก็ถือว่าเป็นศัตรูกับพี่ ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใคร ในสายตาของพี่ หยวนหยวนรูปร่างกำลังดี”
ถางหยวนหยวนคิดไม่ถึงเลยว่าจงฉู่เฟิงจะอารมณ์รุนแรงถึงขนาดนี้ หลังจากตกตะลึงไปสักพัก เธอก็ก้มหน้าลง แล้วไม่พูดอะไรอีก จงฉู่เฟิงยื่นมือออกไปช่วยเธอจัดการผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงของเธอให้เป็นระเบียบ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “หยวนหยวน น้องอายุยังน้อย ขอแค่น้องอยากจะทำอะไร น้องก็ทำตามที่ใจเลย ทุกคนต่างก็มีความคิดของตัวเอง เสียงนินทาเหล่านั้นไม่ควรจะเอามาทำลายความรู้สึกของตัวเอง น้องก็คือน้อง โอเคไหมครับ”
“หนูเข้าใจแล้วค่ะ พี่ฉู่เฟิง”
“ทางฝั่งอานเชี่ยน เดี๋ยวพี่ไปจัดการเอง น้องไม่ต้องเป็นห่วง คืนนี้น้องพักผ่อนให้สบาย พรุ่งนี้เช้าก็ลืมทุกอย่างแล้ว”
หลังจากปลอบใจถางหยวนหยวนเรียบร้อย จงฉู่เฟิงก็เดินออกจากห้องไปทันที
ถางหยวนหยวนรู้สึกอบอุ่นใจมาก เพราะเขาดีกับเธอมาก นี่คงเป็นเพราะคนที่สร้างปัญหาเป็นน้องสาวของเขาล่ะมั้ง
ถ้าหากวันนี้เธอพูดผิด ยู่ฉือยี่ซูเองก็คงจะแก้ปัญหาให้เธอเหมือนกัน
ยู่ฉือยี่ซู……
พอนึกถึงเขา ถางหยวนหยวนจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาดูรูปนั้นอีกครั้ง
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ช่วงนี้อารมณ์ของเธออ่อนแอขึ้นเรื่อยๆ อีกอย่างเธอมักจะคิดอะไรที่ไม่ควรจะคิด ยกตัวอย่างเช่น ตอนที่เธอมองดูรูป เธอรู้สึกว่าคนอ้วนอย่างเธอ ไม่คู่ควรที่จะยืนอยู่ข้างพี่ชายเลย ข้างกายพี่ชายควรจะมีคนที่คู่ควรมากกว่านี้ ควรจะเป็นผู้หญิงที่สวย ไม่ใช่แบบเธอ ที่ทั้งอ้วน และไม่มีอะไรดีเลยแบบนี้
พอคิดถึงตรงนี้ ถางหยวนหยวนก็หลับตาลง หรือว่าเธอจะชอบ…
ไม่ เป็นไปไม่ได้
เธอจะมีความคิดแบบนี้ได้ยังไงกัน
ถางหยวนหยวนส่ายหน้าไปมา พยายามสะบัดความคิดบ้าๆออกไปจากสมอง พี่ชายดีกับเธอถึงขนาดนี้ เธอจะคิดอะไรเรื่อยเปื่อยแบบนี้ไม่ได้
เพื่อหยุดคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ถางหยวนหยวนจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาล็อกอินอีกบัญชี แล้วโพสต์ข้อความลงบนไทม์ ไลน์
เธอเขียนอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับพี่ชายอย่างเรียบง่าย แล้วเขียนอธิบายว่าช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง หลังจากนั้นก็ถามผู้อ่านทุกคน ว่าตัวเองควรจะตีตัวออกห่างจากพี่ชายคนนี้ดีไหม แล้วอาการแบบนี้ของเธอผิดปกติหรือเปล่า
หลังจากโพสต์ข้อความออกไป ถางหยวนหยวนก็จับโทรศัพท์แล้วเม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่ได้เขียนอย่างละเอียด ทุกคนคงจะไม่รู้ว่าเธอเป็นใครหรอกนะ
หรือว่า เธอควรจะลบโพสต์ทิ้งดี
ถางหยวนหยวนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง ตอนที่เธอคิดจะลบโพสต์ทิ้ง ถึงเห็นว่ามีคนมาแสดงความคิดเห็นเธอแล้ว “ยินดีกับเจ้าของโพสต์ด้วย คุณน่าจะชอบพี่ชายของคุณคนนี้ไปแล้ว มันไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร คุณเองก็บอกไปแล้ว ว่าพวกคุณแค่โตมาด้วยกัน ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด และไม่ได้มีพ่อคนเดียวกันด้วย มันผิดปกติตรงไหนกัน”
จริงด้วย เธอกับพี่ชายแค่โตมาด้วยกัน พี่ชายเองก็ดีกับเธอมาตลอด “เห็นด้วยกับข้อความข้างบน เราเองก็คิดว่าเจ้าของโพสต์ไม่มีปัญหา อีกอย่างจากที่อ่านมา พี่ชายที่พูดถึงก็โดดเด่นมาก ได้มีโอกาสโตมากับผู้ชายแบบนี้ คุณอดทนมาได้ยังไงกัน ถ้าหากเป็นเรา เราคงจะไม่ปล่อยโอกาสให้ผู้หญิงคนอื่นแน่นอน”
“เราเองก็คิดว่าคนในตระกูลของพี่ชายคนนี้คงจะเลี้ยงดูคุณแบบลูกสะใภ้แน่นอน ไม่อย่างนั้นคงจะไม่ดูแลเหมือนลูกสาวแท้ๆ ไม่แน่ว่าพี่ชายเองก็อาจจะคิดแบบเดียวกันก็ได้นะ”
ลูกสะใภ้อย่างนั้นเหรอ
พอเจอกับคำนี้ ถางหยวนหยวนก็หน้าแดงก่ำ เธอรีบพิมพ์ข้อความตอบกลับทันที
“ไม่ ไม่ใช่หรอก ที่คุณน้ากับพี่ชายดีกับเรา คงจะไม่มีความคิดอื่นแอบแฝงหรอก”
หลังจากนิ่งคิด เธอก็รีบอธิบาย “เรากับพี่ชายไม่ได้เป็นเหมือนที่ทุกคนคิดนะ เราเองก็ไม่ได้…ชอบพี่ชาย ทุกคนอย่าเข้าใจผิดนะ”
“ไม่มีจริงๆเหรอ ประโยคที่คุณเลือกใช้แสดงให้เห็นว่าคุณกำลังสับสนและลังเลใจมาก กลัวว่าทุกคนจะคิดว่าคุณผิดปกติ ก็เลยไม่กล้ายอมรับ จริงไหมคะ”
พอเห็นประโยคนี้ ถางหยวนหยวนรู้สึกเหมือนถูกแทงใจ เธอจึงไม่กล้ามองตรงๆ
“โธ่ นี่มันยุคสมัยไหนแล้ว คุณชอบก็เข้าไปจีบสิคะ เหมือนที่ข้อความด้านบน คนที่อยู่ใกล้มักจะมีโอกาสมากกว่าคนอื่น โอกาสที่ดีแบบนี้ อย่าปล่อยโอกาสให้คนอื่น ถ้าคุณปล่อยให้คนอื่นมีโอกาสแย่งไป คงจะน่าเสียดายน่าดูเลย”
ถางหยวนหยวนมองข้อความนั้นอยู่นานมาก สุดท้ายถึงได้ตอบกลับสั้นๆ
“แต่ว่า เราอ้วนมาก ไม่คู่ควรกับพี่ชายเลย”
หลังจากพิมพ์เสร็จ เธอก็รู้สึกไม่ถูก เธอจึงรีบกดลบทันที
เธอไม่ต้องคิดมากจะดีกว่า ข้อความในวันนี้เธอไม่ควรจะโพสต์ออกไปเลย
คนคนนั้นเหมือนจะออนไลน์อยู่ พอเห็นข้อความตอบกลับของเธอ จึงทิ้งข้อความไว้ให้เธอ
“เรากำลังจะตอบกลับข้อความของคุณอยู่เลย แต่กลับเห็นข้อความตอบกลับของคุณซะก่อนถูกลบไปซะก่อน คุณต้องมั่นใจในตัวเองบ้าง ที่คุณพูดมามันไม่ใช่ปัญหาเลย ถ้าหากคุณชอบเขาจริง คุณสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้”
เปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างนั้นเหรอ
เธอต้องผอมใช่ไหม
ถางหยวนหยวนไม่เคยคิดถึงปัญหานี้มาก่อน เมื่อก่อนสิ่งที่เธอคิดเป็นเรื่องแรกหลังจากตื่นนอนก็คือจะกินอะไรดี เธอคิดไม่ถึงเลยว่าจะมีวันหนึ่งที่เธอจะต้อง…ลดหุ่น
“คิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองยากมาก แต่มันขึ้นอยู่ที่คุณจะอยากทำหรือเปล่า ถ้าหากคุณชอบเขาจริงๆ ก็จะมีความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เราไม่คิดว่าคุณจะผิดปกติ แต่ถ้าหากตอนนี้คุณไม่มีความมั่นใจ งั้นคุณก็เปลี่ยนแปลงตัวเองให้มีความมั่นใจในตัวเองที่จะไปชอบเขาได้ แล้วตามจีบเขาตรงๆ แบบนี้คุณจะได้ไม่เกิดความไม่มั่นใจในตัวเองอีก จริงไหม”
คำพูดนี้ พูดเจาะใจของถางหยวนหยวนพอดี
ถ้าหากก่อนหน้านี้เธอไม่ยอมรับ งั้นตอนนี้ความคิดของเธอก็คงจะยิ่งสับสน เธอหนีความจริงไปไม่พ้นแล้ว ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมา เธอจะไม่มีความรู้สึกดีๆกับเขาได้ยังไงกัน