เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - บทที่1619 จะไม่ให้เธอถูกทำร้าย
- Home
- เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก…
- บทที่1619 จะไม่ให้เธอถูกทำร้าย
บทที่1619 จะไม่ให้เธอถูกทำร้าย
ถางหยวนหยวนพูดถึงเมิ่งเข่อเฟย พูดตามความจริง ถ้าก่อนหน้านี้ละก็ ทั้งสองปฏิเสธก็ได้
แต่ตอนนี้ความจริงอยู่ตรงหน้าแล้ว สองฝ่ายต่างเผยใบหน้าที่แท้จริงแล้ว งั้นก็คงไม่เป็นไรที่จะแตกหักกันมากกว่านี้
ดังนั้นจางเสี่ยวลู่ยอมรับตามตรง
“พวกฉันทำแล้วยังไง? หล่อนอดทนไว้เอง เธอคงไม่ได้อยากมาไล่ตามตอนนี้หรอกนะ?”
ถางหยวนหยวนแค่เดาเท่านั้น ไม่คิดว่าจะเป็นพวกเธอจริงๆ
ตอนแรกก็เกลียดพวกเธออยู่แล้ว ครั้งนี้ถางหยวนหยวนยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่
“ใครใช้ให้หล่อนอยู่กับเธอตลอดเวลาล่ะ? ไม่ดูหน่อยว่าตัวเองเหมาะเป็นเพื่อนเธอหรือเปล่า ยังกล้าพูดเรื่องไม่ดีของพวกฉันตรงหน้าเธออีก ดังนั้นฉันก็จัดการหล่อน ให้รู้ซะบ้างใครเป็นใคร แต่ยัยนั่นก็เชื่อฟังมาก โดนไปแค่ครั้งเดียวก็เชื่อฟังแล้ว”
“พวกเธอทำเกินไปจริงๆ!” ถางหยวนหยวนกำหมัดแน่น พุ่งไปตบหน้าจางเสี่ยวลู่ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอตบหน้าคนอื่น
จางเสี่ยวลู่ไม่คิดว่าถางหยวนหยวนที่ไร้เดียงสาจะตบคนได้ ดังนั้นจึงโดยตบหน้าเข้าอย่างจังโดยไม่ทันตั้งตัว
ภายในห้องเงียบกริบ
หยวนเย่าหันไม่คิดว่าถางหยวนหยวนจะลงมือ จางเสี่ยวลู่เป็นคนนิสัยดื้อรั้น และยังพูดจาไม่มีหูรูด พอโดนตบแบบนี้คงมีเรื่องให้ทะเลาะกันทั้งคืนแล้วล่ะ
แต่เธอไม่คิดเลยว่า จางเสี่ยวลู่กลับหัวเราะแทน
ก้าวเข้าไปผลักถางหยวนหยวนล้มลงบนเตียง และพูดเสียงดุว่า “เธอใส่อารมณ์อะไร? พูดกับเธอเรื่องนี้ เธอก็จะได้เห็นธาตุแท้ของหล่อนไง? ยังเพื่อนสนิทอีก เพื่อนกันพอโดนคนอื่นข่มขู่ ก็รีบออกห่างจากเธอทันที แล้วยังไม่บอกอะไรเธออีก นี่นับว่าเป็นเพื่อนสนิทประสาอะไรกัน?”
ถางหยวนหยวน“……”
“หรือว่าช่วงนี้เธอไม่ได้สังเกตหรือไง หล่อนตั้งใจหลบหน้าเธอ ออกห่างเธอน่ะ? นี่ก็คือเพื่อนสนิทเธอเหรอ เธอยังอยากช่วยหล่อนอีก? หล่อนล่ะ? ช่วยเธอไหม?”
“แน่นอน” ถางหยวนหยวนพูดอย่างเด็ดเดี่ยว “พวกเธอข่มขู่เฟยเฟยก่อน หล่อนบาดเจ็บไม่ได้พูดอะไรกับฉันเลยก็เป็นฝีมือพวกเธอ ยังอยากจะเก็บงำไว้คนเดียว ไม่อยากรบกวนฉัน!”
เธอยังจำได้ดีตอนที่เมิ่งเข่อเฟยบาดเจ็บจนสลบไป ตอนไปโรงพยาบาลหมอยังบอกว่าสถานการณ์อันตรายมาก ที่แท้ก็เป็นฝีมือของจางเสี่ยวลู่กับหยวนเย่าหันนี่เอง
และเมิ่งเข่อเฟยกลับไม่พูดอะไรเลย ช่วงนี้ยังออกห่างจากตัวเองอีก
แล้วยังไงล่ะ เธอเข้าใจเมิ่งเข่อเฟยดี!
“เธอพูดซะเลิศหรูเลยนะ แล้วถ้าฉันบอกว่า เป็นหล่อนเองที่บอกกับพวกฉันว่า เธอกับยู่ฉือยี่ซูไม่ใช่พี่น้องจริงๆ และเธอยังชอบพี่ชายอีก เธอจะยังคิดแบบนี้อยู่ไหม?”
ได้ยินดังนี้ ถางหยวนหยวนอึ้งไปทันที
“ตกใจมากใช่ไหมล่ะ? เพื่อนที่เธอคิดว่าดี กลับบอกเรื่องของเธอกับพวกเราอยู่ตลอดเวลา”
ถางหยวนหยวนจำได้ว่า ตัวเองเคยบอกเรื่องนี้กับเมิ่งเข่อเฟยอย่างเขินอาย และยังบอกว่าอย่าบอกกับใคร นี่เป็นความลับระหว่างพวกเธอ
เมิ่งเข่อเฟยยังตกลงกับเธอเลย
คิดไม่ถึงเลย…….
ไม่สิ เฟยเฟยไม่ใช่คนแบบนั้น
“พวกเธอใช้วิธีอะไรหรือเปล่า? บังคับเธอจนไม่มีทางอื่น สุดท้ายเลยต้องพูดน่ะ?”
“ก็ต้องแบบนั้นอยู่แล้ว คนในช่วงที่สิ้นหวัง อย่าว่าแต่พูดเลย ถึงจะใช้ให้เธอทำเรื่องที่ไม่เคยทำมาก่อน เธอก็อาจจะทำก็ได้”
ถางหยวนหยวนไม่ได้พูดอะไร
“สันดานยังไงก็เป็นอย่างนั้น สำหรับตบวันนี้จำไว้ด้วยล่ะ ถ้าเธอคิดออกแล้วละก็ พวกเราอาจจะยังเป็นเพื่อนร่วมหอกันได้ ทุกคนตรงๆกันหน่อย ถ้ายังคิดไม่ได้ งั้นก็อยู่กับเพื่อนจอมปลอมของเธอต่อไปแล้วกัน”
ถางหยวนหยวนไม่สนใจอีกฝ่ายต่อไป
เธอมองไปประตู แต่เฟยเฟยบอกว่าจะไปเอาของที่ห้องสมุด ทำไมตอนนี้ยังไม่กลับมาล่ะ? หรือว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างทางหรือเปล่า?
นึกถึงตรงนี้ ถางหยวนหยวนก็ลุกขึ้นอยากออกไปดู
พอเธอออกจากห้องแล้ว หยวนเย่าหันมองรอยฝ่ามือบนใบหน้าของจางเสี่ยวลู่ “เธอไม่โกรธเหรอ? ถางหยวนหยวนตบเธอขนาดนี้น่ะ”
“โกรธสิ โกรธมากด้วย” จางเสี่ยวลู่โกรธจนกัดฟันกรอด “แต่พวกเราจะทำอะไรได้ล่ะ? ตระกูลพวกเราเทียบกับของหล่อนไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าฉันตบคืน หล่อนโกรธขึ้นมา ถึงตอนนั้นใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
“น่าจะไม่นะ ที่จริงตอนนี้ฉันมีข้อแนะนำหนึ่ง ถ้าพวกเราอยากเป็นเพื่อนกับเธอจริงๆ คงมีแค่ตัวเลือกเดียว”
“ตัวเลือกอะไร?”
“เข้าใกล้เมิ่งเข่อเฟย พยายามตีสนิทกับเมิ่งเข่อเฟยให้มากๆ”
จางเสี่ยวลู่ “?”
“จากที่พูดกันเมื่อกี้เธอดูไม่ออกหรือไง เธอเชื่อใจเมิ่งเข่อเฟยมาก ไม่ว่าเมิ่งเข่อเฟยจะทำอะไร เธอก็ยังเชื่อใจได้อย่างไม่มีข้อแม้ แล้วยังหาข้ออ้างแก้ตัวให้กันอีก”
จางเสี่ยวลู่ได้ยินเธอพูดแบบนี้ก็เหมือนสังเกตอะไรได้
“ดังนั้นพวกเราต้องตีสนิทกับเมิ่งเข่อเฟยก่อน”
“ตีสนิท? พวกเรารุมตีเธอขนาดนั้น เธอยังอยากจะสนิทกับพวกเราเหรอ?”
“ดังนั้นพวกเราต้องขอโทษ และสัญญาว่าจะปรับตัว ขอโทษกับเธอ ถึงตอนนั้นอาจจะต้องทำตัวน่าสงสารหน่อย”
พูดถึงทำตัวน่าสงสาร หยวนเย่าหันก็ต้องกลืนน้ำลายเลยทีเดียว
“แต่ความเจ็บปวดที่เธอได้รับก่อนหน้านั้น พวกเราต้องรับได้ด้วยนะ”
จางเสี่ยวลู่พูดไม่ออกทันที
ถางหยวนหยวนเดินลงบันได เห็นเมิ่งเข่อเฟยกลับมาพอดี และดีใจอย่างมาก
“เฟยเฟย เธอกลับมาสักที”
“หยวนหยวน?”
“ฉันเห็นว่าเธอไม่กลับมาสักที เป็นห่วงกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร ก็เลยลงมาหาเธอ”
เป็นห่วง?
เมิ่งเข่อเฟยนึกถึงคำพูดที่เธอได้ยินเมื่อกี้ รู้สึกอยากหัวเราะมาก เธอไม่สนใจตัวเองด้วยซ้ำ จะเป็นห่วงได้ยังไง?
เป็นห่วง ก็แค่เสแสร้งเท่านั้น
นึกถึงตรงนี้ เมิ่งเข่อเฟยก็หลบออกจากถางหยวนหยวน ยิ้มแห้งและพูดว่า “ฉันไม่เป็นไร ในโรงเรียนจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกัน? ขึ้นไปเถอะ”
ถางหยวนหยวนรู้สึกเธอพยายามตีตัวออกห่าง จึงต้องกลับหลังหันและเดินตามหลังเธอไป และพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ
“เมื่อกี้ฉันทะเลาะกับพวกนั้นมา ฉันรู้แล้วด้วยว่าพวกนั้นทำอะไรกับเธอบ้าง”
ได้ยินดังนี้ เมิ่งเข่อเฟยก็หยุดเดิน
“ฉันผิดเองเฟยเฟย เรื่องนี้ฉันทำให้เธอต้องลำบากใจ แต่เธอน่าจะบอกฉันนะ เธอไม่พูดอะไรเลย แบกรับไว้คนเดียว แบบนี้ไม่ได้นะ”
เมิ่งเข่อเฟยหัวเราะ
“ฉันไม่แบกรับไว้คนเดียว พูดออกไปทำไม? รบกวนเธอเปล่าๆ”
“พวกเราเป็นเพื่อนกันนี่ จะเรียกว่ารบกวนได้ยังไง? และฉันทำให้เธอต้องลำบาก ฉันควรรับผิดชอบนะ”
“ไม่ต้องหรอก” เมิ่งเข่อเฟยส่ายหน้า “เรื่องมันผ่านไปแล้ว เธอกับพวกเขาคบหากันดีๆล่ะ พวกนั้นถึงจะไม่ทำร้ายเธอ”
“แต่ฉันไม่กลัวพวกนั้นเลยนะ”
ถางหยวนหยวนคว้าข้อมือเธอไว้ “ฉันเป็นห่วงกลัวว่าเธอจะบาดเจ็บ เอาแบบนี้ ต่อไปพวกเราทำอะไรก็ต้องอยู่ด้วยกัน ฉันจะไม่ให้เธอต้องถูกพวกนั้นทำร้ายอีก”
“ทำอะไรก็อยู่ด้วยกัน?”
เมิ่งเข่อเฟยจ้องมองเธอ “เธอไม่ลดน้ำหนักแล้วเหรอ?”
ถางหยวนหยวนชะงัก ไม่รอเธอพูดเมิ่งเข่อเฟยก็พูดต่อว่า “พอแล้วล่ะ ฉันรู้ว่าเธอเป็นห่วง เธอวางใจได้ พวกนั้นตอนนี้น่าจะไม่ทำอะไรฉันแล้วล่ะ”