เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่1618 ไม่ไปแน่นอน
บทที่1618 ไม่ไปแน่นอน
ถางหยวนหยวนไม่อยากไป และไม่อยากทำอะไรที่ขัดใจตัวเอง
เธอตั้งใจครุ่นคิดและส่ายหน้า
“ฉันไม่อยากไปอยู่ดี”
จางเสี่ยวลู่กับหยวนเย่าหัน?สบตากัน ไม่รู้ว่าถางหยวนหยวนเป็นอะไรกันแน่ แต่สีหน้าจางเสี่ยวลู่เปลี่ยนไปทันที ถ้าถางหยวนหยวนไม่ทำตามใจเธออีก งั้นพวกเธอจะทำดีกับถางหยวนหยวนอีกทำไม?
“ทำไมล่ะหยวนหยวน?” หยวนเย่าหันไม่ใช่คนโมโหร้าย น่าจะอยากได้โอกาสนี้มาก ดังนั้นจึงลองพยายามดูอีกครั้ง
“หยวนหยวน ฉันตั้งใจเชิญเธอไปงานวันเกิดฉัน เหตุผลที่เธอไม่อยากไปคืออะไรล่ะ? บอกฉันได้ไหม?”
ถางหยวนหยวนเม้มปาก ไม่ยอมพูด
จางเสี่ยวลู่กอดอกหรี่ตามองเธอ “มีอะไรเธอก็พูดกันตรงๆได้นะ อย่าอ้ำอึ้งเลย”
คำพูดนี้ทำเอาถางหยวนหยวนแทบระเบิด เธอเงยหน้าขึ้นมาทันที
“ฉันอ้ำอึ้งตรงนี้ คนที่เป็นแบบนั้นคือพวกเธอไม่ใช่หรือไง?”
เมิ่งเข่อเฟยไม่ได้ไปห้องสมุด เธอตั้งใจเดินด้านนอกหลายรอบ รอเวลาสักพัก แน่ใจว่าพักใหญ่แล้ว เมิ่งเข่อเฟยถึงเดินขึ้นบันได ใครจะรู้ว่าพอมาถึงหน้าประตูก็ได้ยินเสียงของถางหยวนหยวน
เสียงดังมาก เมิ่งเข่อเฟยตรงใจหมด
ให้ตายสิ หรือว่าทะเลาะกันแล้ว?
เมิ่งเข่อเฟยอยากจะเปิดประตูเข้าไปทันที แต่ก็นึกอะไรขึ้นได้ เธอหยุดชะงัก ยืนอยู่อย่างนั้นไม่ขยับ ค่อยฟังเสียงด้านในดีกว่า
“พวกเราอ้ำอึ้งงั้นเหรอ?” จางเสี่ยวลู่ยิ้มมองถางหยวนหยวน “พวกเราอ้ำอึ้งยังไง? เธอว่ามาสิ”
“ฉันไม่อยากจะพูดหรอกนะ แต่พวกเราบังคับฉันเองนะ งั้นก็ได้” ถางหยวนหยวนชี้ไปที่หน้าประตู “ก่อนหน้านี้ฉันกลับมา แต่ยังไม่ได้เข้ามา พวกเธอรู้ไหมว่าทำไม?”
ได้ยินแล้ว จางเสี่ยวลู่กับหยวนเย่าหันสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย พอนึกอะไรขึ้นได้ แต่สองฝ่ายก็ไม่ได้พูดอะไร ยังคงมีความหวังสุดท้ายอยู่
ถางหยวนหยวนหัวเราะ
“คำพูดของพวกเธอ ฉันได้ยินหมดแล้ว บอกว่าวันเกิดอยากให้ฉันไป ที่จริงไม่ใช่ฉันหรอก แต่เป็นพี่ชายฉันต่างหาก ใช่ไหมล่ะ?”
หยวนเย่าหัน “หยวนหยวน เธอ……”
“ไม่ต้องไม่ยอมรับหรอกนะ ฉันได้ยินเองเต็มสองหู ได้ยินชัดเจนด้วยว่าเป็นเสียงพวกเธอสองคน” เธอสูดหายใจฝืดใหญ่ ก็ถึงใจเย็นลง
“ถ้าพวกเธอรังเกียจฉัน ฉันไม่โกรธหรอกนะ ยังไงก็ไม่มีใครที่จะสมบูรณ์แบบหรอก แต่ในเมื่อพวกเธอเกลียดฉัน ก็ไม่ควรหลอกใช้ฉัน พูดดีกับฉัน ฉันเลิกเรียนแล้วก็ไปส่งของขวัญให้พวกเธอ แม้ฉันจะไม่ชอบที่พวกเธอส่งของขวัญให้พี่ชาย แต่ในเมื่อเป็นเพื่อนร่วมหอ คำขอของพวกเธอฉันก็ช่วยได้เสมอ”
พูดถึงสุดท้าย ถางหยวนหยวนก็ก้มหน้าลง “ฉันคิดว่า พวกเธอคิดว่าฉันเป็นเพื่อนเสียอีก”
ไม่คิดว่าจะหลอกใช้กันแบบนี้
ถางหยวนหยวนนึกอะไรขึ้นได้ โลกของผู้ใหญ่วุ่นวายจัง อยากจะกลับไปในช่วงประถมมัธยมต้น มีความสุขทุกอย่าง คนรอบข้างไม่มีใครว่าเธออ้วน ไม่มีใครว่าเธอขี้เหร่ หลอกใช้เธอ
“นี่ก็เป็นเรื่องที่เธอบอกว่าอ้ำอึ้งงั้นเหรอ?” จางเสี่ยวลู่รู้สึกไม่พอใจกับที่เธอพูดมา เข้าไปบีบคางเธอไว้ยกหน้าเธอขึ้นมาพูดว่า “ถางหยวนหยวน เธอเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า? พวกเราไม่ได้พูดต่อหน้าเธอ ก็เพื่อไม่อยากให้เธออึดอัด พวกเราเป็นห่วงความรู้สึกเธอแบบนี้ เธอยังกล้าว่าพวกเราอ้ำอึ้งอีกงั้นเหรอ? ถ้าไม่ใช่เพราะพี่ชายเธอ เธอคิดว่าพวกเราจะเป็นห่วงความรู้สึกเธองั้นเหรอ?”
ได้ยินดังนั้น ถางหยวนหยวนก็มองค้อนเธออย่างไม่อยากจะเชื่อ
ไม่คิดว่าอีกฝ่ายพูดเรื่องน่าไร้ยางอายแบบนี้
จางเสี่ยวลู่ตบหน้าถางหยวนหยวน
“ในเมื่อเธอได้ยินแล้ว งั้นก็ดีเลย ต่อไปพวกเราจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงความรู้สึกเธออีก ตอนวันเกิด เธอต้องมา ไม่อยากก็ต้องมา”
ถางหยวนหยวนพูดอย่างโมโห “เธอพูดแบบนี้ได้ยังไง? เธอไม่มีสิทธิมาสั่งฉันนะ ฉันไม่มีทางไปหรอก!”
“เมิ่งเข่อเฟยรู้ใช่ไหม?” จางเสี่ยวลู่แสยะยิ้ม สายตาดุดัน “แม่ของเธอทำงานอยู่ที่โรงงานสิ่งทอของอาฉันพอดี ถ้าเธอไม่ไปละก็ เธอรู้ผลลัพธ์ดีนะ”
ถางหยวนหยวนไม่คิดว่าเธอจะเอาเมิ่งเข่อเฟยมาขู่ตัวเอง “พวกเธออยากทำอะไร? เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับเฟยเฟย? พวกเธอมีอะไรก็ทำฉันคนเดียวนี่?”
“ใครใช้ให้เธอเป็นคุณหนูตระกูลถางล่ะ? พวกเราทำอะไรเธอไม่ได้ ก็ทำคนอื่นแทนแล้วกัน ทำคนอื่นละก็ พวกเธอก็จะทำอะไรคืนไม่ได้” จางเสี่ยวลู่หัวเราะเสียงดัง “ดังนั้นเธอลองคิดให้ดีๆนะ วันเกิดวันนั้นเธอจะมาหรือไม่มา จะช่วยพวกฉันเรียกพี่ชายเธอไหม?”
เมิ่งเข่อเฟยที่อยู่ด้านนอกได้ยินแบบนี้ ก็อยากจะเปิดประตูเข้าไป เธอกัดปากแน่นอย่างโมโห ไม่คิดว่าผู้หญิงสองคนนั้นจะกล้าข่มขู่หยวนหยวน
หยวนหยวนจะตกลงไหมนะ?
เมิ่งเข่อเฟยกลั้นหายใจ
“ฉันไม่ตกลงพวกเธอหรอกนะ” ถางหยวนหยวนกัดปาก ยังคงยึดมั่นกับความคิดตัวเองอยู่
ได้ยินถึงตรงนี้แล้ว เมิ่งเข่อเฟยก็รู้สึกใจหายวูบ
มือที่ไว้บนประตูก็ตกฮวบลงมาช้าๆ เมิ่งเข่อเฟยก้มหน้าลง ครึ่งหน้าของเธอพรางอยู่ในความมืด
ที่แท้นี่ก็คือเพื่อนที่ดีงั้นเหรอ ได้ยินว่าแม่ของเธออาจจะถูกไล่ออก เธอก็ยังไม่รู้สึกอะไร
ใช่สิ คุณหนูตระกูลถาง จะรู้จักความยากจนได้ยังไง ก็แค่ไล่ออก สำหรับเธอแล้วมันไม่มีความหมายอะไรเลย
ตอนแรกเมิ่งเข่อเฟยยังรู้สึกผิดที่พูดเรื่องหยวนหยวนกับยู่ฉือยี่ซูไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆ ตอนนี้ดูแล้ว เธอไม่ต้องรู้สึกผิดแล้วสินะ
นึกถึงตรงนี้ เมิ่งเข่อเฟยกลับหลังหันเดินออกไปอีกครั้ง
ภายในหอพัก จางเสี่ยวลู่กลับหัวเราะพูดว่า “ครอบครัวเพื่อนสนิทของเธอกำลังจะถูกไล่ออกก็ยังไม่รู้สึกอะไรงั้นเหรอ? พวกเธอเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันจริงๆเลยนะ?”
“พวกเราเป็นเพื่อนสนิทกัน และฉันก็ยังพูดไม่จบ เหตุผลที่ฉันไม่ตกลงพวกเธอก็เพราะ เธอไม่มีโอกาสได้ไล่แม่ของเฟยเฟยออกหรอกนะ ถ้าเธอทำแบบนี้ละก็ ฉันจะเอาเรื่องนี้บอกกับพี่ชายให้หมดเลย ต่อไปโอกาสที่พวกเธอจะได้เข้าใกล้พี่ชายฉันก็จะไม่มีอีก อีกอย่าง บริษัทตระกูลฉันก็ไม่กลัวใครน้ามู่จื่อเป็นภรรยาของประธานบริษัทตระกูลเย่ ลุงเย่ก็ต้องช่วยฉันเหมือนกัน ฉันโทรหานักข่าวให้มาสัมภาษณ์นักเรียนอย่างพวกเธอได้ ดูสิว่าใครจะสู้ได้มากกว่ากัน!”
รอยยิ้มบนใบหน้าจางเสี่ยวลู่หายไปทันที
หยวนเย่าหันตกใจอย่างมาก ไม่คิดว่าถางหยวนหยวนจะคิดแบบนี้ได้
ที่จริงพวกเธอประเมินถางหยวนหยวนต่ำไป
ถางหยวนหยวนในเมื่อก่อนไร้เดียงสา แต่ไม่ได้โง่ เธอไม่ยุ่งกับเรื่องภายนอก ไม่ได้แปลว่าเธอไม่รู้เรื่อง
พอความโหดร้ายมาอยู่ตรงหน้า เรื่องทุกอย่างก็จะดูสมจริงขึ้น เธอก็ไม่ต้องคอยอีกต่อไป
“ดังนั้น ถ้าพวกเธออยากทำละก็ ก็ปล่อยมาเลย ไม่ว่าจะเป็นแม่ของเฟยเฟย พวกเธอจะทำไม่ได้”
ทันใดนั้น ถางหยวนหยวนก็นึกอะไรขึ้นได้ “ใช่สิ ช่วงก่อนที่เฟยเฟยบาดเจ็บ เป็นเพราะพวกเธอใช่ไหม?”