เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่16 ถึงเวลาที่ตกลงกันไว้แล้ว
- Home
- เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก…
- บทที่16 ถึงเวลาที่ตกลงกันไว้แล้ว
เสิ่นเฉียวตอนนี้ยังไม่อยากกลับตระกูลเย่ เธอเอ้อระเหยอยู่กับหานเส่โยวจนถึงค่ำกว่าจะกลับไป
ระหว่างทางเธอก็ยังคิด พอถึงแล้วเธอจะรีบอาบน้ำก่อน หลังจากนั้นจะรีบเข้าไปขดตัวนอนในผ้าห่ม พอปิดไฟปุ๊บ เย่โม่เซินก็คงไม่น่าจะลากเธอออกมาจากผ้าห่มหรอก
แต่ว่าเสิ่นเฉียวคิดไม่ถึงว่าเย่โม่เซินจะกลับถึงก่อนเธอแล้ว
เมื่อเข้าประตูไป เย่โม่เซินก็เพิ่งจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ เซียวซู่ยืนอยู่ด้านหลังเขาใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมให้เขาอยู่ พอเห็นว่าเสิ่นเฉียวกลับมาแล้ว เขาก็แค่ชำเลืองมองครู่หนึ่งก่อนที่จะละสายตาไป
ไม่สนใจไยดีเธอทั้งสิ้น
เป็นอย่างนี้ก็ดี เสิ่นเฉียวคิดอยู่ในใจ จากนั้นก็หันไปเดินไปที่มุมมุมหนึ่ง เธอหาเสื้อผ้าที่จะเปลี่ยนและเข้าไปยังห้องอาบน้ำ
เสิ่นเฉียวเข้าไปตั้งนานแล้วก็ยังไม่ออกมาจากห้องอาบน้ำสักที เธอกลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับเย่โม่เซิน
ก๊อกก๊อก—
ขณะที่เสิ่นเฉียวกำลังครุ่นคิด ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงอันเย็นชาของเย่โม่เซินดังมาจากที่ข้างนอก
“ห้องน้ำเป็นของเธอรึไง จะหดหัวอยู่ในนั้นอีกนานแค่ไหนห๊ะ”
พอได้ยิน เสิ่นเฉียวก็ตกใจ เกือบทำเอาเธอสะดุดล้ม โชคดีที่ได้กำแพงเกาะช่วยเอาไว้
“เดี๋ยวออกไปแล้ว” เสิ่นเฉียวรีบปิดฉากกั้นห้องน้ำ รีบเอาผ้าเช็ดตัวเช็ดตัวให้แห้งอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็รีบใส่เสื้อผ้า
เธออยากจะหดหัวเหมือนเป็นเต่าเสียจริง แต่ว่าเย่โม่เซินไม่ยอม ดังนั้นตอนที่ออกมา ผมของเสิ่นเฉียวยังเปียกอยู่ ยุ่งเหยิงประอยู่บนบ่า น้ำที่ด้านบนแทรกซึมลงไปยังเสื้อผ้า ทำให้เสื้อผ้าที่เธอสวมอยู่นั้นเปียกปอนไปด้วยน้ำ
“คุณ คุณจะเข้ารึเปล่า ฉันเข้าเสร็จแล้ว”
พูดจบเสิ่นเฉียวก็ค่อยๆเดินไปรอบๆเขาอย่างระแวดระวัง
พรึบ!
ขณะที่เดินผ่านเขาอยู่นั้น อยู่ๆเย่โม่เซินก็คว้าจับข้อมือเธอเอาไว้
ดวงตาอันสวยงามของเสิ่นเฉียวเบิกโต เธอลดสายตาจับจ้องไปที่มือของเขา ก่อนจะพูดติดอ่างอย่างประหม่า “ทะ ทะ ทำอะไรน่ะ”
“อา” มีอีกข้างหนึ่งของเย่โม่เซินหมุนรถเข็น หันไปทางเธอ “ระยะเวลาที่ตกลงกันมาถึงแล้ว ผู้หญิงสองผัว”
เสียงเขานิ่งๆ แต่เปี่ยมไปด้วยความเย็นชา
ดวงตาลุ่มลึกเหมือนกลางดึก อันตรายเหมือนสัตว์ป่ากำลังจ้องจะตะครุบเหยื่อ
เสิ่นเฉียวโกหกไม่เก่ง ดังนั้นเธอจึงไม่กล้าที่จะสบตาเขา เธอเบือนหน้าหนี พร้อมกับพูดเบาๆว่า “ฉันรู้ ฉันไปเอาเด็กออกเรียบร้อยแล้ว”
ใช่สิ
เธอมันโง่
คิดหาวิธีอะไรดีๆไม่ออกทั้งนั้น
เธอไม่รู้ว่าจะพูดจาโน้มน้าวเย่โม่เซินให้ยอมรับเด็กคนนี้ได้ยังไง
เพราะว่าที่มาที่ไปของเด็กคนนี้ ขนาดตัวเธอเองก็ยังไม่รู้ เธอรู้แต่ว่าลูกอยู่ในท้องของเธอ เป็นชีวิตหนึ่งที่ได้เชื่อมโยงกับเธอก่อตัวขึ้นมา
ถ้าหากว่าเธอมักง่ายและละทิ้งเขา นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอเป็นฆาตกรอย่างนั้นหรือ
“จริงเรอะ” เย่โม่เซินเสียงแข็ง โทนเสียงสูงขึ้นเล็กน้อย
ขนตาเสิ่นเฉียวสั่นเครืออยู่บ้าง เสียงอ่อนลง “ฉันฉันฉันฉัน ฉันทำแล้วจริงๆ”
พอพูดจบ เสิ่นเฉียวบิดมือทั้งคู่ที่ถูกเขาจับอยู่นั้นเพื่อหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกจากกระเป๋าและยื่นให้เขาดู “นี่เป็นใบรับรองการทำแท้ง คุณลองดูสิ”
เย่โม่เซินไม่ได้รับเอาไป
มีลมหายใจอันไม่สงบนิ่งอยู่ในชั้นบรรยากาศ
หัวสมองของเสิ่นเฉียวเริ่มเฉี่อยชา ผมที่ยังไม่ได้เช็ดให้แห้งของเธอยังคงทำน้ำไหลหยดลงมาติ๋งติ๋ง
“เป็นความจริง” เสิ่นเฉียวพูดย้ำอีกครั้ง แต่น้ำเสียงนั้นฟังดูไม่มีความมั่นใจเลยสักนิด
เย่โม่เซินหัวเราะอย่างเย็นชา จากนั้นเขาหยิบใบรับรองจากมือเธอขึ้นมา “ใครกันมันช่างใจกล้า แม้กระทั่งปลอมแปลงเอกสารให้คุณได้ ใบรับรองปลอมๆใบหนึ่ง คิดจะมาหลอกผมเย่โม่เซินอย่างนั้นรึ”
ใบรับรองการทำแท้งถูกกำจนยับยู่ยี่ ก่อนจะโยนไปที่ปลายเท้าของเสิ่นเฉียว
เสิ่นเฉียวเงยหน้าขึ้นมองอย่างตกตะลึง ร่างเธอสั่นรัว ริมฝีปากก็พลอยขาวซีดและสั่นไปด้วย “คุณ…”
แรงบีบที่ข้อมือถูกเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน เสิ่นเฉียวรู้สึกว่าข้อมือของตัวเองเจ็บจนแทบจะขาดออกจากกัน เธอขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวดในแววตา แต่กลับกัดริมฝีปากแน่น ไม่ยอมส่งเสียงอันใด
“เหอะ ผมเดาเอาไว้แต่แรกแล้วว่าผู้หญิงอย่างคุณมันไม่ซื่อสัตย์” เย่โม่เซินออกแรงบีบ ลากเธอเข้าไปในอ้อมแขน ไม่ให้โอกาสเธอได้ต่อสู้ขัดขืน ก่อนจะวางถุงใบเล็กๆลงในมือของเธอ
เสิ่นเฉียวก้มหน้าลง เธอเห็นว่าในถุงมียาเม็ดสีขาวอยู่หนึ่งเม็ด
สิ่งที่เธอคิดอยู่นั้น ทำให้สีหน้าเธอถึงกับขาวซีด ทั้งสองมือพยายามที่จะปัดยานั้นทิ้งไป แต่กลับถูกเย่โม่เซินกำเอาไว้แน่น
“ผมเย่โม่เซิน สิ่งที่ผมเกลียดที่สุดในชีวิตก็คือผู้หญิงอย่างคุณ เห็นแก่ตัวแต่กลับยังแสร้งทำเป็นบริสุทธิ์เดียงสามาทำลายครอบครัวของคนอื่น ทำร้านลูกของคนอื่นโดยการแต่งงานเข้ามา มีวัตถุประสงค์อันไม่บริสุทธิ์ ยังคิดที่จะอยู่อย่างสงบสุขอีกอย่างนั้นเรอะ”
เขาเปิดอ้าปากถุงด้วยตัวเอง รอยยิ้มกลับกลายเปลี่ยนเป็นความชั่วร้ายและกระหายเลือด
“อยากอยู่ตระกูลเย่ต่อไม่ใช่รึยังไง ถ้างั้นก็ว่าง่ายๆ กลืนยานี้ลงไปซะ ผมจะยอมให้คุณอยู่ที่นี่ต่อในฐานะคุณนายน้อย”
ไม่ต้องคิด เสิ่นเฉียวรู้ว่านั่นคือยาอะไร สีหน้าเธอเปลี่ยนเป็นซีดขาว ร่างน้อยๆสั่นสะเทือนอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างดุดันของเขา
“ไม่ ฉันไม่ต้องการ! เย่โม่เซิน คุณเชื่อฉันเถอะนะ ใบรับรองนั้นไม่ใช่ของปลอม ฉันเอาเด็กออกไปแล้ว คุณเชื่อฉัน เชื่อฉันสิ”
สายตาเย่โม่เซินเยือกเย็นไม่มีความอ่อนโยนใดๆ นิ้วเรียวจับขากรรไกรของเธอไว้ได้อย่างง่ายดาย บังคับให้เธอเปิดริมฝีปาก อีกมือหนึ่งก็พยายามสอดยาเม็ดเข้าไปในปากเธออย่างไม่ลดละ
กระบวนการทั้งหมดเสิ่นเฉียวล้วนแต่ขัดขืน แต่ว่าพละกำลังชายหนุ่มและหญิงสาวนั้นแตกต่างกันมากเหลือเกิน เธอเคลื่อนไหวไม่ได้ภายใต้การควบคุมของเย่โม่เซิน ได้แต่เห็นต่อหน้าต่อตาว่าเขาเอายายัดเข้าใส่ในปากของตัวเอง
กลิ่นแปลกๆของยาเม็ดละลายกระจายอยู่ทั่วลิ้น ความขมนั้นทำให้จิตใจของเสิ่นเฉียวหดหู่ กระเพาะอาหารเริ่มการทำงาน
“ปล่อยฉัน…”
“กลืนลงไปซะ” เย่โม่เซินกดเธออย่างโหดร้ายไร้ความเมตตา พยายามที่จะผลักเม็ดยาเข้าไปในปากของเธอ สีหน้าท่าทางนั้น เหมือนซากศพที่ฟื้นคืนชีพ กระทำเรื่องราวอย่างไร้อารมณ์ใดๆทั้งสิ้น
ในที่สุด เสิ่นเฉียวก็กลั้นเอาไว้ไม่ไหวส่งเสียงอาเจียนออกมาจากลำคอเสียงหนึ่ง
เย่โม่เซินขมวดคิ้วขึ้น
เมื่อเห็นทีท่าว่าเธอกำลังจะอาเจียน เย่โม่เซินจึงปล่อยมือออก
วินาทีต่อมา เสิ่นเฉียวเป็นเหมือนลูกศรเด้งออกจากคันธนู วิ่งพุ่งตัวหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
เย่โม่เซินเห็นร่างน้อยๆพุ่งตรงเข้าไปในห้องอาบน้ำ ปีนขึ้นอ้วกลงในอ่างล้างหน้า สีหน้ากลายสีเขียวจางๆ ความโมโหในแววตาก็เพิ่มขึ้น
เสิ่นเฉียวบีบถึงอ่างล้างหน้าก็อ้วกออกมาเล็กน้อย รสขมในปากจากเม็ดยาไม่ได้จางหายไปไหน ยังคงติดอยู่กับต่อมรับรสของเธออยู่อย่างไม่ขาดสาย ทำให้เธออ้วกแล้วก็อ้วกอีก
แต่ว่าที่เคราะห์ดีก็คือ ยานั้นก็ถูกเธออาเจียนออกมาด้วย ไม่ได้ทานเข้าไป
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน เสิ่นเฉียวถึงได้กลับมาสู่สภาพเดิมได้ แต่ร่างกายนั้นก็อ่อนระโหยโรยแรง เธอฝืนพยายามทำความสะอาดห้องน้ำให้หมดจด ก่อนที่ร่างกายจะล้าจนต้องนั่งนิ่งอยู่กับที่
ก็ชัดๆว่าเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ แต่ว่าหน้าผากและคอกลับเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อท่วม
ปวดท้องมาก…
เสิ่นเฉียวเผลอกุมท้องน้อยของตัวเองด้วยสัญชาตญาณ
เธอจำได้ว่า ยานั้นได้อ้วกออกมาแล้ว แต่ทำไมถึงเจ็บท้องได้ล่ะ เป็นไปได้ไหมว่าหลงทานเข้าไปนิดหน่อยแล้วมันมีผลกระทบอะไรต่อเด็ก
เมื่อคิดถึงตรงนี้ สายตาของเสิ่นเฉียวก็เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
สีหน้าเธอขาวซีดเหมือนผีลุกขึ้นและเดินออกจากห้องน้ำ มือกุมน้อยและเดินโซซัดโซเซออกไปข้างนอก
เย่โม่เซินเผยอริมฝีปากอันเรียวบาง “จะไปไหน”
เสิ่นเฉียวไม่ตอบ ได้แต่เดินออกไปดื้ออย่างนั้น
“หยุดอยู่ตรงนั้น!” เย่โม่เซินตะโกนขึ้น แต่ก็ไม่สามารถหยุดเสิ่นเฉียวเอาไว้ได้ ร่างน้อยๆหยุดอยู่กับที่อยู่ครู่หนึ่ง แต่หลังจากนั้นเธอก็ล้มตึงลงไปข้างๆ