เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่1605 ไม่ใช่พี่น้อง
บทที่1605 ไม่ใช่พี่น้อง
“คำโกหกพวกนี้แกหลอกคนอื่นเขาได้ คิดอยากจะหลอกฉันไปฝึกอีกหลายๆปีเถอะ จะพูดความจริงออกมามั้ย?”
ตอนที่จางเสี่ยวลู่โหดขึ้นมานั้นมันสุดยอดจริงๆ เธอเอาปากกาที่อยู่ข้างๆมาด้ามนึง “ถ้าแกไม่บอกความจริงออกมาอีกล่ะก็ เชื่อมั้ยว่าฉันจะแทงหน้าแกให้เป็นรูหลายๆรูเลย?”
ได้ยินอย่างนั้น ในดวงตาของเมิ่งเข่อเฟยก็ปรากฏความหวาดผวาออกมา “เธอกล้า?”
“แกคิดว่าฉันกล้าหรือเปล่าล่ะ?”
เธอหยิบปากกาขึ้นมาแล้วค่อยๆเอามาใกล้กับเมิ่งเข่อเฟย หยวนเย่าหันที่อยู่ข้างๆเห็นภาพเหตุการณ์นี้ก็ตื่นตกใจขึ้นมาเล็กน้อย ยื่นมือออกไปขวางเธอเอาไว้
“อย่าเอาที่หน้าเลยดีกว่ามั้ย ให้คนอื่นเห็นเข้า…”
“แล้วจะยังไง ถ้าไม่ทำที่หน้าเกรงว่ามันจะไม่หลาบจำน่ะสิ”
จางเสี่ยวลู่ยกยิ้มเย็นออกมา “ฉันจะให้โอกาสแกเป็นครั้งสุดท้าย แกจะพูดไม่พูด? ไม่พูดล่ะก็ หน้าของแกวันนี้ก็คงจะมีแผลเอานะ ถึงตอนนั้นแล้วจะน่าเกลียดจนไม่มีใครมอง จะไม่ดีเอานะ”
เมิ่งเข่อเฟยเห็นสายตาของเธอไม่ได้มีความคิดที่จะล้อเล่นอยู่เลยสักนิด ถ้าตนไม่พูดจริงๆ เกรงว่าเธอจะเอาปากกามาแทงบนหน้าเธอจริงๆแน่
เธอไม่รู้ว่าทำไมบนโลกนี้ถึงได้มีคนที่เลวทรามอย่างนี้อยู่ได้ ทำไมถึงเอาแต่จ้องเธออยู่ได้ ทำไมถึงมีแต่เธอที่ถูกรังแกอยู่ได้
เมิ่งเข่อเฟยเกลียดมาก เกลียดมาก แต่เธอทำอะไรไม่ได้
เธอกัดฟันกรอด จำต้องเอ่ยออกไป “ฉันพูด ฉันพูดแล้ว”
“พูด”
“เธอมีคนที่ชอบ ก็เลยอยากเปลี่ยนให้ดีขึ้น ก็เลยลดความอ้วน”
ถึงตรงนี้แล้ว เมิ่งเข่อเฟยก็ยังไม่พูดเรื่องที่ว่าถางหยวนหยวนชอบใครออกไป แต่อย่างน้อยเธอก็ได้บอกเหตุผลออกไปแล้ว จากเดิมคิดว่าทำอย่างนี้ไปจางเสี่ยวลู่กับหยวนเย่าหันก็จะปล่อยเธอไป แต่กลับไม่เป็นอย่างนั้น
จางเสี่ยวลู่ตอนแรกก็มีอาการแปลกใจเล็กน้อย แต่คำตอบนี้มันก็น่าเชื่อถือกว่าเมื่อก่อนหน้านี้เยอะเลย
“ยัยอ้วนก็มีคนที่ชอบด้วย เย่าหันแกได้ยินมั้ย?”
หยวนเย่าหันยิ้มอย่างดูถูกเหยียดหยามออกมา “ฉันก็ว่าทำไมจู่ๆถึงอยากลดความอ้วนขึ้นมา ที่แท้ก็มีความรักนี่เอง อย่างหล่อนอย่างนี้แล้ว ถึงแม้ว่าจะลดความอ้วนไปแล้วก็ไม่สวยขึ้นมาหรอกมั้ง?”
จางเสี่ยวลู่ทิ้งปากกาลงข้างๆ ตบแก้มเมิ่งเข่อเฟยไป “ก็รีบบอกมาตั้งแต่แรกสิ แค่นี้เธอก็พูดไม่ออก แกเห็นหล่อนเป็นเพื่อนสนิทจริงเหรอ?”
จากนั้นจางเสี่ยวลู่ก็คลายมือออก ในที่สุดเมิ่งเข่อเฟยก็ได้กลับมาเป็นอิสระ เธอฟุบลงกับโต๊ะหอบหายใจเฮือกใหญ่ หน้าเจ็บจนแทบจะชาไปหมด ไม่รู้เหมือนกันว่าบาดเจ็บจนมีสภาพเป็นยังไง
เดี๋ยวเธอจะต้องไปห้องพยาบาลดูสักหน่อย
โชคดีที่พวกเธอไม่ได้ซักไซ้เข้าไปถึงแกน ไม่อย่างนั้นแล้วเธอคงปิดเอาไว้ไม่ได้
จางเสี่ยวลู่หลังจากที่ได้คำตอบที่ตัวเองต้องการมา ก็สบสายตาเข้ากับหยวนเย่าหันอย่างพึงพอใจ จากนั้นก็เตรียมที่จะออกไป
แต่ก่อนที่จะออกไป จู่ๆจางเสี่ยวลู่ก็นึกอะไรขึ้นมาได้อีกครั้ง หยุดฝีเท้าลงอย่างฉับพลัน
ฝีเท้าของเธอหยุดลง การเต้นของหัวใจของเมิ่งเข่อเฟยแทบจะหยุดลง
เธอคงไม่ถามออกมาอีกล่ะมั้ง? เมิ่งเข่อเฟยแทบจะสามารถจินตนาการได้เลยทีเดียว ถ้าจางเสี่ยวลู่กับหยวนเย่าหันทั้งสองคนนี้รู้ว่าถางหยวนหยวนกับยู่ฉือยี่ซูไม่ใช่พี่น้องแท้ๆกัน จะมีปฏิกิริยายังไงออกมา
จะกลัวก็แต่ว่าถึงตอนนั้นแล้วคนที่ถูกรังแกจะเป็นถางหยวนหยวนนี่สิ
ดังนั้นแล้วคำพูดที่สามารถไม่พูดออกไปได้ เธอก็ไม่อยากจะพูดออกไป
อย่าหันมา อย่าหันกลับมานะ
เมิ่งเข่อเฟยภาวนาอยู่ในใจ
แต่พระเจ้ากลับไม่ได้ยินคำขอในใจของเธอเลย
จางเสี่ยวลู่หันกลับมา อีกทั้งยังหรี่ตาลงอย่างร้ายกาจออกมาด้วย เธอมองจ้องมายังเมิ่งเข่อเฟย
“ไม่สิ ถ้าแค่คำตอบที่มันง่ายดายอย่างนี้แล้ว ทำไมแกถึงไม่ยอมตอบมาตั้งแต่แรก?”
ชอบคนคนหนึ่งมันมีปัญหาอะไร มีอะไรให้ต้องปกปิดนัก นอกเสียจากว่าเมิ่งเข่อเฟยจะอยากปิดบังคนที่ถางหยวนหยวนชอบคนนี้
“เป็นใคร?”
“มีอะไรเหรอ?” หยวนเย่าหันนั้นไม่ได้มีการตอบสนองออกมา แต่เห็นสายตาจริงจังของจางเสี่ยวลู่แล้วก็รู้สึกทะแม่งๆขึ้นมา แต่ภายในใจไม่ว่าจะยังไงก็คิดไม่ออก ทำได้เพียงถามเธอออกไปเอง
จางเสี่ยวลู่ยกยิ้มเย็นออกมา
“มีอะไร คำนี้ควรจะถามมันมากกว่า!”
จางเสี่ยวลู่คว้าผมของเมิ่งเข่อเฟยขึ้นมาอีกครั้ง “คนที่หล่อนชอบ คือใคร?”
เมิ่งเข่อเฟยนึกไม่ถึงว่าจางเสี่ยวลู่จะไม่ได้โง่ สามารถนึกโยงกันได้รวดเร็วขนาดนี้ อีกอย่างเธอคงจะคาดเดาได้แล้ว เธอเอ่ยออกมาด้วยความโมโห “เธอจะถามฉันทำไม? ในใจของเธอก็เดาได้อยู่แล้วไม่ใช่หรือไง?”
เธอโดนมากพอแล้ว!
เมิ่งเข่อเฟยสลัดออกจากเงื้อมมือของเธอ ใช้โอกาสนั้นเอาข้าวของที่อยู่บนโต๊ะกวาดลงไปบนพื้น
“เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับฉัน? ในเมื่อเธอก็ฉลาดเสียขนาดนี้ ก็เดาเอาเองสิ อย่ามาถามฉันอีก!”
นึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมรับออกมาเร็วขนาดนี้ จางเสี่ยวลู่ถลึงตาออกมาอย่างไม่อยากที่จะเชื่อ
“นี่มันจริงเหรอ?”
หยวนเย่าหัน “ตกลงมันมีอะไรกัน? อะไรที่ว่าจริงไม่จริงกัน พวกเธอกำลังคุยอะไรกันอยู่กันแน่?”
จางเสี่ยวลู่กลับเข้าไปดึงคอปกเสื้อของเมิ่งเข่อเฟยเอาไว้
“พวกเขาไม่ใช่พี่น้องกันเหรอ?”
ได้ยินคำว่าพี่น้องคำนี้ หยวนเย่าหันเองก็พอจะเดาออกขึ้นมาบ้างแล้ว ใบหน้าเผยสีหน้าประหลาดใจออกมา ทั้งตื่นตะลึงและทั้งตกใจออกมา แต่ก็ไม่กล้าที่จะเชื่อออกมาอีก
ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ไปได้…
“พี่น้อง?” เมิ่งเข่อเฟยหัวเราะเสียงเย็นออกมา “หยวนหยวนเรียกเขาว่าพี่ชาย เขาไม่เห็นจะเรียกเธอว่าน้องสาว จะเป็นพี่น้องไปได้ยังไง?”
จางเสี่ยวลู่ไม่ได้พูดต่อออกมา ยังไม่อยากที่จะเชื่อนัก
“แกหลอกฉัน!”
“พวกเขาจะไม่ใช่พี่น้องกันได้ยังไง?”
“เธออยากจะเชื่อหรือไม่ ถึงยังไงสิ่งที่เธออยากรู้เธอก็คาดเดาได้แล้ว ก็อย่ามาก่อกวนฉันเพื่อถามเรื่องพวกนี้อีก ฉันก็แค่อยากตั้งใจเรียนให้ดี เรื่องพวกนี้มันไม่เกี่ยวกับฉัน!”
เมิ่งเข่อเฟยปัดมือของจางเสี่ยวลู่ออกไป จากนั้นก็หยิบกระเป๋าตัวเองขึ้นมา เตรียมที่จะเดินออกไป
“เมิ่งเข่อเฟย!”
จางเสี่ยวลู่เรียกเธอเอาไว้ น้ำเสียงเยือกเย็น “นึกไม่ถึงเลยนะว่าแกเองก็สุดยอดเหมือนกันนะเนี่ย”
ได้ยินอย่างนั้น สีหน้าของเมิ่งเข่อเฟยก็เปลี่ยนไป ไม่ได้พูดตอบออกไป
“ถางหยวนหยวนคงไม่รู้ว่าตัวเองถูกเพื่อนรักขายเอาเสียแล้วล่ะมั้ง? ยัยอ้วนนั่นอย่างกับคนโง่ คงยังคิดว่าเพื่อนรักของหล่อนจะรักษาความลับให้หล่อน”
คำพูดนี้ได้ทำเอาเมิ่งเข่อเฟยได้หันหน้ากลับไปอย่างทนไม่ไหวแล้ว
“ฉันไม่อยากจะรักษาความลับให้เธองั้นเหรอ? เป็นเธอ เธอที่เอาแต่บีบบังคับฉัน!” เมิ่งเข่อเฟยชี้ไปทางจางเสี่ยวลู่ “จางเสี่ยวลู่ เธอคิดว่าฉันจะไม่ตอบโต้ใช่มั้ย? ฉันบอกเธอเอาไว้ หมาจนตรอกมันจะทำอะไรก็ได้ หลังจากนี้อย่ามาหาฉันอีก ไม่อย่างนั้นแล้วฉันจะสู้กับเธอจนตัวตาย ถึงยังไงฉันมันก็คนตัวเปล่า มันไม่มีอะไรจะกลัวแล้วหรอกนะ?”
“ฉันถามแกหน่อย พวกเขาไม่ใช่พี่น้องกัน ทำไมถึงเรียกพี่ชาย?”
แต่เมิ่งเข่อเฟยกลับไม่ได้ตอบคำถามเธออีก ได้หันหลังเดินออกไปทันที
ที่ตรงนั้นเหลือเพียงจางเสี่ยวลู่กับหยวนเย่าหันสองคน
นานกว่าหยวนเย่าหันจะหาเสียงตัวเองเจอ
“ที่พวกเธอคุยกันเมื่อกี้คงจะไม่ใช่เรื่องหยวนหยวนกับพี่ชายของหล่อนหรอกมั้งใช่มั้ย?”
“นอกจากยู่ฉือยี่ซู เธอคิดว่าจะยังมีใครอีก?”
“พวกเขา?”
“พวกเขาไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ”
“แล้วพวกเขาเป็นอะไรกัน? อีกอย่าง เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่พวกเขาไม่ได้เป็นพี่น้องกัน ทำไมจู่ๆก็มาที่เรื่องนี้ได้…”
พูดถึงตรงนี้แล้ว จู่ๆในหัวของเธอหยวนเย่าหันก็มีความคิดหนึ่งแวบเข้ามา “หรือว่าคนที่ถางหยวนหยวนชอบจะเป็น?”
“อย่างที่เธอคิดนั่นแหละ” จางเสี่ยวลู่เดินเข้ามาจากข้างๆร่างของเธอ หยวนเย่าหันหันกลับไปทันที “เธอจะไปไหน?”
“ถางหยวนหยวนหลอกพวกเรา จะไปถามเธอให้มันรู้ดำรู้แดงไปเลย”
หยวนเย่าหันนิ่งค้างอยู่นาน กว่าจะมีการตอบสนองออกมา จึงรีบเดินตามเข้าไปอย่างรีบร้อน
ถางหยวนหยวนในตอนนี้กำลังตักข้าวกับชามผักใบเขียวหาที่นั่งนั่งอยู่ที่โรงอาหาร