เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่1606 รู้ความจริง
บทที่1606 รู้ความจริง
เธอเหมือนจะไม่ได้กินเนื้ออะไรเท่าไหร่นักมาเป็นเวลานานแล้ว ช่างคิดถึงวันวานที่ได้กินเนื้ออย่างเมื่อก่อนสุดๆ
ถางหยวนหยวนเพิ่งจะกินไปได้ไม่กี่คำ เก้าอี้ข้างๆก็ถูกดึงออก จากนั้นก็มีคนนั่งลง
เธอเงยหน้าขึ้นก็เห็นรูมเมททั้งสองคนของเธออย่างหยวนเย่าหันกับจางเสี่ยวลู่
“เอ๊ะ เย่าหันเสี่ยวลู่ พวกเธอก็มากินข้าวกันเหรอ?”
ถางหยวนหยวนยังนึกว่ามื้อนี้จะต้องกินเองคนเดียวแล้ว ก็เลยเหงาสุดๆ แต่ตอนนี้ถ้ามีรูมเมทสองคนมาอยู่ด้วย อย่างนั้นมันก็จะได้ครึกครื้นขึ้นมาสักหน่อย
สีหน้าของจางเสี่ยวลู่ดูไม่ดีนัก แต่ก็กลัวว่าเมิ่งเข่อเฟยจะหลอกเธอ เธอก็เลยอดทนไม่ได้แสดงโทสะออกไป ตัดสินใจว่าจะลองถามถางหยวนหยวนก่อน จัดการเรื่องมันให้ชัดเจนก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที
ถึงแม้ว่าคนเขาจะไม่ได้เป็นพี่น้องกันจริงๆ แล้วมันจะยังไง ขอเพียงแค่ถางหยวนหยวนไม่ได้คิดจะมาแย่งเขากับเธอก็พอแล้ว
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามที่จะให้ตัวเองเผยสีหน้ายิ้มแย้มออกไป
“พวกเรากินกันแล้ว”
“กินแล้ว?” ถางหยวนหยวนหลุดสีหน้าผิดหวังออกมา “งั้นพวกเธอ…”
“พวกเรามา ก็เพื่อจะถามเธอเรื่องหนึ่ง”
“เรื่องอะไรเหรอ?” ถางหยวนหยวนถามออกไปอย่างไม่รู้เรื่องราว
“เธอลดความอ้วนครั้งนี้ เป็นเพราะอะไรกัน? เมื่อก่อนไม่ใช่ว่ายังดีๆอยู่เลยไม่ใช่เหรอ ทำไมจู่ๆถึงลดความอ้วนขึ้นมาล่ะ?”
คำถามของจางเสี่ยวลู่ทำให้ถางหยวนหยวนรู้สึกลำบากใจขึ้นมาเล็กน้อย เธอไม่นึกเลยว่าอีกฝ่ายจะถามคำถามนี้ออกมา คิดอยู่นานกว่าจะตอบออกไป “ฉันคิดว่าตัวเองอ้วนเกินไปแล้ว ก็เลยอยากลดสักหน่อยน่ะ”
“แต่เมื่อก่อนเธอไม่เห็นจะคิดอย่างนี้เลยไม่ใช่เหรอ? ทำไมจู่ๆถึงได้คิดว่าตัวเองอ้วนขึ้นมาล่ะ?”
พูดมาถึงตรงจุดนี้ ถางหยวนหยวนก็นิ่งเงียบ
“ทำไมเธอไม่พูด?” จางเสี่ยวลู่ตบโต๊ะไปด้วยอาการเร่งรัดจะเอาคำตอบ หรือว่าเธอจะเป็นอย่างที่เมิ่งเข่อเฟยพูดมาจริงๆ ชอบยู่ฉือยี่ซูงั้นเหรอ? แค่ยัยอ้วนคนนึงคิดจะมาแย่งผู้ชายกับเธอ?
การเร่งเร้าจนเกินไปของเธอทำเอาถางหยวนหยวนไม่ค่อยจะเข้าใจเท่าไหร่นัก แต่ก็ยังเอ่ยพูดอธิบายออกไป “ตอนไปเที่ยวฉลองปีใหม่ ถูกคนรังเกียจเอาน่ะ”
“ถูกคนรังเกียจ?” หยวนเย่าหันหรี่ตาลง “ทำไมถึงรังเกียจเธอล่ะ?”
“หมายความว่าไง หรือว่าเธอถูกคนรังเกียจมาก็เลยอยากลดความอ้วน? ไม่ใช่เพราะสาเหตุอื่น?”
สาเหตุอื่นมันก็มี สาเหตุที่มากกว่านั้นก็คือเพราะพี่ชาย แต่เธอก็ไม่คิดที่จะเอาความคิดนี้บอกกับทั้งสองคนไป ถึงแม้ว่าจะรู้จักกัน และยังเป็นรูมเมทกัน แต่ถางหยวนหยวนก็ไม่ได้เป็นเพื่อนสนิทกับพวกเธอทั้งสองคน
นี่จัดว่าเป็นความลับของเธอ เธอบอกแล้วว่าจะบอกแค่เมิ่งเข่อเฟยกับแม่แค่สองคน ไม่มีทางบอกคนอื่นอีกแล้ว
เธอก็เลยส่ายหน้าออกไป “ไม่ใช่”
จางเสี่ยวลู่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกไปดีขึ้นมาทันที นึกไม่ถึงว่าถางหยวนหยวนจะปฏิเสธ
“งั้นที่ฉันได้ยินคนอื่นเขาพูดกันว่า เธอกับพี่ชายของเธอไม่ใช่พี่น้องกันแท้ๆ เป็นความจริงเหรอ?”
ถางหยวนหยวนพยักหน้าออกมาอย่างไม่มีความลังเลใดๆ
“ใช่แล้ว เดิมทีพวกเราก็ไม่ได้เป็นพี่น้องแท้ๆกันหรอก”
“เธอว่าไงนะ?”
จางเสี่ยวลู่ลุกขึ้นยืนทันที มองเธอไปด้วยอาการขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “ในเมื่อพวกเธอก็ไม่ได้เป็นพี่น้องกันแท้ๆ แล้วทำไมต้องโกหกฉันด้วยว่าเขาเป็นพี่ชายเธอ?”
ได้ยินอย่างนั้น ถางหยวนหยวนมีแววตาสับสนออกมา
“ฉันโตมากับเขาตั้งแต่เด็ก ก็เรียกเขาว่าพี่ชายมาตลอด”
“แล้วทำไมเธอถึงไม่บอกว่าเธอกับเขาไม่ใช่พี่น้องแท้ๆกันล่ะ?”
“พวกเธอไม่เคยถามฉันนี่”
เธอมีความจำเป็นต้องอธิบายออกไปด้วยเหรอ? เธอคิดว่านี่มันเหมือนจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยนี่
คำถามนี้ทำเอาจางเสี่ยวลู่กับหยวนเย่าหันไม่รู้ว่าจะตอบออกไปยังไงขึ้นมาทันที เพราะว่าพวกเธอนึกไม่ถึงว่าเธอจะพูดออกมาได้อย่างกับว่ามันไม่มีอะไรออกมาได้ คนที่เรียกพี่ชายมาตั้งแต่เด็ก คนเขาถามว่านั่นใช่พี่ชายเธอหรือเปล่า นั่นก็จะต้องบอกว่าใช่อยู่แล้วสิ
เธอไม่ได้ถามอย่างอื่นอีก หรือว่าคนอื่นเขาจะยังต้องเป็นฝ่ายบอกเธอไปเองว่าไม่ใช่พี่น้องแท้ๆกันงั้นเหรอ? มีสิทธิ์อะไรกัน?
มันไม่ได้ผิด แต่ก่อนหน้านี้จางเสี่ยวลู่ถูกหลอกมา ในเวลานี้อารมณ์ก็ได้ดำดิ่งลงอย่างมาก
“ทำไมจู่ๆพวกเธอถึงมาถามเรื่องนี้กัน ฉันจะเป็นพี่น้องแท้ๆกับเขาหรือเปล่า เรื่องนี้มันสำคัญมากเหรอ?”
จางเสี่ยวลู่คิดอยู่สักพักนึง ตัดสินใจว่าจะไม่ถามเธอว่าทำไมถึงลดความอ้วนแล้ว และก็ได้เอ่ยยิ้มๆออกไป “สำคัญอยู่แล้ว เมื่อก่อนฉันคิดว่าเธอเป็นพี่น้องแท้ๆกับเขา จึงเข้าใจผิดไป เดิมทีฉันก็ยังอยากจะเป็นพี่สะใภ้ของเธอเลย ในเมื่อพวกเธอไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ งั้นก็ดูเหมือนว่าการที่จะเกี่ยวดองกันนี้ของพวกเราคงจะทำไม่ได้เสียแล้ว”
“พี่ พี่สะใภ้?”
ถางหยวนหยวนตกใจกับคำเรียกนี้ แสดงสีหน้างงงวยออกมา “พี่สะใภ้อะไรกัน?”
“ก็แค่พวกเราทั้งสองคนน่ะหลงรักพี่ชายของเธอตั้งแต่แรกพบ เมื่อก่อนคิดว่าเธอเป็นน้องสาวของเขา ตอนนี้ถ้าไม่ใช่ล่ะก็ งั้นต่อจากนี้ไปก็ไม่มีความสัมพันธ์แบบญาติพี่น้องกันแล้วน่ะสิ”
ถางหยวนหยวนพอจะจับประเด็นขึ้นมาได้เสียที
จางเสี่ยวลู่กับหยวนเย่าหันต่างก็ชอบพี่ชายของเธอกัน…
ทำไมถึงได้เป็นอย่างนี้ไปได้?
“พวกเธอพูดจริงเหรอ?”
“เธอไม่เชื่อเหรอ?” จางเสี่ยวลู่ยิ้มออกมาเล็กน้อย “พวกเราสองคนจริงใจกันทั้งนั้น แต่ใครจะได้รับความชอบจากพี่ชายของเธอมาก็ไม่รู้ เมื่อก่อนคิดว่าเธอเป็นน้องสาวก็เลยอยากให้เธอช่วยพวกเราสองคนได้จับคู่สักหน่อย แต่ตอนนี้รู้ว่าพวกเธอไม่ใช่พี่น้องกันแท้ๆ ไม่รู้ว่าเธอจะยอมช่วยพวกเราอยู่อีกหรือเปล่า?”
“ฉัน…”
ถางหยวนหยวนไม่รู้ว่าจะพูดออกไปต่อยังไง ถ้าปฏิเสธอีกฝ่ายออกไปจะเสียใจกันหรือเปล่า?
แต่ถ้าไม่ปฏิเสธออกไป จะให้เธอเอาพี่ชายให้ผู้หญิงคนอื่นไปอย่างนี้งั้นเหรอ? เธออยากลดความอ้วน ก็เพื่อให้ผอมลงก่อนพี่ชายจะหาแฟนได้ ถ้าเธอพาผู้หญิงทั้งสองคนนี้ไปแนะนำให้พี่ชายล่ะก็ แล้วเธอจะลดความอ้วนอะไรอีกล่ะ?
“หยวนหยวน ร้ายดียังไงพวกเราก็เป็นรูมเมทกัน เธอคงจะไม่แล้งน้ำใจกันหรอกมั้ง? ก็แค่ช่วยพวกเราส่งของขวัญหน่อยเท่านั้นเอง”
“ส่งของขวัญ”
“ใช่แล้ว ฉันกับเย่าหันต่างก็ได้เตรียมของขวัญให้พี่ชายเธอกัน เธอก็ช่วยพวกเราส่งไปให้หน่อยก็ได้ ไม่ต้องทำอะไรอื่นหรอก”
ถ้าเพียงแค่ส่งของขวัญ เหมือนจะไม่มีอะไรล่ะมั้ง? ยังไงตอนนั้นเธอก็ไม่พูดอะไรไปก็ได้
คิดไปคิดมา ถางหยวนหยวนก็ไม่ได้ปฏิเสธคำขอของทั้งสองคน พยักหน้าออกไปอย่างน่ารัก
“งั้นก็ได้ ฉันช่วยส่งให้พวกเธอก็ได้”
“ดีจังเลย ฉันก็รู้อยู่แล้วว่าหยวนหยวนเธอน่ะใช้ได้เลย งั้นพวกเราก็ไปเลือกของขวัญกันดีกว่า อีกสักพักเธอก็ช่วยพวกเราไปส่งของขวัญให้เขาด้วยนะ”
“ได้สิ”
สุดท้ายถางหยวนหยวนก็ตอบรับไปอยู่ดี หยวนเย่าหันกับจางเสี่ยวลู่จึงเดินออกไปอย่างพึงพอใจ
ต่อจากนั้นเอง ถางหยวนหยวนก็ได้รู้สึกว่าอาหารเย็นวันนี้มันไม่อร่อยแล้ว หลังจากที่เธอกินเข้าไปเพียงไม่กี่คำก็ไม่มีความอยากอาหารอะไรอีก จึงไม่ได้กินต่อ
เธอไม่เข้าใจเลยจริงๆ ทำไมอยู่ดีๆหยวนเย่าหันกับจางเสี่ยวลู่ถึงได้มาถามเรื่องที่ว่าใช่พี่น้องแท้ๆกันหรือเปล่า
กลางคืนก็ยังต้องออกไปเดินเล่น ดังนั้นแล้วหลังจากที่ถางหยวนหยวนเดินไปหลายรอบแล้วก็ได้กลับหอพักไป ตอนที่มาถึงหอ เมิ่งเข่อเฟยก็ได้หลับไปแล้ว
เพราะว่าเมิ่งเข่อเฟยนอนอยู่ชั้นบน ตอนที่ถางหยวนหยวนเข้าไป จางเสี่ยวลู่ก็ได้จงใจพูดประโยคหนึ่งออกมา
“เข่อเฟยไปห้องสมุดทุกวันก็เลยเหนื่อยมาก กลับมาล้างหน้าแปรงฟันเสร็จก็นอนไปเลย บอกพวกเราให้บอกกับเธอหน่อยว่าอย่าปลุกเธอ”
“อ้อ ได้” ถางหยวนหยวนก็ไม่ได้สงสัยอะไรอื่นอีก รีบพยักหน้ากลับไปอาบน้ำแปรงฟันทันที
จางเสี่ยวลู่เหลือบมองเมิ่งเข่อเฟยที่อยู่ข้างบนไปเล็กน้อย จงใจขึ้นเสียงสูงเอ่ยออกไปกับถางหยวนหยวน “หยวนหยวน พี่ชายเธอเขาชอบอะไรเหรอ? ฉันกับเย่าหันไม่รู้ว่าจะให้อะไรเขาดี เธอให้คำแนะนำพวกเราหน่อยสิ”
เมิ่งเข่อเฟยที่อยู่ข้างบนไม่ได้มีการเคลื่อนไหวอะไรเลยแม้แต่น้อย จางเสี่ยวลู่จึงพูดต่อออกมาอีกว่า “อย่างเช่นว่าปกติแล้วเขาชอบอะไรมากหน่อย พวกเธอโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก คงจะรู้สักหน่อยล่ะมั้ง?”